ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากช่วงจบมัธยมศึกษาปีที่สาม เพื่อนหลายคนแยกย้ายกันไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ บางคนก็รับช่วงกิจการทางบ้านเพื่อเป็นทายาทธุรกิจต่อไป ส่วนเพื่อนสนิทในกลุ่มอีกสองคนก็ย้ายบ้านไปอีกฟากของหาดใหญ่ ห่างออกไปไม่น้อยกว่าสี่กิโลเมตร ก๊วนเพื่อนที่สนิทสนมกันหรือมีแหล่งพักพิงพบเจอกันแน่นอนก็แตกสลายไป สักพักร้านขายยาของอาแกก็ปิดกิจการไป เพราะพี่น้องส่วนใหญ่ย้ายไปทำการค้าประเภทอื่น บางคนก็ไปทำธุรกิจไฟแนนท์ที่กรุงเทพฯ ทราบข่าวต่อมาว่าแกไปบวชเป็นพระภิกษุที่วัดแห่งหนึ่ง เคยสอบถามเพื่อนที่รู้จักว่าแกอยู่ไหน จะไปเยี่ยมบ้าง เพื่อนก็บอกว่า อย่าไปเลย กันดารมาก บางครั้งแกก็ไม่อยู่ที่วัดออกเดินทางธุดงค์ไปเรื่อย ทางเข้าช่วงหน้าแล้งพอสะดวกหน่อย แต่ถ้าฝนตกเลิกคิดว่าจะไปหาเลย มีสิทธิ์ติดฝนหรือติดหล่มกลางทางก่อนเข้าวัดนี้ได้ ก็เลยไม่ได้ไปเยี่ยมสักทีหนึ่ง ทราบแต่ว่าทั้งวัดมีพระอยู่เพียงหนึ่งหรือสองรูปเท่านั้นเอง เวลาวันพระ(ขึ้นแปดคำ หรือขึ้นสิบห้าค่ำ หรือแรมแปดค่ำ หรือแรมสิบห้าค่ำ) พระภิกษุก็ต้องบอกบริสุทธิ์ซึ่งกันและกัน เพราะคณะสงฆ์ไม่ครบสี่รูป หรือยังไม่มีเขตพระภัทรสีมา(เขตพื้นที่สงฆ์) หรือยังไม่มีพระภิกษุที่สามารถสวดโอวาทะปาติโมกข์ได้ ธรรมเนียมนิยมของวัดปากน้ำหาดใหญ่ ที่ได้บวชช่วงเดือนเศษ ส่วนวัดอื่นไม่แน่ใจในเรื่องนี้มากนัก พระที่สวดโอวาทะปาติโมกข์ได้คล่องแคล่วค่อนข้างหายาก เพราะต้องจำบทสวดทั้งหมดได้แล้วสวดเลย ไม่ใช่ประเภทอ่านหนังสือแล้วสวดโอวาทะปาติโมกข์ได้ เพราะคำสวดยาวมาก เกี่ยวกับศีลสองร้อยยี่สิบเจ็ดข้อ ของพระภิกษุตามคำสอนพระผู้มีพระภาคเจ้า พระที่เก่ง ๆ จะใช้เวลาสวดเสร็จอย่างเร็วสุดก็สามสิบนาที แต่ส่วนมากจะมากกว่าสี่สิบห้านาทีถึงหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป หลังจากที่ทราบข่าวว่าแกบวชเป็นพระภิกษุอยู่ เป็นเวลานานมากกว่าสิบห้าปีเศษ ก็ไม่มีใครคิดว่าแกจะสึกออกจากความเป็นพระ แต่แล้วก็เหมือนภาษิตคำพังเพยที่ว่าไว้ ฝนจะตก แดดจะออก ขี้จะไหล พระจะสึก ห้ามกันไม่ได้ ทราบข่าวสั้น ๆ ว่า มีเพื่อนคนหนึ่งเจอแกแล้ว แกลาสึกออกมาเป็นลูกจ้างโรงงานไม้เฟอร์นิเจอร์ ของพรรคพวกและเพื่อนฝูงของแก รู้ว่าอยู่แถวหาดใหญ่แต่ไม่รู้ว่าโรงงานแห่งไหน เพราะเพื่อนที่รู้จักกับแกมาก่อนหรือเจอแก  เวลาสอบถามแก แกก็มักจะตอบแบบเลี่ยง ๆ ไม่บอกตรง ๆ ว่าอยู่ที่ไหน เพราะนิสัยแกก็ค่อนข้างเงียบสมกับการผ่านการเป็นพระมานาน เวลาเลิกงานก็กลับบ้านอีกหลังที่อยู่ใกล้กับโรงงาน ดำรงตนเป็นฆราวาสและอยู่เป็นโสดแต่คนเดียว บ้านหลังนั้นก็เป็นบ้านที่เถ้าแก่ให้แกอยู่และช่วยดูแลวัสดุสินค้าในโกดัง ทราบข่าวครั้งสุดท้ายเมื่อปีที่แล้ว พอดีเจออาแกอีกคนหนึ่งที่ย้ายกลับมาอยู่หาดใหญ่แล้ว อาแกบอกว่า แกไหลตายไปหลายปีแล้ว คือ ตอนเช้าไม่ไปทำงาน เถ้าแก่เลยให้คนไปตามที่บ้าน เรียกก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร หรือเสียงขานตอบรับ เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่า แกนอนตายเสียแล้ว ศพก็จัดการเผาและนำเถ้าถ่านกระดูกลอยน้ำ ที่คลองอู่ตะเภาที่หาดใหญ่ ฝังความหลังความฝันในอดีตที่รู้จักคุ้นเคยกัน ไปกับสายน้ำพระคงคาสู่ห้วงทะเลใหญ่ เป็นบทจบอีกตอนหนึ่งของชีวิตเพื่อน หรือเป็นบอกอำลาวัยเยาว์ความเป็นเพื่อนกันที่ได้ก้าวผ่านพ้นมา เขียนจากความทรงจำเก่า ๆ ก่อนที่จะเลือนหายไปกับกาลเวลาที่ล่องลอยเข้ามา แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 53 18:09:32 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 17:08:55

