ความคิดเห็นที่ 1 ทางไปกระทู้ฝนค่ะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9333843/W9333843.html#44 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 15:21:08

ความคิดเห็นที่ 2 โคลงกลบทกินรเก็บบัว แบบลิลิตพระลอ ในแต่ละบาทมีการซ้ำคำโดยมีคำอื่นคั่นหนึ่งคำ ( คำ x คำ ) ในแต่ละบาทไม่บังคับตำแหน่งคำซ้ำ และจำนวนคำที่คั่น พูดไปแล้วพูดให้..............ฉุกใจ คนคิดฤๅคิดไป................จักรู้ ฟังคำขื่นติดใน.................ขื่นแน่น นานนา มิลุได้คิดกู้......................แต่กู้บ่สม สมควรปรับด่วนด้วย...........ด่วนดัน อย่านิ่งทำนิ่งทัน................ดับร้อน ไฟในอกในขวัญ...............ลองตระหนัก หัดบั่นหัดตัดสะท้อน...........ก่อนเศร้ารุงรัง ญามี่ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 16:16:33

ความคิดเห็นที่ 3 ขอเล่นแบบในทู้ดูก่อนนะมี่ ดูท่าไม่ยาก ใจตื่นเหมือนตื่นเฝ้า.....ฝันหา มีใคร่อำใคร่ครา.........ขื่นแค้น หาเธอห่างเธอพา.........พบเจ็บ รู้เคล็ดเก็บเคล็ดแม้น.....มุ่งเคลิ้มหมดหวัง โหม่งฉ่าฉ่า. จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 16:21:42

ความคิดเห็นที่ 4 ขอเล่นแบบในทู้ดูก่อนนะมี่ ดูท่าไม่ยาก ใจตื่นเหมือนตื่นเฝ้า.....ฝันหา มีใคร่อำใคร่ครา.........ขื่นแค้น หาเธอห่างเธอพา.........พบเจ็บ รู้เคล็ดเก็บเคล็ดแม้น.....มุ่งเคลิ้มหมดหวัง โหม่งฉ่าฉ่า. ใครเจ็บฉันเจ็บด้วย.........ดวงแด ใครทุกข์ขอทุกข์แฉ..........เฉ่งร้อน ใครฝากทรัพย์ฝากแปร.....ปันช่วย ใช้นา ใครแน่แบ่งแน่ซ้อน............ซ่อนรู้ก็ดี ฟองไฟ. จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 16:26:48

ความคิดเห็นที่ 5   ขอเล่นแบบในทู้ดูก่อนนะมี่ ดูท่าไม่ยาก ใจตื่นเหมือนตื่นเฝ้า.....ฝันหา มีใคร่อำใคร่ครา.........ขื่นแค้น หาเธอห่างเธอพา.........พบเจ็บ รู้เคล็ดเก็บเคล็ดแม้น.....มุ่งเคลิ้มหมดหวัง โหม่งฉ่าฉ่า. ใครเจ็บฉันเจ็บด้วย.........ดวงแด ใครทุกข์ขอทุกข์แฉ..........เฉ่งร้อน ใครฝากทรัพย์ฝากแปร.....ปันช่วย ใช้นา ใครแน่แบ่งแน่ซ้อน............ซ่อนรู้ก็ดี ฟองไฟ. ตีเด็กหากเด็กสู้...............สอนที ผู้ใหญ่มิใหญ่มี.................มากด้วย ป้อนข้าวติดข้าวรี-.............รออยู่ ส่งเคล็ดบอกเคล็ดกล้วย.....กราบให้ช่วยที ปีศาจน้อยจอมซน จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมซน (ปีศาจน้อยจอมแก่น) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 16:30:59

ความคิดเห็นที่ 6 . ~ ดวงดาวสุดฟ้าพร่ำ ......... พราวแสง ส่องแล ลอยล่องจรัสแรง ............... แข่งฟ้า ใสงามกว่าเพชรแพง .......... แวววาบ วิไลกว่าดาวใดจ้า .............. เจิดล้ำเลิศจันทร์ ~ ดวงดาวสุดฟ้าพร่ำพราวแสงส่อง แลลอยล่องจรัสแรงแข่งฟ้าใส งามกว่าเพชรแพงแวววาบวิไล กว่าดาวใดจ้าเจิดเล้ำเลิศจันทร์ พจน์รำพัน . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 16:51:50

ความคิดเห็นที่ 7 คราฝนคราเมฆคล้อย.........ฤๅคืน จิตเหม่อเหมือนเหม่อยืน......หวาดว้าง ลมพลิ้วลิ่วพลิ้วฝืน..............ตระหนักครุ่น ใจเจอะเจอคล้ายจ้าง...........นิ่งคล้ายนั่งละเมอ เผลอมองเผลอคิดเศร้า.........ไฉนหนา ฝนหลั่งโศกหลั่งรา................รื่นแล้ว ลมดังหลับใจคา....................หาหลับ ด้วยนา วิเวกไหวมิแคล้ว....................พบแพ้ไหวถม ญามี่ โคลงกลบทกินรเก็บบัว แบบลิลิตพระลอ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 17:29:49

ความคิดเห็นที่ 8   ให้ สอง บท ต่างกรรมต่างวาระ ๐..ปลดตรวนส่วนต่างทางแววตา ข้าฯ....สนทนา..กับเจ้า กึ่งกลาง..ระหว่างเรา เหลือ..ว่างเปล่า..เท่ากัน ----------------------------------- ๐..โดยคำใด..ถึงที่..ฤดีดาล ผ่าน...ฤ...ลาล่วง โดยคำใด..ถึงที่..ฤดีดวง ปลิดปวง..ซุกแทรก..ชำแรกนัย ............... อิอิอิ เจ้ามีมี่ พี่ว่า เอ็ง แหกกฏ มั่ง ก็ได้ ให้.คำ.มันมารับใช้ อารมณ์ ซะบ้าง อย่ามัวแต่ เอา อารมณ์ ไปรับใช้ คำ หรือมัวแต่ เกาะลูกกรง มานอึดอัด นาว๊อยย ...อิอิอิ จากคุณ : ปางสีฝุ่น (ปางสีฝุ่น) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 17:34:53

ความคิดเห็นที่ 9 ขอเล่นแบบในทู้ดูก่อนนะมี่ ดูท่าไม่ยาก ใจตื่นเหมือนตื่นเฝ้า.......ฝันหา มีใคร่อำใคร่ครา.............ขื่นแค้น หาเธอห่างเธอพา..........พบเจ็บ รู้เคล็ดเก็บเคล็ดแม้น.....มุ่งเคลิ้มหมดหวัง โหม่งฉ่าฉ่า. ใครเจ็บฉันเจ็บด้วย..........ดวงแด ใครทุกข์ขอทุกข์แฉ..........เฉ่งร้อน ใครฝากทรัพย์ฝากแปร......ปันช่วย ใช้นา ใครแน่แบ่งแน่ซ้อน...........ซ่อนรู้ก็ดี ฟองไฟ. ตีเด็กหากเด็กสู้.................สอนที ผู้ใหญ่มิใหญ่มี...................มากด้วย ป้อนข้าวติดข้าวรี-..............รออยู่ ส่งเคล็ดบอกเคล็ดกล้วย.....กราบให้ช่วยที ปีศาจน้อยจอมซน ~ ใจสุขเถิดสุขด้วย ........ ฤดีฝัน เพียงฝากคำฝากพัน ........ ผูกไว้ เหมือนทุกวี่ทุกวัน ........... วาดภาพ จนเสร็จสวยเสร็จได้ ........ ดั่งแท้ที่หมาย พจน์รำพัน แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 53 19:00:46 จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 17:35:34

ความคิดเห็นที่ 10 วิถีกลบทโคลง  เหมือนวิถีเล่นคู่คำกล ... คำกลสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนกลมากมายนักหรือ วิถีคำไทย เป็นวิถีคำง่ายๆ เริ่มจากคำโดด ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายเด่นชัด วิถีการเลือกคู่คำมาเล่น  เหมือนวิถีเลือกคู่สร้างคู่สม ... คำคู่สร้างคู่สมซับซ้อนซ่อนเงื่อนงำมากมายนัก อดนอน -- สื่อความหมายว่า --- ไม่ได้นอน ... เราตีความกันแบบไหนนิ อดตาย -- สื่อความหมายว่า --- ไม่ได้ตาย ... เรา-ตีความ*ตามฟรี-หรือ คำคู่*คู่คำ ... สลับหน้าสลับหลัง ... ผันผวนป่วนปั่นสลับซับซ้อนมากมายหลายชั้นหลายเชิงนัก วิถีคำคู่สร้างคู่สม ... ส่งผลให้วิถีคู่ของคนเราสับสนวุ่นวายจริงหนอ ----------------------------------------------------------------------------- รักจะเล่นโคลงกลบท ... ขอลองแบบสุดๆ ไปเลยจั๊กหน่อยแน้ ----------------------------------------------------------------------------- ขอเล่นด้วย โคลงกลบทกินนรเก็บบัว+ตลบนกกลางหาว 17.10 น. ๏ ยวน คู่ยั้ง คู่ย้อน ........... คู่ญาติ คู่ยา คิด แม่ขลาด แม่ฆาต ....... แม่ค้อน ค้อนแม่ ฆาตแม่ ขลาด ..... แม่คิด ยา คู่ญาติ คู่ย้อน ............ คู๋ยั้ง,คู่ยวน ๚ะ๛ (แง่มแง่ม) 17.30 น. แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 53 17:49:01 จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 17:46:27

