๐๐ ....... สองข้างทางม้าลาย ....... ๐๐
|
|
.
... สองข้างทางม้าลาย ...
ผมได้ดูรายการหนึ่งทางทีวีเสนอข่าวเด็กหญิงอายุ 5 ขวบทำหน้าที่เป็นเด็กเสริฟก๋วยเตี๋ยว เธอทำหน้าที่รับออเดอร์ เสริฟ คิดเงิน เก็บโต๊ะ เช็ดโต๊ะ เก็บเก้าอี้เข้าใต้โต๊ะ...เห็นเธอถือถาดที่มีชามก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ อยู่นั้นกลัวจะทำหกหล่นใส่ตัวเองจัง
เธอมีสุขภาพดีอ้วนท้วนน่ารัก แต่งกายสะอาดสวยงามสมวัย เธอให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีใครบังคับเคี่ยวเข็ญ เธออยากช่วยเหลือคุณแม่ซึ่งเป็นแม่ครัว เธอทำงานประมาณห้าโมงเช้าถึงสามทุ่ม
ผมคิดว่าเธอคงเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต เป็นที่พึ่งของตัวเอง พ่อแม่พี่น้อง และคงมีใจเอื้อเฟื้อต่อคนอื่นๆ
ผมชอบดูรายการที่นำเสนอชีวิตของคนยากจนที่เดือดร้อนน่าสงสาร หรือคนดีที่ควรให้ความช่วยเหลือ...อีกรายการหนึ่ง
เด็กชายอายุประมาณ 13 ปี อาศัยอยู่กับยายตาเกือบบอดและน้องสาวเล็กๆ อายุ 4 ปี ด้วยเหตุผลอะไรผมฟังไม่ชัดเด็กคนนี้ต้องรับภาระหาเลี้ยงทั้งยายและน้องสาวในขณะที่ยังเรียนหนังสืออยู่ เขาจึงรับจ้างทำงานทุกอย่างที่มีคนว่าจ้างตามความสามารถและสติปัญญาของเขา ส่วนมากจะเป็นงานกรรมกรเช่นขุดดินและแบกขน การเรียนจึงกระท่อนกระแท่นแต่ก็ผ่านได้ทุกชั้น ทางโรงเรียนมีเมตตาช่วยเหลือบ้าง แต่จะให้รับผิดชอบถึงยายและน้องสาวคงเป็นไปไม่ได้จึงนำเสนอทางรายการ
ผมจดหมายไปที่โรงเรียนตั้งใจจะแบ่งค่าขนมช่วยเหลือแต่เรื่องก็เงียบไป...ถึงจะเป็นเด็กแต่ผมก็นึกเป็นห่วงยายตาบอดและน้องสาว..ในแต่ละวันที่เด็กชายหัวหน้าครอบครัวไปโรงเรียนหรือไปรับจ้างทำงาน ใครจะดูแลคนทั้งสอง จะมีคนใจบาปแวะเวียนมาทำร้ายหรือไม่..คิดๆ แล้วก็ไม่สบายใจ
จนวันหนึ่งมีจดหมายมาจากเด็กชายคนนั้นขอบคุณผมที่มอบความช่วยเหลือให้เขาและครอบครัว อวยพรให้ผมได้รับผลบุญตอบแทน...อนิจจา! ผมยังไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเขาเลย คงเป็นความผิดพลาดบางประการ
หลายวันต่อมา รายการเดียวกันแจ้งให้ทราบว่าเด็กชายคนนั้นมีผู้ใจบุญช่วยเหลือแล้ว ผมจึงโล่งใจ
แม้ทางบ้านจะมีฐานะปานกลางแต่ปิดเทอมผมก็ไม่ได้ทำกิจกรรมช่วยเหลือครอบครัวอย่างเด็กดีคนอื่นเลย วันๆ ได้แต่เล่นคอมพ์ เล่นเกมส์ อ่านหนังสือการ์ตูนและช่วยเหลืองานบ้านเท่าที่จะได้รับคำสั่ง แต่การไม่ได้ไปโรงเรียนไม่ได้ไปไหนอยู่แต่บ้านก็เป็นการช่วยประหยัดเงินให้พ่อแม่ไม่ใช่หรือ
ผมรูปร่างสมบูรณ์แต่ไม่ถึงกับอ้วนพุงป่อง ก็รับประทานมากทั้งอาหารธรรมดาและอาหารเสริม วิตามิน โปรตีน ที่คุณแม่หามาบำรุง แม่บอกว่าให้สมองโตๆ ไว้ก่อนจะได้ฉลาด โตเป็นหนุ่มค่อยลดน้ำหนักให้หล่อก็ได้
