PANTIP.COM : W9401896 พรหมแกล้ง.............? [บทกวี]

ความคิดเห็นที่ 12

ขอคัดลอกมาจาก Link นี้ เพราะจำได้ตรงกับที่ได้ยินได้ฟังมานานแล้ว

http://lotusdiveclub.ob.tc/-View.php?N=32

นานมาแล้วมีพ่อค้าจีนคนหนึ่งคุมเรือสำเภาจากเมืองจีน
มาค้าขายที่เมืองสงขลาเมื่อขายสินค้าหมดแล้ว
จะซื้อสินค้าจากสงขลากลับไปเมืองจีนเป็นประจำ
วันหนึ่งขณะที่เดินซื้อสินค้าอยู่นั้น
พ่อค้าได้เห็นหมากับแมวคู่หนึ่งมีรูปร่างหน้าตาน่าเอ็นดู
จึงขอซื้อพาลงเรือไปด้วย หมากับแมวเมื่ออยู่ในเรือนาน ๆ
ก็เกิดความเบื่อหน่ายและอยากจะกลับไปอยู่บ้านที่สงขลา
จึงปรึกษาหาวิธีการที่จะกลับบ้าน
หมาได้บอกกับแมวว่า
พ่อค้ามีดวงแก้ววิเศษที่ใครเกาะแล้วจะไม่จมน้ำ

แมวจึงคิดที่จะได้แก้ววิเศษนั้นมาครอบครอง
จึงไปข่มขู่หนูให้ขโมยมาให้
และจะอนุญาตให้หนูหนีขึ้นฝั่งไปด้วย
ครั้นเรือกลับมาที่สงขลาอีกครั้งหนึ่ง
หนูก็เข้าไปลอบเข้าไปลักดวงแก้ววิเศษของพ่อค้าโดยอมไว้ในปาก
แล้วทั้งสามตัว ได้แก่ หมา แมว และหนู
หนีลงจากเรือว่ายน้ำจะไปขึ้นฝั่งที่หน้าเมืองสงขลา

ขณะที่ว่ายน้ำมาด้วยกัน
หนูซึ่งว่ายน้ำนำหน้ามาก่อน
ก็นึกขึ้นได้ว่าดวงแก้วที่ตนอมไว้ในปากนั้นมีค่ามหาศาล
เมื่อถึงฝั่งหมากับแมวคงแย่งเอาไป
จึงคิดที่จะหนีหมากับแมวขึ้นฝั่งไปตามลำพัง
ดวงแก้วจะได้เป็นของตนเองแต่เพียงผู้เดียวตลอดไป .

แต่แมวที่ว่ายตามหลังมา
ก็คิดจะได้ดวงแก้วไว้ครอบครองเช่นกัน
จึงว่ายน้ำตรงรี่เข้าไปหาหนู
ฝ่ายหนูเห็นแมวตรงเข้ามาก็ตกใจ
กลัวแมวจะตะปบจึงว่ายหนีสุดแรงและไม่ทันระวังตัว
ดวงแก้้ววิเศษที่อมไว้ในปากก็ตกลงจมหายไปในทะเล

เมื่อดวงแก้ววิเศษจมน้ำไปทั้งหนูและแมว
ต่างหมดแรงไม่อาจว่ายน้ำต่อไปได้
สัตว์ทั้งสองจึงจมน้ำตายกลายเป็น "เกาะหนูเกาะแมว"
อยู่ที่อ่าวหน้าเมืองสงขลา

ส่วนหมาก็ตะเกียกตะกายว่ายน้ำไปจนถึงฝั่ง
แต่ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจึงขาดใจตาย
กลายเป็นหินเรียกว่า "เขาตังกวน"
เป็นภูเขาตั้งอยู่ริมอ่าวสงขลา

ส่วนดวงแก้ววิเศษที่หล่นจากปากหนู
ก็แตกแหลกละเอียดเป็นหาดทราย
เรียกสถานที่นี้ว่า "หาดทรายแก้ว"
ตั้งอยู่ทางเหนือของอ่าวสงขลา

คติ/แนวคิด
เกาะหนูเกาะแมวเป็นนิทานประเภทอธิบายสถานที่
ซึ่งปรากฏอยู่ที่แหลมสมิหลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
นิทานเรื่องนี้ให้แนวคิดว่าอย่าโลภมาก
ให้มีความสามัคคีและแบ่งปันเอื้อเฟื้อต่อกัน

หมายเหตุ
เคยอ่านเจอนานแล้วในหนังสือ
ศิลปวัฒนธรรม จำเล่มที่และปีไม่ได้แล้วโดยระบุว่า
ฝรั่งเศสระบุไว้ในแผนที่ว่า Singola
คือได้มาจากลักษณะว่า
เป็นเมืองที่มีสิงห์สองตัวหมอบอยู่หน้าเข้าเมืองสงขลา

สมัยมาติดต่อกับ สุลต่านสุไลมาน
ต้นตระกูล ณ พัทลุง
ที่่มีการจ้างฝรั่งวิลันดา(ฮอลแลนด์)
ยังมีหลุมศพฝังอยู่ใกล้ ๆ กันกับมรหุ่มสุลต่านสุไลมาน
ทหารฝรั่งรับจ้างมาสร้างป้อมค่าย
หล่อปืนใหญ่ และทำให้สงขลาแข็งเมืองไม่ขึ้นกับอยุธยา
จนมีการสู้รบกับพระนารายณ์มหาราช
สุดท้ายก็ทำสัมพันธไมตรีกันภายหลัง

ตอนนี้ยังมี มรหุ่ม (กูโบร์) ที่ฝังศพของท่าน
ที่ปากทางเข้าคลังเก้บน้ำมัน ปตท.
ใกล้ ๆ กับที่ว่าการอำเภอสิงหนคร
เป็นสถานที่เข้าเยี่ยมชมได้
แต่ต้องเดินผ่านหลุมศพของคนไทยมุสลิมจำนวนหนึ่ง
ก่อนเข้าไปชมถึงมรหุ่มของท่าน
แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 53 21:42:00

จากคุณ : ravio

เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 18:20:58