ความคิดเห็นที่ 11 ให้ สอง บท ต่างกรรมต่างวาระ ๐..ปลดตรวนส่วนต่างทางแววตา ข้าฯ....สนทนา..กับเจ้า กึ่งกลาง..ระหว่างเรา เหลือ..ว่างเปล่า..เท่ากัน ----------------------------------- ๐..โดยคำใด..ถึงที่..ฤดีดาล ผ่าน...ฤ...ลาล่วง โดยคำใด..ถึงที่..ฤดีดวง ปลิดปวง..ซุกแทรก..ชำแรกนัย ............... อิอิอิ เจ้ามีมี่ พี่ว่า เอ็ง แหกกฏ มั่ง ก็ได้ ให้.คำ.มันมารับใช้ อารมณ์ ซะบ้าง อย่ามัวแต่ เอา อารมณ์ ไปรับใช้ คำ หรือมัวแต่ เกาะลูกกรง มานอึดอัด นาว๊อยย ...อิอิอิ ปางสีฝุ่น นั่นพี่ชายมาที สอนแต่คำคมๆๆบาดมี่ เปื่อยเลย 555 แต่เที่ยวนี้มี่ทันเกมพี่แล้ว อิอิ มี่แปลงกลอนพี่ได้แล้วค่ะ ใช้สูตรโคลง-กลอน จากพี่ค้างคาวคนเก่งจากอาศรมอีกคนค่ะ พี่ดูนา เมื่อมันออกมาในแนว โคลง-กลอน5555 ญามี่ ๐..ปลดตรวนส่วนต่างทางแววตา ข้าฯ....สนทนา..กับเจ้า กึ่งกลาง..ระหว่างเรา เหลือ..ว่างเปล่า..เท่ากัน ปางสีฝุ่น ปลดตรวนส่วนต่างท้า....แววตา ก่นแล ข้าฯจะสนทนา.............กับเจ้า กลบเส้นขจัดขนานรา....ระหว่างเร่า เราว่างเปล่าเหลือเถ้า....เท่านั้นให้เป็น ปลดตรวนส่วนต่างท้าแววตาก่น แลข้าฯจะสนทนากับเจ้า กลบเส้นขจัดขนานราระหว่างเร่าเรา ว่างเปล่าเหลือเถ้าเท่านั้นให้เป็น ญามี่ ๐..โดยคำใด..ถึงที่..ฤดีดาล ผ่าน...ฤ...ลาล่วง โดยคำใด..ถึงที่..ฤดีดวง ปลิดปวง..ซุกแทรก..ชำแรกนัย ปางสีฝุ่น โดยคำใดที่ซึ้ง............ฤดีดาล นั่นเนอ ผ่าน.ฤ.หลั่นล่วงลาน......หลักห้วง โดยคำม่านถึงฐาน.........ที่จิต ดวงปลิดปวงซุกท้วง.......แทรกซ้อนชำนัย โดยคำใดที่ซึ้งฤดีดาลนั่น เนอผ่าน.ฤ.หลั่นล่วงลานหลักห้วง โดยคำม่านถึงฐานที่จิตดวง ปลิดปวงซุกท้วงแทรกซ้อนชำนัย ญามี่ 5555 พี่ว่างตอนงานไม่ยุ่ง มาใส่คำคมๆให้มี่อีกนา อิอิ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 18:06:36

ความคิดเห็นที่ 12 ----------------------------------------------------------------------------- รักจะเล่นโคลงกลบท ... ขอลองแบบสุดๆ ไปเลยจั๊กหน่อยแน้ ----------------------------------------------------------------------------- ขอเล่นด้วย โคลงกลบทกินนรเก็บบัว+ตลบนกกลางหาว 17.10 น. ๏ ยวน คู่ยั้ง คู่ย้อน ........... คู่ญาติ คู่ยา คิด แม่ขลาด แม่ฆาต ....... แม่ค้อน ค้อนแม่ ฆาตแม่ ขลาด ..... แม่คิด ยา คู่ญาติ คู่ย้อน ............ คู๋ยั้ง,คู่ยวน ๚ะ๛ (แง่มแง่ม) 17.30 น. จาก คุณ : นกโก๊ก ติดตามมาตลอดต้องยอมครับ คุณนกสร้างสรรค์สุดๆ ~ ไพรนกพร้อมนกพร้อง ........ นกพลอด นกพ่อ เทียบคู่ถอดคู่ทอด ................ คู่ท้อง ท้องคู่ทอดคู่ถอด ................. คู่เทียบ พ่อนกพลอดนกพร้อง ............ นกพร้อมนกไพร พจน์รำพัน . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 18:50:24

ความคิดเห็นที่ 13 เอามาฝากญามี่และเพื่อนพ้อง ครับ ฝึกย่อความ จากคำกล่าวเทพธิดากับพระโพธิสัตว์ คือ พระมหาชนก (เทพธิดา)          "ใครกันนี่ ทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็นฝั่ง                          ก็ยังเพียรพยายาม (ว่าย) อยู่ในท่ามกลางมหาสมุทร                         ท่านรู้อำนาจประโยชน์อะไร                          จึงพยายามเต็มที่อยู่อย่างนี้" (พระโพธิสัตว์)   "เทพธิดา เราพิเคราะห์เห็นธรรมเนียมของโลก                          และอานิสงค์ของความพยายาม                          เพราะฉะนั้น ทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็นฝั่ง                          เราจึงเพียรพยายาม (ว่าย) อยู่ท่ามกลางมหาสมุทร บุรุษเมื่อเพียรถึงที่สุด เทวดา มนุษย์ และตนเองมิอาจติเตียน เป็นคนพึงพยายามจนกว่าจะประสบความสำเร็จ" โคลงกลอน ๏ เทพธิดา "ท่านนี้               ทำการ   มา ว่าย วนชลธาร               แปลกผู้ เราเห็นท่านทำทหาร              ทรงหนุ่ม    (ทหร เป็นบาลี แปลว่า คนหนุ่ม) จักว่ายตายเปล่ารู้              ห่อนได้อันใด" ๚ะ ๏ ชนก "มนุษย์เพียรเทพรู้         สรรเสริญ ชีพย่อมสำเร็จเจริญ             แน่แท้" ชีวิตใช่บังเอิญ                     มาเกิด แขนว่ายทรงกล่าวแก้          ว่าได้ภูมิใจ ๚ะ๛ คิดนานนะนี่ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 19:32:27

ความคิดเห็นที่ 14 ชอบคำนี้มาก เจ้ามีมี่ พี่ว่า เอ็ง แหกกฏ มั่ง ก็ได้ ให้.คำ.มันมารับใช้ อารมณ์ ซะบ้าง อย่ามัวแต่ เอา อารมณ์ ไปรับใช้ คำ หรือมัวแต่ เกาะลูกกรง มานอึดอัด นาว๊อยย ...อิอิอิ ใช่เลย จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 19:58:04

ความคิดเห็นที่ 15   เด็กเอยเด็กน้อยนั่น..................วุ่นวาย เด็กยิ่งดื้อยิ่งหมาย....................หวดบ้าง หากหมองนั่นเหมือนคลาย........เหมือนห่าง ระลึกแน่ใช่ลึกอ้าง......................ก็พร้อมสนับสนุน ปีศาจน้อยจอมซน จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมซน (ปีศาจน้อยจอมแก่น) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 21:34:47

ความคิดเห็นที่ 16 เด็กเอยเด็กน้อยนั่น..................วุ่นวาย เด็กยิ่งดื้อยิ่งหมาย....................หวดบ้าง หากหมองนั่นเหมือนคลาย........เหมือนห่าง ระลึกแน่ใช่ลึกอ้าง......................ก็พร้อมสนับสนุน ปีศาจน้อยจอมซน ไกลตาจากท้อจาก.......................หมองมา ไกลสิ่งเกินสิ่งตา...........................พบได้ ไกลสุดอย่างสุดหา........................ยากเท่า คือใฝ่ในใฝ่ให้................................ห่างร้อนทรมาน โหม่งฉ่าฉ่า จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 21:39:40

ความคิดเห็นที่ 17 เด็กเอยเด็กน้อยนั่น..................วุ่นวาย เด็กยิ่งดื้อยิ่งหมาย....................หวดบ้าง หากหมองนั่นเหมือนคลาย........เหมือนห่าง ระลึกแน่ใช่ลึกอ้าง......................ก็พร้อมสนับสนุน ปีศาจน้อยจอมซน ไกลตาจากท้อจาก.......................หมองมา ไกลสิ่งเกินสิ่งตา...........................พบได้ ไกลสุดอย่างสุดหา........................ยากเท่า คือใฝ่ในใฝ่ให้................................ห่างร้อนทรมาน โหม่งฉ่าฉ่า ตัดอื่นไม่ยากแท้.......................ตัดหวัง หมดรักใช่หมดยัง......................เยื่อรั้ง วันใดใคร่กลับชัง........................กลับยาก ใจเปลี่ยนอย่าเปลี่ยนยั้ง...............แต่เฝ้าหวังคืน ฟองไฟ จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 21:45:49

ความคิดเห็นที่ 18 ฟุตบอลโลกเริ่มแล้ว          เริ่มนับ พึงเพ่งตาเพ่งครับ             จับจ้อง ใครจะเด่นหรือดับ             หรือรอด เพียงหนึ่งจะแตะต้อง         หนึ่งถ้วยแช้มป์นา จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 23:31:16

