..-**-..-**-..Help Me! Help My Love! ช่วยด้วย...ผมกลายเป็นผู้หญิง..-**-..-**-..
|
|
คุณสมบัติของผู้หญิงโดยทั่วไป คือ... หนึ่ง รักสวยรักงาม สอง ชอบคุยเป็นชีวิตจิตใจ สาม นัดทีไรชอบมาสาย
แม้ว่า...คุณสมบัติข้อที่สาม แฟนของผม ศุภิญญา หรือ พิณ จะไม่เคยมีมาก่อนก็ตาม แต่วันนี้คุณสมบัติทั้งสามข้อนั้น เธอมีครบถ้วนทุกประการแล้ว
ผมและพิณมาเรียนพิเศษช่วงปิดเทอมซัมเมอร์กัน แต่วันนี้พิณไม่มีเรียน ซึ่งผิดกับผมที่มีเรียนแค่ช่วงเช้าเท่านั้น ผมจึงนัดเธอมาเที่ยวที่สยามฯ ตอนบ่ายโมงกะว่าจะมาทานสุกี้ให้พุงกางไปเลย ผมชอบทานเห็ดดอกเข็มและเธอก็ชอบหม่ำฮะเก๋ามากที่สุด
ผมนั่งรอเธอตรงลานน้ำพุที่เป็นจุดนัดพบสำหรับทุกๆ คน สายตาของผมมองเพื่อนวัยเดียวกันแต่งตัวแปลกๆ เป็นการฆ่าเวลา และผมแทบไม่อยากนับครั้งเลยว่า ผมมองนาฬิกาข้อมือตัวเองเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว เมื่อเห็นเข็มนาฬิกาชี้แต่ละครั้งบ่งบอกเวลาว่า...เลยเวลานัดพอสมควร จนผมเผลอขมวดคิ้วทุกครั้งทีเดียว
พิณจะเป็นอะไรไปหรือเปล่าน้า
ผมกังวลว้าวุ่นใจจนต้องตัดสินใจหยิบโทรศัพท์เข้ามือถือของผมโทรหาเธอทันที
ตื้อ...ตื้อ...ตื้อ...
และผมก็รอจนกระทั่งเพลงรอสายจบ อย่างน้อยที่สุดถ้าพิณกำลังเดินทางมา เธอก็น่าจะได้ยินเสียงโทรศัพท์บ้าง หรือว่าเชคหน้าจอมือถือก็ยังดี
ผมมองโทรศัพท์มือถือก่อนปลอบตัวเอง
ไม่เป็นไรสงสัยรถคงจะติด หรือไม่...พิณก็คงลงรถแล้วเดินมาเอง
ผมและพิณคบกันมาปีกว่า ทำไมผมจะไม่รู้นิสัยแฟนของผมเอง เธอเป็นคนว่องไวและชอบทำอะไรด้วยตัวเองเสมอ
ผมเพียรโทรหาเธออีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง... เธอก็ไม่รับสายของผมเสียที
เฮ้ย! ผมอุทานเสียงดัง เมื่อจู่ๆ น้ำเย็นๆ ตกแหมะโดนแก้มของผม ผมปาดแก้มตัวเองอย่างง่ายๆ และเผลอแหงนหน้ามองท้องฟ้า
โอ้...คุณพระคุณเจ้าช่วย ทำไมวันนี้ผมถึงได้ดวงตกขนาดนี้นะ ที่ต้องมาเจอกับฝนในช่วงเดือนเมษายนแบบนี้
ผมมองซ้ายแลขวาหาที่หลบฝน เพราะถ้าหลบเข้าร้านใดร้านหนึ่งพิณอาจจะมองไม่เห็นผมก็ได้ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจ ยืนรอด้านนอกของร้านที่ใกล้กับจุดนัดพบมากที่สุด
ฝนเริ่มตกแรงขึ้น แรงขึ้นเรื่อยๆ สายฝนสาดสะบัดไปทั่ว
และคืนนั้นเอง ผมมีน้ำมูกและไอติดต่อกัน
เสร็จกัน! ในที่สุดผมก็เป็นหวัด
เช้าวันรุ่งขึ้น
เสียงโทรศัพท์มือถือเปล่งแสงวูบวาวพร้อมกับเสียงดนตรีแผดลั่น ผมค่อยๆ แข็งใจยกแขนที่ไร้เรี่ยวแรงคว้ามัน ก่อนจะกรอกเสียงครางยานกับโทรศัพท์
ฮาล...โหลลล...
