เพื่อนที่มีชื่อเล่นว่า ลิง คนที่สาม
|
|
เพื่อนที่มีชื่อเล่นว่า ลิง คนที่สาม
เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนนักเรียนโรงเรียนแสงทองวิทยา เป็นเพื่อนนักเรียนรุ่นน้องห่างกันสองปี มาเริ่มรู้จักสนิทสนมกันมากก็ช่วงไปเรียนที่กรุงเทพฯ เพราะความที่ต่างเป็นเด็กมาจากต่างจังหวัด มาจากหาดใหญ่ ที่เส้นทางเข้ากรุงเทพฯ หนึ่งพันกว่ากิโลเมตร ต่างคนต่างห่างไกลจากบ้านและครอบครัว ต่างก็มีความเหงา ความฝัน ความหวังร่วมกัน เลยเริ่มสานสัมพันธ์ความรู้จักคุ้นเคยกันมากขึ้น
แกอาศัยอยู่ที่ฝั่งธนบุรีสมัยนั้น จำชื่อซอยและพื้นที่แถวนั้นไม่ได้แล้ว เจอกันที่กรุงเทพฯ ก็ที่บ้านเพื่อนที่หมู่บ้านนครไทย แถวสาธุประดิษฐ์ ซึ่งเป็นบ้านเพื่อนที่มีเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้อง มักจะไปชุมนุมศิษย์เก่าโรงเรียนแสงทองวิทยา ชุมนุมกันที่นั่นมากทุกเย็นวันศุกร์ถึงเย็นวันอาทิตย์ เพราะพี่น้องบ้านนี้เรียนที่โรงเรียนเดียวกันร่วมกันสี่รุ่น
มีปรากฎการณ์ครั้งหนึ่งที่เป็นตำนานของบ้านหลังนี้ คือมีเพื่อนนักเรียนร่วมโรงเรียนแสงทองวิทยาไปเจอกันรวมสี่สิบคน ต่างคนต่างมาเรียนในกรุงเทพฯ บางคนก็เรียนมหาวิทยาลัย บางคนก็ชั้นมัธยมศึกษา บางคนก็เรียนอาชีวะศึกษา บางคนก็มาทำงานไม่ได้เรียนต่อแล้ว ต่างก็ตั้งใจจะมาพักอาศัยค้างคืน แต่ส่วนมากมักจะมาพูดคุยกันมากกว่า
เมื่อเจอเพื่อนที่มีชื่อเล่นว่า ลิง แกก็ชวนไปเที่ยวบ้านแก โดยพานั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์แบบผู้ชาย เป็นฮอนด้า รุ่น CB125 หรือไงถ้าจำไม่ผิดพาไปบ้านพักของแก ซึ่งเป็นห้องแบ่งให้เช่าที่อยู่ฝั่งธนบุรี ทำให้รู้จักทางไปที่อยู่อาศัยของแก
ตั้งแต่นั้นเวลาว่างจากการเรียน ช่วงวันเสาร์วันอาทิตย์ที่เหงา ๆ ไม่รู้จะทำอะไร หรือจะไปไหน ก็มักจะนั่งรถเมล์ไปหาแกที่ฝั่งธนบุรี สมัยนั้น โทรศัพท์พื้นฐานก็หายาก โทรศัพท์มือถือไม่ต้องพูดถึงยังไม่มีขาย การไปมาหาสู่แต่ละครั้ง ก็เป็นเรื่องต้องวัดดวง ว่าเพื่อนที่จะไปหาอยู่ที่บ้านหรือไม่ แต่ก็มักจะเจอแกทุกครั้ง แต่ถ้าไม่เจอแกก็จะแวะไปหาน้องชายย่าที่อยู่ใกล้ ๆ กัน หรือไม่ก็บ้านเพื่อนอีกคนที่อยู่แถววงเวียนใหญ่ฝั่งธนบุรีเช่นกัน
ผมมักจะนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของแก วนเวียนรอบกรุงเทพฯ ละแวกสนามหลวงและฝั่งธนบุรี (ผมไม่กล้าขับรถจักรยานยนต์ในกรุงเทพฯ) แต่ส่วนมากเราชอบนั่งบนม้าหินคุยกัน หรือกินขนมเล่นพลาง ด้านข้างศาลฏีกาปัจจุบัน ตรงแถวคลองหลอด ใกล้ ๆ กับกรมแผนที่ทหาร หรือที่เรียนรักษาดินแดนสมัยก่อน เรื่องที่พูดคุยส่วนมาก ก็เรื่องของบ้านเกิด เพื่อนที่มาเรียนที่กรุงเทพฯ หรือทำงานแล้ว ความฝัน ความหวังในอนาคตที่มาเรียนต่อ หรือที่ทำงาน
แต่สำหรับแก ไม่ได้เรียนต่ออีกแล้ว เพราะพอจบมัธยมศึกษาปีที่สาม ก็มาหางานทำเลย ครอบครัวของแกทำอาชีพเช็คปั้มดีเซลที่หาดใหญ่ ทำให้แกมีวิชาชีพติดตัวมาทำงานในอู่แห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ จำได้ว่าไม่เคยสอบถามว่า แกทำงานที่ไหนหรือเรื่องครอบครัวแก เพราะเพื่อนรุ่นแกบางคนบอกว่า แกเป็นลูกเลี้ยงของครอบครัวนี้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้สอบถามแกโดยตรง เกรงว่าแกจะเสียใจในเรื่องนี้
จากคุณ |
:
ravio
|
เขียนเมื่อ |
:
27 พ.ค. 53 21:26:33
|
|
|
|