ความคิดเห็นที่ 1 |
แพขิมค่อยมาปล่อยโฮในห้องพัก แปรถนอมประคองมานั่งเก้าอี้ยาวปลายเตียง แล้วถอนใจยาว
ก่อนจะลูบเรือนผมยุ่งที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ เนื้อตัวก็มอมแมมคราบโคลนไปหมด
ขวัญก็คงหายไปมากโข จากการโดนไล่กวดของกลุ่มจิ๊กโก๋หื่น พอรอดตัวมาได้หวุดหวิด ก็อย่านึกว่าโชคดี
เผลอจะโชคร้ายกว่า ที่ต้องมาเจอจารวีแผดเสียงเอ็ดแบบเอาเป็นเอาตาย อย่าไปถือสาพี่เจียเลยนะ เขาเป็นห่วงน้องแพไง เขาก็เลยโกรธจัดอย่างนั้น ลองว่าไม่ห่วง น้องแพจะไปไหน หรือจะเป็นอะไร เขาก็ไม่สะดุ้งสะเทือนหรอก จริงไหม พี่เขาด่า ก็เพราะว่าพี่เขารักน่ะ อย่าเสียใจเลยนะ
หนูไม่ได้โกรธพี่เจีย แต่หนูเสียใจที่ไม่เชื่อฟังคำสั่ง หนูจะโทรศัพท์บอกพี่เขาแล้วนะคะ แต่เกี่ยวก้อย..
เออ พี่เข้าใจ แล้วพี่จะคุยกับพี่เจียให้เอง ตอนนี้เขาโกรธ ปล่อยเขาไปสักพักก่อน รอไว้เย็นๆ ให้อารมณ์เขาดีกว่านี้ แล้วพี่จะง้อให้นะ แล้วนี่แผลถลอกกับรอยครูดเต็มแขนนี่ เจ็บไหม เดี๋ยวตอนอาบน้ำ พอโดนน้ำแล้ว ต้องแสบมากแน่เลย
แปรถนอมยกแขนช้ำของสาวน้อยขึ้นมาสำรวจอย่างเป็นกังวล
เจ้าตัวคงวิ่งล้มลุกคลุกคลานเป็นแน่ ถึงได้มีแผลเต็มตัวอย่างนี้
เท้าสองข้างก็เถอะ ยังมีคราบเลือดเปรอะตามง่ามนิ้ว คงมีแผลใต้ฝ่าเท้ากระมัง
เวรกรรมจริงๆ ไม่รู้จะเคราะห์ซ้ำเคราะห์ซ้อนไปถึงไหน
ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วนอนพักสักหน่อยนะ ถ้าลุกไปทำอาหารเย็นไม่ไหว ก็ไม่ต้อง เดี๋ยวพี่กับพี่ทับทิมจัดการกันเอง เพราะถึงยังไง วันนี้ก็ไม่กลับไปที่งานอยู่แล้ว ไม่มีอิฐน่ะ
แพขิมพยักหน้าว่าง่าย ปากเล็กยังเบะนิดๆ น้ำตาก็ยังร่วงเผาะๆ เจ้าตัวยกท่อนแขนป้ายแก้ม เห็นแล้วน่าเอ็นดูพิลึก
แปรถนอมถอนใจยาว ก่อนจะลุกขึ้น แล้วเห็นทับทิมยืนกอดอกพิงประตูฟังอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ
สองหนุ่มจึงยักไหล่ให้กัน คล้ายจะบอกว่า เซ็งเป็นบ้า
จารวีลงไปนั่งดับอารมณ์ระอุใต้ต้นไม้ข้างรถกระบะ
เขาถอดเสื้อเชิ้ตออกแล้ว เหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงยีน
หากเกี่ยวก้อยได้มาเห็นแผงอกใหญ่และตึงด้วยกล้ามเนื้อแน่นตึกในเวลานี้เข้าละก็
คงลอบกลืนน้ำลายด้วยความใคร่กกใคร่กอดเป็นแน่
คิดอะไรวะ
