คนแก่ที่ดี
|
|
คนแก่ที่ดี
เมื่อยังไม่เกษียณอายุ ก็ใช้เครื่องของราชการพิมพ์ต้นฉบับ พอออกจากราชการปีแรก เริ่มมีคอมพิวเตอร์ของตัวเองเป็นชุดแรก ก็นั่งพิมพ์หนังสือที่จะส่งไปสำนักพิมพ์ต่าง ๆ วันละไม่น้อยกว่าหกชั่วโมง เหมือนกับเวลาทำราชการ ในช่วงเวลาสิบปีได้ต้นฉบับมากมายก่ายกอง และก็ได้ค่าตอบแทนคุ้มกับราคาเครื่องคอมพ์ที่ใช้มาถึงสามชุด และเหลือพอที่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเหมือนเมื่อยังรับเงินเดือนอยู่
จากนั้นก็ค่อย ๆ ลดลง จนเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้เขียนเรื่องใหม่แล้ว จึงไม่ต้องซื้อเครื่องปริ๊นเตอร์ใหม่ แทนของเก่าที่ใช้การไม่ได้ ถ้ามีงานที่จะต้องพิมพ์ก็ไปจ้างร้านคอมพ์ปริ๊นท์ให้ แผ่นละสองบาทเท่านั้น เวลาส่วนใหญ่ก็เข้ามาอ่านเรื่องในห้องต่าง ๆ ของพันทิป แต่จะวางกระทู้และตอบกระทู้ในห้องไร้สังกัด ห้องสมุด และถนนนักเขียนเท่านั้น เพราะนั่งเคาะแป้นแค่สามสิบนาทีก็เจ็บหลังแล้ว
เมื่อนึกถึงสังขารของตนเองแล้ว ก็รู้ได้ว่ามันเสื่อมลงกว่าตอนเกษียณอายุใหม่ ๆ เป็นอันมาก ก็ไม่ได้วิตกหรือห่วงใยอะไร เตรียมใจมาตั้งแต่เมื่อสามสิบปีก่อน แล้วก็อยู่มาจนเขียนหนังสือได้ตั้งเจ็ดแปดร้อยชิ้น ได้พิมพ์เป็นเล่มจำนวนเก้าเล่ม คงจะไม่ต้องการอะไรอีก
เมื่อพิมพ์ไม่ค่อยได้ ก็หันไปหาหนังสือมาอ่าน ในเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวกับการบ้านการเมือง อ่านไปก็รำลึกถึงความหลังไป ตามประสาคนเฒ่าคนแก่ ที่ชื่นชมผลงานของตนในอดีต
เมื่อรำลึกถึงความแก่ ก็ต้องนึกถึงอีกสองเรื่อง คือ ความเจ็บกับความตาย เพราะเป็นสิ่งที่มาด้วยกัน และไปด้วยกัน เมื่อเกิดแล้วก็แก่ทันที แก่ขึ้นตั้งแต่วันที่ถัดจากวันที่เกิดนั้นเอง แก่ขึ้นไปเรื่อยจนถึงอายุหกสิบปี เขาปลดเกษียณออกจากราชการ ตั้งแต่นั้นก็แก่ลงไปเรื่อย พร้อม ๆ กับความเจ็บป่วยที่มาเยี่ยมเยือนตามโอกาส ก็คงจะเหลือแต่ความตายที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร อย่างไร เท่านั้น
แต่ก่อนที่จะตายตั้งใจว่าจะเป็นคนแก่ที่ดี อย่างที่ได้เคยอ่านหนังสือของท่านศาสตราจารย์ นายแพทย์ เสนอ อินทรสุขศรี เรื่อง ฉันจะเป็นคนแก่ที่มีความสุข แล้วก็ได้พยายามประพฤติปฏิบัติตนตามที่ท่านเขียนไว้เป็นส่วนใหญ่ เช่น
เป็นคนแก่ที่ ความคิด มีเหตุผล มีประสบการณ์ ที่จะให้คำแนะนำแก่คนรุ่นหลังได้
สามารถทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้
สามารถทำงานตามความถนัดได้ โดยไม่ใช่โลภเห็นแก่รายได้
ไม่อวดดื้อถือดีว่ารู้มาก หรือเก่งกว่าคนอื่น สามารถรับฟังข้อขัดแย้ง และเคารพความคิดเห็นของผู้อื่นเสมอ
เลิกแสดงความหงุดหงิดเกรี้ยวกราด เพราะทุกเรื่องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ทั้งเจตนาและไม่เจตนา ถือว่าการให้อภัยเป็นสิ่งที่มีค่าสูง
รักษาสุขภาพกายตามสมควร เมื่อเจ็บป่วยก็ไปหาแพทย์ให้รักษา ไม่เป็นคนไข้ที่ทำความหนักใจให้ใคร
รักษาสุขภาพจิตด้วยความสงบในทางพุทธศาสนา ไม่หลงใหลเชื่อถือ ในเรื่องเหลวไหลนอกศาสนา
เพียงเท่านี้ก็น่าจะมีความสุขไม่น้อย เป็นการรอคอยที่ไม่น่าเบื่อหน่ายนัก
###############
จากคุณ |
:
เจียวต้าย
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ค. 53 15:56:41
|
|
|
|