บ้านผมอยู่ตรงข้ามกับร้านสะดวกซื้อสิบเอ็ดที่เปิดขายทั้งวันทั้งคืนจึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่พุงของผมบวม..แต่อันที่จริงแม่ไม่ปล่อยให้ผมข้ามถนนไปซื้อนอกจากให้คนทำงานบ้านเป็นคนซื้อให้ ผมเองถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากข้ามถนนเพราะรถเยอะมาก
ยิ่งกว่านั้น เลยร้านสิบเอ็ดไปสักสามสิบเมตรมีซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นหนึ่งตั้งอยู่..แล้วอนาคตหนุ่มหล่อของผมจะมีได้อย่างไร
เย็นวันหนึ่งคนทำงานบ้านไม่อยู่แม่ก็ยังไม่กลับ ผมเกิดอยากกินชีสเค้กขึ้นมาใจจะขาดจึงตัดสินใจเสี่ยงอันตรายข้ามถนนตรงข้ามร้านสิบเอ็ดซึ่งมีทางม้าลายอยู่ แล้วเดินไปร้านซุปเปอร์ท๊อป..ผมซื้อชีสเค้กชิ้นเล็ก และอีกหนึ่งชิ้นสำหรับผมตอนดึก และอีกหนึ่งสำหรับความหิวในตอนเช้า ไอศกรีมหนึ่งกล่อง เวเฟอร์หนึ่งห่อ..เพียงเท่านี้ก็หมดไปเกือบห้าร้อยบาท
ผมต้องรีบกลับบ้านเดี๋ยวไอศกรีมจะนิ่ม ผมชอบชนิดเย็นจัดแบบมีเกล็ดน้ำแข็งเกาะอยู่ อร่อยดี
อารามรีบร้อนและเพราะหินตัวหนอนบนฟุตปาธยื่นขึ้นมา ผมจึงสะดุดเซเสียหลักเกือบล้ม เสียวข้อเท้าแปล๊ป...ฝืนเดินต่อจนถึงร้านสิบเอ็ดจะข้ามถนนผมทนไม่ไหวเสียแล้ว ขาใช้ได้เพียงข้างเดียวกระเด๊กๆ ไปข้างสิบเอ็ดคว้าเก้าอี้แถวนั้นนั่ง
รับอะไรดีครับ? เด็กคนหนึ่งใส่เอี๊ยมกันเปื้อนยืนยิ้มอยู่ข้างโต๊ะที่ผมวางของไว้
อ้าว! ที่แท้ผมนั่งเก้าอี้ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างสิบเอ็ดนั่นเอง
ผมดูผอมไปถนัดเมื่อเทียบกับเด็กคนนี้ เขาอ้วนมากแต่ไม่เตี้ย ตัวสูงกว่าผม หน้าตายิ้มแย้ม ผมเกรียน อายุคงน้อยกว่า
ไอ้หมู!..เส้นหมี่ต้มยำซ้ำหนึ่ง ลูกค้าคนหนึ่งร้องสั่ง ไอ้หมูจึงผละไปจากผม
ไอ้หมู ทีแรกผมนึกตำหนิลูกค้าที่เรียกเด็กชายอย่างนั้นแต่ผมก็ใช้เรียกแทนตัวเขาเฉยเลย...ไอ้หมูเดินไปบอกหญิงสาวที่ยืนประจำหม้อน้ำซุป แล้วนำก๋วยเตี๋ยวมาเสริฟ ตามด้วยน้ำแข็งเปล่า แล้วเดินไปอีกโต๊ะ..ลืมผมไปเลย
ผมนั่งปวดขาสักพัก ข้อเท้าเริ่มแดงคล้ำ คิดว่าจะกลับบ้านได้อย่างไร ที่สำคัญไอศกรีมของผมคงนิ่มแล้วแน่ๆ
เดินสะดุดก้อนหินมาหรือ?.. ไอ้หมูมายืนอยู่เมื่อไหร่ไม่รู้ เราก็เคยโดน..ตรงโน้นใช่ไหม? ชี้มือไปตำแหน่งที่เกิดเหตุ
ฮื่อ.. ผมก้มลงดูข้อเท้า พอเงยขึ้น ไอ้หมูไปรับออเดอร์ลูกค้าอีกโต๊ะหนึ่งแล้ว
ผมหยิบ N73 จากกระเป๋ากางเกงโทรฯ หาแม่ แต่ติดต่อไม่ได้ จะทำไงดีบ้านก็อยู่แค่นี้แต่ไปไม่ได้
มือถือสวยจัง.. ไอ้หมูอีกแล้ว เล่นเกมส์ได้ไหม?