ทับทิมลงมาถาม แปรถนอมก็ตามมา แต่มีน้ำเย็นเจี๊ยบติดไม้ติดมือมาแจกคนละแก้ว
คิดเรื่องอิฐ คงต้องรออีกวันสองวัน กว่าจะทำในส่วนกำแพงด้านข้างได้ อาจต้องไปเลือกๆ แถวตึกสำนักงานที่รื้อถอนใกล้เสร็จแล้ว ฉันโทรบอกนายเนื่องแล้ว มันคงเก็บๆ ไว้ให้บางส่วน คงพอถูไถไปได้ก็แค่พรุ่งนี้
สองเพื่อนรักสบตากันแวบหนึ่ง
ใจก็คิดชื่นชมตรงกันว่า จารวีจัดการกับเรื่องงานทุกงานที่รับผิดชอบ ได้ฉับไวไม่เสียชื่อหัวหน้าทีม
แม้แต่จะต้องมาปวดหัวกับเรื่องไม่เป็นเรื่องของสองสาวเมื่อครู่นี้
แต่ก็ดูเอาเถอะ ชั่วเวลาผ่านไปแค่ห้านาที เขาก็แก้ปัญหาเรื่องอิฐได้เรียบร้อย
เวลานี้ก็แค่รอ จากสามวันเหลือสองวันเท่านั้นเอง
นี่คือเหตุผลที่ลูกทีมต้องยกย่องและยอมรับให้เขาเป็นหัวหน้าทีมตลอดกาล
เรื่องอิฐก็ถูไถไปจนถึงพรุ่งนี้ได้ เรื่องน้องแพ แกก็ต้องทิ้งไอ้ความโกรธลงในวันนี้นะเว้ย ไม่อย่างนั้น น้องเขาจะเสียขวัญ อย่าลืมว่า มีเพียงแกคนเดียว ที่น้องเขายกย่องและเชื่อมั่น หากแกทำท่าเหมือนตัดรอนหักทิ้งแบบนี้ น้องเขาจะน้อยใจ พานแอบหนีออกจากบ้านกลางดึกขึ้นมา
มันจ้างแกมาข่มขู่ฉันหรือ เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปตบหัวมันหน่อย กำแหง
ไอ้บ้า ปากแกนี่จริงๆ
ทับทิมตบไหล่ดังตึก
ฉันสงสารคุณป้าจริงๆ เลย ท่านต้องอดทนกับลูกชายปากเสียคนนี้ไปอีกนานแค่ไหนวะ
ทำไมต้องทน แม่ฉัน เกิดฉันมา เลี้ยงฉันมา รู้จักนิสัยฉันที่สุด มีอะไรต้องทนวะ ใครทนไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาคบสิโว้ย ฉันไม่เคยง้อเคยตามนี่หว่า กับแพขิมก็เหมือนกัน อยู่ได้ก็อยู่เว้ย อยู่ไม่ได้ จะไปไหนก็เชิญไป
พอสิ้นคำปากไม่ตรงกับใจเท่านั้นล่ะ
ตาคมดุก็สะดุดกึกเข้ากับเงาร่างเล็กที่หยุดตรงเชิงบันได พร้อมกับถาดกาแฟ
จารวีลอบใจหาย อยากตบปากสักหลายเผียะ เขาก็พูดคะนองไปอย่างนั้นเอง
แต่สีหน้าแววตาของคนฟัง คล้ายดั่งจะผิดหวังสุดแสน มือที่ประคองถาดยังสั่นให้เห็นเสียด้วยซ้ำ
ไอ้เวรเอ๊ย ไอ้เจีย เขาด่าตัวเองทันที เมื่อสาวน้อยเดินมาวางถาดไว้บนหัวรถกระบะ แล้วผละจากไปเงียบๆ ไงล่ะ
ทับทิมผลักไหล่จนหัวส่าย
สมใจปากแกละสิ ทีนี้ก็ระวังตอนดึกๆ เถอะ
ทำไมต้องระวัง ฉันก็บอกอยู่โทนโท่ ใครอยู่ได้ก็อยู่ ใครอยู่ไม่ได้ก็เชิญไปโว้ย ส่วนแก..