ความคิดเห็นที่ 19 เอามาฝากญามี่และเพื่อนพ้อง ครับ ฝึกย่อความ จากคำกล่าวเทพธิดากับพระโพธิสัตว์ คือ พระมหาชนก (เทพธิดา)          "ใครกันนี่ ทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็นฝั่ง                         ก็ยังเพียรพยายาม (ว่าย) อยู่ในท่ามกลางมหาสมุทร                        ท่านรู้อำนาจประโยชน์อะไร                         จึงพยายามเต็มที่อยู่อย่างนี้" (พระโพธิสัตว์)   "เทพธิดา เราพิเคราะห์เห็นธรรมเนียมของโลก                         และอานิสงค์ของความพยายาม                         เพราะฉะนั้น ทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็นฝั่ง                         เราจึงเพียรพยายาม (ว่าย) อยู่ท่ามกลางมหาสมุทร บุรุษเมื่อเพียรถึงที่สุด เทวดา มนุษย์ และตนเองมิอาจติเตียน เป็นคนพึงพยายามจนกว่าจะประสบความสำเร็จ" โคลงกลอน ๏ เทพธิดา "ท่านนี้               ทำการ   มา ว่าย วนชลธาร               แปลกผู้ เราเห็นท่านทำทหาร              ทรงหนุ่ม    (ทหร เป็นบาลี แปลว่า คนหนุ่ม) จักว่ายตายเปล่ารู้              ห่อนได้อันใด" ๚ะ ๏ ชนก "มนุษย์เพียรเทพรู้         สรรเสริญ ชีพย่อมสำเร็จเจริญ             แน่แท้" ชีวิตใช่บังเอิญ                     มาเกิด แขนว่ายทรงกล่าวแก้          ว่าได้ภูมิใจ ๚ะ๛ คิดนานนะนี่ แสงแรก ประดับดิน เทพธิดาไถ่ด้วย..............ใครกัน นั่นแล กลางสมุทรยังหาญดัน......ว่ายได้ มีประโยชน์ ฤ จึงหัน.........แหวกว่าย ไปอย่างมิรู้ไข้.................โทษร้ายทารุณ พระโพธิสัตว์ได้................เจรจา ว่าพิเคราะห์รอบมา.............โลกนั้น เสริมบุญแค่เพียรพา............ทำมั่น ด้วยแล คุณเทพเกื้อหนุนปั้น.............เสกสร้างหนทาง เทพธิดาไถ่ด้วยใครกันนั่น แลกลางสมุทรยังหาญดันว่ายได้ มีประโยชน์ ฤ จึงหันแหวกว่ายไป อย่างมิรู้ไข้โทษร้ายทารุณ พระโพธิสัตว์ได้เจรจาว่า พิเคราะห์รอบมาโลกนั้นเสริมบุญ แค่เพียรพาทำมั่นด้วยแลคุณ เทพเกื้อหนุนปั้นเสกสร้างหนทาง ญามี่ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 23:57:19

ความคิดเห็นที่ 20 ชอบคำนี้มาก เจ้ามีมี่ พี่ว่า เอ็ง แหกกฏ มั่ง ก็ได้ ให้.คำ.มันมารับใช้ อารมณ์ ซะบ้าง อย่ามัวแต่ เอา อารมณ์ ไปรับใช้ คำ หรือมัวแต่ เกาะลูกกรง มานอึดอัด นาว๊อยย ...อิอิอิ ใช่เลย ........................ ตอบพี่แสงแรก พี่ชายมี่โวยมี่ที่ยังยึดหลัก "สุนทรภู่ในการแต่งกลอนน่ะค่ะ แม้จะเลื่อนรับสัมผัสไปมากกว่ากว่าตัวที่สามตามแบบเดิมแล้วก็ตาม แต่มี่ก็ยังยึดการแต่งเสียงจัตวาวรรคแรก วรรคสอง เอก โท จัตวา วรรคสาม สามัญกับตรี เหมือนวรรคสี่ ...ไม่ยอมเปลี่ยนตามคนเขียนหนังสือเปลี่ยนกฏ นี้น่ะค่ะ555 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 00:23:20

ความคิดเห็นที่ 21 . สำหรับโคลงสี่สุภาพ    กลบทที่ซ้ำคำ แบบคำเว้นคำ โดยกำหนดตำแหน่งก็มี กินนรเก็บบัว ซ้ำคำ ๒ - ๔ ยังไม่เห็นกลบท ที่กำหนดให้ซ้ำคำ ๑ - ๓ หรือ ๔ - ๖ .. จะลองเล่นดูก็ได้นะครับ    แต่ลอง " นกกางปีก แบบที่ ๑ " ท่านอาจสนุกอย่างมีอิสระเหมือนโบยบิน เพราะเป็นกลบทที่ซ้ำคำแบบ คำเว้นคำ ในทุกบาท โดยไม่กำหนดตำแหน่ง ~ ดาวเอยดาวดาษเรื้อง ..... ราตรี แลต่างแสงต่างสี .............. ส่องสล้าง ราวสว่างทุกที .................. ทุกที่ แท้มากบ้างน้อยบ้าง .......... บอดรู้ดาวเอง พจน์รำพัน . แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 12:21:42 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 12:19:39 จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 10:12:21

ความคิดเห็นที่ 22 " นกกางปีก " แบบที่๑ (น้องมี่บอก อิอิ) ลองเล่นครับ ~ ดาวเอยดาวดาษเรื้อง ..... ราตรี แลต่างแสงต่างสี .............. ส่องสล้าง ราวสว่างทุกที .................. ทุกที่ แท้มากบ้างน้อยบ้าง .......... บอดรู้ดาวเอง พจน์รำพัน . สาวเอยสาวช่างพร้อม ..... งามตา ให้ห่วงให้ใจหา.............. บ่อยครั้ง ครายามห่างทุกข์คา ..........ทุกข์แน่น ใจบ่เคยกล้ารั้ง.................คาดรั้งชีพวาย ฟองไฟ. แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 12:08:26 จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:07:29

ความคิดเห็นที่ 23 ลองมาเล่น " นกกางปีก " ... บินร่อนถลาหาอาหารกิน วิหคมันต้องผกผิน บินป่วนปั่นผันผวนกันทำไมนะนี่ ... อ๋อ ที่แท้ท่าบินไล่จับแมลงกินนี่เอง ... อิอิ 11.43 น. ๏ สตางค์ผลิ  สติพลั้ง ........... สตางค์เผลอ จ่ายหนัก จักหน่าย เกลอ ....... จ่ายกลุ้ม นวลผก นกผวน เจอ ............. นกจิก คำซ่อน คอนซ้ำ คุ้ม ............. นกเค้นคำผวน ๏ คำป่วน ควรปล้ำ จาก ......... ป่วนใจ ไร้สติ ริสไตร๊ค์ ไย ............... สติยั้ง ผวนคิด ผิดควร ไป ............... คิดปรับ คำใหม่ ใครหม่ำ ตั้ง .............. สติแล้วหม่ำเลย ๚ะ๛ (แง่มแง่ม) 12.16 น. จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:20:42

ความคิดเห็นที่ 24 " นกกางปีก " แบบที่๑ (น้องมี่บอก อิอิ) ลองเล่นครับ ~ ดาวเอยดาวดาษเรื้อง ..... ราตรี แลต่างแสงต่างสี .............. ส่องสล้าง ราวสว่างทุกที .................. ทุกที่ แท้มากบ้างน้อยบ้าง .......... บอดรู้ดาวเอง พจน์รำพัน . สาวเอยสาวช่างพร้อม ..... งามตา ให้ห่วงให้ใจหา.............. บ่อยครั้ง ครายามห่างทุกข์คา ..........ทุกข์แน่น ใจบ่เคยกล้ารั้ง.................คาดรั้งชีพวาย ฟองไฟ. จนสุดเลี้ยวสุดห้วง................ยังรัก เมื่อภักดิ์ใจภักดิ์หนัก..............แน่นแท้ หวังในชื่นชวนชัก....................ชวนใฝ่ ฝันเอย หล้าโลกดับโลกแล้..................บ่ ได้ดับหมาย โหม่งฉ่าฉ่า จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:51:22

ความคิดเห็นที่ 25   " นกกางปีก " แบบที่๑ (น้องมี่บอก อิอิ) ลองเล่นครับ ~ ดาวเอยดาวดาษเรื้อง ..... ราตรี แลต่างแสงต่างสี .............. ส่องสล้าง ราวสว่างทุกที .................. ทุกที่ แท้มากบ้างน้อยบ้าง .......... บอดรู้ดาวเอง พจน์รำพัน . สาวเอยสาวช่างพร้อม ..... งามตา ให้ห่วงให้ใจหา.............. บ่อยครั้ง ครายามห่างทุกข์คา ..........ทุกข์แน่น ใจบ่เคยกล้ารั้ง.................คาดรั้งชีพวาย ฟองไฟ. จนสุดเลี้ยวสุดห้วง................ยังรัก เมื่อภักดิ์ใจภักดิ์หนัก..............แน่นแท้ หวังในชื่นชวนชัก....................ชวนใฝ่ ฝันเอย หล้าโลกดับโลกแล้..................บ่ ได้ดับหมาย โหม่งฉ่าฉ่า จนรักจนสุดห้วง............ความหมาย จมใคร่จากใคร่คลาย.....ห่วงห้วง จากกันจากจนปลาย......ยากพบ จิตคร่ำขื่นคร่ำล้วง..........หลอกเร้าทุกวัน อิอิ โคลงพาไปคร๊าบ ปีศาจน้อยจอมซน จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมซน (ปีศาจน้อยจอมแก่น) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:05:19

