 |
ความคิดเห็นที่ 25 |
09.31 น.
๏ คำครูผู้สร้างสลัก .............. กลอนโคลง โกงค่อนขอดคู่โยง ............... คู่ย้อน ค้อนอยู่ตอกเปิงโปง .............. สลักพับ สลับพัก-ผ่อนแรงค้อน ........... ตอกบ้างเพื่อนเอย ๏ เผยเอื้อนคำอัดผู้ ............... ล่าฝัน รันฝ่า-ขวากหนามคัน ............. ปากนี้ ปี่นาคกระหึ่มวัน .................... ไหนเล่า หนาวไล่ทะลวงคำขี้ ............... ปากเจ้าเท่านั้นหรือ ๚ะ๛ (แฮ่แฮ่)
09.47 น.
----------------------------------------------------------- จากกระทู้ถนนนักเขียน (บทกวี)
อาศรมชาวโคลง ๒๑๘.สีสันวันชื่นคืนสุข ... ของ คุณ: แสงแรก ประดับดิน
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9289856/W9289856.html -----------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 164
อิอิ มี่เอาคนเก่งมาฝากบ้าง ดูกลบทเมื่อถูกนำมาใส่ลงในโคลงสี่นะคะ
พี่ๆทุกท่านลองสังเกตสักนิด มี่ว่า เพราะไม่น้อย แม้ว่ามี่จะเลียนตามพี่คนเก่ง
สองคนนี้ได้บ้างนิดๆแล้วก็ตาม แต่มี่ก็รู้สึกเพราะค่ะ แค่ยังรู้ไม่ตลอดทางว่า
กลบทแนวนี้จะช่วย ให้เราไป "พันหลัก"หลังต่อถึงบทที่เท่าไร พี่คนไหนเก่ง
แต่งได้ก่อนลองไขข้อข้องใจของมี่ โดยแต่งออกมาให้ดูหน่อยนะคะ....ขอบ
คุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ความคิดเห็นที่ 5
.
~ มนต์คำกระหน่ำเคล้า ...... กระนั้นความ ต้นแตกกระแทกตาม .......... กระทบต้น เรียบง่ายกระจายงาม .......... กระโงกแง่ ครวญใคร่กระไรค้น ............ ค่าชี้กระวีชาญ
พจน์รำพัน
วิจารณ์กระจกคล้าย...............กระจ่างคน มองส่องกระทบตน................กระตุกให้ ชำเลืองกระชากผล...............กระจุกจับ งานผลิตกระหึ่มได้................หากแม้นกระหายเห็น
เสกคาถา
อิอิ บังอาจต่อโคลงกับผู้เชิงชาญ
อิอิ มี่ก็บังอาจต่อพี่เสกกกกกกกคาถา555
เกณท์กฏประดับกว้าง...........ประเด็นกล คำร่ายประสารน...................ประสาทรู้ หากคิดประณามคน...............ประณีตคัด คำนา คำทักประสมทู้.....................ท่องถ้วนประสิทธิ์ทาง
เอ บทนี้ดีนาพี่เสกน่าตั้งชื่อว่า
กลบทโคลงแซมลหุแท้
ทีนี้มาทางครูพจน์บ้าง 555มี่ลองค่ะ
อัษฎางค์ดุริยา
~ มนต์คำกระหน่ำเคล้า ...... กระนั้นความ ต้นแตกกระแทกตาม .......... กระทบต้น เรียบง่ายกระจายงาม .......... กระโงกแง่ ครวญใคร่กระไรค้น ............ ค่าชี้กระวีชาญ
พจน์รำพัน
คำปองละล่องปลื้ม ...........ละลานแปร คราร่ายละลายแล .............ละลิบเลี้ยว หวานของละอองแข ...........ละเอียดขับ คำกรุ่นละมุนเกี้ยว .............ก่ายใกล้ละไมกรอง ญามี่
จากที่นี่ค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9317649/W9317649.html#19
จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 15:32:56 ถูกใจ : โหม่งฉ่าฉ่า, แสงแรก ประดับดิน, ศาลายา
ความคิดเห็นที่ 165
อัษฎางค์ดุริยา
คำเลิศประเจิดล้อม............ประจักษ์หลัก คำมั่นประกันหมัก..............ประกอบแม้น คำนบประคบหนัก..............ประคองเนิ่น คำเจาะประเคราะห์แจ้น........จ่อมจ้ำประคำจม
คำคละผงะเค้น..................ผงาดคัด คำลึกผนึกลัด....................ผนวกเลี้ยง คำฐานผสานทัด.................ผสมถัก คำก่นผจญเกลี้ยง................ก่อกลั้นผจัญกล ญามี่
จาก http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9317649/W9317649.html#20
จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 15:47:13 ถูกใจ : โหม่งฉ่าฉ่า, แสงแรก ประดับดิน
ความคิดเห็นที่ 166
นักเรียนโข่งอีกคนแอบหลังหัวหน้าห้องแบบเบลอๆค่ะ
ใครคิดใครใคร่รู้..................ควรถาม แบบอย่างอันสวยงาม........... ทั่วถ้วน สนใจใฝ่ทำตาม...................เติมแต่ง ตาหลิ่วตามหลักล้วน.............สอบได้ดีเสมอ
ทำข้อสอบได้ เพราะแอบดูคำตอบของหัวหน้าห้องนั่นเอง หุ หุ
จากคุณ : คุณแม่ใจดี เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 15:51:35 ถูกใจ : แสงแรก ประดับดิน, ศาลายา
ความคิดเห็นที่ 167
ละลานสะอึกอึ้ง..........................กระจายคำ ละล่ำสะเทือนนำ........................กระหม่อมซึ้ง ละเลงสะดวกทำ........................กระดอนผ่าน ละเลียดสะดุดตึ้ง.......................ตะล่อมต้อนตะลอนแรม
กระแอมกระแทกทั้น....................ตะบันไป กระหยิ่มกระทำใจ.......................ตะเพิ่ดพ้น กระพือกระเจิงไกล.....................ตะเลงเดือด กระจัดกระจายท้น......................ทะแm่งแม้นเมินมอง
ไม่รู้กลบทอะไรขอรับ เพียงแต่อยากเขียน มันก็เขียนปรู๊ดออกมาแบบนี้เลยขอรับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วย ขอรับ
000 เข้ามาแก้ไขบางคำ ติดคำกรองขอรับ 000
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 53 02:05:18
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 53 02:04:13
จากคุณ : เปลวอัคคี เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 01:59:29 ถูกใจ : คุณแม่ใจดี, นกโก๊ก, ศาลายา
ความคิดเห็นที่ 168
#163 แดงน้อย ณ อาศรมฯ (Little Red)
ขอบคุณศิษยพี่ใหญ่ที่เข้ามาปลอบประโลม ให้คนมองโลกอย่างมีสติ ใจเย็น โลกเย็น
ง่า...ขอถอนคำพูดก็แล้วกัน คุณกวีน้อยเจ้าสำราญไม่ได้บ้าหรอก ผมต่างหากที่บ้าไปตามคนบ้า
มิอาจรับเป็นครูประจำชั้นได้หรอก เพราะเรียนโคลงมาตั้งนาน ผมยังโง่อยู่ เด็กรุ่นใหม่ๆ แซงหน้าไปถึงดาวอังคารแล้ว ผมไม่เคยปฏิเสธการฝึก ต้องฝึกอีกมาก..