จารวีชี้หน้าแปรถนอมขึงขัง แล้วสั่ง
ยกกาแฟไปเทรดต้นไม้ ไม่มีอารมณ์จะกลืน ฉันจะไปอาบน้ำแล้วนอน ใครอย่าเสนอหน้าเข้าไปแหย่ไอ้นี่นะเว้ย
สองหนุ่มหัวเราะพร้อมกับถลึงตาใส่หัวหน้าทีม ที่ยกเท้าขึ้นมาแกว่งไปแกว่งมา
ก่อนจะสะบัดหน้าพาตัวล่ำคล้ำพราวเสน่ห์ขึ้นบ้าน
สายตาของสองหนุ่ม มองตามไปอย่างรู้เท่าทันในความคิด
เชอะ จะมีอะไร ก็คงหาเรื่องหลบหน้าไปซ่อนกลุ้มนั่นล่ะ ปากเสียไปตั้งกระบุงใหญ่นี่ สาวเจ้ามาได้ยินแบบเต็มๆ แก้ตัวแก้ต่างยังไงก็ฟังไม่ขึ้น
เวลาคล้อยลงจรดยามค่ำ หนุ่มโสดกลับจากทำงานมารวมตัวกันครบทีม
แปรถนอมทำหน้าที่กระจายข่าวร้อนปนรบเมื่อช่วงบ่ายแก่ ด้วยน้ำเสียงคึกคัก
เนื่องหัตถ์รับรู้ด้วยความไม่สบายใจ
ก็รู้สึกผิดสังเกตเหมือนกัน ที่สาวแม่บ้านแลหงอยเหงา ยิ้มไม่ค่อยเบิกบาน
ตอนออกมาจัดสำรับ หน้าแห้งแล้ง ตาก็ไม่ยอมสบด้วย ทั้งที่เขาจ้องเขม็งแทบตาย
ตอนนี้ ก็หลบหายไปไหนก็ไม่ทราบ ปกติเธอก็จะมานั่งเบียดอยู่ข้างประตู
รอจนกว่าทุกคนอิ่มหนำสำราญแล้ว จึงค่อยแจกกาแฟ แล้วยกสำรับไปเก็บ
จารวีก็ช่างกระไรนัก ยังวางท่าปลอดโปร่ง ตักโน่นใส่ปากเคี้ยวกลืน ราวกับว่ามันเอร็ดอร่อยนักหนา
ทั้งที่ตัวเองเพิ่งจะก่อเหตุโศก ให้สาวน้อยรับไปเต็มทรวงแท้ๆ
แพขิมแวะกลับออกมาตอนหนุ่มโสดแยกย้ายกันไปตามมุมโปรดของตัวเอง
แปรถนอมก็ง่วนอยู่กับดอกไม้ใบหญ้าข้างล่าง ทับทิมไปนั่งห้อยเท้าเล่นบนท้ายกระบะ
กนกกับธนากำลังเตะบอลกลางสนาม จารวีหายเข้าห้องพักไปแล้ว
จึงเหลือเพียงเนื่องหัตถ์ที่ช่วยเก็บสำรับ และคอยมองจ้องว่าเมื่อไหร่สาวคนดีจะเลื่อนตามาสบ
เกิดเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ นายเจียมันยังประสาทกลับ เอ็ดตะโรเอาได้ ท่าว่ามันจะบ้าแล้วจริงๆ
เขาบ่นตอนย้ายจานชามลงอ่างล้างจาน โดยมีแพขิมตามมายืนข้าง
ท่าทางก็บอกชัดว่าไม่อยากปริปากเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก
แต่สีหน้าหม่นหมองของเธอนี่สิ ที่เนื่องหัตถ์เห็นแล้วเกิดความไม่สบายใจ
เกรงว่าเธอจะลอบคิดการหวาดเสียว ตามที่ทับทิมกับแปรถนอมคะเนให้ฟัง
พี่หวังว่าน้องแพจะไม่ถือสาอารมณ์บ้าๆ บอๆ ของนายเจีย จนต้องแอบหนีออกจากบ้านนะครับ ยิ่งทำแบบนั้น จะยิ่งอันตรายกับตัวเอง เหมือนยิ่งสาวก็ยิ่งลึก ทางที่ดีเวลานี้ พี่อยากแนะนำให้น้องแพสงบอารมณ์ และทำจิตให้นิ่ง อย่าหวั่นไหวไปตามสภาพเคราะห์ ไม่อย่างนั้น มันจะไปกันใหญ่
