Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ตำนานสงครามบัลลังก์เหนือ - บทที่ ๗ - เส้นทางใหม่  

อ่านเนื้อหาภาค 1 ได้ที่นี่ครับ

http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=471973

เนื้อเรื่องต่อภาค 2

http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=623553

* * * * *

ขอบคุณคุณ Mnemosyne สำหรับกิฟท์นะครับ ^^

คุณ scottie - สิมาด้านมืดเขียนคัมภีร์อนธการด้วยเหยื่อสังเวยเป็นร้อยเป็นพันน่ะครับ อำนาจย่อมมากเป็นธรรมดา เพียงแต่จะดึงออกมาใช้ได้เท่าไหร่ ^^a

* * * * *

บทที่ ๗
เปลี่ยนเส้นทาง


“เปลี่ยนไปกวดขันทางด่านยาร์ลาธอย่างนั้นหรือ” ท่านผู้สำเร็จราชการทวนคำอย่างไม่อยากเชื่อ เมื่อได้ฟังคำขอร้องของหัวหน้าราชองครักษ์ชานัน ผู้มาพร้อมดูลัสซึ่งเป็นคนในบังคับบัญชา

“ขอรับ ควรเริ่มตั้งแต่วันนี้เลย” ชายวัยกลางคนท่าทางเคร่งขรึมพูดหนักแน่น “แต่ต้องปิดบังเรื่องนี้เป็นความลับ ไม่ให้เผยแพร่ออกไป”

“นั่นหมายความว่า...เรายังเรียกทหารที่ถูกย้ายไปดูแลด่านทางชอร์ซากลับมาไม่ได้ แล้วก็ย้ายทหารในเมืองหลวงออกไปมากจนผิดสังเกตไม่ได้ด้วย” ชายวัยกลางคนติงเรียบๆ ในห้องหนังสือที่มีเพียงทั้งสองนั่งหารือกัน เบื้องหน้าราชองครักษ์หนุ่มคนเดียวที่ยืนเฝ้าอยู่

“ราชองครักษ์ดูลัสบอกข้าแล้วเช่นกัน” ชายวัยกลางคนตอบ “เขาเสนอว่าควรให้ราชองครักษ์ที่ไว้ใจได้จำนวนน้อยแฝงเข้าไปตรวจตราด่านยาร์ลาธแทน”

ท่านคอนรอยยิ่งขมวดคิ้ว

“เพราะเหตุใด”

“ประการแรก ราชองครักษ์ส่วนมากจำรูปลักษณ์ของเจ้าหญิงแอชลีนน์ได้ดี แม้จะทรงปลอมแปลงพระองค์อย่างไรก็น่าจะมีเค้าอยู่บ้าง และประการที่สอง โดยปกติราชองครักษ์ทำงานอยู่แต่ในวังหลวง หากมีทหารหลวงเข้ามาทำงานแทนที่ หรือมีจำนวนลดลงบ้าง ก็ยากจะผิดสังเกตต่อขุนนางอื่นๆ ที่อาจเป็นสายของอีกฝ่ายหรือกำลังจับตามองอยู่ ประการที่สาม การใช้คนจำนวนน้อยเข้าไปเสริมในจุดที่ขาดกำลังพล โดยอ้างว่าโยกย้ายมาจากหน่วยงานทหารอื่นๆ ที่ไม่มีหน้าที่สำคัญอะไรจะดูมีพิรุธน้อยกว่าในสายตาคนทั่วไป”

“อือม์...” ชายผู้มากวัยกว่าพยักหน้าช้าๆ “เช่นนั้นข้าก็พอเข้าใจ แต่ทำไมปุบปับ ท่านถึงคิดว่านักโทษน่าจะหนีไปทางยาร์ลาธมากกว่า ในเมื่อนั่นเป็นพื้นที่ที่ชาลัวห์ไม่ควรเข้าไปที่สุด”

หัวหน้าราชองครักษ์หันไปทางชายหนุ่มผู้ยืนเงียบอยู่ข้างหลัง และพยักหน้าเป็นสัญญาณ

ดูลัสค้อมศีรษะครั้งหนึ่ง ก่อนจะรับช่วงอธิบายต่อไป

“ข้าคิดว่าชาลัวห์ไม่น่าจะเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของการหนีครั้งนี้ขอรับ” ชายหนุ่มพูดชัดเจน “แต่เป็นอาเมียร์ เมื่อประมวลรายละเอียดต่างๆ แล้ว ข้าเชื่อว่าอาเมียร์ไม่น่าจะร่วมมือกับชาลัวห์ ไม่ว่าตอนนี้ หรือตั้งแต่ต้น ชาลัวห์คงถูกพาไปเพื่อล่อให้พวกเราไขว้เขวว่าเจ้ามณฑลชอร์ซามีส่วนร่วม อาเมียร์จะได้กลบเกลื่อนเส้นทางหนีของตน ซึ่งน่าจะกลับไปหาครอบครัวที่ยาร์ลาธ หากเป็นตามนี้...ชาลัวห์อาจถูกสังหารแล้วซ่อนศพไว้เสียด้วยซ้ำขอรับ”

