Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กุอ้วน กุเกย์ แล้วไง? เรื่องจริงกับสิ่งที่ผมต้องเจอ ตอนที่ 8  

ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9212879/W9212879.html
ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9217018/W9217018.html
ตอนที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9225644/W9225644.html
ตอนที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9232159/W9232159.html
ตอนที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9237751/W9237751.html
ตอนที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9251458/W9251458.html
ตอนที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9262883/W9262883.html
-----------------------------------------------------------
...คราวก่อนค้างเอาไว้ที่ว่าสายการบินนั้นยอมรับผมไว้ทำงานแล้ว...แต่ผมยังไม่ได้บอกฤทธิ์เลยครับ...

...พอวางสายจากสายการบิน...ผมกำลังนั่งเรียบเรียงคำพูดว่าจะบอกฤทธิ์ยังไง เพราะดูท่าทางฤทธิ์ยังคงไม่มีกะจิตกะใจจะรับฟังอะไรจากผมตอนนี้
“ใครโทรมาน่ะ?” ฤทธิ์เงยหน้าขึ้นจากการเขี่ยเส้นก๋วยเตี๋ยวในชามเล่น

“อ๋อ...ที่สายการบินน่ะ...อืมมม...เขาให้เริ่มงานกับสำนักงานใหญ่ วันที่ 1 เดือนหน้า..” กลายเป็นผมเองที่ต้องก้มหน้าหลบตา

“อ้าว..ไหนแทนบอกว่าเขาจะติดต่อมาอีก 2 วันไง แล้วทำไมโทรมาเร็วจัง” ฤทธิ์ถามเสียงแห้งๆ

“อืมมมมม สงสัยเราคงแปลผิดอะ เขาคงบอกว่า today ที่แปลว่าวันนี้มากกว่า” ปกติเรื่องความโง่ในภาษาอังกฤษของผมแบบนี้จะถือว่าฮาสำหรับฤทธิ์ แต่บรรยากาศตอนนี้มันไม่ใช่ทำไมผมถึงไม่กล้าแสดงออกมาว่าผมดีใจขนาดไหนที่ได้งานตามที่ต้องการสักที...มันกดดันยังไงก็ม่ายยยรู้ววววววว

“งั้นวันนี้ก็อย่าลืมเขียนใบลาออกให้เรียบร้อยละกัน เราไปทำงานก่อนนะ มี case ต้องเคลียร์” ฤทธิ์วางตะเกียบแล้วลุกขึ้นเดินออกจากร้านไป..หา?ทำงานหรอ?..เลิกงานแล้วนี่นา?..แต่ผมไม่กล้าตามไปถาม..กลัวง่ะ -_-‘

...ผมกลับมาถึงห้องก็อาบน้ำและนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย...ผมพยายามคิดทบทวนตัวเองว่าผมทำอะไรผิดงั้นหรือ ฤทธิ์ถึงได้เย็นชาใส่ผมขนาดนี้ ... ผมผิดนักหรือไงนะที่อยากเปลี่ยนงาน...แค่เปลี่ยนงานนี่มันแปลว่าผมแคร์ฤทธิ์น้อยลงงั้นหรือ?...คิดไปคิดมาก็แอบน้อยใจเหมือนกัน ผมพยายามที่จะดูแลเอาใจใส่ฤทธิ์อย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้แล้ว...อยากจะปรับปรุงตัวให้ถูกใจฤทธิ์...แต่ไม่รู้จะปรับตรงจุดไหนครับ...เซ็งตัวเองจริงๆเล้ยยยยย...

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<

...ผมได้ไปเขียนใบลาออกและยื่นส่งให้พี่น้อย ..พี่แกทำหน้า งงๆ นึกว่าผมอำเล่นหรือเปล่า ผมก็บอกแกไปว่าได้งานที่ใหม่ แกก็บ่นๆ ว่าเสียดาย แกก็ตั้งใจว่าจะลาออกไปค้าขาย จะได้มีเวลาให้ลูกสาวแกมากขึ้น โดยตั้งใจไว้ว่าจะให้ผมขึ้นมาแทนแกอยู่แล้วเชียว แต่ผมมาชิงตัดหน้าไปแบบนี้แกเลยเสียแผนหมด...แต่แกก็ยินดีกับผมนะ แกบอกว่าแกคิดเอาไว้ตั้งแต่ทีแรกว่าผมจะอยู่ได้ไม่นานก็คงเบื่อ เพราะสไตล์ผมมันไม่เหมาะกับที่นี่เท่าไหร่ แต่ผมก็ทำงานมาได้เกือบ 2 ปี...