ผมพยายามยันกายลุกขึ้นจากเตียงนอน ทันทีที่ได้รู้ว่าพิณนัดผมไปเที่ยวที่สยามฯ อีกครั้ง เพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันเปิดเทอม เดี๋ยวไม่มีเวลาเที่ยวด้วยกัน
นี่นาย... เจ้าซอง ป่วยขนาดนี้ยังจะออกไปที่ไหนอีกหา นอนพักเถอะพรุ่งนี้โรงเรียนก็จะเปิดเทอมนี่นา พี่สาวผมเองครับ สาวตัวโน๊ต เธอระเบิดเสียงลั่นเมื่อเห็นผมกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนยื่นยาแก้หวัดเม็ดเป้งๆ สองเม็ดให้ผมตามคำสั่งของแม่
โอย...เจ้เบาๆ เสียงหน่อยก็ได้ ผมเริ่มปวดหัวแล้วเนี่ยะ แต่ผมไม่ได้ตอบออกไปแบบนั้นนะ
ไป...แค่กๆ หาพิณ...แค่กๆ ที่...แค่กๆ สยามฯ ผมตอบอย่างทุลักทุเล
ฮ่ะ ฮ่า ฉันล่ะเชื่อจริงๆ ว่านายลงทุนยืนตากฝนรอแฟนตั้งห้าชั่วโมง จนโดนหวัดเล่นงาน โน๊ตหยุดหัวเราะนิดหนึ่งก่อนถามออกไป นี่...นายเป็นน้องชายของฉันจริงๆ เหรอเนี่ยะ หญิงสาวตบบ่าน้องชายก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะลั่นอีกครั้ง
ผมขมวดคิ้วเพราะปวดหัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยังต้องมานั่งฟังเสียงหัวเราะแหลมๆ ของพี่สาวตัวเองอีกเจ้หยุดพูด...แค่กๆ ไปเลย...แค่กๆ มันเรื่องของ...แค่กๆ ผม นายกล้าพูดกับพี่สาวสุดสวยคนนี้เรอะ เดี๋ยวได้มีเฮหรอก นี่เห็นว่าเป็นคนป่วยอยู่หรอกนะ แต่ขอสักป๊าบเถอะ
ครับ... ผมถูกพี่สาวคนโหด เอ๊ย...คนสวยเบิ๊ดหัวอย่างน่าเอ็นดู ผมนี่นอกจากจะเกิดมาเจอผู้หญิงโหดๆ แบบพี่สาวแล้ว ยังต้องมาโดนผู้หญิงที่เป็นแฟนของตัวเองไม่เหลียวแล จนต้องเป็นไข้กลับมานอนซม
ผมถ่อสังขารมาถึงสยามฯ นัดเจอกับพิณที่เก่าเหมือนเมื่อวานทั้งๆ ที่ยังคาดหน้ากากอนามัยสีเขียวอ่อน ผมยืนรอเธอขณะนึกถึงช่วงเวลาที่ผมและพิณคบกันมาปีกว่า
เราสองคนแทบไม่เคยทะเลาะกันเลย
ผมมักได้ยินพิณบอกกับผมเสมอว่า พิณชอบซองที่สุดเลย พร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ผมนึกทีไรก็ชอบคำพูดคำนี้ทุกที มันทำให้ผมรู้เลยว่า ที่เราสองคนมาเจอกันก็เพราะพรหมลิขิต
แต่ การเบี้ยวนัด มันเป็นพรหมลิขิตด้วยหรือเปล่า
ซอง...รอพิณนานไหม
ผมหรี่ตาเล็กน้อย หน้ามอง แฟน ของผม
พิณขอโทษนะ สำหรับเรื่องเมื่อวาน หญิงสาวเจ้าของผมสีดำยาวประบ่าพนมมือขอโทษ สีหน้าสลดตามคำพูดที่เอ่ยออกไป
เมื่อฝ่ายชายไม่พูดอะไร เธอจึงชวนพูดต่อ เดี๋ยววันนี้เราไปทานสุกี้กัน พิณจะสั่งเห็ดดอกเข็มสี่คอนโดให้ซองเป็นพิเศษเลยนะเธอหยุดนิดหนึ่ง แอบลอบสังเกตอารมณ์ของอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าไม่แสดงสีหน้าใดๆ เธอจึงชวนคุยเอาใจต่อ ขณะหยิบบัตรลดราคาตั๋วหนังออกมา บัตรลดตั๋วหนังพิณก็เอามาด้วยนะ เดี๋ยวไปดูหนังกัน พิณอยากดูเรื่อง...
