Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
…StalkinG… ล่าฉันทำไม?  

เป็นเวลานานถึงสองเดือนกับอีกสิบห้าวัน  กว่าฉันจะตัดสินใจเขียนระบายความอึดอัดความคับข้องใจในเรื่องราวต่อไปนี้ได้  เคยคิดทบทวนหลายครั้งว่า  เรื่องราวปัญหาส่วนตัวก็ไม่ควรนำออกมาเผยแพร่สู่สายตาชาวบ้าน แต่ทว่า เมื่อความเป็นส่วนตัวถูกรุกราน  แต่ละวันๆ ผ่านไป มันทำให้เกิดความรู้สึก อึดอัด ทนไม่ไหว จนสุดท้ายกลับกลายเป็นความรู้สึกต่อต้าน และแตกหักในที่สุด



การมีชีวิตอยู่ต่างบ้านต่างเมืองก็ย่อมคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนเป็นธรรมดา   ด้วยความบังเอิญก็ว่าได้ ที่ทำให้รู้จักห้องถนนนักเขียนเมื่อสามปีก่อน  รู้สึกผูกพันกับเพื่อนๆ  หลงรักในตัวอักษร จากคนอ่านก็เริ่มหัดเขียนอะไรเองบ้าง จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน  ทุกครั้งที่เวบพันทิปปิดให้บริการ ฉันรู้สึกเหมือนว่าบางสิ่งบางอย่างในชีวิตขาดหายไปด้วย



ชีวิตฉัน กับห้องถนนนักเขียน และ บล๊อกแกง ก็ดำเนินไปตามปกติ มาตลอดเวลา  จนกระทั่งได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่งในห้องถนนในฐานะคนอ่านและคนเขียนเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นหลังไมค์ ครั้งแรกที่เธอส่งมาหาฉัน  ข้อความเรื่องราวที่เธอพูดถึงก็ปกติธรรมดาเหมือนของคนอื่นทั่วๆไป  ฉันเองก็ไม่คิดว่า การตอบกลับหลังไมค์ครั้งนั้นตามมารยาท จะทำให้ปัญหาต่างๆตามมาอีกมาก



ช่วงแรกๆของการพูดคุยก็เป็นไปตามปกติ ทักทายกันหน้ากระทู้  ฉันไปอ่านกระทู้ของเธอบ้าง เม้นต์บ้าง ไม่ได้เม้นต์บ้างตามแต่สะดวกเป็นการตอบแทนน้ำใจที่เธอมาอ่านกระทู้ฉันบ่อยๆ  หลังไมค์ ของเธอ ส่วนมากจะเป็นการชื่นชม งานเขียนของฉันมากกว่า  แต่ไม่นานนัก เธอก็เริ่มเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองออกมาทีละเล็ก ทีละน้อย เธอสารภาพว่าเธอรู้สึกดีๆกับฉันมากกว่าคำว่า “ เพื่อน” และนั่นคือ  “เธอรักฉัน ...”



ฉันอึ้งอยู่นานหลายวัน พยายามหาคำพูด และแนวทางในการปฏิบัติตัวมาใช้กับเธอ เพราะไม่อยากให้เธอคิดอะไรไปมากกว่าที่เป็นอยู่  ฉันย้ำกับเธอว่า “ teansri”  เป็นผู้หญิง และไม่ได้มีรสนิยมรักเพศเดียวกัน หากแต่ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ฉันไม่ต้องการ  เธอเริ่มตัดพ้อต่อว่าทางหลังไมค์ ว่าทำไมฉันไปไหนมาไหนแล้วไม่บอกให้เธอรู้ ??? (ฉันควรต้องรายงานเธออย่างนั้นหรือ?)   ทำไมฉันไม่ตอบหลังไมค์ เธอเลย   หนักเข้าเธอก็เอาข้อความทางหลังไมค์ของฉันมาตั้งกระทู้  โดยละชื่อคนส่งไว้ฐานที่เข้าใจ ไม่นับรวมกระทู้อื่นๆที่เธอเขียนพร่ำพรรณาถึง แม้คนอ่านจะไม่รู้ว่าเธอหมายถึงใคร  แต่สำหรับฉัน แค่หัวข้อกระทู้ก็ รู้สึกว่ามันเริ่มใกล้ตัวมามาก  