ความคิดเห็นที่ 26 สำหรับโคลงสี่สุภาพ   กลบทที่ซ้ำคำ แบบคำเว้นคำ โดยกำหนดตำแหน่งก็มี กินนรเก็บบัว ซ้ำคำ ๒ - ๔ ยังไม่เห็นกลบท ที่กำหนดให้ซ้ำคำ ๑ - ๓ หรือ ๔ - ๖ .. จะลองเล่นดูก็ได้นะครับ   แต่ลอง " นกกางปีก แบบที่ ๑ " ท่านอาจสนุกอย่างมีอิสระเหมือนโบยบิน เพราะเป็นกลบทที่ซ้ำคำแบบ คำเว้นคำ ในทุกบาท โดยไม่กำหนดตำแหน่ง ~ ดาวเอยดาวดาษเรื้อง ..... ราตรี แลต่างแสงต่างสี .............. ส่องสล้าง ราวสว่างทุกที .................. ทุกที่ แท้มากบ้างน้อยบ้าง .......... บอดรู้ดาวเอง พจน์รำพัน สาวเอยสาวช่างพร้อม ..... งามตา ให้ห่วงให้ใจหา.............. บ่อยครั้ง ครายามห่างทุกข์คา ..........ทุกข์แน่น ใจบ่เคยกล้ารั้ง.................คาดรั้งชีพวาย ฟองไฟ. จนสุดเลี้ยวสุดห้วง................ยังรัก เมื่อภักดิ์ใจภักดิ์หนัก..............แน่นแท้ หวังในชื่นชวนชัก....................ชวนใฝ่ ฝันเอย หล้าโลกดับโลกแล้..................บ่ ได้ดับหมาย โหม่งฉ่าฉ่า จนรักจนสุดห้วง............ความหมาย จมใคร่จากใคร่คลาย.....ห่วงห้วง จากกันจากจนปลาย......ยากพบ จิตคร่ำขื่นคร่ำล้วง..........หลอกเร้าทุกวัน อิอิ โคลงพาไปคร๊าบ ปีศาจน้อยจอมซน โลกวุ่นคนวุ่นร้อน..............โรยลา โลกแตกคนแตกคา...........ครบร้อย โลกดับค่ำดับหา................ตาส่อง โลกมิตรมีมิตรน้อย............ถ่อยท้อเถียงกัน ต้นกล้า อาราดิน (อิอิ มี่ใส่ให้แล้วนะคะพี่ต้น คราวหน้าเล่นกันที่เอมฯ แล้วเน็ทพี่ป่วนอีก ใส่ที่เอมฯให้มี่ก็ได้ค่ะ มี่เปิดเอมก็จะดึงมาใส่ให้ที่นี่ค่ะ..ขอบคุณที่เล่นด้วย นะคะพี่ต้น) 55555มาจอ ใจแล้วนิ งั้น มี่ต่อเป็น "งอ เหงา" นะคะ พี่ๆทุกคน คุงผีแอบมา ได้นิช่วงนี้หาเรื่องดูบอลด้วยใช่ไหม อิอิ เหงาสุดเหงาบ่วงห้วง.........โหยหวง งำง่วนเลียบง่วนลวง...........ลดท้อ งามรักห่วงปองปวง............ปองคร่ำ เงียบขื่นสอนทนง้อ............จักง้อเกลาขม ญามี่ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:28:02

ความคิดเห็นที่ 27 .... แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 14:07:37 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 14:00:05 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 13:54:29 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:51:21

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบคำนี้มาก เจ้ามีมี่ พี่ว่า เอ็ง แหกกฏ มั่ง ก็ได้ ให้.คำ.มันมารับใช้ อารมณ์ ซะบ้าง อย่ามัวแต่ เอา อารมณ์ ไปรับใช้ คำ หรือมัวแต่ เกาะลูกกรง มานอึดอัด นาว๊อยย ...อิอิอิ ใช่เลย ........................ ตอบพี่แสงแรก พี่ชายมี่โวยมี่ที่ยังยึดหลัก "สุนทรภู่ในการแต่งกลอนน่ะค่ะ แม้จะเลื่อนรับสัมผัสไปมากกว่าตัวที่สามตามแบบเดิมแล้วก็ตาม แต่มี่ก็ยังยึดการแต่งเสียงจัตวาวรรคแรก วรรคสอง เอก โท จัตวา วรรคสาม สามัญกับตรี เหมือนวรรคสี่ ...ไม่ยอมเปลี่ยนตามคนเขียนหนังสือเปลี่ยนกฏ สมัยนี้น่ะค่ะ555 ญามี่ ................................................ ขอบคุณมากๆค่ะพี่ฝุ่น มี่ไขความของพี่ออกแล้ว และเขียนให้พี่ๆทุกคนเห็น มี่เข้าใจจริงๆ เมื่อ ฉันทลักษณ์โคลงบังคับ เราปรับได้บ้าง "คง"ก็แต่ความ ตามกลอนที่ครูโชน เชิงคำแต่ง 5555เรื่องกลอนนี่ถามพี่ทีไร มีทาง "รอดได้ ทุกทีสิน่า"...ขอบคุณอีกครั้งค่ะ กลบทตกกระทบ แนวโคลง(แปลง)-กลอน จิตเหมือนวางดื่นว้าง..............หยุดไหว หวั่นแล กาลเปลี่ยนปลอบปันไป..........ลดเปรี้ยว ดังกรายกรุ่นดักไกล...............แนบเกี่ยว เกรียวนึกหลากลับเลี้ยว...........ล่วงล้ำลานแลง แปลงโคลงกลอนสลับกล้ำ........สลับกลับ ใกล้เทอญ คำจ่อใจจองจับ......................แบบแจ้ง เห็นในค่ายจัดคับ....................มิเคลื่อน แคลงก่นกลเกลื่อนแกล้ง..........ก็กล้าจัดกาง กลพรางสอนหลักสร้าง.............กรองเสร็จ สวยเอย คิดขบขวยขวางเข็ด.................เคลื่อนข้าง อยากทอท่ามคุมเท็จ................ทวนทั่ว ทางจึ่งอาจอวดอ้าง..................อ่านเอื้ออวลอิง จิตเหมือนวางดื่นว้างหยุดไหวหวั่น แลกาลเปลี่ยนปลอบปันไปลดเปรี้ยว ดังกรายกรุ่นดักไกลแนบเกี่ยวเกรียว นึกหลากลับเลี้ยวล่วงล้ำลานแลง แปลงโคลงกลอนสลับกล้ำสลับกลับใกล้ เทอญคำจ่อใจจองจับแบบแจ้ง เห็นในค่ายจัดคับมิเคลื่อนแคลง ก่นกลเกลื่อนแกล้งก็กล้าจัดกาง กลพรางสอนหลักสร้างกรองเสร็จสวย เอยคิดขบขวยขวางเข็ดเคลื่อนข้าง อยากทอท่ามคุมเท็จทวนทั่วทาง จึ่งอาจอวดอ้างอ่านเอื้ออวลอิง ญามี่ กลบทกลอนตกกระทบของครู โชน เชิงคำ มีกฏว่า ทุกวรรคคำที่ ๓ -๕-๘ ต้องเป็นคำเสียง พยัญชนะเดียวกัน (รู้สึกครูเขา จะไม่เล่น "เสียงช่วยด้วยซ้ำไป เช่น เป็น รอเรือ แทนด้วย ลอ ลิง ไม่ได้ เมื่อเป็นขอ ไข่ แทนด้วย คอ ควาย หรือ คอ ตัวอื่นไม่ได้ อิอิ) แหะๆ ถ้าผิดขออภัยนะคะ เพราะมี่ชักลืม ข้อนี้ คือ การใช้เสียงพยัญชนะ เลือน แทนจริงน่ะค่ะ เพราะสมัยเมื่อ3ปีก่อน มี่เพิ่งเริ่มหัด "เรียงกลบทค่ะ" ตอนนั้น ยังเอ๋อมากๆ กับเสียงแท้ เสียงเลือนของการนำมาร้อย  แต่เพื่อ ความชัดเจน เดี๋ยวนี้มี่มักใช้เสียงจริงเลย ทำให้จำหลักร้อยกลบทต่างๆได้ ชัดเจนขึ้น บทนี้มี่จึงแปลงตำแหน่งทางโคลงเป็น ๓-๕-๗ และเอาอักษรล้วนมาช่วย เสริมในบางบาท เพราะทางนี้จะทำให้เมื่อเป็นกลอน ตามแบบสมบูรณ์ได้ ทุกประการค่ะ พี่ๆคนไหนมีวิธีดีกว่านี้ ก็เสนอได้นะคะ....ขอบคุณ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ญามี่ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 14:22:12

ความคิดเห็นที่ 29 ฝนเค้าฝนมืดเข้า               มาเยือน ลมพัดเหมือนพัดเตือน         อย่าช้า อย่ารออย่าแชเชือน            รีบเก็บ ผ้านา ฝนตกแล้วเจ้าข้า                เก็บผ้าเก็บเร็ว จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 14:33:19

ความคิดเห็นที่ 30 มนุษย์มีปากแล้วปาก...........มีสี ยากเอ่ยยากบอกดี...............จ่งรู้ คำทรัพย์พจน์ทรัพย์มี...........ค่ากว่า สวยนา ดีจิตดีย่อมสู้........................กว่าหน้าเป็นไฉน ฟองไฟ จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:31:18

ความคิดเห็นที่ 31 มนุษย์มีปากแล้วปาก...........มีสี ยากเอ่ยยากบอกดี...............จ่งรู้ คำทรัพย์พจน์ทรัพย์มี...........ค่ากว่า สวยนา ดีจิตดีย่อมสู้........................กว่าหน้าเป็นไฉน ฟองไฟ หญิงชายนั้นค่านั้น..........เท่ากัน ความคิดต่างคิดทัน.........เท่าพร้อม ร่วมสฤษฏ์คิดสฤษฏ์สรรค์..........แต่เรื่อง ดีนา หญิงช่วยชายช่วยล้อม...................ก่อสร้างกรรมดี โหม่งฉ่าฉ่า จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:53:23