แควก!
ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งสิ้น สิ่งที่ผมทำตอนนี้คือ ฉีกเจ้าบัตรลดตั๋วหนังบ้าๆ ใบนั้น
พิณเบิกตากว้าง ไม่ได้เตรียมการรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้บัตรลดราคาตั๋วหนังของเธอกำลังเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในอุ้งมือใหญ่ของ คนที่เธอชอบที่สุด
ทะ
ทำแบบนี้ทำไมซอง เสียงของเธอแผ่วเบาแทบไม่เกินเสียงกระซิบ
ทำไมเมื่อวานพิณไม่มา ผมถอดหน้ากากอนามัยออกก่อนระเบิดคำพูดกลบเสียงของเธอเสียมิด
ผมโทรไปตั้งหลายรอบ พิณก็ไม่โทรกลับมาบอกสักคำว่ามาไม่ได้ ปล่อยให้ผมยืนรอพิณจนต้องเป็นไข้เพราะตากฝน แล้วมาชวนวันนี้มันจะได้อะไรขึ้นมา ผมว้ากใส่หน้าพิณด้วยเสียงห้วนจัด ไม่สนใจว่าใครจะมองผมด้วยสายตาอย่างไร
พิณก้มหน้างุดราวกับคำพูดของซองเป็นค้อนทุบหัวเธอ ก่อนจะตัดสินใจบอกเหตุผลความเป็นจริงว่าเธอไม่สามารถมาได้เพราะ...
ก็...พิณปวดท้องแบบผู้หญิงนี่
อะไรนะ พิณพูดว่าอะไร ผมหูหนวกตาบอดไปชั่วครู่เพราะอารมณ์โกรธ หรือเพราะผมปวดหัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ไม่รู้เลยได้ยินที่พิณบอกไม่ถนัด
พิณปวดท้องเมนส์ หญิงสาวกลั้นใจตอบอีกครั้งด้วยเสียงที่ค่อนข้างชัดเจนที่สุด ใบหน้าหวานแดงระเรื่อด้วยความอายอย่างฉับพลัน
หึ! ข้ออ้าง
ก็ตอนกำลังจะออกจากบ้าน จู่ๆ มันก็ปวดท้องขึ้นมา แล้วพิณก็เลยเผลอหลับไป เธอพยายามอธิบายความเป็นจริง
แล้วไง วันนี้ดูพิณสดใสเหมือนปกตินี่ มันดูฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย
หญิงสาวขมวดคิ้วจ้องเขม็งไปที่นัยน์ตาสีดำเข้มของชายหนุ่ม
มามองผมแบบนี้ทำไม พิณผิดก็ต้องยอมรับผิดสิ
หญิงสาวผงะ นี่เธอผิดหรือ ที่มาตามนัดไม่ได้เพราะปวดท้องประจำเดือน อีกทั้งเธอก็กล่าวคำขอโทษออกไปแล้ว
เธอกัดริมฝีปากนิ่ง รู้สึกเจ็บแปลบในใจจนน้ำตาคลอ
ผมไม่รู้หรอกนะว่า เวลาปวดท้องแบบผู้หญิงมันปวดมากน้อยแค่ไหน อีกอย่างมันก็เป็นเรื่องปกติของทุกเดือนไม่ใช่หรือไง แต่ที่แน่ๆ พี่สาวผมไม่เคยปริปากออกมาสักครั้งเลยว่าปวดเหมือนที่พิณบอก หน้ำซ้ำ
โอ๊ย...!