แต่ด้วยความที่ไม่อยากทำอะไรรุนแรงและไม่อยากให้ความเป็น “ เพื่อน” ในห้องถนน ของเราต้องพังลงในพริบตา  ฉันก็ยังใช้ไม้อ่อนกล่อมเธอบ่อยๆ ขอให้เธอทิ้งระยะห่าง ความเป็นส่วนตัวให้ฉันบ้าง และบอกให้เธอรู้เสมอว่า ฉันคิดกับเธอแค่ เพื่อน เท่านั้น  ...แน่นอนเธอรับมันไม่ได้  เธอเริ่มบอกฉันว่า เธอเจ็บป่วยด้านจิตใจ  เธอขอให้ฉันรับเธอไว้เป็นคนไข้ในใจ (คือการตอบรักเธอ)   หากคืนไหนฉันไม่ตอบกลับหลังไมค์เธอ  ข้อความเกี่ยวกับ การกินยาเกิดขนาด อาการทุกข์ทรมาน อาการหายใจไม่ออก ของเธอก็เริ่มส่งมาหาฉัน เหมือนให้ฉันรู้สึกผิด ที่ทำให้เธอรู้สึกและเป็นแบบนั้น   เธอรอฉันแทบทุกคืน จนถึงหกโมงเช้าที่เมืองไทย  เพื่อให้ฉันตอบหลังไมสักครั้ง   แถมเธอยังรู้อีกด้วยว่าฉันออนไลน์ ด้วยการเอาชื่อล็อคอินของฉันไปกูเกิ้ลหาว่าฉันไปเม้นต์กระทู้ไหน ที่ไหนเมื่อไหร่ และอย่างไรมาบ้าง



เรื่องราวส่วนตัวของเธอ  ของคนที่เรียกตัวเองว่า “เจ็บป่วยทางจิต”  ถูกส่งมาหาฉันอย่างต่อเนื่อง  เธอบอกว่าเธอ ทุกข์ทรมานมากๆ มีเพียงฉันเท่านั้นที่จะช่วยเธอได้   จำนวนหลังไมค์  191 ฉบับภายในสองเดือน  ทำให้พื้นที่เก็บข้อความของฉันเหลือเพียงน้อยนิด  ในที่สุด..ฉันก็ตัดสินใจผิดพลาด  ยอมให้อีเมล์ (สำรอง) เธอไปตามคำขอร้อง   เพราะเธออยากจะเขียน อยากจะระบาย ความรู้สึกในนั้น ฉันจะอ่านหรือไม่เธอไม่รู้ได้  ... แต่ที่แน่ๆ เธอเมล์มา 29 ฉบับ ภายใน 30 วัน



ฉันตัดสินใจอีเมล์ อธิบายและขอร้องเธออีกครั้ง ถึงพฤติกรรมต่างๆ เธอสัญญาว่า จะไม่ตามฉันอีก เธอจะปล่อยให้ฉันอยู่ในโลกตัวอักษรของฉันต่อไปเหมือนเก่า   เพราะเธอเองก็รู้ว่าช่วงหลังๆ ฉันแทบไม่กล้าโพสต์งานเขียนเลย  จะเขียนกลอนสักบท ก็ยากลำบากเพราะความรู้สึกที่ว่า ใครบางคนกำลังจับตามองฉันอยู่   ...ใช่...เธอสัญญา ว่าจะจบทุกอย่างให้ฉัน เธอรับรู้ถึงความอึดอัดความลำบากใจของฉันมาตลอด  แต่ก็ยังคงพยายามขอร้องฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ให้กลับไปคุยกับเธอ แม้จะแค่ เพื่อนก็ตาม     โดยเธอรับปากว่า เธอจะทำตามคำแนะนำของฉันทุกอย่าง แต่ทว่า...เธอทำผิดสัญญา  เธอไม่ปฏิบัติตาม  เธอไม่เข้าใจภาษาไทยของฉัน  เธอพูดจาวกวน เธอทำให้ฉันถอยห่างออกมาโดยไม่คิดจะรับฟังเหตุผลอะไรของเธออีก แม้เธอจะเอาเรื่องความเป็นความตายมาพูดก็ตาม... แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะจบลงง่ายๆเพราะ...



เธอย้อนกลับไปค้นกระทู้เก่าๆในคลังกระทู้ของห้องถนน ที่ฉันเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2551 ไปรีวิวในบล๊อกเธอ  ทุกเพลงในบล๊อกฉันเธอก็ลากไปใส่บล๊อกเธอ  เขียนเรื่องราวถึงฉันตลอด  ไปรื้อ บล๊อกฉันอ่าน และเม้นต์แทบทุกหัวข้อบล๊อก ก็ว่าได้ ... เธอกำลัง รวบรวมเอาจิตวิญญาณของฉันไปจับจองกักขังอยู่ในบล๊อกของเธอ...นี่กระมังจุดแตกหักจึงได้เริ่มขึ้น  



