ความเสื่อม
|
|
ความเสื่อม
ในหนังสือสวดมนต์ ฉบับของสวนโมกขพลาราม ซึ่งใช้อยู่ในวัดชลประทานรังสฤษดิ์ มีบทสวดบทหนึ่งแปลบาลีเป็นไทยไว้ว่า
ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ ผู้รู้ชั่วเป็นผู้เสื่อม ผู้ใคร่ธรรมเป็นผู้เจริญ ผู้เกลียดชังธรรมเป็นผู้เสื่อม
ผู้ใดทำความรักในคนพาล ไม่ทำความรักในบัณฑิต เขาชอบใจธรรมของคนพาล ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม
ผู้ใดมักชอบนอนหลับ ชอบพูดคุย ไม่ขยันมักเกียจคร้านการงาน และเป็นคนมักโกรธ ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม
ผู้ใดมีความสามารถอยู่ ไม่เลี้ยงดูบิดามารดา แก่เฒ่าชราแล้ว ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม
ผู้ใดหลอกลวงสมณพราหมณ์ หลอกแม้วณิพกคนขอทานอื่นใด ด้วยมุสาวาจา ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม
ผู้ใดมีทรัพย์สินเงินทอง มีของเหลือกินเหลือใช้ เขาบริโภคของที่ดี ๆ นั้นแต่ผู้เดียว ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม
ผู้ใดหยิ่งเพราะชาติกำเนิด หยิ่งเพราะทรัพย์ หยิ่งเพราะโคตร ดูหมิ่นซึ่งญาติของตน ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม
ผู้ใดเป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา และนักเลงการพนัน เขาได้ทำลายทรัพย์ที่หามาได้ให้พินาศไปข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม
ผู้ใดไม่พอใจรักใคร่ในภรรยาตน กลับไปเที่ยวซุกซนกับหญิงแพศยา และลอบทำชู้กับภรรยาผู้อื่น ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม
ชายใดผู้ถึงวัยแก่เฒ่ชราแล้ว ได้นำหญิงสาวแรกรุ่นมาเป็นภรรยา เขานอนไม่หลับ เพราะความหึงหวง และห่วงอาลัยในหญิงนั้น ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม
ชายใดตั้งหญิงนักเลงใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายมาเป็นแม่เรือน และหรือหญิงใดตั้งชายนักเลงใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายมาเป็นพ่อเรือน ข้อนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อม
ผู้เป็นบัณฑิตสมบูรณ์ด้วยความเห็นอันประเสริฐ ได้เห็นแห่งความเสื่อมทั้งหลายเหล่านั้นชัดแล้ว ท่านย่อมเว้นสิ่งเหล่านี้เสีย
เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านจึงพบและเสพแต่โลกซึ่งมีแต่ความเจริญ ฝ่ายเดียว
ด้วยประการฉะนี้แล.
############
จากคุณ |
:
เจียวต้าย
|
เขียนเมื่อ |
:
8 มิ.ย. 53 06:29:22
|
|
|
|