Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า เรื่องที่ 61 เขากลับมาตรวจงาน  

เรื่องที่ 61 เขากลับมาตรวจงาน

ความผูกพันเปรียบเสมือนเชือกที่คอยเหนี่ยวรั้งดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับให้กลับมาวนเวียนบนโลกอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นความผูกพันระหว่างบิดามารดากับบุตร สามีภรรยา ญาติพี่น้องหรือแม้กระทั่งหน้าที่การงาน ซึ่งมักจะเกิดกับผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่สูง หรือคนที่ตายโดยไม่รู้ตัว

เรื่องเล่าในครั้งนี้ฟังมาจากน้องสาวที่ทำงานอยู่ในโรงแรมระดับห้าดาวที่ประเทศอังกฤษพอเอ่ยชื่อประเทศนี้ทุกคนยอ่มรู้จักกันดีเพราะขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของผีดุ ไม่ว่าจะเป็นหอคอยแห่งลอนดอนหรือปราสาทเก่าแก่ตามเมืองต่างๆ ซึ่งน้องสาวของพี่ได้ไปเที่ยวมาแล้ว เขาบอกว่าบรรยากาศบางแห่งน่าขนลุกจริงๆ

เนื่องจากเป็นสถานที่ซึ่งค่อนข้างมีชื่อเสียง ดังนั้นพี่จึงขอใช้นามสมมติเป็นการเรียกแทนทั้งหมดนะคะ โดยพี่เรียกน้องสาวว่าเจมี่ ตามที่ชาวต่างชาติเรียก เพราะเขาออกเสียงคำไทยไม่ได้ค่ะ

เจมี่ทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายห้องจัดประชุมสัมมนา ซึ่งหน้าที่นี้ต้องมีความรับผิดชอบสูงเพราะต้องคอยติดต่อลูกค้าและปรับแต่งห้องประชุมรวมถึงจัดการรายละเอียดต่างๆให้รอบคอบเพราะความถ้วนถี่ของชาวผู้ดีที่ทุกอย่างต้องเนี้ยบ เรียกว่าจะขาดตกบกพร่องอะไรไปสักอย่างไม่ได้เลย ฝ่ายของเจมี่มีพนักงานหลายคน แบ่งไปตามลำดับขั้นซึ่งบางตำแหน่งพี่เองก็เรียกไม่ถูกเพราะบางอย่างไม่เหมือนระบบเมืองไทย ดังนั้นจึงขอเลี่ยงเรื่องนี้ไปใช้แต่ชื่อพนักงานก็พอนะคะ

เจมี่มีเล่าว่าในบรรดาพนักงานทั้งหมด พอลเป็นพนักงานที่มีความรับผิดชอบมากที่สุด ทุกครั้งที่สั่งให้เขาทำอะไรหรือยากแค่ไหนพอลก็จะพยายามทำจนเสร็จ ขอกระซิบว่าฝรั่งไม่ได้ขยันเหมือนกันหมดทุกคนค่ะ เขาจะทำงานกันตามเวลา เข้าแปดโมงเลิกบ่ายสามก็ตามนั้น ไม่มีการทำเกินเวลาแม้ว่างานนั้นจะยังไม่เสร็จก็ตาม

นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สถานที่ทำงานบางแห่งนิยมรับคนไทย เพราะมีความขยันขันแข็ง รับผิดชอบต่อหน้าที่สูงแถมบางคนยังฉลาดกว่าพวกตาน้ำข้าวด้วยกันซะอีก

แฮ่ม! งานนี้ขอชาตินิยมกันหน่อย

ออกนอกเรื่องไปนิด กลับมาที่เรื่องของพอลกันอีกครั้ง

เพราะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่สูง เจมี่จึงมักให้พอลทำงานสำคัญๆเช่นการจัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นสำหรับการสัมมนา รวมถึงการคุมพนักงานที่คอยตกแต่งห้องด้วย ซึ่งเขาก็ทำได้ดีอย่างไม่มีที่ติ ชนิดเจมี่สามารถทิ้งงานไว้ให้เขาทำได้เลย

เหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันหนึ่งมีการจัดสัมมนาเพื่อโปรโมทสินค้าตัวใหม่ของบริษัทขนมยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง เจมี่จึงต้องไปทำงานเช้ากว่าปรกติ เมื่อไปถึงก็ตรงไปตรวจห้องจัดงานทันทีเพื่อตรวจดูความเรียบร้อย เจมี่บอกว่าเห็นพอลเดินเข้าเดินออกเช็คโน่นตรวจนี่อยู่ด้วยเหมือนกัน เขาบอกว่าตอนนั้นยังนึกชมฝรั่งคนนี้อยู่ในใจเพราะผิดไปจากพนักงานคนอื่นที่ไม่เคยมาตรวจสถานที่ก่อนเริ่มงาน ด้วยความยุ่งเพราะวันนั้นมีงานประชุมเยอะมากเจมี่เลยไม่ได้คุยอะไรกับพอลนอกจากร้องทักซึ่งเขาก็โบกมือตอบ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำงาน

