อยากร้องไห้

อยากร้องไห้

ในคอลัมน์ ที่นี่....สะพานแดง ของนิตยสารทหารสื่อสาร ฉบับประจำเดือน พฤษภาคม ๒๕๓๕ มีเรื่องที่น่าสนใจ คือ น้ำตา...ใครว่าไม่มีประโยชน์ ขึ้นต้นด้วยเพลงเสียด้วย

......โอ้น้ำตาหรือจะแก้ปัญหาใจ ร้องไห้ทำไม ร้องทำไม่ให้เสียน้ำตา.................

การสูญเสียน้ำตาที่เอ่ยไว้ในเพลงนี้ น่าจะหมายถึงเสียความรู้สึก หรือเสียเวลาคร่ำครวญ กับปัญหาใจนั้นมากกว่า

เพราะมนุษย์ทุกคนมีต่อมเล็ก ๆ ขนาดเท่าปลายก้อยอยู่เหนือลูกตา ทางด้านหางตาและด้านบนของเบ้าตา ซึ่งสามารถจะขับน้ำตาออกมาได้เรื่อย อย่างไม่มีวันเหือดแห้งเราจึงสามารถจะเสียน้ำตาได้ทุกวันทุกเวลา โดยไม่ต้องกลัวหมด

และไม่ใช่เรื่องน่าเสียดายแต่ประการใด

ต่อมเล็ก ๆ ที่กล่าวถึงนี้ จะมีท่อเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่ขับน้ำตาเข้ามาใต้เปลือกตาบน เมื่อน้ำตาถูกขับออกมา ก็จะเคลือบฉาบอยู่ที่ผิวด้านนอกของลูกตา หลังจากนั้นก็จะไหลซึมลงสู่รูน้ำตาตรงขอบเปลือกตาใกล้ ๆ กับทางหัวตา จากรูนี้จะมีท่อเล็ก ๆ มารวมเปิดลงในท่อน้ำตา ซึ่งมีความยาวราว ๑๘-๒๔ มิลลิเมตร และมีความกว้างหรือเส้นผ่าศูนย์กลาง ๔-๖ มิลลิเมตร ท่อน้ำตานี้มีรูเปิดเข้าสู่เยื่อบุภายในจมูกด้วย

ดังนั้น น้ำตาที่ขับออกมาจากต่อมน้ำตานี้ บางส่วนระเหยไป บางส่วนไหลออกมา และบางส่วนไหลลงสู่ท่อน้ำตา มาขับออกทางจมูก ช่วยให้เยื่อบุจมูกชุ่มชื้นขึ้น

คนเราเวลาร้องไห้ จะกระตุ้นให้ต่อมน้ำตา ขับน้ำตาออกมามากกว่าปกติ รวมทั้งทำให้เกิดอาการคัดจมูกน้ำมูกไหลไปด้วย

น้ำตามิใช่น้ำเปล่า ๆ แต่มีเกลือและแร่ธาตุบางอย่างเช่น โปรตีน น้ำตาล กลูโคส เป็นส่วนประกอบอยู่ จึงทำให้มีรสเค็ม

น้ำตามีประโยชน์มาก ตลอดเวลาที่น้ำตาขับออกมา ได้ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวลูกตา ช่วยชำระล้างตาจากบรรดาฝุ่นละอองที่ปลิวเข้าไป หากขาดน้ำตาแล้ว ผิวของลูกตาก็จะแห้ง ทำให้เกิดความระคายเคืองและแสบตา จนอาจถึงบอดได้

การร้องไห้และหลั่งน้ำตา ยังเป็นวิธีปลอบประโลมใจคน ช่วยบรรเทาความเคร่งเครียดของจิตใจ เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องเสียดายน้ำตา

ถ้าอยากจะร้องไห้ ก็จงร้องไปเถิด
เมื่ออยู่ท่ามกลางกาลเทศะ อันสมควรจะร้องได้.

#############

จากคุณ	: เจียวต้าย
เขียนเมื่อ	: 1 มิ.ย. 53 06:26:57