*******A Travel Through a Weary Mind : การเดินทางอันแสนไกลด้วยหัวใจที่อ่อนล้า ตอนที่ 1***********
|
|
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเดิมๆ มันอาจจะต้องใช้เวลาสักพักในการที่จะคิดได้ว่า ที่นี่ที่ไหนกันนะ.. ฉันกำลังนอนอยู่ที่ไหนกัน.. เตียงนุ่มๆ ผ้าห่มหนาๆ.. สายตากวาดมองไปรอบห้องอันมืดมิดพร้อมกับสติที่ระลึกขึ้นได้อย่างช้าๆว่าขณะนี้ฉันกำลังอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย ฉันเหลือบมองนาฬิกาข้างเตียงตอนนี้มันเป็นเวลาตีสอง ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางกลับดูไบคืนพรุ่งนี้ จากดูไบมาห้าวัน ได้เวลากลับไปแล้วหรือนี่.. ฉันรู้สึกวูบในใจ ทำไมนะ.. ผ่านไปห้าวันแล้ว ความรู้สึกไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย คิดว่าจะตั้งใจทำงานให้ลืมๆมันไปซะ ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง อย่าไปยึดติดกับเรื่องเก่าๆให้มาก แต่กลับกลายเป็นว่าคิดถึงแต่เรื่องนั้นกับเขาคนนั้น.. ผู้ชายเอเชียนอเมริกันที่ชื่อเจสซี่
"เราเข้ากันไม่ได้ ยังไงซะเราก้อไม่มีทางมีอนาคตร่วมกัน" "บางทีผมก็ยังอยากอยู่กับคุณนะ แต่ก็ไม่อยากเข้าสู่วงจรแย่ๆเหมือนเดิมอีก" "มุมมองเราต่างกันเกินไป คุณไม่ใช่คนที่ผมหวังไว้"
ไม่รู้ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ เขาคือคนที่เคยรอฉัน เคยบอกว่าจะทำทุกอย่างให้ฉันมีความสุข แต่ก็อย่างที่ว่า เวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน อะไรที่เคยเหมือนเดิมก็กลับเป็นไม่เหมือนเดิม อะไรที่เคยดีขึ้นก็กลับเป็นแย่ลง สองเดือนที่ผ่านมาเราทะเลาะกันมาโดยตลอด ส่วนใหญ่คือเรื่องไม่เป็นเรื่อง ฉันเองก็มีส่วนผิดที่เอาแต่ใจมากเกินไป นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเปลี่ยน ทุกวันนี้คิดได้แต่เพียงว่า ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ จะทำตัวให้ดีขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเขาหมดความตั้งใจที่จะแก้ไขเรื่องต่างๆไปแล้ว เราสองคนคงต้องยอมแพ้ ไม่ว่าฉันจะพยายามเท่าไหร่ มันก็คงกลับไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก
ฉันโทรสั่งรูมเซอร์วิสแล้วกดโทรศัพท์แบลคเบอร์รี่เพื่อที่จะดูว่ามีใครออนไลน์อยู่บ้าง แล้วก็พบชื่อเขา แต่ก็เหมือนเดิม.. เขาไม่เคยทักฉันเลยในห้าวันที่ผ่านมาทั้งที่รู้ว่าฉันออนไลน์ ทุกครั้งฉันต้องพยายามข่มใจอย่างมากไม่ให้ส่งข้อความหาเขาก่อน คราวนี้ก็เช่นกัน มันเป็นความรู้สึกจุกอย่างประหลาดที่รู้ว่าเขาไม่แคร์แม้แต่จะพูดคุยกับฉัน ฉันวางโทรศัพท์แล้วเดินไปเปิดตู้เย็น รินไวน์ชาร์ดอนเนย์เย็นฉ่ำจากมินิบาร์แล้วกลับมานั่งจิบบนเตียง คลุมตัวด้วยผ้าห่มผืนหนา ห้องมืดๆกับแสงไฟจากถนนเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ยิ่งทำให้รู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก อาชีพนี้มันก็แบบนี้แหละ นี่ก็หกปีมาแล้ว เมื่อไหร่ฉันจะชินซะทีนะ
ทีวีออสเตรเลียไม่มีอะไรน่าสนใจจนฉันแทบจะงีบหลับไปอีกครั้ง แต่ก็ถูกปลุกให้ตื่นจากภวังค์ด้วยเสียงโทรศัพท์ มันโชว์หมายเลขโทรศัพท์แต่ไม่บอกชื่อ ปกติฉันจะไม่รับเบอร์ที่ฉันไม่ได้เมมไว้เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นเบอร์โทรจากธนาคาร หรือเทเลเซลอื่นๆ แต่หมายเลขนี้กลับคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเป็นเบอร์ที่เคยจำได้เมื่อนานมาแล้ว... ฉันกดรับ