พิณผลักร่างสูงจนล้มเซแล้ววิ่งจากไป โดยไม่อธิบายใดๆ อีก น้ำตาแห่งความน้อยใจไหลอาบแก้มทั้งสอง ทั้งๆ ที่เธอเอาเหตุผลจริงมาบอกแต่ถูกคำพูดตอบกลับที่ดูไร้น้ำใจเสียเหลือเกิน
อะไรเนี่ยะ ผมนั่งตะลึงงงอยู่ตรงนั้น ก่อนจะพูดออกมาอย่างหงุดหงิด วุ้ย! ไม่เข้าใจผู้หญิงจริงๆ
นายไปพูดกับแฟนของนายอย่างนั้นได้ไงกัน วิทเพื่อนเรียนพิเศษห้องเดียวกับซองและเรียนที่โรงเรียนเดียวกันด้วย ชายหนุ่มเดินเข้ามาช่วยพยุงเพื่อนที่นั่งกับพื้นด้วยอารมณ์หงุดหงิด
ยุ่งน่า ผมสะบัดแขนเมื่อวิทพยายามช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้น
ก็นายไม่เข้าใจนี่นาว่าเวลาผู้หญิงปวดท้องวันนั้นของเดือนมันทรมานแค่ไหน ส้มแฟนของวิท ทั้งสองเป็นเพื่อนที่โรงเรียนเดียวกันกับซอง เธอทำเสียงเหมือนไม่พอใจที่ซองพูดออกไปกับพิณแบบนั้น
ไม่รู้ ก็ผมเป็นผู้ชาย ผมพูดปัดออกไป
นายซอง นายนี่มัน... ส้มกำมือระงับอารมณ์โกรธนิดหนึ่งก่อนจะโผล่งออกไปด้วยความไม่พอใจว่า นายน่าจะลองเป็นผู้หญิงสักครั้งสิน่า
ผมไม่สนใจคำพูดของส้มเลยสักนิด เพราะในความเป็นจริง ผมคือ ผู้ชาย และจะไม่มีวันกลายเป็น ผู้หญิง อย่างเด็ดขาด
แล้วนายสองคนมาทำอะไรแถวนี้
ส้มยังคงโกรธซอง เธอปรายตามองเพื่อนสนิทของเพื่อนชายของเธอด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองเล็กน้อย เธอจึงเลือกการยืนเงียบๆ แทน ก่อนส่งสายตาให้วิทเป็นฝ่ายตอบแทน ก็พี่สาวของนายบอกว่า นายไม่ค่อยสบายบอกให้พานายกลับบ้านนะสิ ผมพยักหน้ารับรู้และเริ่มรู้สึกหวิวๆ ชอบกล สงสัยไข้คงกำลังกำเริบ ต้องรีบกลับบ้านไปกินยาอย่างเร็ว รู้งี้เชื่อเจ้นอนอยู่บ้านก็ดีหรอก พิณจะได้รู้รสชาติแห่งการรอคอยว่ามันเป็นอย่างไร
ผมโกรธพิณมาก ผมคิดว่าเธอน่าจะบอกเหตุผลที่ดีกว่านี้ว่า
ต้องไปธุระกับแม่กะทันหัน
หรือโทรศัพท์มือถืออยู่ในรถเลยไม่รู้ว่าผมโทรไป
หรืออะไรก็ตามแต่ ที่ไม่ใช่มาบอกว่า ปวดท้องประจำเดือน แล้วผมจะรู้ไหม...ว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างหรือปวดจริง
เราเลิกกันพิณ!