ความคิดเห็นที่ 32 มนุษย์มีปากแล้วปาก...........มีสี ยากเอ่ยยากบอก ดี...............จ่งรู้ คำทรัพย์พจน์ทรัพย์มี...........ค่ากว่า สวยนา ดีจิตดีย่อมสู้........................กว่าหน้าเป็นไฉน ฟองไฟ หญิงชายนั้นค่านั้น................เท่ากัน ความคิดต่างคิดทัน................เท่าพร้อม ร่วมสฤษฏ์คิดสฤษฏ์สรรค์..........แต่เรื่อง ดีนา หญิงช่วยชายช่วยล้อม..............ก่อสร้างกรรมดี โหม่งฉ่าฉ่า ~ คนหนอคนค่นค้น .......... คำแขยง ความคิดความอ่านแจง ....... จิตรู้ ปากกี่ปากปราชญ์แปลง ...... เป็นปาด คู ค่า คู คู่ คู้ ...................... แค่นั้นปัญญา พจน์รำพัน . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:24:08

ความคิดเห็นที่ 33 กลบทลิ้นตะกวดคะนอง ชักชีพชิดพิศผ่านปานศุภศึก รู้ลู่ลึกตรึกนิ่งสิ่งผันผ่าน ลำนำในใดป่วนเที่ยวนึกนาน แลไหวหวานส่งสู้สู่ชีพชัน วิถีถักวักว่ายร่ายก้ำก่อ เรื่องฉวยฉ้อขอขัดปัดสื่อสรรค์ ยามพลันพบทบท่วงช่วงกอบกรรณ พาชีพชักหลักหลั่นหันละแล ขอคลายคืบโศกศัลย์กั้นภาพพบ แลจ่อมจบลบรั้นหั่นส่อแส่ ทุกถ้อยถามปรามเปื้อนเงื่อนงอแง พร้อมเกลาแก้แช่ชัดดัดดูดี พาจิตจับกลับกรองลองล่วงหลัก คอยผันผลักชักชื่นขื่นนัดหนี เปิดจินต์แจ้งแผลงผลกลทอที สู่กานท์กฏบทกวีชี้งดงาม ญามี่ จากที่นี่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9346694/W9346694.html#78 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 15:45:54

ความคิดเห็นที่ 34 ฟุตบอลโลกผ่านแล้ว                  สองวัน น้องพี่ระวังกัน                            อย่าได้ พนันผลคู่แข่งขัน                       ใครจะ ชนะนา เดี๋ยวจะถึงคราวให้                    หมดสิ้นเงินทอง จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 21:48:26

ความคิดเห็นที่ 35 บทนี้มี่ลองใช้ลหุผสมในกลบทตกกระทบ แล้วแต่งเป็นโคลง อาจไม่ดีนัก แต่หลักกฏกล จะตรงกับในกลอน แล้วลองเอามาแต่งเป็น กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒อีกทีค่ะ ..................................... ดอกฝนขับบ่มไข้..................ขจายขม ใจเลื่อนปะพรมปม.................ประดับเปื้อน หนักจิตคร่ำข่มคม..................ผสมเคลื่อน ยากเบี่ยงไอเบือนเอื้อน...........เบื่อช้ำระอา เหงาลมพัดขจ่างเพ้อ...............ขยับพราง งงสื่อไหวสร้างวาง...................ประกบว้า ดวงจินต์เจ็บครางจาง................มลายจ่า เหมือนอยู่ฟังว่าฟ้า...................ละม้ายขาดไฟ เบนเหงาหันส่วนห้วง.................ปะเหลาะหวน คิดง่ายทำสรวลทวน.................สละไท้ มองเมฆค่อยรวนครวญ.............ขณะใคร่ เหลือเดี่ยวเวียนไหวไว้..............สะท้อนหวาดวาง ฝนหยุดเดินหน่ายด้วย................ละเมอดาย ฟ้าเงียบเห็นปลายหาย................ตลอดห้าง ดาวเดือนวรรคหลักวาย...............ประจักษ์ว่าง จิตเร่าแฝงลางร้าง......................หมดสิ้นระรัว ดอกฝนขับบ่ม........ไข้ขจายขม ใจเลื่อนปะพรม.......ปมประดับเปื้อน หนักจิตคร่ำข่ม.........คมผสมเคลื่อน ยากเบี่ยงไอเบือน.....เอื้อนเบื่อช้ำระอา เหงาลมพัดขจ่าง.......เพ้อขยับพราง งงสื่อไหวสร้าง..........วางประกบว้า ดวงจินต์เจ็บคราง.......จางมลายจ่า เหมือนอยู่ฟังว่า.........ฟ้าละม้ายขาดไฟ เบนเหงาหันส่วน.........ห้วงปะเหลาะหวน คิดง่ายทำสรวล..........ทวนสละไท้ มองเมฆค่อยรวน........ครวญขณะใคร่ เหลือเดี่ยวเวียนไหว.....ไว้สะท้อนหวาดวาง ฝนหยุดเดินหน่าย.........ด้วยละเมอดาย ฟ้าเงียบเห็นปลาย.........หายตลอดห้าง ดาวเดือนวรรคหลัก........วายประจักษ์ว่าง จิตเร่าแฝงลาง..............ร้างหมดสิ้นระรัว ญามี่ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:41:34

ความคิดเห็นที่ 36 มีรักพบรักให้............................หันหา มีกิ่นแบ่งกิ่นพา....................เพื่อนพ้อง มีใช้แบ่งใช้ นา......................นานหมด มีทุกข์ปล่อยทุกข์ร้อง....เรียกด้วยแก้ไข ต้นกล้า อาลาดิน มีทุกข์ทอผลักท้อ...................................แสวงทาง มีสุขคัดห่างคราง..................................สนั่นครื้น มีเงินเพิ่มเพียรพลาง............................สะกัดพร่อง มีทุกข์อาจสะอื้น..............................อ่านไว้สมานอวล ญามี่(กลบทตกกระทบ) จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 00:53:12

ความคิดเห็นที่ 37 ลองมาเล่น " นกกางปีก " ... บินร่อนถลาหาอาหารกิน วิหคมันต้องผกผิน บินป่วนปั่นผันผวนกันทำไมนะนี่ ... อ๋อ ที่แท้ท่าบินไล่จับแมลงกินนี่เอง ... อิอิ 11.43 น. ๏ สตางค์ผลิ  สติพลั้ง ........... สตางค์เผลอ จ่ายหนัก จักหน่าย เกลอ ....... จ่ายกลุ้ม นวลผก นกผวน เจอ ............. นกจิก คำซ่อน คอนซ้ำ คุ้ม ............. นกเค้นคำผวน ๏ คำป่วน ควรปล้ำ จาก ......... ป่วนใจ ไร้สติ ริสไตร๊ค์ ไย ............... สติยั้ง ผวนคิด ผิดควร ไป ............... คิดปรับ คำใหม่ ใครหม่ำ ตั้ง .............. สติแล้วหม่ำเลย ๚ะ๛ (แง่มแง่ม) 12.16 น. นกโก๊ก 55555 มี่ต่อ2บทนี้ของพี่ด้วย กลบทตกกระทบดีกว่า หัดตรึกตรองและต้อง.........ประหยัดสตางค์ หนักจ่ายพบเหม่อพราง........สะอึกเพ้อ มีอุปสรรคยากสาง..................หมดสุข ลุกนั่งก็พบเก้อ........................ยากสิ้นตลอดกาล หัดต้านจนไร้จับ........................สราญจิต ทุกอย่างควรแบ่งคิด...................ตระหนักคว้าง จะสุข บ่ ต้องบิด.........................ระทมบ่อย คืนฉ่ำชักเท่าช้าง.........................พี่พร้อมสนุกชวน ญามี่(กลบทตกกระทบ) จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 01:21:31

ความคิดเห็นที่ 38 03.41 น. ๏ นอนหัวค่ำแล้ว ตื่น ..... มาหอน นอนตื่นดึกดื่น นอน ........ อิ่มแล้ว นอนกินอะไร ตอน .......... หลับสนิท นอนไม่ฝันเลย แห้ว ....... แน่แล้วกินฝัน  ๚ะ๛ (คริคริ) 03.47 น. ----------------------------------------------------------- จากกระทู้ถนนนักเขียน (บทกวี) ๏ อาศรมชาวโคลง ๒๒๐ ๏ ๏ จรูญจรัสรัศมีพราว พร่างพร้อย ๏ ... ของ คุณ: ศาลายา http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9151717/W9151717.html ----------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 85     02.16 น. ตลบนกกลางหาว ... กลบทโคลงกระทู้ .... หาคู่คำมาเล่นยากจริงหรือ ๏ คืน - กลย้อนซับซ้อน ........... สินสอด ทรัพย์น้อง ออด -พี่กอดน้องออด .............. คู่อ้อน อ้อน - คู่ออดน้องกอด ............. พี่ออด น้อง - ซับสอดสินซ้อน ............. ทรัพย์ย้อนกลคืน (โคลงสี่สุภาพที่เน้นเสียง หลงคำ 'ซับ - ทรัพย์' คำพ้องเสียงนิ) ๏ วัน - คืนฟื้นอยากข้าว .............. กล้าเพาะ ปลูกนา ห่วง - ติดเคราะห์ร้ายเจาะ ............ ผ่าท้อง   ท้อง - ผ่าเจาะร้ายเคราะห์ ............ ติดห่วง นา - ปลูกเพาะกล้าข้าว ................ อยากฟื้นคืนวัน  ๚ะ๛ 02.54 น. ๏ กล - เงื่อนแก้เคล็ดย้อน ............ สอดขัด ซัดน้อง ออด -พี่อัดน้องฟัด ...................... คู่อ้อน อ้อน - คู่ฟัดน้องอัด ..................... พี่ออด น้อง - ซัดขัดสอดย้อน.................. เคล็ดแก้เงื่อนกล  (แง่มแง่ม) 03 .00 น. แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 03:19:51 จากคุณ : นกโก๊ก     เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 03:16:40   ---------------------------------------------------------------- จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 03:49:24