๏ ปัญหามีเพื่อให้...........ฝึกคิด ตรองเหตุให้วางจิต.........ว่างเข้า ครูโง่ศิษย์โง่ผิด.............ตามโง่ เห็นโง่วางโง่เจ้า.............จักแจ้งใจจำ ๚ะ๛
จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 07:58:44
ความคิดเห็นที่ 169
#164 อัษฎางค์ดุริยา
~ มนต์-คำ-กระ-หน่ำ-เคล้า ...... กระนั้น-ความ ต้น-แตก-กระ-แทก-ตาม .......... กระทบ-ต้น เรียบ-ง่าย-กระ-จาย-งาม .......... กระโงก-แง่ ครวญ-ใคร่-กระ-ไร-ค้น ............ ค่า-ชี้-กระวี-ชาญ
พจน์รำพัน
มองในแง่กลบท เป็นการประยุกต์กลบทจากกาพย์แทรกลหุ หรือหลายคนเรียกว่าฉันท์ ให้มาเป็นโคลง คงลักษณะเด่น คือ ลหุ คำเดิม วรรคละ ๑ คำ และบังคับสัมผัสสระ คำที่ ๒ และ ๔ เมื่ออ่านออกเสียงจังหวะจะเร็วขึ้น เลยต้องอ่านยืดคำลหุให้เต็มคำ วรรคหลังมีลหุ ใช้คำครึ่งแทน ๑ คำ เมื่ออ่านออกเสียงแบบมีลูกเก็บกลับทำให้วรรคหลังพริ้วและดูดีกว่าวรรคหน้า
ท่านพจน์รำพัน เลือกใช้คำได้ดี ทำให้โคลงทั้งบทดูเรียบง่าย และอ่านเข้าใจง่าย
โคลงทั้งบทดูด้วยตาแล้วไร้ตำหนิ แต่หากอ่านด้วยเสียง แล้วจะเห็นว่าเป็นโคลงเรียบ ๆ ไม่มีเสียงจัตวาแทรกเลย คำลหุในวรรคแรกต้องอ่านยืด และการเน้นสัมผัสสระไม่ค่อยเป็นที่นิยมในโคลง จึงฟังท่อนแรกออกแนวเสียงกลอน แต่ก็คงไม่นับว่าเป็นข้อเสียหายอะไรกัน เพราะเป็นกลบท จุดเด่นของกลบทนี้ก็คือการเล่นคำลหุอย่างตั้งใจและแพรวพราวนั่นเอง
ขอบคุณที่ยกมาให้เป็นขวัญตา และได้ศึกษา
ขอไปทำงานก่อนครับ เย็นๆ มีเวลาจะมาลองดู หลาย ๆ บท
๏ โคลงเล่นกระเซ็นสร้าง............กระแสคำ โครงข่ายกระจายจำ...................กระจ่างแจ้ง โคลงร้อนกระฉ่อนฉนำ................กระฉูดโลก โครงเรื่องกระเดื่องแย้ง................หยาดชี้กระวีหอม๚ะ๛
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 53 09:02:30
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 53 08:59:52
จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 08:57:22
ความคิดเห็นที่ 170
ขอลองเล่นคำตามวิถี ... 'เปลวอัคคี' กระพือโหม ... คำ 'คู่สร้างคู่สม' มีจมหู ดูแจ่มจริง
08.32 น.
๏ สดุดีกวิแก้ว ............. กระจายฝัน สะดุดกระบวนฟัน ......... กระแด่วดิ้น สะใจกระไรกัน ............ กระดูกเกลื่อน สละกระแสลิ้น ............. กระดกพลิ้วพรรณา
๏ อุษาสว่างแจ้ง ............ ประจักษ์ตา อุเบกขาสกุณา .............. ประณีตจ้า อุบายแสวงหา ............... ประโยชน์โทษ อุทกสะท้อนหน้า ........... ประดับริ้วรอยตีน-กา 'ยังไม่มีปัญญาลบ' แลนาบารนี ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่)
09.12 น.
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 53 09:20:31
จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 09:16:35 -----------------------------------------------------------
จากคุณ |
:
นกโก๊ก
|
เขียนเมื่อ |
:
3 มิ.ย. 53 09:47:01
|
|
|
|
 |