รักวุ่นวายของยัยพริกขี้หนู! <ตอนที่ 4 ปรอทแตก!>
|
|
รักวุ่นวายของยัยพริกขี้หนู! :: พวงพริก
ตอนที่ 4 ปรอทแตก!
“คุณพัทร์รวีใช่มั้ยคะ”
อันตราถามด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่เป็นมิตร เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดนักศึกษาเดินมาด้อมๆ มองๆ แถวหน้าห้องของเจ้านายเธอ
พัทร์รวียิ้มกว้าง “ใช่ค่ะ”
“คุณดลประชุมอยู่ เชิญคุณพัทร์รวีรอด้านในเลยค่ะ” เธอบอกพร้อมกับลุกขึ้นมาเปิดประตูห้องทำงานของเมธาดลให้หญิงสาว
“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ต้องเรียกพริกว่า ‘คุณ’ ก็ได้” พัทร์รวีบอกอย่างเป็นกันเอง เพราะท่าทางที่เป็นมิตรจากอีกฝ่ายทำให้หญิงสาวไม่ต้องวางฟอร์มอีก
“ชื่อพริกเหรอคะ น่ารักจัง ดิฉันอันตราค่ะ เป็นเลขาฯ ของคุณดล”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณอันตรา”
“เช่นกันค่ะ ว่าแต่น้องพริกจะดื่มอะไรคะ พี่จะจัดให้” อันตราถาม เธอรู้สึกถูกชะตากับสาวน้อยคนนี้เป็นพิเศษ
“ขอน้ำเปล่าก็ได้ค่ะ ขอบคุณมาก”
“ได้ค่ะ” อีกฝ่ายบอกก่อนถอยออกไป
พัทร์รวีทรุดตัวลงนั่งที่ชุดรับแขกมุมห้อง ดวงตากลมโตกวาดมองสำรวจไปรอบๆ ห้องทำงานของเมธาดล จุดประสงค์เพื่อฆ่าเวลามากกว่าจะสนใจอย่างจริงจัง หากกรอบรูปที่วางเรียงรายอยู่บนชั้นลอยเยื้องโต๊ะทำงานเรียกความสนใจจากเธอได้เป็นพิเศษ
หญิงสาวลุกไปดูใกล้ๆ กรอบรูปอันแรกเป็นรูปของคุณมนรดีกับผู้ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานซึ่งมีใบหน้าละม้ายเมธาดลอยู่มาก ถัดมาเป็นรูปเจ้าของห้องกับพี่ชายของเธอยืนกอดคอกัน ทั้งสองคนอยู่ในชุดนักกีฬาบาสเก็ตบอล ใบหน้าอ่อนเยาว์ของทั้งคู่กำลังแข่งกันเปิดยิ้มกว้าง ริมฝีปากอิ่มจึงคลี่ยิ้มอย่างขบขัน
พี่ไทยเคยยิ้มกว้างแบบนี้ด้วยเหรอ แถมผู้ชายอีกคนเวลายิ้มแล้วเขาก็ดู...ใช้ได้เหมือนกันนะ
อันตรากลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมแก้วน้ำเย็นเจี๊ยบ เห็นอีกฝ่ายสนใจรูปของเจ้านายกับเพื่อนรักนักจึงมีน้ำใจช่วยอธิบายโดยไม่รู้ว่าพัทร์รวีใกล้ชิดกับพีรวัฒน์มากใครทั้งหมด “นั่นคุณดลกับคุณพีค่ะ คุณพีเป็นเพื่อนสนิทของคุณดลเลยนะคะ รู้สึกว่าทั้งสองคนจะรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนที่ต่างประเทศน่ะค่ะ”
พัทร์รวีหันมาส่งยิ้มให้อันตราแล้วชวนคุยอย่างเป็นกันเองตามประสาคนอัธยาศัยดีเด่นมาตั้งแต่เกิด “ขอบคุณค่ะ ว่าแต่คุณอันตราทำงานที่นี่นานรึยังคะ”
“เรียกพี่ว่า ‘พี่อัน’ ก็ได้ค่ะ พี่ทำงานกับคุณดลมาสามปีแล้ว ตั้งแต่เรียนจบ”
“โห...นี่พี่อันทำงานกับหมอเอ้ย...พี่ดลมาตั้งสามปีแล้วเหรอคะ นานเหมือนกันเนอะ” เธอว่าพลางยิ้มแหยๆ เกือบหลุดคำว่า ‘หมอนั่น’ ออกมาแล้ว ดีที่ยั้งปากไว้ทัน
อันตรายิ้ม “ก็เข้ามาพร้อมๆ กับที่คุณดลเข้ารับตำแหน่งประทานกรรมการพอดีเลยค่ะ”
“แล้วพี่เอ้ย...คุณพีล่ะคะ เขาทำงานที่นี่เป็นยังไงบ้าง” นี่ก็เกือบพลาดอีกแล้ว ดีที่นึกทัน เธออยากรู้ว่าเวลาทำงานพี่ชายจะดุเหมือนตอนที่อยู่ด้วยกันไหม แต่ไม่อยากให้อันตรารู้ว่าเธอเป็นน้องสาวของเขา ไม่อย่างนั้นข้อเท็จจริงอาจจะบิดเบือนได้
อีกฝ่ายอมยิ้มแล้วบอกด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ “รายนี้ดุยิ่งกว่าคุณดลอีกค่ะ เชื่อไหมล่ะ พนักงานที่นี่กลัวคุณพีมากกว่าคุณดลอีกนะคะ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” พัทร์รวีทำหน้าปลงๆ
ก็ไม่น่าถามนี่นะ เธอเป็นน้องแท้ๆ เขายังดุขนาดนั้น แล้วกับคนอื่นล่ะ อึ๋ย...ไม่อยากจะคิด
“เอ่อ...แล้วคุณพีมีเลขาฯ ส่วนตัวแบบนี้บ้างไหมคะ” ซักต่ออย่างสนใจ
“มีค่ะ แต่เลขาฯ ของคุณพีเป็นผู้ชาย” อันตราตอบแล้วลอบอมยิ้มจนน่าสงสัย
พัทร์รวีทำตาโต “มีเลขาฯ เป็นผู้ชาย?”
