Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
โต้วร้านน้ำชากาแฟ ตอนที่ 3  

เพื่อความสมบูรณ์และติดต่อของเนื้อหาขอนำ Link เก่ามาเผยแพร่

ตอนที่ 1

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9342126/W9342126.html

ตอนที่ 2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9380400/W9380400.html


หลังจากได้กู้เงินมาเพื่อซื้อบ้านทำกิจการร้านชากาแฟ
ส่วนด้านบนก็ทำเป็นโรงแรมให้เช่าต่อ
กิจการก็พอเลี้ยงตัวและส่งเสียลูกหลานให้เรียนหนังสือต่อไปได้
แต่ก็เรียกว่าต้องหมุนเงินกันตัวเป็นเกลียว
เพราะรายรับจากการให้เช่าพื้นที่ขายของข้างล่าง
หรือเรียกว่าการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนได้ไม่มากเท่าไรนัก
เช่น ร้านขายก้วยเตี๋ยวราดหน้า ข้าวต้มหมี่เป็ด ข้าวมันไก่ เป็นต้น
จนกระทั่งลูกชายคนที่สองกลับมาจากการไปขายสินค้า
ให้กับทหาร GI ที่อุดรราชธานีสมัยสงครามเวียตนาม
ก็ต้องหันเหปรับปรุงธุรกิจใหม่ เพราะมีลูกมีเมียแล้ว
ครอบครัวก็หลายปากหลายท้องต้องใช้เงินกงสี
ในการส่งให้ลูกเรียนหนังสือส่วนหนึ่ง
จึงได้มีการ Renovate พื้นที่ใหม่หมด
จากเดิมที่ให้เช่าก็เข้ามาทำการขายเองเกือบทั้งหมด
รายเก่า ๆ ก็ค่อย ๆ บอกเลิกสัญญาเช่าไป
สุดท้ายก็เป็นของครอบครัวนี้บริหารธุรกิจกันเองทั้งหมด
เรียกว่า ทำธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำกันเลย

ผลจากการทำธุรกิจเองทั้งหมด
โดยส่วนไหนที่เป็นความลับการค้าก็ทำเอง
ส่วนไหนที่เป็นงานทั่วไปใช้แรงงานก็ให้ลูกน้องทำ
รายรับก็เริ่มเข้ามาเป็นกอบเป็นกำ
มีเงินผ่อนส่งธนาคารมากขึ้น
จนเหลือเงินที่ทำให้โต้วอยากกลับไปเยี่ยมญาติฝ่ายพ่อที่ไหหลำ
เพราะมีญาติพี่น้องที่มาเลย์ยังติดต่อกันอยู่
โต้วจึงไปทำ Passport ที่สถานกงศุลมาเลเซียที่สงขลา
เพื่อเดินทางไปฮ่องกงก่อน แล้วแอบหนีเข้าไปไหหลำ
เพราะสมัยนั้นมาเลย์ยัง Anti ประเทศจีนและคอมมิวนิสต์มาก
ทำให้มีปัญหาเพราะสายลับของมาเลย์ไปฟ้องกงศุลมาเลย์
เจ้าหน้าที่ก็มาหาและบอกว่ามาจากกงศุลมาเลย์
เพื่อจะสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่า
คบหากับคอมมิวนิสต์จริงหรือไม่
จะไม่ให้เข้าประเทศมาเลเซียอีก

แกก็เลยโวยวายด่าคนที่บอกว่าเป็น
เจ้าหน้าที่ของกงศุลมาเลย์ว่า
ดูแลก็ไม่ดูแล ยังไง ๆ แกก็ไม่กลับไปอยู่แล้ว
เพราะทำมาหากินอยู่ในประเทศไทย
ลูกหลานก็อยู่และมีการศึกษาที่ดีในไทย
สู้ยอมตายในเมืองไทย
ดีกว่ากลับไปประเทศแย่ ๆ ของแก
ที่มีส่วนทำให้พ่อของแกเสียชีวิต
สุดท้ายก็จบแบบไทย ๆ คือ ไม่มีอะไร
ทางเจ้าหน้าที่กงศุลมาเลย์ก็ทำอะไรแกไม่ได้
ได้แต่ขู่ไปอย่างงั้น ๆ
จนเมื่อมาเลย์กลับมาคบค้ากับจีนแดง
เรื่องดังกล่าวก็เลิกร้างกันไปเอง

ก็เหมือน ๆ กับการเดินทางของพ่อแม่ผู้เขียน
ต้องไปทำ Passport ที่สถานกงศุลจีน(ไต้หวัน) ที่สงขลา
แล้วเดินทางไปที่ฮ่องกง(กวางเจา)
ก่อนเดินทางด้วยรถไฟเข้าประเทศจีน
โดยใช้ใบผ่านทาง Border Pass แบบครั้งคราว
ของประเทศจีนที่ให้คนจีนโพ้นทะเลเข้าไปเยี่ยมญาติได้
สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนแดง
และเกลียดกลัวคอมมิวนิสต์เป็นอย่างมากสมัยหนึ่ง

จากคุณ : ravio
เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 17:58:00




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com