...หลังจากวันนั้นฤทธิ์ไม่มาที่ห้องผมอีกเลย แต่ผมยังคงมากินข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวันนะ วันไหนที่ฤทธิ์หยุดแล้วผมเข้ากลางคืน ผมก็พยายามชวนฤทธิ์ไปหาอะไรกินบ้าง ไปดูหนังบ้าง ไปโยนโบว์ลิ่งบ้าง ไปวัดบ้าง...ซึ่งฤทธิ์ก็ไปตามปกติ แต่ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม...ผมยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่...

...ผมพยายามที่จะอธิบายและแสดงให้ฤทธิ์เห็นว่าผมจริงจังและจริงใจกับฤทธิ์อยู่เหมือนเดิม ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนจากเดิมเลย...แต่ก็เหมือนผมพูดกับกำแพง...ไม่มีสัญญาณตอบรับ...

...จนสัปดาห์สุดท้ายของเดือน...ฤทธิ์ลาพักร้อน!!..ผมไม่รู้มาก่อนเลย???...ผมพยายามโทร.ติดต่อหาฤทธิ์ โทร.ไปที่บ้านฤทธิ์ที่ต่างจังหวัดน้องสาวฤทธิ์ก็บอกว่าไม่ได้กลับไป..แล้วนี่ตกลงฤทธิ์ไปที่ไหนกันแน่...ทำไมไม่บอกผม??...หรือผมควรที่จะทำงานที่นี่ตามเดิม เพื่อให้ทุกอย่างมันเหมือนเดิม...ถ้าผมอยากให้ฤทธิ์คนที่ร่าเริง ยิ้มง่าย กลับคืนมา ผมคงต้องทำอย่างนั้น....แล้ว.....อนาคตของผมล่ะ?......เฮ้อออออออออออ....

...ในสัปดาห์นี้ผมทำงานอย่างซังกะตาย...ผมไม่รู้ว่าฤทธิ์หายไปไหน...ผมควรจะไปขอใบลาออกจากพี่น้อยมาฉีกทิ้งหรือเปล่า?...มันสับสนจนทำอะไรไม่ถูกจริงๆครับ...จนผมได้ไปอ่านข้อความจากอินเตอร์เน็ตในเว็บๆนึง...

...“เวลาที่คนเราได้รับความรักจากใครสักคน...เราควรดูแลรักษามันเอาไว้ให้ดีที่สุด...เพราะเราไม่รู้ว่ารักครั้งนี้หรือรักครั้งไหน จะเป็นความรักครั้งสุดท้ายของชีวิตเรา”......ผมควรต้องเลือกสินะ....

...ผม...ตัดสินใจส่ง sms ไปบอกฤทธิ์ว่าผมจะไม่ลาออกแล้ว....ผมเดินไปหาพี่น้อยซึ่งกำลังจัดตารางเวรให้พนักงานในทีมสำหรับเดือนหน้าอยู่กับพี่มด

..ผมบอกพี่น้อยว่าผมเปลี่ยนใจแล้ว อยากทำงานที่นี่ต่อ พี่น้อยก็จะได้ไปทำค้าขายอย่างที่แกต้องการได้สักที...พี่น้อยทำหน้าเหมือนปลาทองตกใจเวลามีคนมาเคาะข้างตู้ปลา...แล้วใส่ผมมาชุดใหญ่...
“เป็นเชี้ยไรของเมิง...สายการบิน xxx เชียวนะโว้ยยย...ไม่ใช่ใครๆก็เข้าได้นะไอ้แทน เมิงเอานิ้วเท้าคิดแทนสมองรึไงฟะ ถึงได้มาเปลี่ยนใจเอาแบบนี้ อนาคตไกลเชียวนะเมิง ถ้ายังไม่ได้งานใหม่ก็ว่าไปอย่าง เพราะที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว แต่เมิงก็ได้มาแล้ว จะเปลี่ยนใจทำแอปเปิ้ลอะไรวะ”...ทำแอ็ปเปิ้ล? คิดศัพท์ใหม่อีกพี่น้อย -_-‘

“ก็ไม่มีไรอ่ะพี่..แค่รู้สึกว่าถ้าไปจากที่นี่แล้วอาจจะต้องสูญเสียอะไรบางอย่างไปอย่างไม่มีวันได้กลับมา ก็เลยคิดว่าผมน่าจะพอใจในสิ่งที่มีอยู่แล้วและมีความสุขดี ไม่น่าจะไปไขว่คว้าหาอะไรมาให้วุ่นวาย”...ผมตอบอย่างมั่นใจ

“แทน...พี่ขอพูดตรงๆนะ...เพราะ...ฤทธิ์...ใช่มั๊ย?”พี่มด...พี่สาวที่อ่านใจผมออกได้อย่างแม่นยำ....ถามผมโดยเน้นทีละคำพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้ง......ผมไม่รู้จะตอบอะไร....