ฉันไปปรึกษาเพื่อนคนหนึ่ง  ที่ฉันให้ความนับถือ และรับฟังข้อแนะนำความคิดเห็นมาตลอด เพื่อนคนนี้ก็ใจดี  หลังไมค์ ไปช่วยบอกให้เธอลบเรื่องราวข้อมูลของฉันออกจากบล๊อกของเธอ ...แน่นอน เธอทำให้ และบอกว่า เธอจะคืนล็อคอินให้พันทิปไปคล้ายๆกับว่า  เธอทำทุกอย่างเพื่อฉันคนเดียว ทั้งที่ฉันไม่ได้ต้องการอย่างนั้น   เธอถามฉันว่า ทำไมไม่บอกเธอดีๆ  เธอไม่ต้องการให้ ไอ้หน้าไหนมายุ่งเกี่ยวกับเธอทั้งนั้น (นี่คือคำพูดที่เธอพิมพ์ )   ฉันหยุดสื่อสารกับเธอไปหลายวัน  เพราะเหนื่อยจะอธิบาย รู้สึกเหมือนกำลังคุยกับคนไข้จิตเวชที่ รพ . เพราะต้องพูดซ้ำๆ ตอบคำถามเดิมๆของเธอตลอด  บางครั้งเธอก็มาดีๆ  บางวันก็มาแบบมีเงื่อนไขของสุขภาพจิตมาต่อรอง บางคืนก็มาเขียนร่ำลา อวยพรให้ฉันโชคดี ในทุกๆด้าน  แม้เธอจะต้องทุกข์ทรมานต่อไป  มันเกือบจะจบแล้วเชียว...ถ้าเธอเงียบและยอมถอยอย่างที่รับปากเอาไว้  



หากแต่คราวนี้ เธอตามล่าฉันด้วยการปลอมตัว ไปห้องแชทของพันทิป ไปนั่งเฝ้าดูฉันคุยกับใครต่อใคร (สิทธิของฉันไม่ใช่หรือ ? และเธอก็ใจดี อีเมล์มาบอกทำนองว่า เธอตามหาฉันเจอแล้ว !!!) และปลอมชื่อไปเม้นต์ในบล๊อกฉัน แทนชื่อเก่าของเธอ โดยไม่คิดว่าฉันจะรู้...แต่เลข ไอพี  นี่สิ ... นอกจากนั้น เธอก็เริ่มขุดเอาเรื่องราวของคนที่เกี่ยวข้องกับฉันในโลกแห่งความจริงมาพูดถึง  แน่นอนเธอคงนั่งประมวลเอามาจากเรื่องสั้นต่างๆ  ลงทุนซื้อเพคเกจทัวร์ รอให้ฉันกลับไป เพื่อจะไปอ่าวนาง สถานที่สุดโปรดที่ฉันเคยไปกับคนรักเมื่อสมัยอยู่เมืองไทย ...รวมทั้งส่งเมล์ข้อความที่ไม่ให้เกียรติเพื่อนในห้องถนนของฉัน  เช่น



“ พวกอาจารย์ๆ ทั้งหลายน่ะ ไม่มีใครจริงใจกับฉันหรอก  ชอบมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเธอ”



“ เรากำลังทำร้ายคุณ คุณกำลังอึดอัดใจมาก ลำบากใจมาก *** จนอีกคน บก ของคุณ (เป็นแค่อีกหนึ่งคน ในอีกจำนวนมากมายในชีวิตจริงของคุณและยังมีอีกหลายคนทั่วโลก ที่เราบังอิญไปเห็นคุณในห้องแช๊ท)  ขณะนี้มีคนนี้ แสดงตน แสดงความเป็นเจ้าของคุณ แม้ในโลกออนไลน์ ส่งตรงหลังไมค์มาถึงเรา  และตั้งแต่หลังไมค์มา คล้ายๆตั้งใจติดตามเป็นจริงเป็นจังงานเขียนของเรามากผิดปกติ  ทั้งๆที่ บก ของคุณ เคยเป็นคนที่เรานับถือความคิดเค้า  แต่วันนี้ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว เราไม่เคยรู้จักเลยและไม่คิดอยากรู้จักด้วย   เราไม่อยากได้เห็นอีก สำนวนนักเขียนที่ใช้ปากกาเป็นอาวุธของ บก คุณ   เราโง่ ไม่ได้คิดว่า...เจ้าของคุณอีกคน เค้ามาแสดงสิทธิ์แล้ว ”



