ความคิดเห็นที่ 1 |
เมื่อถึงโต้วถึงไหหลำแล้วก็ถามสารทุกข์สุกดิบของญาติ ๆ พร้อมกับของฝากจากแดนไกล และเงินทองมอบให้กับญาติพี่น้องที่ยังอยู่ที่นั่น ทางญาติพี่น้องก็บอกไม่รู้จะตอบแทนน้ำใจยังไง เลยพาไปที่ฝังศพบรรพบุรุษ แล้วขุดหลุมศพหากำไลหยกที่บรรพบุรุษใส่ก่อนเสียชีวิต เพื่อมอบให้โต้วเป็นของขวัญและตอบแทนน้ำใจไมตรี รวมทั้งคนจีนเชื่อว่าหยกจากคนตาย จะมีส่วนช่วยเหลือโชคชะตาและปกป้องภัยพิบัติบางอย่าง หยกที่โต้วได้มามีสีซีดและออกเหลือง ๆ บางคนก็พูดเกินเลยไปว่า หยกคงดูดซับน้ำเหลืองจากศพเข้าไปแล้ว จริง ๆ แล้วน่าจะเป็นสภาพของเนื้อหยกมากกว่า
เมื่อโต้วกลับถึงเมืองไทยแล้ว ก็คิดว่ากิจการที่ให้ลูกชายคนที่สองบริหาร คงจะมีเงินเก็บแล้วชำระหนี้ธนาคารดอกบัวได้หมดสิ้น เลยพาของฝากจากเมืองจีนไปเยี่ยมผู้จัดการ แล้วสอบถามฐานะการเงินและบัญชีว่าเป็นอย่างไร ชำระหนี้หมดสิ้นแล้วยัง ผู้จัดการเลยบอกว่า "โต้วใจเย็น ๆ ก่อน" นั่งกินน้ำชาและดูทีวีก่อน แล้วนำบัญชีเงินฝากมาให้ดู ปรากฏว่าแกดูแล้วแทบเป็นลมทันที เพราะยอดหนี้ก่อนไปจีนไหหลำน้อยกว่าห้าแสน กลับกลายเป็นหนี้สองล้านกว่าบาท เลยถามถึงเหตุผลทำไมหนี้เพิ่มมากมาย ผู้จัดการธนาคารเลยบอกว่า ลูกชายโต้วมาเบิกเงินสดตามเช็คที่สั่งจ่ายได้ เลยมีหนี้คงค้างอยู่ตามจำนวนดังกล่าว
เมื่อโต้วกลับถึงบ้านก็เรียกลูกชายตัวดีมาสอบถาม ความจริงเลยปรากฏว่า ลูกชายนำเงินไปใช้เองทั้งหมด แต่ที่แน่ ๆ คือไปเสียการพนัน MaJong เพราะมีการเหยียบขากันในวงเล่น หมายถึง มีการรวมหัวกันสองคนหรือสามคนในการพนัน เพื่อช่วยกันตีไพ่ที่คาดหมายว่าคู่ของตนต้องการ โดยให้คนใดคนหนึ่งชนะไปก่อนแล้วค่อยไปแบ่งรายได้กัน
โต้วเลยด่าว่าใหญ่แถมรำพึงรำพันถึง ความโชคเคราะห์ร้ายที่ไปฝากปลาไว้กับแมว พี่น้องที่ทราบเรื่องดังกล่าวต่างก็โกรธ และโมโหกันมากในเรื่องหนี้สินที่เกิดขึ้น เพื่อนของโตัวที่เป็นคนไหหลำด้วยกัน ก็พลอยผสมโรงในการร่วมตักเตือนว่ากล่าว
ต้องเข้าใจกันเบื้องต้นว่า ในร้านกาแฟบางแห่ง เวลาพูดจากัน มักจะใช้เสียงดังกว่าปกติในการพูด เสียงทะเลาะติเตียนเลยอื้ออึงไปทั่ว ลูกชายคนที่สองของโต้ว เรียกเล่น ๆ ว่า โกยี ก็แล้วกัน เลยเดินไปที่เขียงขายข้าวมันไก่ แล้วเอาปังตอสับข้อนิ้วก้อยข้างซ้ายหนึ่งข้อ เลือดกระฉูดเต็มเขียงขายข้าวมันไก่ เล่นเอาตกอกตกใจกันไปทั้งร้านกาแฟ ผลต้องรีบนำแกไปส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ เสียงติเตียนและแนะนำเลยเงียบลง เพราะห่วงใยคนเจ็บมากกว่าในเรื่องเสียการพนัน
เรื่องนี้เคยถามโกยีตอนอารมณ์แกดี ๆ ว่า ทำไปทำไมถึงยอมตัดข้อนิ้วก้อยหนึ่งข้อของตนเอง แกบอกว่า รำคาญเห็นเสียงบ่นเสียงด่ามากมาย แต่พอทำไปก็ปรากฏว่าเรื่องก็จบและเงียบไปแบบไทย ๆ คือ รับรู้ว่ามีปัญหาอยู่แต่การสมานฉันท์และเยียวยาก็ยังไม่ชัดเจน ผลคือ แม่ของแกและพี่น้องแกต่างไม่ยอมพูดถึงเรื่องนี้อีก
ก็น่าคิดว่าโกยีอาจจะเอามาจากแนวคิด ในหนังสือกำลังภายในของ โกวเล้ง ที่โกยีชอบอ่านมากและ Style นักเลงโบราณจีน หรือการที่เคยอ่านพบว่า นักเลงของยากูซ่าของญี่ปุ่น ถ้าทำผิดพลาดก็ต้องยอมตัดนิ้วตนเอง เพื่อขอขมาโทษต่อพี่น้ององค์การ ถ้าใครถูกตัดหลายนิ้วมากก็แสดงว่า มีข้อบกพร่องผิดพลาดมากอะไรทำนองนั้น แต่เรื่องนี้พอถามกลับไปยังฝั่งเพื่อนโกยีบางคน กลับบอกว่า "จริง ๆ แล้วโกยีควรตัดหัวขอโทษแม่ตนเองมากกว่า" เพราะทำผิดจริง ๆ การตัดนิ้วไม่ได้ช่วยอะไรได้มาก
จากคุณ |
:
ravio
|
เขียนเมื่อ |
:
25 มิ.ย. 53 17:59:05
|
|
|
|