ความคิดเห็นที่ 39   มีรักพบรักให้............................หันหา มีกิ่นแบ่งกิ่นพา....................เพื่อนพ้อง มีใช้แบ่งใช้ นา......................นานหมด มีทุกข์ปล่อยทุกข์ร้อง....เรียกด้วยแก้ไข ต้นกล้า อาลาดิน มีทุกข์ทอผลักท้อ...................................แสวงทาง มีสุขคัดห่างคราง..................................สนั่นครื้น มีเงินเพิ่มเพียรพลาง............................สะกัดพร่อง มีทุกข์อาจสะอื้น..............................อ่านไว้สมานอวล ญามี่(กลบทตกกระทบ) มีสุขหัดสุขรู้..............ดูทาง มีโศกอย่าโศกหมาง........สะอึกสะอื้น มีรักชักรักพราง...................รอยเบื่อ อกหักจงหักครื้น......................แค่คล้ายทรมาน อิอิ ปีศาจน้อยจอมซน จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมซน (ปีศาจน้อยจอมแก่น) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 16:08:29

ความคิดเห็นที่ 40 มีรักพบรักให้............................หันหา มีกิ่นแบ่งกิ่นพา....................เพื่อนพ้อง มีใช้แบ่งใช้ นา......................นานหมด มีทุกข์ปล่อยทุกข์ร้อง....เรียกด้วยแก้ไข ต้นกล้า อาลาดิน มีทุกข์ทอผลักท้อ...................................แสวงทาง มีสุขคัดห่างคราง..................................สนั่นครื้น มีเงินเพิ่มเพียรพลาง............................สะกัดพร่อง มีทุกข์อาจสะอื้น..............................อ่านไว้สมานอวล ญามี่(กลบทตกกระทบ) มีสุขหัดสุขรู้..............ดูทาง มีโศกอย่าโศกหมาง........สะอึกสะอื้น มีรักชักรักพราง...................รอยเบื่อ อกหักจงหักครื้น......................แค่คล้ายทรมาน อิอิ ปีศาจน้อยจอมซน ยังเพียรรักเล่นล้อ...................รอยหลง แม้เกลียดเหงาหมายตรง.........สู่เศร้า อดจำก่อนมั่นคง.......................กับใคร่ สวาทเอย ทุกค่ำจึงต้องเง้า.......................อยู่ข้างเดียวดาย โหม่งฉ่าฉ่า จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 23:55:23

ความคิดเห็นที่ 41 มีรักพบรักให้............................หันหา มีกิ่นแบ่งกิ่นพา....................เพื่อนพ้อง มีใช้แบ่งใช้ นา......................นานหมด มีทุกข์ปล่อยทุกข์ร้อง....เรียกด้วยแก้ไข ต้นกล้า อาลาดิน มีทุกข์ทอผลักท้อ...................................แสวงทาง มีสุขคัดห่างคราง..................................สนั่นครื้น มีเงินเพิ่มเพียรพลาง............................สะกัดพร่อง มีทุกข์อาจสะอื้น..............................อ่านไว้สมานอวล ญามี่(กลบทตกกระทบ) มีสุขหัดสุขรู้..............ดูทาง มีโศกอย่าโศกหมาง........สะอึกสะอื้น มีรักชักรักพราง...................รอยเบื่อ อกหักจงหักครื้น......................แค่คล้ายทรมาน อิอิ ปีศาจน้อยจอมซน ยังเพียรรักเล่นล้อ...................รอยหลง แม้เกลียดเหงาหมายตรง.........สู่เศร้า อดจำก่อนมั่นคง.......................กับใคร่ สวาทเอย ทุกค่ำจึงต้องเง้า.......................อยู่ข้างเดียวดาย โหม่งฉ่าฉ่า ด้วยรักถนัดรักแท้....................แบบเดียว พอหน่าย บ่ แลเหลียว..............สุดอ้าง ไยลืมคิดยากเทียว.................เหมือนเบื่อ เบนนอ ดังหนึ่งฝันพาคว้าง.................จากนี้จะไกล ฟองไฟ จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 00:00:54

ความคิดเห็นที่ 42 แสนแข็งแกร่งกล้าเนิ่น         นานปี เวียนเปลี่ยนวารยัง ศรี          สง่าล้ำ ทระนงยั่งยืนมี                   ความมั่น  คงนา- นับประการทรงค้ำ              คู่ฟ้าเคียงแดน ฯ         ดินไฉนหนอจึ่งได้                โศภิน   เยี่ยงเทพจอมสุรินทร์            เสกสร้าง จึงสฤษดิ์แต่งพลาง จินต์       โดยฤท-     ธีแล อย่างเลิศสมคำอ้าง             เลื่องหล้าธรณี  นั่นนา ฯ           แสนแข็งแกร่งกล้าเนิ่นนาน    ปีเวียนเปลี่ยนวาร ยังศรีสง่าล้ำทระนง ยั่งยืนมีความมั่นคง            นานับปการทรง ค้ำคู่ฟ้าเคียงแดนดิน ไฉนหนอจึ่งได้โศภิน           เยี่ยงเทพจอมสุรินทร์             เสกสร้างจึงสฤษดิ์แต่งพลาง จินต์โดยฤทธี แลอย่าง        เลิศสมคำอ้าง             เลื่องหล้าธรณี  นั่นนา ฯ         the darkknight จากที่นี่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9325299/W9325299.html อึ่ม พอเข้าใจแล้ว พี่ค้างคาวเล่นร้อยโคลงมาเป็นกาพย์ฉบัง๑๖ ด้วยวิธีร้อยกลางวรรคโคลงบ้าง เติมสร้อยบ้าง แหะๆ มี่ลองดูน่ะค่ะ เมื่อตัดสร้อยเติมลหุ มันก็เป็นโคลงกลบทกินนรเก็บบัวแบบลิลิตพระลอรสอ่วมค่ะ5555 แค่แก้ข้อสงสัยตัวเองค่ะ แล้วไว้จะลองวิธีอื่นดู พรำพรำฝนกลั่นอ้อน......................ปะเหลาะขวัญ เพียรขับขับทันครัน.....................ประจบข้าง ครวญโยงจิตจิตพลัน...............ประดิษฐ์ว่าง คิดคิดโคลงกางว้าง.............สลัดเวิ้งเสลา ทอโคลงโคลงขื่นสร้าง.........ประจักษ์ฝืน ไออุ่นอุ่นคืนยืน.....................สลดเศร้า ถามคร่ำคร่ำขับกลืน....................ขยับเขย่า หมองมั่นมั่นจับเคล้า.......................ระบบเพ้อประสาน กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒ พรำพรำฝนกลั่น...........อ้อนปะเหลาะขวัญ เพียรขับขับทัน..............ครันประจบข้าง ครวญโยงจิตจิต............พลันประดิษฐ์ว่าง คิดคิดโคลงกาง.............ว้างสลัดเวิ้งเสลา ทอโคลงโคลงขื่น...........สร้างประจักษ์ฝืน ไออุ่นอุ่นคืน..................ยืนสลดเศร้า ถามคร่ำคร่ำขับ..............กลืนขยับเขย่า หมองมั่นมั่นจับ..............เคล้าระบบเพ้อประสาน ญามี่ แบบนี้มี่ลองแล้ว "คำมันตายจริงๆค่ะ อิอิ เป็นวัวพันหลักเลย" จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 14:41:31

ความคิดเห็นที่ 43 ๏ พรหมลิขิต ชีวิตมนุษย์ โปรดหยุดค้าง คืนเคว้งคว้าง วันอ้างว้าง สร้างคำถาม สร้างฉันมา เพื่อสิ่งใด ให้โลกงาม ยกย่องหรือ เหยียดหยาม อยากถามพรหม ๚ะ๛ ................................................. จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 20:18:27

ความคิดเห็นที่ 44 ฝนตกไม่ทั่วฟ้า                    เมืองไทย ผลส่งให้แล้งไป                   ทั่วหล้า น้ำในเขื่อนหนใด                 พาเหือด แห้งนา แสงแดดยิ่งแผดจ้า               หยาดน้ำจางหาย จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 02:42:02

ความคิดเห็นที่ 45 ฝากตะวันห่วงด้วย.......................ดูเธอ ฝากมาสคอยกล่อมเสมอ..........เมื่อว้าง ฝากลมกระซิบอย่าเผลอ........ผวนหม่น ฝนเล่าฝากชื่นล้าง.............ลูบไล้ปลอบขวัญ ฝากวันคืนไว้ด่ำ................ดวงใจ ฝากลึกลงจิตไป...................ปลูกร้อย ฝากมั่นมิหวั่นไหว......................หวานอื่น ฝากอุปสรรคเคลื่อนคล้อย..............คลาดพ้นพานปลาย ฝากให้ทรายรับด้วย......................ดวงสวาท ฝากสมุทรอย่าเคลื่อนคลาด.........ค่อยเฝ้า ฝากคลื่นและทะเลหาด...........หันห่วง ฝากขอบฟ้าค่ำเช้า............ช่วยแจ้งคะนึงไหว ฝากใครยากพร้อมทียบ......เทียมทัน ฝากภพจบแดนสวรรค์............หวั่นแท้ ฝากเพียงหนึ่งอนรรฆอนันต์........แน่แน่ว นักเอย คือฝากเจ้าเองแล้.........................เลิศแล้วแลตน ญามี่ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 02:48:56