ผมรับรู้ความคิดของตัวเองเพียงเท่านี้ ก่อนที่ผมจะเป็นลมเพราะพิษไข้
ผมเห็นดาวในความมืด อืม...ที่เขาบอกว่าเป็นลมจนเห็นดาววิ้งๆ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
เช้าวันรุ่งขึ้น
ซอง...ซอง ตื่นได้แล้วลูก จะนอนไปถึงไหนกัน เดี๋ยวไปโรงเรียนสายหรอก
อืม... ผมตอบกลับแบบไม่เต็มเสียงนัก
เปิดเทอมวันแรกนะลูก ตื่นเร็ว แม่เปิดผ้าม่านให้แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องทั่วห้อง
ผมค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นนั่ง รู้สึกยังปวดหัวหนึบๆ อยู่เลย
เดี๋ยวผมขอยาแก้ปวดหัวอีกสองเม็ดนะครับแม่ ผมได้ยินเสียงแหบพร่าของตัวเองและรู้สึกแสบคอนิดๆ อีกด้วย
หืม แม่มองมาที่ร่างบนเตียง รู้สึกผิดหูกับคำพูดบางคำ ทว่าไม่ได้สนใจนักจึงตอบตกลงไป
ร่างบนเตียงลุกขึ้นยืดแขนเต็มเหยียด บิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนหาวอ้าปากกว้าง เมื่อนัยน์ตาคู่สีดำเห็นสภาพในห้องนอนตัวเองที่แปลกตาจากเดิมไป ปากที่อ้าจึงไม่มีเสียงเล็ดลอดใดๆ
นี่เราละเมอจนมานอนห้องนอนของเจ้เลยหรือเนี่ยะ ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นตุ๊กตาปุกปุยบนชั้นวางหนังสือ มีดอกไม้พลาสติกในแจกันทรงสูง พร้อมกับของตกแต่งห้องเป็นรูปลูกบอลแก้วมีฐานวาง ภายในตกแต่งเป็นทิวทัศน์ใต้ทะเลเป็นคอลเลคชั่นเรียงรายหลายลูกทีเดียว
แม่ฮะ นี่เจ้แต่งห้องนอนได้น่ารักหวานแหววได้ขนาดนี้เลยเหรอฮะ อ้าว...แม่ตัดผมสั้นเหรอฮะ ผมถามแม่ออกไปขณะคว้าเจ้ารูปลูกบอลแก้วพร้อมฐานวางจับคว่ำลง หิมะสีขาวก็โปรยปรายลงมาในทะเลลูกแก้ว จริงๆ แล้วผมไม่เคยสนใจห้องนอนของพี่สาวคนเดียวของผมเลย
อ้าว...นี่มันไม่ใช่ห้องของตัวเองหรือไง แล้วแม่ก็ไว้ผมสั้นมาตลอด ซองพูดจาอะไรแปลกๆ แม่เอียงคอถาม
ผมแทบจะทำเจ้าลูกบอลแก้วหลุดจากมือ แต่เมื่อสามัญสำนึกบอกว่าเป็นของพี่สาวสุดโหดจึงวางไว้ที่เดิมก่อนตะโกนออกไปอย่างหงุดหงิด
มันไม่ตลกเลยนะแม่ นี่แสดงว่าเจ้แกล้งอะไรผมอีกแน่ๆ เลย ผมชักรู้สึกฉุนที่โดนพี่สาวแกล้งอยู่เป็นประจำ แต่ครั้งนี้มันจะแรงไปหน่อยแล้ว
เฮ้ย! อะไรเนี่ยะ ผมลุกจากเตียง มองชุดนอนกระโปรงยาวตัวเดียวลายกระต่ายน้อยที่คลุมทับร่างของผม
แม่! นี่มันชุดนอนของผู้หญิงนี่
แม่กำลังทำท่าจะเดินออกจากห้อง เห็นเจ้าของห้องโวยวายเสียงดังลั่นจึงหันมาตอบ ก็ใช่นะสิชุดนอนของผู้หญิง ไม่เห็นแปลก แถมเป็นชุดโปรดของลูกด้วยนะ ผมรู้สึกขนลุกเกลียวขึ้นมาทันทีทันใด
แม่! ผมเป็นผู้ชายนะครับ
เหรอ... แม่หัวเราะกับคำพูดที่เพิ่งได้ยิน
เอาล่ะสิ ผมเริ่มปวดหัวหนึบ นี่แม่ผมเป็นอะไรไปเนี่ยะ
เอะอะอะไรกันแต่เช้าฮะ เสียงทุ้มห้าวเอ่ยทัก
ผมหันมองผู้เข้ามาใหม่ทันที รู้สึกไม่คุ้นหน้าจึงได้แต่นั่งมองเงียบๆ เป็นเชิงถาม ผมนิ่งเงียบอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะชี้หน้าเขาหันไปถามแม่
ไอ้หนุ่มหน้ามนที่ใครครับแม่
หนอย...เรียกพี่ชายสุดเท่อย่างนี้หรอ สักป๊าปแต่เช้าดีไหม
แล้วผมก็โดนเบิ๊ดหัว เหมือนเช่นปกติจากพี่ชาย เอ๊ย...ไม่ใช่สิพี่สาว
อึ๋ย! ผมมีแต่พี่สาวคนเดียวนะ
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...
ใครก็ได้ตอบผมที...
แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 23:43:37
จากคุณ |
:
ColdOut
|
เขียนเมื่อ |
:
14 มิ.ย. 53 23:38:13
|
|
|
|