Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สวนสัตว์แห่งแรกของหาดใหญ่ (ข้อมูลเพิ่มเติม)  

สวนสัตว์แห่งแรกของหาดใหญ่ (ข้อมูลเพ่ิมเติม)

จากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมบุตรชายเจ้าของสวนส้ตว์
ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากเดิมประกอบกับความทรงจำคือ
แต่เดิมพื้นที่ตั้งสวนสัตว์แห่งนี้
เป็นทุ่งนา ทุ่งหญ้ารกร้าง บางส่วนเป็นที่เลี้ยงวัวบ้าน/วัวชนของชาวบ้าน
แต่วัวดีมีราคาและวัวชนชั้นดีจะเป็นของกำนันวร ทวีรัตน์
กำนันตำบลหาดใหญ่คนสุดท้าย
(กำลังรวบรวมข้อมูลและความคิดจะเขีียนถึงท่านสักบท
แบบว่ามีความทรงจำที่ดีกับท่านสมัยเด็ก ๆ สองสามเรื่อง)
วัวทั่วไปที่สมัยก่อนมักจะเดินทางท่องเที่ยวอยู่บนถนนสามสิบเมตร
หรือถนนศรีภูวนารถ จนเป็นที่รู้กันเรียกกันว่า วัวกำนันบ้าง วัวผู้ใหญ่บ้านบ้าง

เมื่อเจ้าของสวนสัตว์แห่งนี้ได้ซื้อที่ดินแปลงนี้มา
ก็เร่ิมทำการขุดคลอง ขุดคูน้ำ
เพื่อยกระดับพื้นดินถมให้สูงขึ้นแทนการซื้อดินลูกรังมาถม
เพราะสมัยก่อนรถยนต์ รถบรรทุก ก็หายากและแพงส่วนหนึ่ง
กอปรกับส่วนมากจะใช้ทำมาหากินในงานเหมืองแร่ดีบุก
ที่ทำรายได้และราคาดีกว่ารับจ้างให้กับชาวบ้าน
เหมืองแร่ดีบุกที่อยู่รอบ ๆ หาดใหญ่ มีหลายแห่ง
เช่น นาหม่อม แถวควนจง ยังมีขุมเหมืองอยู่
บางส่วนตอนนี้เป็นที่ตั้งรีสอร์ทและโรงงานผลิตอาหารกระป๋อง
หูแร่(ใกล้กับน้ำตกโตนงาช้าง)
หูแร่ คือ สายแร่ดีบุกสองหรือมากกว่าสองสายแร่วิ่งมาชนกัน
การขุดแร่ดีบุกจะได้มากกว่าปกติ
ชาวบ้านที่ได้สายแร่แบบนี้
มักจะคุยอวดกันว่าได้ห้ิวแร่แบบหิ้วหูขึ้นมาเลย
ใครขุดเจอมักจะรวยโคตร ๆ (ภาษาวัยรุ่นปัจจุบัน)
ดินลาน (บ้านเก่าเหล่าขาว ในเรื่องชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์)
ก็ยังมีขุมเหมืองอยู่ แต่ต่อนนี้ขายขุมเหมืองกันราคาแพงพอ ๆ กับดินที่ราบถมเสมอถนน
เพราะเก็งกันว่าอิีกหน่่อยน้ำหายาก แบบภูเก็ต เกาะสมุย

หลังจากนั้นก็เจ้าของสวนแห่งนี้ก็เร่ิมทะยอยสั่งซื้อสัตว์ป่ามา
ทีแรก ๆ ก็เลี้ยงไว้เพราะความชอบส่วนตัว
จากการได้ไปเที่ยวไปชมสวนดุสิตที่กรุงเทพฯ และเมืองนอก (ปีนัง)
ทำให้เกิดแรงบันดาลใจอยากทำสวนสัตว์
เพื่อเป็นสถานพักผ่อนส่วนตัวภายในครอบครัว และเพื่อนฝูง
ก่อนเร่ิมมีการขายบัตรเพื่อรายรับส่วนหนึ่ง
ถามว่าคุ้มหรือไม่คุ้มกับรายรับรายจ่าย
ก็ไม่ถึงกับกำไร แต่เพื่อลดรายจ่ายบางส่วน
และเป็นส่วนหนึ่งของความชอบใจส่วนตัวเท่านั้น
เพราะจริง ๆ แล้วการลงทุนประเภทนี้ก็สูงอยู่มากแล้ว
เช่น ที่ กาญจนบุรี หรือสวนข้างอยุธยา ยังลำบากเลยแม้ในยุคนี้
ดังปรากฎในหน้าหนังสือพิมพ์ที่ผ่านมา