“ค่ะ นี่พนักงานก็แอบเม้าท์กันสนุกปากเลยล่ะค่ะ ว่าคุณพีเป็นเกย์” อันตราบอกด้วยเสียงที่เบาลงอีกเหมือนกลัวว่าใครจะมาได้ยินเข้า
พัทร์รวีอึ้งไปห้าวินาที
พี่ไทยน่ะเหรอเป็นเกย์ ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้ ไม่จริง!
“จริงๆ นะคะ เนี่ยพวกสาวๆ ยังบ่นเสียดายกันอยู่เลย คุณพีน่ะออกจะหล่อแล้วก็ดูดีซะขนาดนั้น ความจริงพี่เองก็แอบเสียดายอยู่เหมือนกันนะคะ” อันตราบอกยิ้มๆ ด้วยท่าทางขี้เล่นสนุกสนานเหมือนเป็นการพูดขำๆ มากกว่าจะจริงจัง
‘ก๊อกๆ’ เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น
“เดี๋ยวพี่มานะคะ” อันตรารีบออกไปรับหน้าแขกด้านนอกโดยปล่อยให้แขกของเจ้านายรออยู่ด้านในเพียงลำพัง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“สวัสดีค่ะคุณน่านน้ำ” อันตราทักทายแขกคนสำคัญของเจ้านายด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร เธอปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าอีกฝ่ายเพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ และนิสัยใจคอที่น่าคบหา ดีกว่าผู้หญิงคนก่อนๆ ของเจ้านายเยอะ
น่านน้ำยิ้มรับแล้วเอ่ยถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว ก็รตีเพิ่งบอกก่อนที่เธอจะขึ้นมาพบเขาที่นี่ “คุณดลมีแขกเหรอคะ”
“อ๋อ...ค่ะ แล้วคุณน่านน้ำนัดกับคุณดลไว้รึเปล่า ดิฉันจะได้เรียนให้คุณดลทราบ” อันตราถามอย่างเกรงใจ รู้ดีว่าน่านน้ำเป็นแขกคนพิเศษของเจ้านาย แต่หญิงสาวอีกคนที่รออยู่ด้านในก็ดูจะมีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่อย่างนั้นจะมีใครได้เข้าไปรอพบเขาเป็นการส่วนตัวแบบนี้ได้ นอกจากน่านน้ำแล้วเธอก็เพิ่งเคยเห็นพัทร์รวีนี่แหละที่ได้รับเกียรตินั้น
“เปล่าหรอกค่ะ แค่แวะมา แล้วคุณดลอยู่ข้างในรึเปล่าคะ” เธอถามด้วยท่าทีเรื่อยเฉื่อย ดวงตาคู่สวยจ้องมองบานประตูที่ปิดสนิทนั้นอย่างสนใจ
ที่อยากรู้ไม่ใช่เพราะหึงหวง แต่อยากตามเขาให้ทันมากกว่า เธอรู้ดีว่าระหว่างเขาและเธอยังไม่ถึงขั้นที่จะแสดงความหึงหวงต่อกันได้ ส่วนหนึ่งเพราะเขาเองก็ดูจะมีทีท่าแบบทีเล่นทีจริง เธอยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างเขาจะยอม ‘หยุด’ ที่เธอ และอีกส่วนก็อยู่ที่ตัวเธอด้วย แม้จะยอมรับว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอรู้สึกประทับใจ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะเป็น ‘คนที่ใช่’ สำหรับเธอนี่ เรื่องนี้ยังต้องรอบทพิสูจน์กันต่อไป
“ประชุมค่ะ ข้างในมีแขกของคุณดลรออยู่ คุณน่านน้ำจะเข้าไปรอด้านในไหมคะ” อันตราถามตามมารยาทแต่ไม่แน่ใจว่าหากน่านน้ำต้องการเข้าไปรอด้านในแล้วจะมีปัญหาอะไรตามมาหรือเปล่า
“ก็ดีค่ะ” น่านน้ำตอบแล้วผลักประตูเข้าไป
อันตราได้แต่ยืนอึ้ง มองตามบานประตูที่ปิดลงอย่างหนักใจ
ผู้หญิงสองคน มารอผู้ชายคนเดียวกัน ในห้องเดียวกัน จะเป็นเรื่องไหมนะ?
