ความคิดเห็นที่ 1 ครอบครัวนี้ที่ทราบคือมีลูกชายสามคน คนโตเรียนหนังสืออยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อมาได้เรียนจบแพทย์และรับราชการอยู่ที่กรุุงเทพฯ ส่วนคนสุดท้องเรียนจบวิศวกรที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ และต่อมาก็ทำมาหากินอยู่ที่นั่นเช่นกัน ส่วนคนกลางเป็นเพื่อนรุ่นพี่  ที่มักจะเรียกแกว่า ลิง ความที่เป็นลูกชายคนกลาง หรือเด็กวันพุธ (Wednesday child) ทำให้แกทำตัวแปลกแยกจากพี่น้อง ไม่สนใจในการเรียนมากอยากเป็นนักร้องนักดนตรี ผลการเรียนก็เริ่มตกต่ำลงไปเรื่อย ๆ ยิ่งพ่อเสียชีวิตไปเหลือแต่มารดาและพี่น้องเท่านั้น ยิ่งทำให้แกเริ่มห่างเหินจากแม่มากกว่าเดิม มีครั้งหนี่งเรียกแกชื่อเล่นว่า  เฮียลิง ๆ แกเดินเข้ามาหาหน้าตาโกรธมาก บอกว่า วันหลังอย่าเรียกแกด้วยชื่อเล่นนี้อีก เพราะเป็นการดูถูกหรือไม่ให้เกียรติแก แม้แต่แม่แกจะเรียกชื่อนี้แกก็ไม่ยอม รวมทั้งเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องของแกด้วย แกบอกว่าครั้งนี้ยกให้ อภัยให้ ถ้าครั้งต่อไปมีเรื่องแน่ ถึงแม้ว่าชื่อนี้จะเป็นชื่อเล่นที่พ่อแม่ตั้งให้จาก ภาษาจีนแต้จิ๋วว่า เก๊า (แปลว่า ลิง) ก็ตามแต่ เลยตั้งแต่นั้นมาก็เรียกแกว่า เฮีย   หลังจากแกจบมัธยมศึกษาปีที่สามแล้ว ทราบข่าวว่าขึ้นไปเรียนต่อกรุงเทพฯ ไม่ทราบข่าวคราวอีกเลย สอบถามเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับแก ก็ทราบแต่เพียงว่าแกไปเล่นดนตรีหากินแถวอิสาณ ต่อมาไม่นานนัก พี่ชายคนโตของครอบครัวนี้ ได้เรียกให้แม่ไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ เพราะน้องชายก็เรียนจบและทำงานแล้ว อยากให้มาอยู่ด้วยกันเพื่อช่วยดูแลบ้านและหลาน ๆ แกตัดสินใจอยู่ไม่นานนัก ก็ทำการเซ้งร้าน/ขายสินค้าในร้านทั้งหมดของแก ให้กับคนงานชายที่ทำงานมากับแกร่วมสิบกว่าปี จนมีครอบครัวและมีลูกแล้ว โดยขายให้ในราคาต้นทุนทั้งหมด ให้ผ่อนจ่ายเมื่อใดก็ได้ถ้ามีเงินเพียงพอจะชำระคืนให้ ไม่ช้านานนักคนงานเก่าแก่ของแกก็ผ่อนจนหมด โดยใช้เวลาไม่เกินกว่าสามปีถ้าจำไม่ผิด ละแวกบ้านก็มีร้านทองรูปพรรณอยู่ตรงข้ามกับบ้านหลังเก่า ป้จจุบันรื้อถอนหมดแล้วมีการปรับภูมิทัศน์ใหม่ แต่ร้านเดิมก็ยังเปิดขายทองรูปพรรณอยู่ ร้านนี้เสี่ยเจ้าของร้านทองรับมรดกจากบิดา แต่แทบไม่ได้ดูแลร้านทองเลย วัน ๆ ทำตัวเป็นเพลย์บอยเที่ยวเล่นและจีบนักร้องทุกคืน ฝากร้านให้กับหลงจู้หรือลูกน้องทำการค้าขายเกือบทั้งหมด ไม่นานนักพี่ชายของแกที่ทำโรงงานอุตสากรรม เกี่ยวกับสายไฟฟ้าหรือลวดเหล็ก(จำไม่แน่ชัดนัก) ก็บอกแกไปช่วยงานที่โรงงานดีกว่า เพราะมียอดขายและกำไรดีกว่าค้าขายทองรูปพรรณมากมายนัก แกเลยขายทั้งร้านทั้งทองรูปพรรณให้กับหลงจู๊แกทั้งหมด แล้วย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ เลย ไม่เคยเจอหรือพบแกอีก ก็เหมือนกับร้านแรกคือให้ผ่อนจ่ายให้หมด ตามแต่ระยะเวลาที่สามารถชำระคืนได้ หลายปีที่ผ่านมาได้ไปเยี่ยมแม่ของพี่ลิงที่กรุงเทพฯ โดยไปพร้อมกับแม่  ไปที่หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ก็สอบถามสารทุกข์สุกดิบทั่ว ๆ ไป และรำลึกความหลังครั้งเก่า ๆ สมัยอยู่ละแวกบ้านที่หาดใหญ่ แกพูดในลักษณะชื่นชมลูกชายคนโตที่เป็นหมอ และลูกชายคนสุดท้องที่เป็นวิศวกร ว่าทั้งคู่ต่างมีครอบครัวและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานดี ส่วนพี่ิลิงแกไม่ยอมเอ่ยปากเล่ามากมายหรือพูดชื่นชมแต่อย่างใด ก็คงจะเป็นเหมือนโครงกระดูกในตู้ของครอบครัว เหมือนอย่างที่ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เขียนเล่าไว้นานมากแล้วในหนังสือเล่มหนึ่ง ทราบแต่ว่า พี่ลิง มีครอบครัวแล้ว และทำงานหนักอยู่ต่างจังหวัดเพื่อเลี้้ยงดูครอบครัวแก นี่คือ ข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับเพื่อนรุ่นพี่ีคนแรกที่ชื่อเล่นว่า ลิง ถ้าใครพอรู้จักแก  ก็ฝากบอกความรำลึกถึงแกด้วย เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ ก่อนที่จะเลือนหายไปกับกาลเวลาทีคืบคลานเข้ามาทุกระยะ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 53 06:37:09 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 21:40:25