ความคิดเห็นที่ 46 08.56 น. ๏ ผลิสตังค์ พลังสติ สร้าง ........... สับสน สติพ่อ สะตอผลิ ผล .................. ดอกห้อย เป็นพวง ป่วงเพ็ญ ชน ................. ชอบกลิ่น ฉุนแล ฉุนหนัก ชักหนุน-ต้อย ................ ติ่ง-น้ำแตกตัว ๏ ยั่วสติ ยิซะตั้ว ........................ ตัวยวน มอบสติ มิ stop ดวล .................. ดับดิ้น ริสตึ ฤ สติ ผวน ........................ ป่วนปั่น สตางค์จิ สติจาง-สิ้น ................... kid-สร้างทรัพย์เผือ-เพื่อผู้ใด แลนาบารนี ๚ะ๛ (คริคริ) 09.17 น. ----------------------------------------------------------- จากกระทู้ถนนนักเขียน (บทกวี) ๏ อาศรมชาวโคลง ๒๒๐ ๏ ๏ จรูญจรัสรัศมีพราว พร่างพร้อย ๏ ... ของ คุณ: ศาลายา http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9346694/W9346694.html#95 ----------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 95     08.26 น. ๏ ฝากแมะ แขวะ mark ทึ้ง ............ ถล่ม-เถียง นา-แล นาไร่ ในหล้า เพียง ....................... เรียก-น้ำ ใจ-แหม่ม แจ่มไหม เสียง ............... ฝน-สาด ห่า-ใหญ่ ให้หญ้า ช้ำ ..................... ชอกฟื้นคืน-ฝน ๏ ฟ้า-หล่น ฝนล่า ข้าว ................... โหยหา ช้าเน่า ชาวนา ตา .......................... เหลือกค้าง น้ำปาก นาคปล้ำ-นา ...................... วา-เหาะ รัว-ฤๅ (เหาะรัว : หัวเราะ) ฝากถ่าย ฝ่ายถาก สร้าง ................. ทรัพย์ล้วนปากแหล ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 08.46 น. ----------------------------------------------------------- จากกระทู้ถนนนักเขียน (บทกวี) ๏ บ้านโคลงผวน [ ๒๙ ] ... รอ ... ๏ ... ของ คุณ: นกโก๊ก http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9151717/W9151717.html#93 ----------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 93     08.08 น. ๏ หลงห้อ รอฮ้ง เห่า ................... ห้องราช เดินนำ รอเหอะ เลอะ หอปราชญ์ ............. ป่วนไส้ รอเทือก เลือก ทอทาส ............... ถูกกด รอกฎ ลด กอใกล้ ...................... หมดแล้วกฎหมาย-กลาย,กาย,guy-หมด เลยนาบารนี ๚ะ๛ (แง่มแง่ม) 08.16 น. ----------------------------------------------------------- จากกระทู้ห้องราชดำเนิน ๏ ... ครกแตก แขกตกห้อง - ราชดำ-เนินฮา ... ๏ ... ของ คุณ: นกโก๊ก http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P9369299/P9369299.html ----------------------------------------------------------- ๏ ... ครกแตก แขกตกห้อง - ราชดำ-เนินฮา ... ๏       07.30 น. ๏ ครกแตก แขกตกห้อง .............. ราชดำ-เนินฮา มั่วสาก 'mark' สั่วยำ .................. ญาติยิ้ม เลือกเถอะ เลอะ 'เทือก' ทำ ......... ทางรอด แต๊หน่าย ต๊ายแหน่ ซิ้ม ............... ส่ง 'ลิ้ม' หวอ 'ปอ-เต็กตึ๊ง' มาช่วยดึงกลับได้ไหมนา บารนี ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 07.41 น. จากคุณ : นกโก๊ก     เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 07:44:29 A:110.49.205.132 X:   ----------------------------------------------------------------------------- เรียนท่านสมาชิก ก่อนอื่นต้องขออภัยในความไม่สะดวกต่อทุกท่านอีกครั้ง ที่ปิดบริการโต๊ะราชดำเนินไปเป็นเวลานาน การที่เราทิ้งเวลาไว้นานเช่นนี้ ก็เพราะคิดว่าหากมีการเปิดขึ้นมาใหม่ ควรต้องมีอะไรที่ต่างไป และต้อง เป็นอะไรที่ไม่ทำให้สถานะการณ์มันย้อนกลับไปที่เดิม วันนี้เราจึงขอนำเสนอโต๊ะราชดำเนินแบบใหม่ เป็นโต๊ะราชดำเนินที่ยกระดับจากพื้นที่ชุมนุมเป็นพื้นที่อภิปราย แบบเดียวกับในสภา โต๊ะราชดำเนินแบบใหม่นี้ จะเป็นพื้นที่ซึ่งเปิดให้ท่านที่ต้องการแสดงความคิดเห็น สามารถเขียนเป็นบทความอภิปราย ของท่านให้เพื่อนๆอ่านได้ วันละ 1 บทความ ส่วนท่านผู้อ่านจะเห็นด้วยหรือต้องการโต้แย้งจะไม่สามารถเขียน ต่อด้านล่างโดยตรงแบบเดิมได้ แต่ท่านต้องโต้แย้งหรือสนับสนุนด้วยการเปิดบทความอภิปรายของท่านเองขึ้นมา ซึ่งก็เขียนได้วันละ 1 บทความเช่นกัน ทั้งนี้หากท่านถูกใจกับบทความอภิปรายของเพื่อนสมาชิกท่านใด ท่านก็สามารถให้ Give เพื่อเป็นกำลังใจ กับบทความอภิปรายนั้นได้เช่นเดียวกับการให้ Give ผู้เขียนกระทู้ตามปรกติ                เขียนข้อความอภิปรายของท่านคลิกที่นี่ ----------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : นกโก๊ก     เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 08:19:22   ----------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : นกโก๊ก     เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 08:43:54   ---------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 09:18:47

ความคิดเห็นที่ 47 มาชวนแต่งกลอนสิบแบบสองคลื่นครับ หลายเรื่องราว  แผ่วพลิ้วแผ่วผ่าน  ม่านหมอกไหม สายลมไกล  พาพ้องพาพาน  สานแดดอุ่น ย่อมอวลอาย  ละมุนละไม  ที่ใจคุณ อาบอายกรุ่น  แผ่นดินแผ่นฟ้า  สง่างาม http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9371208/W9371208.html แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 53 18:47:14 จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 17:50:08

ความคิดเห็นที่ 48 กลางวันแสนรุ่มร้อน                        แทบตาย แสงแดดแผดเผากาย            แทบไหม้ กินน้ำดับกระหาย                             เป็นลิตร ยังไม่พอช่วยให้                  ดับแก้ความร้อน dถ/-ถขึภ^%#( จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 01:27:57

ความคิดเห็นที่ 49 อิอิ ช่วงนี้เวลาว่างมี่มีน้อยหน่อยค่ะ บางวันตรวจเมล์ให้นายกับเมล์ตัวเองเสร็จ ก็ได้เวลานอนแล้วสิ 5555 ขอเล่น "สองคลื่น" ก่อนนะคะ แล้วจะมาส่ง สามคลื่น กับสี่คลื่นตอนว่างค่ะพี่แสงแรก เมื่อดอกฝนหล่นล้อ-หล่นหลั่งพรั่งพรูพลิ้ว เมฆโปรยปลิวลิ่วไล้-ลิ่วเล่นเช่นฉ่ำรื่น กมลคลายหายกลุ้ม-หายกักตระหนักครื้น ทรวงประจักษ์ดักดื่น-ดักด่ำย้ำหยาดแย้ม พานพบพื้นชื้นแฉะ-ชื้นฉายประกายกลิ้ง ดังน้ำวิ่งทิ้งทอด-ทิ้งท่วงช่วงหรรษา กลิ่นแมกไม้ใบบอบ-ใบเบากระเซ้ามา เพลินพร้อมพามามัด-มามุงจรุงพลัน โลกใส่สุขปลุกปลื้ม-ปลุกปองประคองข้าง ให้รู้ทางย่างเยื้อง-ย่างอยู่ประตูฝัน รู้หลีกเลี่ยงเกี่ยงใกล้-เกี่ยงกลขนขื่นครัน เหมือนหมายคั่นกั้นม่าน-กั้นมารผ่านพ้นราน ถ้อยร้อยคำนำสอน-นำสั่งกระทั่งเคลิ้ม ก็ต้องเริ่มเติมแต่ง-เติมแต้มแฉล้มฉาน การศึกษาพารุ่ง-พาเรืองเปรื่องนัยจาร หวังเชี่ยวชาญการเรียน-การรู้คู่ควรจำ จากที่นี่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9371208/W9371208.html#29 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 14:17:10