สีหน้าของท่านผู้สำเร็จราชการยิ่งเคร่งเครียด ครุ่นคิด

“แต่หากพวกเขามุ่งหน้าไปทางยาร์ลาธจริงๆ เราก็ควรรายงานและขอความร่วมมือจากทางนั้น ถึงอย่างไร ท่านเจ้ามณฑลยาร์ลาธก็สูญเสียลูกชายไปเพราะแผนการนี้ ได้ยินว่าเขากำลังตามหาครอบครัวของอาเมียร์ที่หายสาบสูญไปเหมือนกัน”

“ข้ากลับคิดว่าไม่ควรให้เขารู้เรื่องนี้เด็ดขาดขอรับ” ดูลัสปฏิเสธ “ท่านเจ้ามณฑลดูเหมือนจะยังเชื่อใจคนทรายพวกนั้นมาก ข้าอดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจไม่ได้กวดขันเรื่องการติดตามพวกมัน...หรือทำได้กระทั่งให้ที่ซ่อนแก่พวกมัน เพราะปักใจเชื่อว่าอาเมียร์ไม่มีความผิดก็ได้”

ชายหนุ่มเชื่อว่าท่านผู้สำเร็จราชการย่อมเห็นด้วยกับเขา อาเมียร์จะบริสุทธิ์ในคดีลอบสังหารพระคู่หมั้นหรือไม่ ไม่สำคัญแล้วตอนนี้ ที่สำคัญกว่าคือเจ้าหญิงหายไปกับชายต่างชาตินั้นโดยไม่รู้จุดหมาย และเด็กหนุ่มก็เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ได้พระองค์กลับคืนมา

“ถึงอย่างไรก็ต้องแจ้ง” กระนั้น ท่านคอนรอยยังแย้ง “ยาร์ลาธเป็นพื้นที่รับผิดชอบของเขา หากทำสิ่งใดลับหลังไม่ถือเป็นเพียงการหักหน้า แต่เป็นการก้าวก่ายอำนาจปกครอง เดี๋ยวจะกินแหนงแคลงใจกันเสียเปล่าๆ ข้าจะส่งสารลับไปแจ้งเขา ทั้งเรื่องขอให้ราชองครักษ์ไปร่วมสอดแนม และเรื่องคุมตัวครอบครัวคนทรายนั้น ท่านเบเรคเป็นขุนนางผู้ใหญ่ ย่อมรู้ดีว่าตนมีหน้าที่ใดต่อธีร์ดีเรและองค์ประมุข”

องครักษ์หนุ่มยังอยากโต้แย้ง แต่ก็รู้ดีว่าไม่ควรพูดต่อไป และผู้สำเร็จราชการก็หันไปถามหัวหน้าราชองครักษ์ชานัน ว่าจะเสนอชื่อผู้ใดไปทำการนี้

แน่อนว่ามีชื่อของดูลัส ตามที่เขาขอไว้แต่แรกตั้งแต่หารือกับท่านชานัน ให้มารายงานท่านผู้สำเร็จราชการ เพื่อไม่ให้เป็นการล้ำหน้าข้ามสายงานจนเกินไป

“ราชองครักษ์ดูลัสรึ...ดีแล้ว” ท่านผู้สำเร็จราชการตอบในทันทีที่ได้ยินชื่อ “ที่จริง ข้าก็ว่าจะเสนอให้เขาเข้าร่วมพอดี คนหนุ่มมีสติปัญญาอย่างเขาจะเป็นหูตาให้เราได้มาก”

ท้ายคำพูดมาพร้อมสายตาชื่นชม ซึ่งส่งให้องครักษ์หนุ่มก้มหน้าลงอย่างสำรวม

“ขอบคุณมากขอรับ”

“เขาเป็นห่วงเจ้าหญิงแอชลีนน์มาก” ชานันเอ่ยขึ้นบ้าง “ข้ารู้...ตั้งแต่เกิดครั้งนั้นแล้ว เขาไม่ใช่หรือ...ที่เป็นวีรบุรุษคนเดียวผู้ช่วยชีวิตเจ้าหญิงไว้ได้”

“หามิได้ขอรับ” บางสิ่งยังคงเสียดแทงในใจ กับคำพาดพิงถึงวันนั้น “ข้าบกพร่องในหน้าที่ต่างหาก มิเช่นนั้นคงช่วยทุกๆ พระองค์ไว้ได้”

เป็นความบกพร่องที่เขาไม่อาจปล่อยให้เกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด เจ้าหญิงแอชลีนน์ถูกฝากฝังไว้กับเขา ชายหนุ่มจะไม่ยอมให้มันผู้ใดบังอาจพรากพระองค์ไปจากธีร์ดีเร...และจากเขา

“เอาเถิด นี่ไม่ใช่เวลาพูดถึงอดีตที่ไม่อาจแก้ไข” ท่านผู้สำเร็จราชการติง “เรายังมีหน้าที่ต้องกระทำให้สำเร็จ ข้าจะรีบสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องเตรียมการ เจ้าเองก็ไปเตรียมตัวเถอะ อย่างช้า...พรุ่งนี้สายม้าเร็วควรจะส่งพวกเจ้าไปถึงยังด่านเข้ายาร์ลาธ”

* * * * *

จากคุณ : Anithin
เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 53 16:21:04




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com