ความคิดเห็นที่ 2 แวะมาร่วมรำลึกความหลังด้วยค่ะ จากคุณ : teansri เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 23:40:38

ความคิดเห็นที่ 3 ชื่อเล่นว่า ลิง ยังไม่ร้ายเท่าชื่อ หมา นะคะ เคยได้ยินคนใต้เรียกชื่อเล่นคนรู้จักว่า หมา ด้วยค่ะ ไม่รู้ว่ามีความหมายอะไรหรือเปล่า อย่างเช่นเป็นความเอ็นดูอะไรทำนองนั้นน่ะค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 53 08:02:30

ความคิดเห็นที่ 4 คนใต้  ผู้ใหญ่มักจะเรียกเด็กเล็ก ๆ ว่า ไอ้หมา หมาน่อย  ลูกหมา  เป็นต้น แสดงว่ารักใคร่เอ็นดู หยอกเย้าเล่น แต่ถ้าพอเติบใหญ่ขึ้นมา ถ้าไม่เปลี่ยนการเรียก หรือตั้งชื่อเล่นไว้ก็มักจะมีปัญหาตามมากเช่นกัน บางคนจะโกรธมาก  แต่บางคนคุ้นชินกับการเรียกแล้ว ส่วนภาษาจีนแต้จิ๋วก็มีการเรียกเด็ก ๆ ว่า หมา เช่นกัน แต่ออกเสียงว่า ก๊าว  แปลว่าหมา ส่วนมากถ้าชื่อเฮียก๊าว ก็คือ เฮียหมา แต่เรียกให้สุภาพก็คือ เฮียเก๊า หรือ เฮียลิง ก็แล้วแต่การเน้นเสียงหรือออกเสียง แต่ส่วนมากเพื่อนที่ชื่อลิง   มักจะตัวผอมเล็ก กร้องแกร้ง คล่องแคล่วว่องไวเหมือนลิง อะไรทำนองนั้นแหละ จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 53 19:45:20

ความคิดเห็นที่ 5 ป๋าคะ เราเคยมีเพื่อนชื่อ เด (ถือวิสาสะตั้งให้เอง) ที่ทำงานเดิม ทำงานด้านวิชาการด้วยนะ แต่ความประพฤติ สุดบรรยาย ป๋าน่าจะรุ จากคุณ : สาวสองเมือง (สาวสองเมือง) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 18:29:35