ความไม่สบายใจทวีความหนักหน่วงขึ้น เมื่อปรากฏว่า สาวแม่บ้านยังคงนิ่งเงียบ
เธอกลืนน้ำลายคล้ายขมขื่นต่อบางอย่าง ซึ่งเนื่องหัตถ์ก็ไม่อาจคาดเดาหรือหยั่งถึง
พอคว่ำจานเรียบร้อย แพขิมก็ยิ้มเป็นเชิงขอตัว แล้วลับหายเข้าห้องพักไปเงียบๆ
ทิ้งหนุ่มขรึมไว้กับความวิตกกังวล เขากลับไปนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ในห้องโถง
ทั้งที่จิตใจกระวนกระวาย มิหนำซ้ำ ยังเตือนตัวเองอีกด้วยว่า คืนนี้ อย่าเผลอหลับ
แต่การคาดคะเนของทับทิมก็ใช่ว่าจะเป็นจริง
แพขิมไม่ใช่สาวบุ่มบ่าม เธอจึงไม่คิดสั้นพาตัวเองเข้ารกเข้าพง ลึกไปกว่าที่เป็นอยู่
ในห้วงสมองของเธอ ลอยวนไปวนมาด้วยใบหน้าของทุกคนที่รักในครอบครัว โดยเฉพาะบิดาขาขาด
ดังนั้น เธอจะต้องอดทน และพาตัวเองฝ่าออกไปจากดงวิกฤติให้สำเร็จ
เพื่อที่จะได้กลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาดังเคย
อาจจะเจ็บปวดหัวใจจนสุดบรรยาย ยามระลึกถึงถ้อยคำร้อนแรงสิ้นเยื่อใยของจารวีที่ว่า
กับแพขิมก็เหมือนกัน อยู่ได้ก็อยู่เว้ย อยู่ไม่ได้ จะไปไหนก็เชิญไป
แต่ก็ต้องตระหนักให้ชัดเจนว่า เธอเป็นเพียงสาวตกยากเคราะห์ร้าย ที่เขายื่นบุญคุณมาปกป้องชั่วคราวเท่านั้น
จารวีก็กล่าวไม่ผิด ในสภาพที่ต้องอาศัยและพึ่งใบบุญคนอื่น มันต้องขึ้นอยู่กับความอดทนของเธอเอง
อยู่ได้ก็อยู่ แล้วถ้าอยู่ไม่ได้ จะไปไหนก็เชิญไป
เพื่อเยียวยาบาดแผลในหัวใจ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า มันปริแล้วฉีกได้ยังไง
แต่เธอก็รู้สึกอย่างนั้น นับแต่วินาทีที่ได้ยินจารวีตัดรอนไร้เยื่อใยใต้ต้นไม้
เธอจะอยู่ห่างเขาให้มากที่สุด พูดให้น้อย ไม่ต้องมองหน้าหรือสบตา
แล้วถ้าเขาสั่งความอะไร เธอก็จะเพียงแค่ผงกศีรษะรับคำอย่างสงบเสงี่ยม
เสร็จงานแล้ว เธอก็จะกลับมาขลุกขังตัวเองในห้องพักอย่างนี้
รอจนกว่า ความรู้สึกเจ็บปวดค่อยสร่างทุเลา แล้วค่อยไปว่ากันอีกที แพขิมยิ้มสมเพชความตั้งใจของตัวเอง ขณะลุกเนือยเฉื่อยไปนอน ปล่อยน้ำตาให้รินไหลไปเงียบๆ
เป็นเพราะเธอทราบดีแก่ใจแล้วต่างหากว่า บาดแผลในหัวใจรอยนี้ จะไม่มีวันสร่างทุเลา
มีแต่จะทวีความเจ็บความปวดต่อไปอย่างไม่รู้จบ
และไม่ว่าจะต้องทุรนทุรายต่อความรู้สึกนั้นไปอีกนานแค่ไหน
แต่ขอเพียงมันเกิดขึ้นเพราะจารวีเป็นต้นเหตุใหญ่
เธอก็ ยินดี จะแบกรับกล้ำกลืนไว้โดยไม่จำกัดเวลา
| จากคุณ |
:
รัชนีกานต์
|
| เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ค. 53 11:36:41
|
|
|
|