“อ้อ! กรูน่าจะรู้แต่แรกแฮะ...ไอ้ฟายแทน...ความรักทำให้ตาบอดซะแล้วเมิง” พี่น้อยยิงซ้ำที่มุมเดิม

“มันก็....เฮ้อออ...มีส่วนนะพี่....ผมก็บอกไม่ถูกว่าทำไมอ่ะพี่” ผมตอบ2 หัวหน้างานผู้เชี่ยวชาญความรัก อิอิ

“แทน...พี่กับพี่น้อยจะว่าไปก็เป็นเหมือนคนนอกนะ...แต่พี่จะบอกอะไรให้...ความรักที่ดีน่ะ ไม่ใช่ความต้องการที่จะเป็นเจ้าของหรอกนะ...ความรักที่ดี...ไม่ใช่การที่ร่วมเดินไปบนเส้นทางเดียวกันโดยไม่มีวันแยกจากกัน....แต่ความรักที่ดี คือการที่คน 2 คนเดินไปข้างๆกัน...บางทีคนนึงอาจจะเลี้ยวซ้าย คนนึงอาจต้องการเลี้ยวขวา แล้วค่อยกลับมาอยู่ข้างกายกันอีกครั้งนึง....ถ้าคนนึงหลงทาง อีกคนก็จะคอยนำทาง....ถ้าคนนึงสิ้นหวัง อีกคนจะช่วยจุดประกายความหวังขึ้นมาใหม่....การไปคนละทาง ไม่ได้แปลว่าต้องแยกจากกันไปตลอดหรอกนะแทน” พี่มดอธิบายอย่างเรียบง่าย แต่มัน.....ฮือๆ T_T ซึ้ง!

“เมิงดูกรูกับเมียกรูดิไอ้แทน กรูชอบข้าวขาหมู เมียกรูแดกแต่สลัด...เราชอบอาหารไม่เหมือนกัน...แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะร่วมกินข้าวโต๊ะเดียวกันไม่ได้นะเว้ยยยย.....เมิงลองคิดดูนะ....ถ้ากรูรักเมียกรูมาก ถึงขนาดยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองให้แดกแต่สลัดผัก เมิงว่าป่านนี้กรูจะมีความสุขป่ะ?....คนเรานะเว้ย...ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้คนที่เรารัก เขาหันมารักเราหรอกว่ะ....ลองถ้าเขาจะรักเราจริง เขาก็ต้องรักที่เราเป็นเรา”โอ้!พี่น้อย..ซึ้ง!

“โห..พี่น้อย...เมาป่ะเนี่ย อิอิ....แต่ก็ขอบคุณนะพี่...งั้นพี่หมายถึงผมควรไปเริ่มงานใหม่ตามเดิมใช่ป่ะ”ผมถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าสมองที่แม่ให้กินปลาหางนกยูงอย่างผมไม่ได้ตีความภาษาไทยผิด

“เออ!..เชี้ยนี่! ..กรูจะบอกให้..ถ้าไอ้ฤทธิ์มันอยากให้เมิงอยู่แค่เพราะอยากอยู่ใกล้เมิง แต่มันไม่สนใจว่าเมิงจะทำงานอย่างมีความสุขหรือไม่ มันก็เห็นแก่ตัวเกินไปแล้วว่ะ...ถ้าคิดให้ไกลไปอีก...ถ้าเมิงไปทำงานที่มีความก้าวหน้า ไม่ใช่แค่เมิงที่สบาย พ่อแม่พี่น้องเมิง เมิงก็ส่งเสียได้ด้วย..อย่าลืมว่าชีวิตเมิงไม่ได้มีแต่ไอ้ฤทธิ์..พ่อแม่ที่เลี้ยงเมิงมาน่ะ เมิงควรแคร์มากกว่าความสุขส่วนตัวของเมิงเองนะเว้ยยย...ถ้าเมิงเลือกอยู่ที่นี่ แค่เพราะไอ้ฤทธิ์ต้องการ..เมิงก็ไม่ควรอยู่....แต่ถ้าเมิงอยู่ที่นี่เพราะเป็นงานที่เมิงรักที่สุดแล้วก็อยู่ต่อไปถ้าเมิงมีความสุขที่ได้ทำมัน..เข้าใจที่กรูพูดป่ะ”พี่น้อยดูจริงจังมากเลยแฮะ...

...ตกลงผมก็ไม่ได้ใบลาออกคืนมา...แล้ว...ผมจะบอกกับฤทธิ์ยังไงดี...ส่งข้อความไปบอกว่าจะไม่ลาออกซะแล้ว...แบบนี้มีหวังฤทธิ์คงไม่คุยด้วยทั้งชาติ...

>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<

จากคุณ : icebeach
เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 18:14:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com