Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
พันธกาล ตอนที่ 2  

บทที่  ๒

ภายในห้องเช่าเล็กๆ ร้อนอบอ้าว  บัดนี้ปรากฏไอหมอกค่อยๆ เคลื่อนตัวจากมุมห้องแผ่ขยายครอบคลุมทั่วพื้น  ห้องที่เคยสว่างไสวด้วยแสงตะวันกลับอึมครึมหม่นมัว  บรรยากาศรายรอบเย็นเยือกลงทุกขณะ  บริเวณปลายเตียงปรากฏก้อนน้ำสองก้อนค่อยๆ ปรับเปลี่ยนรูปร่างจนมีเค้าโครงละม้ายมนุษย์ชายหญิง

“ดูๆ ไปก็น่าสงสารนะ” ฝ่ายหญิงกล่าวเสียงหยัน “ต้องถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องกับสัญญาเมื่อหลายร้อยปีก่อนของคนเป็นแม่โดยไม่รู้เรื่องรู้ราวแม้แต่น้อย”

“ใครว่าผู้หญิงคนนี้ไม่รู้เรื่องรู้ราว” ฝ่ายชายแย้ง

“มาณารู้เรื่องด้วยอย่างนั้นหรือ?”

อีกฝ่ายไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ  ก้าวไปยืนข้างกายผู้ที่ยังหลับใหล  จับตามองดวงหน้างดงามราวกับกำลังค้นหาบางสิ่งบางอย่าง

“เปศล” ฝ่ายหญิงเรียกเสียงค่อนข้างดัง  ริษยาผู้หญิงคนนี้ที่ดึงความสนใจจากเขาไปได้ ร่างงามระหงส์ในรูปลักษณ์ของก้อนน้ำเดินนวยนาดไปเกาะแขนฝ่ายชาย  จงใจเบียดอกอวบกับท่อนแขนกำยำ  แต่เขาจะรู้สึกพิศวาสนางสักนิดก็หาไม่

“ถ้านางมีส่วนรู้เห็น  งั้นก็กำจัดไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า  จะได้ไม่เป็นปัญหากับเราในวันข้างหน้า” นางเสนอความคิด

เปศลหันมามองคู่สนทนา  มุมปากหยักยกราวกับจะเยาะหยันความหวาดกลัวที่ไร้เหตุผลนี้

“เจ้ากลัวมนุษย์ธรรมดาๆ ที่ไม่มีแม้แต่อำนาจจะปกป้องตัวเองอย่างนั้นหรือ?”

“เปล่า  ข้าแค่ไม่อยากให้เรื่องมันยุ่งยากมากไปกว่านี้”

เปศลละสายตาจากผู้ที่อยู่ข้างกายหันมามองร่างบางเหมือนกำลังประเมินความสามารถของฝ่ายตรงข้าม

“อย่าแตะต้องนาง” เขาสั่งเสียงเฉียบเมื่อคู่สนทนาจะเอื้อมมือไปหามาณา “ข้าจะดูสิว่า..มนุษย์จะหาญสู้ปีศาจอย่างเราได้ยังไง”

“แต่ภิงคาร  อาจจะไม่ยอมนิ่งเฉยอีก” ฝ่ายหญิงทักท้วง

“เจ้าคิดว่าเขาจะมีน้ำใจขนาดนั้นเลยหรือ?  หมอนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรักษาความเป็นกลาง  ถ้าโอนเอนเข้าข้างฝ่ายใด  เขาก็จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง  อาจถึงขั้นลดทอนอำนาจที่มีอยู่ก็ได้  แล้วคนเห็นแก่ตัวอย่างมันมีหรือจะยอมสูญฤทธิ์เดชที่มีเพื่อผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง?”

คู่สนทนาไม่กล่าวสิ่งใด  ด้วยรู้ดีว่า...ภิงคารก็มิได้ดีเลิศมาจากไหน  ขอเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ล่วงอำนาจหรือหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย  เขาก็พร้อมจะเมินเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบกายได้  กลัวแต่ว่า...เขาจะลืมหน้าที่ที่ถูกตราไว้ก็เท่านั้น

++++++++++++++

มาณาจับตามองสายฝนที่ตกพรำๆ นอกระเบียง  บรรยากาศอึมครึมขมุกขมัวยิ่งทำให้หงุดหงิดหัวเสีย  หล่อนไม่อยากยอมรับหรอกว่าเหตุผลจริงๆ แล้วมันมาจากเรื่องเงินเรื่องทองที่ร่อยหรอลงสวนทางกับข้าวของที่ถีบตัวสูงอย่างกับจรวดพุ่งไปดวงจันทร์  ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป  คงได้ถือกะลาขอทานแหง  ไม่ก็ขึ้นหน้าหนึ่งคดีใช้ปืนปลอมปล้นร้านทอง

อย่าดีกว่า...กว่าจะตะเกียกตะกายจบมหาวิทยาลัยมาได้เลือดตาก็แทบกระเด็นกระดอนเป็นลูกเต๋า  ถ้ามาตายน้ำตื้นกับเรื่องตกงานก็เสียเชิงแย่สิ

จะว่าไปหล่อนก็ไม่ได้เลือกงานนะ  แต่เหมือนโชคชะตาจะกลั่นแกล้งนางเอกผู้แสนดีให้ตกระกำลำบากแบบสุดๆ ก่อนจะเสวยสุขเป็นเจ้าหญิง  ขนาดไปสมัครเป็นพนักงานเสิร์ฟ  ทำงานได้แค่สองวัน  ร้านก็เกิดไฟไหม้  ไปเป็นพนักงานขายในห้างฯ  ยังถูกเพื่อนร่วมงานเขม่นทั้งที่อยู่เฉยๆ แท้ๆ  บางครั้งถึงขั้นมีปากมีเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ  สุดท้ายก็เลยต้องออกมานั่งนับเม็ดฝนอยู่แบบนี้ไง

ว่าที่นางซินได้แต่กุมขมับ  ปวดหัวกับการดิ้นรนเอาตัวรอดในสังคมคนกรุง  ถ้าย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดล่ะ  อะไรๆ มันจะดีขึ้นมั๊ย?