งานประชุมดำเนินไปจนถึงเวลาน้ำชา เจมี่แปลกใจมากที่ไม่เห็นพอลมาคอยเดินตรวจเหมือนทุกครั้ง พอตกบ่ายงานเลิกหลังจากสั่งการให้พนักงานจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วเจมี่ก็เดินกลับห้องและเห็นพอลยืนหน้าเศร้าอยู่ที่ประตู ตอนที่กำลังจะเข้าไปถามก็มีพนักงานอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพร้อมกับบอกว่า พอลเสียชีวิตแล้วตั้งแต่เมื่อคืนด้วยโรคหัวใจวาย

เจมี่อึ้งหันกลับไปที่ประตูทันทีแต่ก็ไม่เห็นพอลแล้ว

ตอนมีชีวิตอยู่ พอลรักและเคารพในตัวเจมี่มาก คงเป็นห่วงว่างานที่ได้รับมอบหมายจะไม่เรียบร้อยเลยมาตรวจดูและที่มายืนตรงประตูก็เพื่ออำลาเจมี่นั่นเอง

*/*/*/*/*

เรื่องเล่าคราวนี้อาจจะสั้นและไม่ค่อยน่าตื่นเต้นนักเพราะฟังมาจากน้องสาวอีกทีค่ะ แถมนานแล้วด้วยเลยลืมรายละเอียดบางอย่างไป แต่พอดีนึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องผีต่างแดนที่น้องสาวเคยเจออยู่สองสามครั้งเลยนำมาถ่ายทอดให้ทุกท่านได้อ่านกัน

คุยกันค่า

ขอแสดงความเสียใจกับคุณ  Moony_Lupin  ด้วยนะคะ
"พ่อเป็นคนอารมณ์ดีอยู่เสมอ ไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ไม่ข้องเกี่ยวกับอบายมุขทั้งหลาย รักครอบครัวยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด"
คุณพ่อ จขกท. จะต้องเป็นคนน่ารักมากๆ และ จขกท. ก็คงจะรักและสนิทกับคุณพ่อมากเลยใช่มั้ยคะ
^^  ถึงวันนี้เราอาจจะไม่ได้เห็น ไม่ได้สัมผัส กายของท่าน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่เสมอ และ คอยเป็นแรงบรรดาลใจให้  ก็คือ  ความรักของพ่อ
ปล. คุณพ่อของ จขกท. คล้ายๆ เตี่ย เราเลยค่ะ  และเราก็รักเตี่ยมาก  เราเพิ่งย้ายกลับมาอยู่บ้านได้ไม่นาน เพราะอยากกลับมาดูแลเตี่ยซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจน่ะค่ะ
จากคุณ : shitamaza  
- ขอบคุณมากค่ะ มูนนี่คิดว่าความกตัญญูไม่ต้องรอเวลาหรือวันสำคัญ เราสามารถดูแลเอาใจใส่พูดคุยกับพ่อแม่ได้ตลอดเวลา เพราะถ้ามัวแต่รอให้ถึงวันดังกล่าวแล้ว มันอาจจะสายเกินไป

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ
ดูท่าจะเป็นอาจารย์ที่ยิ้มเก่งและใจดีมากเลย ^ ^
จากคุณ : ปลาไหลน้อย  
- คุณพ่อเป็นคนอารมณ์ดีอยู่เป็นนิจค่ะ แต่พอทำผิดก็ดุน่าน่ากลัวเลยล่ะ ชนิดถ้าให้เลือกระหว่างโดนตีสามครั้งจากพ่อกับสิบครั้งจากแม่ ทุกคนพร้อมใจกันโดนสิบครั้งมากกว่าค่ะ = ="

ขอให้ท่าน ไปสู่สุคติครับ
จากคุณ : Psycho man  
- ขอบคุณค่ะ

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
จากคุณ : scottie
- ขอบคุณมากๆค่ะ ^^

ขอแสดงความเสียใจ และอนุโมทนาค่ะ
จากคุณ : อินทรายุธ  
- ขอบคุณค่ะ

ขอร่วมแสดงความเสียใจด้วย
จากคุณ : PANPISA  
- ค่ะ ขอบคุณมากๆ

เสียใจด้วยค่ะคุณมูนี่ จริงนะคะ คนเราจะเหลืออยู่ก็แต่ความทรงจำดีๆ ที่มีให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้จดจำต่อไป
จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin)  
- ขอบคุณค่ะ มูนนี่ก็คิดเช่นเดียวกับคุณกุลธิดาค่ะ คนเราเมื่อจากไปก็สมควรมีสิ่งดีๆให้ลูกหลานได้จดจำ

เข้ามาชื่นชมความดีของคุณพ่อคุณมูนนี่ครับ
จากคุณ : โก้ (เซโก้4)  
- ขอบคุณมากๆค่ะ

มูนนี่กราบขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านมากๆนะคะที่เข้ามาแสดงความเสียใจและร่วมอนุโมทนาบุญกุศลให้กับคุณพ่อ ขอความดีและกุศลทั้งหลายนั้นย้อนกลับไปสู่ทุกท่านให้ประสบแต่ความสุขความเจริญและแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวงเช่นกันค่ะ

จากคุณ : Moony_Lupin
เขียนเมื่อ : 4 มิ.ย. 53 10:33:53




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com