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พัทร์รวีทำหน้าฉงน มองผู้มาใหม่ด้วยความแปลกใจ อีกฝ่ายเป็นหญิงสาวรูปร่างโปร่งบาง ใบหน้าสวยจัดภายใต้การตบแต่งเพียงบางเบาแต่ดูดีกินขาด เครื่องแต่งกายที่สวมใส่ก็บ่งบอกถึงฐานะและความ ‘มีระดับ’ ได้อย่างชัดเจน แถมยังส่งยิ้มหวานมาทักทายเธอด้วย
อ้อ...ยิ้มสวยอีกแน่ะ
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อน่านน้ำเป็นเพื่อนกับคุณดล ขอโทษที่เข้ามารบกวนนะคะ พอดีฉันมีธุระด่วนที่ต้องคุยกับคุณดลนิดนึง คุณคงไม่ว่าอะไรนะ” น่านน้ำทักทายก่อน แล้วพาร่างบางระหงไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟารับแขกอย่างถือวิสาสะ ใช้สายตาลอบสำรวจอีกฝ่ายอย่างแนบเนียนภายใต้ใบหน้าเปื้อนยิ้ม
แขกของเมธาดลเป็นเด็กสาวใบหน้าสดใสแฉล้มสมวัย รูปร่างบอบบางหากน่ามองไปทุกสัดส่วน แม้ชุดนักศึกษาที่เธอสวมอยู่จะบ่งบอกว่าเจ้าตัวยังดูใสๆ และค่อนไปทางแก่นแก้วมากกว่านักศึกษาสาวๆ ในยุคนี้ แต่โดยรวมแล้วจัดว่าเป็นเด็กสาวที่ ‘น่ามอง’ คนหนึ่ง
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักคุณน่านน้ำค่ะ คุณนัดกับพี่ดลไว้รึเปล่าคะ” พัทร์รวีทักทายตามมารยาทแล้วเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ หากเขานัดเพื่อนไว้ บางทีเธอควรจะออกไปรอด้านนอกจะดีกว่า
น่านน้ำยิ้มหวาน เมธาดลเคยบอกว่าเด็กสาวในชุดนักศึกษาที่มารอพบเขาในวันนั้นคือน้องสาวของพีรวัฒน์ และก็คงจะหมายถึงเด็กคนนี้แน่เพราะเธอยังจำดวงตากลมโตแวววาวคู่นี้ได้ “เปล่าหรอกค่ะ ไม่ได้นัดกันไว้ แต่ฉันก็มักจะมาพบคุณดลบ่อยๆ โดยไม่ได้นัดแบบนี้เสมอ ขอโทษนะคะ ได้ยินคุณดลบอกว่าคุณเป็นน้องสาวของคุณพีรวัฒน์ แต่ฉันไม่คุ้นหน้าเลย” น้ำเสียงที่ถามไถ่ไม่ได้ฟังดูคุกคามหรือหาเรื่อง แต่คำพูดบางคำก็บอกอะไรได้มากมายจนไม่ต้องตีความให้เสียเวลา
‘เธอสามารถมาหาเขาได้ทุกเมื่อที่ต้องการ’
ความหมายในถ้อยคำเป็นเช่นนี้และพัทร์รวีก็เข้าใจ
“ไม่ต้องเรียก ‘คุณ’ หรอกค่ะ เรียก ‘พริก’ ก็ได้” เธอบอกก่อนอธิบายต่อ “พริกเพิ่งมาฝึกงานที่กรุงเทพฯ ไม่ได้อยู่ที่นี่คุณน่านน้ำก็เลยไม่คุ้นหน้า”
คิ้วเรียวของน่านน้ำขมวดขึ้นอย่างสงสัย ก่อนเปรยออกมาอย่างใจคิด “ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคุณพีรวัฒน์มีน้องสาวโตขนาดนี้แล้ว” ในคราวแรกเธอยังไม่ค่อยเชื่อนักว่าเด็กสาวคนนี้คือน้องพีรวัฒน์จริง แต่เมื่ออีกฝ่ายยืนยันชัดเจน เธอก็คงต้องยอมรับ เมธาดลไม่ได้โกหก
“ค่ะ” พัทธ์รวีตอบเพียงเท่านั้น แล้วอันตราก็ยกน้ำส้มเข้ามาให้น่านน้ำในจังหวะนั้นพอดี
“ถ้ามีอะไรก็เรียกอันได้ตลอดนะคะคุณน่านน้ำ น้องพริกด้วยนะคะ” อันตราบอกเสียงแห้ง ก่อนวางแก้วน้ำลงแล้วถอยออกไปด้านนอกอย่างรู้หน้าที่ ปล่อยให้แขกคนพิเศษของเจ้านายพูดคุยกันเอง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
| จากคุณ |
:
nawapat
|
| เขียนเมื่อ |
:
18 มิ.ย. 53 09:05:18
|
|
|
|