ความคิดเห็นที่ 50 ฝากใจไว้กับเคลิ้ม.......................ความคะนึง ประหนึ่งความคิดถึง.................ถ่วงเพ้อ ฝากไออุ่นช่วยตรึง-................ตราจิต อย่าเหม่อมองจนเก้อ.........ก่อร้าวหทัยหมอง จองฝากจินต์ใฝ่ข้าง.........ขับหวาน ฝากสื่อกับกลกาล.................กอบพริ้ม วันคืนมุ่งผ่านลาน.......................ละเมอเสพ ทิพย์เอย พันผูกแต่เรื่องยิ้ม.................................อยู่ด้วยอณูหวาม ท่ามทางพบแต่ครื้น...............................คืนสนุก ฉ่ำชื่นรายเรียงปลุก.......................สลับเฝ้า ราตรีดาษดาวพลุก-..................พล่านรอบ กายนา เหงาเงียบพระพายกระเซ้า.....ซ่อนซึ้งประคองทรวง ดวงมานฝากซึ่งซึ้ง...............กระแซะออด ขับจิตห่างไหม้มอด...................หมื่นห้วง ช่วงชื่นชิดชวนพลอด......................เพลินสวาท ทุกข์เลื่อนเลือนทักท้วง........................ท่องคลายเดินหลง มี่ไม่เมาเบียร์ ชักเมาบอลมากกว่า555 เดี่ยวลองเล่นตามพี่เสกหน่อย จะไปรอดไหมเนี๊ยะ? จากที่นี่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9376791/W9376791.html#16 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 14:36:34

ความคิดเห็นที่ 51 โคลง-สะบัดปลุกเร้า......................เรียมพะนอ เบียร์-กระดกราดคอ......................รดไล้ เชียร์-มันถ่างตารอ.........................อย่าหลับ บอล-พลิกพาพี่ไห้.........................หวดน้องนางสมร โคลง-วางก่อนว่ายเวิ้ง.....................แหวกธาร ฤทัยแม่ เบียร์-หมดช่างหัวมาน.....................อย่าเศร้า เชียร์-บอลพ่ายอย่าพาล...................พาสะดุด อารมณ์แล บอล-ไม่พลิกพลาดเป้า...................หากจิ้มใจประตู ................................................................................... เขียนแบบไม่มีกลบทอันใดทั้งสิ้น          จิ้มๆๆ แล้วก็ส่ง  เหอๆ เสกคาถา โคลง-ดีช่างร้อยยาก.....................อยากตาย เบียร์-อร่อยกินแล้วสบาย...............คึกด้วย เชียร์-บอลอาจชีพวาย...................โปรดตระหนัก บอล-เด็ดยังมีม้วย.........................พี่น้องควรระวัง โคลง-เด่นดังต่างพร้อม...................อยากดู เบียร์-เยียบเย็นยากชู......................ส่งให้ เชียร์-บอลไม่ใช่หมู........................ต้องหัด บอล-พลาดเห็นกันได้.....................อย่าเศร้าเกินควร ญามี่ ปล. ฝากข่าวให้พี่เสกด้วย แหะๆเวบที่พี่ให้มี่ไปโหลดmp3 มี่โหลดแล้วมันไม่ยอมตามมี่มา(555 ไม่รู้มี่ทำผิดไหม แต่เรื่องฝากกับโค๊ดไม่มีปัญหา มี่ทำได้ พี่อ่านหลังไมค์ที่มี่ตอบแล้ว ก็แล้วกันนะ) จากที่นี่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9376791/W9376791.html จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 20:24:57

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณครับ ญามี่ ชอบมากครับ พานพบพื้น ชื้นแฉะ-ชื้นฉาย  ประกายกลิ้ง ดังน้ำวิ่ง  ทิ้งทอด-ทิ้งท่วง  ช่วงหรรษา กลิ่นแมกไม้ ใบบาง-ใบเบา  กระเซ้ามา เพลินพร้อมพา  มามัด-มามุง  จรุงพลัน จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 21:01:23

ความคิดเห็นที่ 53 ดวงมานฝากซึ่งซึ้ง...............กระแซะออด ขับจิตห่างไหม้มอด...................หมื่นห้วง ช่วงชื่นชิดชวนพลอด......................เพลินสวาท ทุกข์เลื่อนเลือนทักท้วง........................ท่องคลายเดินหลง ญามี่ ฝากรักให้ด้วยจิต................................อาทร มีบ่อยคือใจวอน.........................อย่าคล้อย ฝากหวังเปี่ยมอาวรณ์.................ฤๅทราบ ใครหนึ่งฝากคำร้อย............ว่าพร้อมห่วงใย โหม่งฉ่าฉ่า จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 22:14:40

ความคิดเห็นที่ 54 อิอิ ส่งการบ้านอีกแบบค่ะพี่แสง กลอนสิบแบบสองคลื่นกระทบกัน เก็บเอาความ งามภาพ ภาพงาม ท่ามรู้สึก มาบันทึก ลึกเก็บ เก็บลึก นึกถวิล แม้มิได้ ใกล้ซึ้ง ซึ้งใกล้ ไหวในจินต์ แต่พร้อมผิน ยินยล ยลยิน ประทินทรวง ฟังสิ เสียง  เยี่ยงเย้า เย้าเยี่ยง เพียงกระซิบ ประหนึ่งทิพย์ พริบพราว พราวพริบ ระยิบห้วง ทุกท่วงงาม ความรัก รักความ ยามชื่นทวง โอบอุ่นหน่วง ช่วงชิด ชิดช่วง ปวงใจปอง กับหล้ารู้ อยู่หยั่ง หยั่งอยู่ หมู่ไม้นี้ ทุกนาที พลีผล ผลพลี ดีทุกช่อง ดังดอกดาว พราวพริ้ง พริ้งพราว คราวครอบครอง พาทอท่อง ล่องล่วง ล่วงล่อง ส่องสุขรอ ฟังสิ เสียง เรียงถ้อย ถ้อยเรียง เบี่ยงเบนร่าย ดุจพระพาย  ส่ายซ่าน ซ่านส่าย กรายกล่อมหอ แม้ความจริง พิงภาพ ภาพพิง สิ่งเคียงคลอ ยังจ่อมจ่อ ต่อตรม ตรมต่อ พะนอราน อาจเดียวดาย คล้ายหมอง หมองคล้าย ระบายเบื่อ โดยเจ็บเรื้อ เชื้อชิด ชิดเชื้อ เผื่อความหวาน หากเวิ้งว้าง วางผ่าว ผ่าววาง  ครางรำคาญ ฤๅจะผ่าน ม่านมืด มืดม่าน พานสุขเริง ญามี่ จากที่นี่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9371208/W9371208.html#39 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 23:43:05

ความคิดเห็นที่ 55 บุกรุกถางป่าไม้                      เข้าไป มิหวั่นกันหรือไร                     ป่าร้าง หากหมดป่าเมืองไทย             คงยาก อยู่นา ทุกท่านควรคิดบ้าง                ป่าไม้มีคุ จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 00:23:30

ความคิดเห็นที่ 56 สามคลื่น ตะวันหลับ กลับท้อกลับทุกข์ กลับท้วงถาม เหมือนขื่นข้าม ลามเยี่ยมลามเยือน ลามเยือกเยียบ เหงาคืบคร่า มาทักมาท่วม มาท้าเทียบ สุดปรับเปรียบ เพียบผ่าวเพียบแผ่ว เพียบเผาพลัน ว้าเหว่ลอบ ครอบฝันครอบใฝ่ ครอบฝากเพ้อ เสียงละเมอ เหม่อหมองเหม่อเมียง เหม่อหมดมั่น ลมพลิ้วพัด กระวัดกระวน กระวายครัน ดังเหงานั้น กระชั้นกระชิด กระชากชาย เงาปร่าเปลี่ยว เหลียวดักเหลียวดัน เหลียวดึงหา เหนื่อยเวลา พาห่างพาห้วง พาห่วงหาย อันตรธาน วารหวานวารไหว วารวุ่นวาย ต้องขาดปลาย  กระจายกระเจิด กระเจิงทาง ญามี่ จากที่นี่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9371208/W9371208.html#41 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 01:41:02

ความคิดเห็นที่ 57 ๏ ผลิสตังค์ พลังสติ สร้าง ........... สับสน สติพ่อ สะตอผลิ ผล .................. ดอกห้อย เป็นพวง ป่วงเพ็ญ ชน ................. ชอบกลิ่น ฉุนแล ฉุนหนัก ชักหนุน-ต้อย ................ ติ่ง-น้ำแตกตัว ๏ ยั่วสติ ยิซะตั้ว ........................ ตัวยวน มอบสติ มิ stop ดวล .................. ดับดิ้น ริสตึ ฤ สติ ผวน ........................ ป่วนปั่น สตางค์จิ สติจาง-สิ้น ................... kid-สร้างทรัพย์เผือ-เพื่อผู้ใด แลนาบารนี ๚ะ๛ (คริคริ) นกโก๊ก 5555 มี่ขอลองเป็นแบบนี้ดูนะคะพี่นก คิดสลับ ขับสฤษดิ์ สร้าง .......เสกตอน ก่อนสนิท กรีด ณ สอน  .............ส่งถ้อย ข่อนสลับ ขับสลอน.........................สื่อลึก ได้นา จ๋อยจริต จิตระร้อย .............................ร่วมรู้กระบวนคำ ซ้ำ ณ ปลุก สนุกปล้ำ ...........................ปรับขัด ผลัด ละ ชิด ผลิตชัด.......................ชื่อแจ้ง ชัด ณ ทิศ ชนิดทัด ...................ทางร่าย แทง ณ กลัด ถนัดแกล้ง..........กฏเร้นลวงตา ญามี่ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 12:56:14

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณกับพี่ทุกคนที่มาแจกกิ๊ฟและแจมกับมี่ด้วยนะคะ ไปทู้ใหม่กันที่นี่นะคะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9383818/W9383818.html#1 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 02:38:23