แล้วจะไปอยู่ที่ไหน?

‘กาญจนบุรี’

เสียงที่ตอบกลับมาดังชิดใบหูทำเอาหญิงสาวสะดุ้งเฮือกใจหายวาบ  มองไปรอบกายหน้าตาตื่นหากไม่เห็นใครสักคน

เมื่อกี้หล่อนหูแว่วไปหรือเปล่า?

ถ้าหูแว่ว  ทำไมถึงได้ยินเสียงชัดเจนล่ะ  เสียงนั้นเป็นเสียงของผู้หญิงที่มีแต่ความเศร้าโศก  ฟังเหมือนเป็นการวิงวอนเสียมากกว่า

หรือว่า...ห้องนี้จะมีผี !!

คนตั้งข้อสงสัยขนลุกซู่ อุปทานหรือไรถึงรู้สึกว่าบรรยากาศรอบกายเย็นผิดปกติ  ห้องเล็กๆ ซึ่งอับทึบเก่าคร่ำคร่ายิ่งเสริมให้จินตนาการหล่อนเตลิดโลด

‘ก่อนหน้านี้มีคนฆ่ากันตายแล้วทิ้งศพไว้ใต้เตียงหรือเปล่าน๊า..?’

ถึงจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสาง  แต่ก้มไปดูนิดหน่อยจะเป็นไรไป  หญิงสาวค่อยๆ เอนตัวลงกวาดตามองใต้เตียงพิสูจน์หลักฐาน  แต่ทว่า...

“ฮัลโหลๆ  รับโทรศัพท์หน่อยคร๊าบบบบ”

มาณาสะดุ้งโหยงตกใจกับเสียงโทรศัพท์ของตัวเอง  นึกแช่งชักหักกระดูกคนที่โทรเข้ามาไม่ดูเวล่ำเวลา  แต่พอเห็นชื่อบนหน้าจอก็ยิ้มออก

“หวัดดีจ้า มาณา  เป็นไง..สบายดีหรือเปล่า?” อังคณาทักทายเสียงใส หากคนถูกถามกลับเบ้ปาก ตอบอย่างเสียมิได้

“แย่”

“แย่ยังไง?”

มาณาถอนหายใจเฮือก  ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน  สุดท้ายก็เริ่มจากจุดที่เป็นปัญหานี่ล่ะ

“เมื่อวานมีคนมาหาฉัน  เขาบอกว่าเป็นทนายของน้องสาวฉัน” หล่อนเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง  ยกเว้น..ชีวิตครอบครัวหลังจากแม่จากไป  ไม่เอ่ยถึงความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกแม่ทอดทิ้ง  ไม่บอกด้วยว่า...ลึกๆแล้ว ตนเองริษยาน้องที่ได้อยู่กับแม่  ในขณะที่ตนเองต้องอยู่อย่างอ้างว้างเดียวดาย  เพราะถึงจะสนิทสนมกับอังคณามาก  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องบอกเล่าทุกอย่างให้ฟัง  ข้อสำคัญการคบหาของทั้งคู่มันออกจะแปลกๆ อยู่สักหน่อย

มันเป็นเพราะความเหงานี่ล่ะที่ทำให้ไปเล่นไฮไฟว์  จนรู้จักอังคณาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ท  คงจะเป็นวัยที่ใกล้กัน  กอปรกับมีนิสัยใจคอคล้ายกันก็เป็นได้ที่ทำให้หล่อนผูกพันธ์กับเพื่อนคนนี้เหมือนคบหากันมาเป็นสิบปี  พอมีเรื่องอะไรก็มักจะเล่าให้ฟังบ่อยๆ  แล้วก็ไม่เคยผิดหวังสักครั้ง  อังคณามักมีทางออกที่ดีให้เสมอ

“ฟังเหมือนแกอยากเป็นดอกฟ้าผู้จองหองนะ” อังคณาแดกดันหลังจากฟังเรื่องราวจบลง

“ไม่ใช่  ฉันแค่ไม่อยากเป็นพวกชุบมือเปิบต่างหาก  ไม่ได้ลงทุนลงแรงอะไรสักอย่าง  จู่ๆ จะมากอบโกยไปจนหมด  แบบนี้มันไม่ถูกต้อง”

“เขาก็ไม่ได้ให้แกฟรีๆ ยังอาศัยให้เลี้ยงลูกเขาไง”

“นั่นแหละปัญหา  แกคิดว่าหน้าอย่างฉันเนี่ยเหมือนนางงามรักเด็กมากนักเหรอ?”  หล่อนได้ยินเสียงถอนหายใจผ่านโทรศัพท์มือถือ  แค่นี้ก็พอจะนึกหน้าเพื่อนออกแล้ว
“สรุปก็คือ...จะยอมอดแต่ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี”

“ไม่รู้สิ”  ดอกฟ้าชักไม่มั่นใจตัวเองซะงั้น

จากคุณ : พรายแสง
เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 16:35:59




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com