ส่วนสัตว์ป่าสมัยนั้นการซื้อขายยังไม่เข้มงวดมากนัก
ทำให้มีหลากหลายชนิด เช่น ลิง ค่าง เสือ หมี หมาป่า เป็นต้น
โดยใส่ไว้ในกรงขัง (ตามภาพเดิม) ที่มีทางเดินเท้าด้านหลังสำหรับให้อาหาร

ส่วนสระน้ำแยกเป็นสองสระออกจากกัน
คือสระหนึ่งเป็นที่เลี้ยงจระเข้ เพราะค้องขังไว้เป็นที่เป็นทาง
ส่วนอีกสระหนึ่งเป็นลำคลองไว้เลี้ยงปลาขะโด ปลาช่อน ปลาสวาย/สวยงาม
ไว้สำหรับการผักผ่อนและกีฬาทางน้ำ(ไม่ถึงกับว่ายน้ำ)
มีเรือพาย และจักรยานน้ำทำจากไม้กระดานกันน้ำ
คุณภาพในสมัยนั้นเทียบกับปัจจุบันไม่ถึงกับดีมากนัก
แต่ก็เป็นอะไุรที่หรูหรามากแล้วและพักผ่อนหย่อนใจได้
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มากันเป็นครอบครัว และหนุ่มสาวทั่วไป
จำได้ช่วงหลัง ๆ มีคนชายมาเลย์พาแฟนคนไทยไปเที่ยวกันมากขึ้น

ส่วนด้านหน้าที่เป็นด้านหลังกำแพงที่ขายไม้ดอกไม้ประดับตอนนี้
ก็มีการปลูกสวนประดิพัทธ์กับสวนฉัตร เพื่อความสวยงาม
และมีการนำทรายแก้ว จากสงขลา
ถ้าจำไม่ผิดจากแถวทุ่งหวัง แต่ก่อนมีมาก
คนแถวนั้นรุ่นเก่ารุ่นแก่เล่ากันว่า
สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพญี่ปุ่น ลงทุนสร้างถนนให้ฟรี
เพื่อขนทรายดังกล่าวกลับประเทศญี่ปุ่น ไปทำอุตสาหกรรมแก้วและอื่น ๆ
แต่บางส่วนก็ขนจากทรายหาดสงขลา
เพราะสมัยก่อนไม่ค่อยมีการหวงห้ามหรือยึดถือหลักกฎหมายว่า
แร่ ท่านให้หมายความถึง ทราย ด้วยอะไรทำนองนั้น
โดยนำทราบมาถมสูงประมาณศอกเศษ
ประมาณว่าไม่เกินกว่าสองสามห้องแถว
เพื่อความสวยงามและบรรยากาศแบบกึ่งทะล กึ่งชายหาด

เพราะสมัยนั้นการไปสงขลาไปได้สองทางหลักคือ
ทางรถไฟหาดใหญ่-สงขลา กับทางรถยนต์
แต่จัดว่าไกลมาก ถนนสองเลน รถราก็น้อย
แถมรถไฟตัดไปตัดมาผ่านถนนหลายจุดในสมัยนั้น
แปลกทีว่ารถไฟชนกับรถยนต์มีค่อนข้างน้อย
แต่จำได้ว่าครั้งหนึ่งนั่งรถยนต์กลับบ้านกับพ่อ
เจอเหตุการณ์รถไฟชนรถยนต์โดยสารคนจากต่างจังหวัด
จำได้ส่วนหนึ่งว่าเป็นคนมุสลิมเป็นส่วนมาก
ปรากฎว่ามีคนเจ็บตายเกลือนถนนสายสงขลา หาดใหญ่
เป็นข่าวโจษจันและน่าหวาดกล้วมากสำหรับเด็ก ๆ
เพราะเห็นศพและคนเจ็บนอนร้องครวญครางข้างทาง
พร้อม ๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ พยาบาล และชาวบ้าน
มาช่วยเหลือเยียวยาคนเจ็บคนตายกันข้างถนนสายนี้

ในยุคนั้นพอเดินออกจากสถานีรถไฟสงขลา
ก็ต้องเดินด้วยปลายเท้าไปชายหาดสมิหรา
ถ้าไม่มีเงินว่าจ้างรถสามล้อรับจ้าง
คนในยุคนั้นเลยเดินกันค่อนข้างเก่่ง
เพราะรถราหายากและแพงส่วนหนึ่ง
กับเงินทองหายากด้วยในยุคนั้น

แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 22:17:18

จากคุณ : ravio
เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 22:06:25




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com