"อิสดี ผมคิดถึงคุณ!!" ฉันอึ้งไปสักพัก เสียงอันคุ้นเคย.. ไม่ได้ยินเสียงนี้มาสองปีแล้วมั้ง แล้วความรู้สึกที่เคยหายไปก็กลับพรั่งพรูขึ้นมาอีกครั้ง "คาลิด!!!! คาลิดใช่มั้ย" "อิสดี เป็นยังไงบ้าง ผมคิดถึงคุณมากกกกกก มากจริงๆ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน" "อยู่เมลเบิร์นค่ะ คุณเป็นยังไงบ้าง" "ผมสบายดี นี่ผมมาประชุมที่ดูไบ จะอยู่ประมาณสามสี่วัน คุณจะกลับมาเมื่อไหร่" "กลับวันพรุ่งนี้แล้วค่ะ น่าจะถึงคืนวันเสาร์" "เราจะได้เจอกันไหม ผมอยากเจอคุณ อยากจะคุยกับคุณหลายๆเรื่อง" "แน่นอนค่ะ ฉันจะได้หยุดอีกสองวัน ถ้าคุณยังไม่กลับอียิปต์เราคงได้เจอกันแน่ ฉันก็มีเรื่องมากมายอยากจะคุยกับคุณ ฉันคิดถึงคุณมากจริงๆ" "ผมทนรอไม่ไหวแล้ว กลับมาแล้วโทรหาผมด้วยนะ เราจะได้เจอกัน ผมจะไปหาคุณที่บ้าน" "แน่นอนค่ะ แล้วเจอกันนะคะ"
มันคือหมายเลขที่ฉันเคยลบทิ้งไปเมื่อสองปีก่อน ฉันกับคาลิดเคยคบกันหนึ่งปี ก่อนที่เราจะเลิกกันแล้วเขากลับไปอียิปต์ถาวรเพื่อที่จะแต่งงาน จนถึงทุกวันนี้สาเหตุการเลิกของฉันก็ยังคงไม่ชัดเจน เขาให้เหตุผลว่าครอบครัวของเขาต้องการผู้หญิงมุสลิมเท่านั้น จึงได้บอกเลิก แต่หลังจากที่เลิกกันได้สองเดือน เขาก็กลับอียิปต์ถาวรแล้วแต่งงานกับผู้หญิงที่นั่นทันที ฉันไม่รู้ว่าเขาคบกับผู้หญิงคนนี้มาก่อนฉันรึเปล่า ฉันอาจจะโดนเขาหลอกก็ได้ หรือมันอาจจะเป็นเรื่องจริงที่ครอบครัวเขากดดันให้เขาคลุมถุงชน มีด้วยหรือคลุมถุงชนในสมัยนี้.. เขาบอกว่ายังไงฉันก็ไม่เข้าใจ ที่อียิปต์ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา อย่างไรก็ตามฉันไม่อยากคิดหาเหตุผลให้มากนัก บางทีการปล่อยให้มันกำกวมแบบนี้อาจจะรู้สึกดีกว่าเมื่อได้รู้ความจริง เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่ฉันคบด้วยเป็นเวลานานเกินหกเดือน และถ้าไม่นับเหตุผลที่เลิกกัน ฉันเชื่อว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตฉันอย่างไม่ต้องสงสัย
โฟกัสความคิดเปลี่ยนไปจากเจสซี่กลายเป็นคาลิด สองปีแล้วหรือที่เราไม่ได้เจอกัน ชีวิตแต่งงานเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง คำถามผุดขึ้นมาในหัวมากมาย สิ่งต่างๆที่อยากพูด อยากเล่าให้เขาฟังมีมากมายเต็มไปหมด รวมทั้งเรื่องของเจสซี่ด้วย อยากให้เขารับรู้ทุกอย่าง เจอเขาแล้วจะเป็นอย่างไรนะ จะรู้สึกเหมือนเดิมรึเปล่า ได้คิดถึงคาลิดบางทีก็ดีกว่านึกถึงคนที่ไม่ได้นึกถึงเราเลย.. ฉันเมมเบอร์นี้กลับเข้าโทรศัพท์อีกครั้ง K-h-a-l-e-d...
รูมเซอร์วิสมาแล้ว สปาเกตตี้คาโบนาราร้อนๆกับไวน์ขาวรสชาติเข้ากันได้ดีเหลือเกิน ฉันดื่มชาร์ดอนเนย์ขวดนั้นจนหมด แล้วผลอยหลับไปอีกครั้ง ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานและไทม์โซนที่เปลี่ยนแปลงทำให้ฉันล้าจนนอนได้ทั้งวัน ยังคงเหลือเวลาทำงานบนเครื่องบินอีกสิบสี่ชั่วโมงพรุ่งนี้ก่อนจะได้กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงที่ดูไบ...
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 53 05:25:29
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 53 05:18:23
จากคุณ |
:
pregnant fish
|
เขียนเมื่อ |
:
29 พ.ค. 53 05:15:17
|
|
|
|