จริยะธรรมในการคบมิตร
|
|
* เพื่อนดี มีไว้ให้คบเป็นมิตร จึงอย่าคิดเอาเปรียบเพื่อนโดยวิธีการใดๆ ไม่คิดเอื้อเฟื้อเพื่อน คิดแต่จะได้ประโยชน์จากการคบเพื่อน สู้อยู่เฉย ๆ เสียดีกว่า ไม่เปลืองเวลาคบหา *
๑. อย่างแรก คือ พูดถึงเพื่อนในทางดี ๆ ไม่ใช่ คิดเอง เออเอง เอาเขาไปเม้าท์ในทางเสียหาย นี่ก็ถือเป็นเพื่อนประเภทหน้าไหว้หลังหลอกคบไปก็ไร้ประโยชน์ ทำเสมือนเป็นไวรัสโทรจันในชีวิต
๒. อย่างที่สอง ทางที่เป็นประโยชน์ ชี้ให้เพื่อนไปเดิน แล้วทำเสมือนเพื่อนเป็นตัวจำอวดบนเวทีที่ตนชี้ เอามันเข้าว่า เพื่อนชนิดนี้ คบไปกลายเป็นตัวตลกให้ชาวบ้านดูทั้งเมืองเสียอย่างนั้น คบไปทำไม
๓. อย่างที่สาม เพื่อนให้ความจริงใจ พูดจริงทำจริง แสนซื่อให้ เพื่อนมองเห็นเป็นซื่อบื้อ สนตะพายใช้งานฟรีไม่มีหยุด อ้างโปรเจคท์สารพัดหลอกล่อให้ฝูงกาสรถูกต้อนลงบ่อดักควายอย่างนี้ก็ใช้ไม่ได้
๔. อย่างที่สี่ เพื่อนดีถ่อมตน เพื่อนอีกคนกลับมองเป็นหนทางให้ถล่ม ดักหน้า ก้าวข้ามบ่า ข้ามหัว เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่เพื่อน ใช้เท้าเหยียบบ่ามิตรพิชิตมงกุฎ อย่างนี้ถือเป็นโจรามิตร มิควรคิดคบไว้
**** เมื่อคิดสะระตะ กันดีแล้ว ควรพิจารณาคนที่ชอบชักชวนตนให้ไปทำงาน ทำโน่นทำนี่ เพื่อได้หน้าได้ตาคนชวน คนถูกชวนก็มิควรจะกระโดดโลดเต้นไป ดังคำโบราณเขาว่า " อยากเป็นหนี้ ให้เป็นนายหน้า อยากเป็น( ^o^ ) ให้เป็นนายประกัน " คิดแล้วควรอยู่นิ่ง ๆ ทำตัวเป็นประโยชน์แก่บ้านแก่เรือน แก่คอก(ควาย) ตัวเอง ยังดีเสียกว่า นับว่าประพฤติตนเป็นหลักคู่เหย้าคู่เรือนเป็นคหบดีแก่ครอบครัว ยังดีกว่าไปเป็นข้าบาทาให้ใครเหยียบข้ามศีรษะไปไม่รู้แล้ว
จากคุณ |
:
tiki_ทิกิ
|
เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ค. 53 15:44:10
|
|
|
|