และอีกหลายๆอย่าง ที่เป็นเรื่องราวส่วนตัวและไม่อาจจะนำมาเผยแพร่ได้   ฉันไม่รู้ว่า เธอกำลังบ้าจริงๆ หรือแค่อยากบ้า  ...แต่ที่แน่ๆ คนอย่างฉันก็บ้าได้เหมือนกันเมื่อมันมาถึงจุดหมดความอดทน  เธอคิดว่าฉันกับ บก.คนนั้น มีสัมพันธ์กันมากกว่าแค่เพื่อนในห้องถนน  และถ้าใครๆรู้ว่า บก. คนนั้นคือใครก็คงจะอึ้ง ทีเดียว  ลำพัง เธอรุกราน ไล่ล่าฉัน ก็พออดทนได้  แต่นี่ เธอลามไปถึงเพื่อนของฉัน และคงเป็นความซวยของคุณ บก. ที่เข้ามาช่วยเหลือฉันตั้งแต่ต้น   ฉันเลยตัดสินใจ โทรศัพท์  ไปชี้แจงเธอถึงเรื่องต่างๆอีกครั้ง รวมทั้งเรื่องเพื่อนคนที่เป็น บก. แม้จะเป็นการตัดสินใจผิดพลาดอีกครั้ง ก็เถอะ  (เธอทิ้งเบอร์โทรไว้ให้หลังจากที่ฉันไม่ตอบหลังไมค์ และไม่ตอบเมล์เธอเลย) ว่ามันไม่ใช่แบบที่เธอเข้าใจ  ฉันไม่ต้องการให้ชื่อเสียงของเพื่อนฉันมาเสียหายเพราะเรื่องบ้าๆ อย่างนี้  



เราคุยกันนานเกือบสิบนาที  ไม่แน่ใจว่าเธอเข้าใจภาษาไทยของฉันหรือเปล่า  แต่ก็เธอปฏิเสธทุกอย่าง  บอกว่าเธอไม่ได้คิดร้ายอะไร  รับปากว่าจะไม่ทำเรื่องต่างๆอีกแล้ว  และคงจะหายตัวไปจากห้องถนน  ทำนองว่าเพราะฉันอีกนั่นแหละ ทำให้เธอต้องหายไป และเธอก็ตั้งกระทู้อำลาไปแล้วเร็วนี้ๆ    ก่อนวางสาย ฉันบอกเธอไปว่า



“ คุณอายุขนาดนี้แล้ว  เลิกคิดเถอะกับการทำตัวแบบนี้  หากคุณต้องการเพื่อนสักคน ก็อย่าไปไล่ล่าใครแบบนี้อีก  เพราะทุกคนคงจะวิ่งหนีคุณแน่นอน  คุณไม่ได้เป็นโรคจิตหรอก  แต่คุณอยากป่วยแค่นั้นเอง  และเลิกเอาปัญหาสุขภาพมาต่อรองกับความรู้สึกของฉันเสียที ”  



ฉันไม่ได้ รังเกียจความรักในเพศเดียวกัน  แต่ฉันยอมรับพฤติกรรม ของเธอคนนั้นไม่ได้จริงๆ  อย่าว่าแบบคนรักเลย  แม้แต่ความเป็นเพื่อน ฉันก็คงให้เธอไม่ได้อีก  ทุกอย่างมันควรจะจบลงเสียทีกับสองเดือนกว่าๆ ที่ฉันพยายามทำความเข้าใจ และให้อภัยเธอมาตลอด  แต่มันก็ไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวังเอาไว้



***

แม้คุณจะคิดว่า ทำไมฉันต้องโหดร้ายขนาดมาตั้งกระทู้แบบนี้   คุณก็ลองนึกย้อนการกระทำของคุณบ้างก็แล้วกัน  ขอร้องเถอะนะ  เลิกไล่ล่าฉัน เลิกกูเกิ้ลหาความเคลื่อนไหวของฉัน  เลิกอ่านงานเขียนของฉัน ห้ามไปเม้นต์ ในบล๊อก  และที่สำคัญ เกลียดฉันไปเลยดีกว่า  ...เพราะฉันไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับคุณอีก ได้ยินมั้ย???   คำตอบที่คุณถามมาตลอด ... มันสมบูรณ์แบบในตัวของมันเองแล้วนะ ... หากคุณคิดว่าคุณป่วยเป็นโรคจิตจริงๆ   ก็ขอให้คุณโชคดี  รักษาหายป่วยไวๆ เลิกคิดว่า โลกนี้ไม่มีใครเข้าใจคุณเลย  และกลับมาใช้ชีวิตอย่างคนปกติทั่วไป ในเร็ววันค่ะ


***




ขอโทษทุกท่านที่เสียเวลาอ่านและขออนุญาตใช้พื้นที่ห้องถนนนักเขียนด้วยค่ะ

จากคุณ : teansri
เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 01:45:50




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com