ชัวร์อยู่แล้ว นายมีไหม?
มีแต่ของน้าคนทำก๋วยเตี๋ยว.. ไอ้หมูก้มมองข้อเท้าบวมของผม เดินไม่ได้หรือ?
อือ..ไม่รู้จะกลับบ้านยังไง คงต้องรอจนกว่าจะติดต่อแม่ได้..ต่อในใจ
บ้านอยู่ไกลไหม เราพาไปให้ ไอ้หมูยิ้มแก้มกลม...ที่จริงไอ้หมูเป็นเด็กหน้าตาดีอายุคงสักสิบสอง เวลายิ้มเหมือนเด็กเจ็ดแปดขวบ
โน่นไง ผมชี้ไปฝั่งตรงข้าม
น้าๆ เดี๋ยวเค้ามานะ จะพาเพื่อนไปส่งบ้านหน่อยเขาขาเจ็บ
จะดีหรือ นายทำงานอยู่ ผมนึกนิยมความมีน้ำใจของเด็กข้างถนนคนนี้ เขาค่อนข้างมอมแมมแต่ซ่อนความสะอาดไว้ข้างใน ฐานะความเป็นอยู่คงไม่ดีนัก เห็นได้จากสภาพทั่วๆ ไป เสื้อผ้า รองเท้าแตะเก่าคร่ำ
ไม่เป็นไรน้าอนุญาตแล้ว..พอดีว่างลูกค้า ไอ้หมูรวบถุงพลาสติกเตรียมจะประคองผม
นายชอบกินไอศกรีมไหม? จู่ๆ ผมถามออกไปเมื่อเห็นหยดน้ำรอบๆ กล่องไอศกรีม
นานๆ กินที มันแพง
เราให้นาย แต่มันนิ่มแล้ว ผมยื่นถุงให้..ใจร้ายหรือเปล่า ให้ของไม่ดีกับคนอื่น
แน่นะ!.. ไอ้หมูตาโต แป๊ป.. หิ้วถุงวิ่งเข้าไปในร้านสิบเอ็ด สักครู่ก็ออกมา ฝากพี่เขาแช่ไว้ก่อน
ไอ้หมูจับแขนผมข้างหนึ่งพาดบ่าและรวบเอวกึ่งประคองกึ่งกระเดียดผมข้ามทางม้าลาย...เมื่อถึงหน้าบ้านไอ้หมูหันมองกลับไปร้านที่เริ่มมีลูกค้าเข้ามา ขณะเดียวกันผมวิตกว่าจะเข้าบ้านได้อย่างไรเพียงลำพัง ไอ้หมูจะช่วยเหลือผมจนตลอดได้หรือเห็นเหลียวมองร้านบ่อยๆ...พอดีแม่กลับมาและพาผมเข้าบ้าน
.
แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 53 19:03:00
จากคุณ |
:
ดาเรน
|
เขียนเมื่อ |
:
18 พ.ค. 53 18:31:17
|
|
|
|