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาอ่านครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 08:24:56

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ทราบแกบวชที่วัดไหนนะคะ บนเขาคอหงษ์มีวัดเล็กๆ มีพระอยู่เพียงรูปสองรูปเท่านั้นเอง มีญาติบวชแล้วอยู่ประจำที่นั่นมาหลายสิบปีแล้วค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:25:36

ความคิดเห็นที่ 4 เท่าที่พอจะจำได้คร่าว ๆ เพื่อนบอกว่าอยู่แถวรอยต่อระหว่างอำเภอจะนะ กับอำเภอนาทวี ซึ่งยังเป็นป่าเขา  มีภูเขาเตี้ยๆ (ควน)  สวนยางพารามาก มีชุมชนไทยพุทธ กับ ชาวไทยอิสลาม  อยู่ปะปนกัน ทางเข้าถึงแม้ว่าจะเป็นตอนนี้  ก็ยังไม่สะดวกมากนักในช่วงหน้าฝน และค่อนข้างจะเปลี่ยวและเงียบสงบพอสมควร ส่วนบนเขาคอหงษ์ที่พูดถึง น่าจะเป้นสำนักสงฆ์ของวัดบ้านในไร่ ถ้าจำไม่ผิดอยู่ใกล้ ๆ กับวัดควนจง ไม่เคยเดินเข้าไปในวัดนั้น เป็นทางผ่านไปส่งเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสวัดบ้านในไร่  เคยชวนไปเที่ยวที่สำนักสงฆ์แห่งนั้นเหมือนกัน แต่ค่อนข้างจะขี้เกียจเดิน เพราะทางขรุขระและลื่นมาก เลยส่งแกแค่ปากทางแล้วนิมนต์ให้ท่านเดินเข้าไปเอง จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:55:43

ความคิดเห็นที่ 5   อ่านเพลินดีครับ ตอนจบมีแอบเศร้าด้วย จากคุณ : เด็กชายเอ (เด็กชายเอ) เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 15:44:40

ความคิดเห็นที่ 6 อ้าว บทจะตายก็ตายง่ายๆ จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 20:13:35

ความคิดเห็นที่ 7 การไหลตายของเพื่อนลิง  จากการคาดเดาของเพื่อนที่เป็นหมอคือ น่าจะสาเหตุจากการสะสมของสารเคมี ที่ทำปฏิกิริยากับเนื้อไม้ เช่น พวกแชลแลค ทินเนอร์​ น้ำมันสน ตลอดจนเศษฝุ่นละอองจากเนื้อไม้ที่เลื่อย สะสมไว้นานเข้า ๆ ก็เป็นอันตรายอย่างช้า ๆ ยิ่งการนอนในโกดังเก็บของด้วยก็ยิ่งตายผ่อนส่งช้า ๆ เพราะแกเคยอยู่ป่าเขาลำเนาไพร  ที่อากาศบริสุทธิ์มาก่อน การรับของเสียก็รับได้ง่ายและรวดเร็วกว่าคนคุ้นชิน ส่วนหนึ่ง ที่เพื่อนชื่อลิงไม่อยากจะเจอเพื่อนเก่ามาก หรือแนะนำสถานที่ทำงาน/ที่อยู่ของแก จากการวิเคราะห์ร่วมกับเพื่อนที่เคยสนิทสนมกับแก พอสรุปคร่าว ๆ ได้คือ ส่วนหนึ่งแกคงละอายใจที่้ล้มเลิกความต้ั้งใจที่จะบวชตลอดชีวิต การออกมาสู่เพศคฤหัสถ์  โดยมีการศึกษาต่ำกว่ามัธยมหก แล้วต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่  ทำให้รู้สึกว่าด้อยกว่าเพื่อนฝูงมาก แม้ว่าเพื่อนฝูงจะไม่คิดมากมายอะไรก็ตาม แต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนรู้จักที่ทำงานและบ้านแกที่แกอยู่ คงไม่อยากให้เถ้าแก่รู้ว่า  เพื่อนของแกส่วนมากมีฐานะกับทำงานดีกว่าแก หรือไม่อยากให้ใครไปเยี่ยมเยียนรบกวนการอยู่แบบสันโดษของแกมากนัก แต่ผองเพื่อนก็ทำบุณย์อุทิศให้กับแกทุกปี หรือทุกโอกาสที่ระลึกได้ สำหรับเพื่อนที่เคยผ่านเยาว์วัยร่วมกันมา และเป็นเครื่องหมายเตือนความทรงจำของมิตรภาพ ที่ยังไม่สูญสิ้นจนกว่าเพื่อนร่วมเยาว์วัยจะดับสลาย หรือเสื่อมความทรงจำไปกับสังขารา จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 22:07:22

ความคิดเห็นที่ 8 ใช่แล้วค่ะวัดบ้านในไร่ พอคุณ ravio บอกก็เลยเพิ่งนึกชื่อวัดขึ้นมาได้ ตอนนี้แถวปากทางจะขึ้นเขาตรงนั้นเป็นยังไงแล้วก็ไม่ทราบนะคะ ครั้งสุดท้ายที่ไปเยี่ยมญาติคนนั้นก็หลายปีมาแล้ว ตรงทางจะเริ่มขึ้นเขาก่อนหน้าไม่มีอะไรเลย ครั้งหลังสุดที่ไปมีห้องแถวเพิ่งสร้างใหม่เอี่ยมเลยค่ะ มีร้านข้าวแกงเพิ่งเปิดใหม่อยู่ร้านนึง ขายก๋วยเตี๋ยวด้วย จำได้ขึ้นใจเลยค่ะว่าต้องไปแวะกินที่ร้านนั้นก่อนขึ้นไปบนเขาเพราะเลยตรงนั้นไปแล้วจะไม่มีอะไรเลย จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 00:48:41

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่ออ่านเรื่องที่ป๋าเขียน เวลาขับรถผ่าน จำต้องเหลียวหลังทุกครั้งไป จากคุณ : สาวสองเมือง (สาวสองเมือง) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 18:32:07

ความคิดเห็นที่ 10 และเรียนถามอีกครั้ง ช่วงนี้หาดใหญ่ สบายดีนะคะ จากคุณ : สาวสองเมือง (สาวสองเมือง) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 18:33:10

ความคิดเห็นที่ 11 แก้ไข Post ไม่ผ่านดูรายการข้างท้ายนี้ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 53 22:08:09 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 53 21:58:48 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 20:16:20

ความคิดเห็นที่ 12 มาชวนฟังเพลงโปรดดีกว่า จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 22:07:31