Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
๐๐...กมโลภิกขุ..ชายหนุ่มผู้บวชเป็นพระ...๐๐ (บทที่ 4){แตกประเด็นจาก W9468670}  

.

บทที่ 4




ผมเพิ่งบวชได้สองวันกับหนึ่งคืน รู้สึกตัวว่าวุ่นวายกับหลายอย่างหลายบุคคลมากเกินไป แม้ว่าบางอย่างจำเป็นจะต้องเกิดขึ้น แต่ก็ดูไม่เรียบร้อยอยู่ดี


ผมควรใส่ใจเรื่องวัด เรื่องพระพุทธศาสนามากกว่านี้...ท่านเจ้าอาวาส..หลวงปู่..ท่านชราภาพมากแล้วแต่ยังแข็งแรงตามสภาพอายุ ปฏิบัติศาสนากิจ เจริญวิปัสสนากรรมฐานได้ตามปกติ มีจริยาวัตรงดงามเป็นที่ชื่นตาชื่นใจแก่ผู้พบเห็น

กุฏิของท่านเป็นเรือนเล็กๆ ชั้นเดียวยกพื้นสูงระดับเข่าไม่มีบันได ห้องโล่งด้านหน้าไม่มีประตู ใครผ่านไปมาจะเห็นท่านนั่งอยู่บนพรมอาสนะผืนบางๆ ข้างตู้พระธรรม อัฏฐะบริขารที่มีคือกาน้ำชา ถ้วย กระโถน หมอนขวางเท่านั้น..ท่านไม่เคยอยู่ตามลำพัง มีโยมหลากหลายสถานะมาเยี่ยมเยือนขอพรไม่ขาดสาย..รอยยิ้มไม่เคยจางจากใบหน้า

มุมห้องด้านซ้ายมีประตูสองด้าน ตรงเข้าไปเป็นห้องจำวัดของหลวงปู่ อีกประตูเปิดสู่ห้องพระที่มีโต๊ะหมู่ชุดเล็กทำด้วยไม้ธรรมดาไม่ได้สลักลงรักปิดทอง เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปองค์น้อยสีคร่ำ กระถางธูป เชิงเทียน..เท่านี้คือสรณะที่หลวงปู่ยึดถือ เจริญจิตตามวิถีของสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า

จากศาลายาวที่ผมพักอยู่ไม่ว่าจะไปไหนต้องเดินผ่านกุฏิของหลวงปู่..ด้านข้างมีหน้าต่างสองบานติดลูกกรงเหล็กโบราณอย่างกุฏิหลวงตาใบ วันแรกผมส่งเสียงเอะอะเดินผ่าน นึกว่าจะได้ยินเสียงตำหนิหรือกระแอมไอลอดมาจากหน้าต่าง แต่ไม่มี ชะโงกดูเห็นเพียงหลวงปู่นั่งขัดสมาธินิ่งอยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชา..แม้เมื่อขากลับหลวงปู่ก็ยังอยู่ในท่าเดิม

วันนี้ไม่มีญาติโยม หรืออาจจะเพราะเย็นมากแล้ว ผมชะโงกเข้าไปดู แสงเริ่มขมุกขมัว หลวงปู่นั่งอยู่อย่างเคย..เพิ่งสังเกตว่ามีหยากไย่ใยแมงมุมอยู่ตามลูกกรง มองเพ่งเข้าไป หยากไย่มีอยู่ทั่วทั้งตามมุมห้องและขาโต๊ะหมู่บูชา หลวงปู่ไม่กระดุกกระดิก พาลให้นึกว่านี้คือห้องหุ่นร้างหรืออย่างไร

“อะ..อรึ..” เสียงคล้ายกระแอมดังจากร่างหลวงปู่ด้านหลัง..ผมรีบหดมือที่กำลังจะปัดหยากไย่ลงจากหน้าต่าง..ใช่หรือ..ใช่ที่ผมคิดหรือ?

“ฮะ แอ้ม!..” คราวนี้ดังกว่าเก่าเมื่อผมเอื้อมมือไปอีกครั้ง

“ผมทราบแล้วครับ..” มือรีบหดมาพนมท่วมหัวไปทางหลวงปู่ ความคิดที่จะแอบย่องขึ้นไปปัดกวาดส่วนโล่งด้านหน้าที่ใช้รับญาติโยมพลันหดลงด้วยทันที..เกือบต้องกลิ้งตกกุฏิอย่างไม่มีสาเหตุแล้วละซีพระนิด

อยู่วัดนี้เหมือนต้องเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตนเอง ไม่มีหัวหน้า ไม่มีครูบาอาจารย์คอยสั่งสอน ทุกอย่างดูสบายๆ ช่วยกันปกครองดูแลซึ่งกันและกัน อาจจะเป็นเพราะประมุขของวัดผู้มีอำนาจสูงสุดท่านละวางเสียแล้วด้วยสังขารและปกติของท่านเอง หลวงตาใบผู้รับหน้าที่แทนก็ดูจะวางเฉยไม่ต่างจากหลวงปู่นัก

นี้!..นายนิดพระบวชใหม่บังอาจวิเคราะห์สภาพความเป็นอยู่ของวัดเชียวหรือ ทั้งๆ ที่ตัวเองยังคล้ายลิงค่างโยนตัวอยู่บนกิ่งโพธิ์ต้นใหญ่ข้างหอระฆัง..นึกแล้วอยากขึ้นไปตีจัง..นั่นอย่างไร



เหลือนักเรียนเล่นเตะบอลอยู่ในสนามสองสามคน..เย็นแล้ว..โพล้เพล้..ยังไม่กลับบ้านกันอีก พ่อแม่คอยลูกกลับบ้านอยู่ไม่รู้หรือไร

ผมทรุดตัวนั่งบนศาลาเล็กๆ ใกล้บันไดวนหอระฆัง..คิดถึงบ้านขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว..เย็นๆใกล้ค่ำอย่างนี้แม่ทำอะไรอยู่ น้องๆ กลับจากโรงเรียนหรือยัง เกเรให้แม่ต้องกลุ้มใจบ้างหรือเปล่า

“กา..กา..กา..” นกกาบ้านนอกเสียงดังฟังชัด ตอกย้ำให้ใจบางคนเศร้าระทม..ถึงจะดูร่าเริงเฉิ่มเปิ่นแต่ก็มีความทุกข์เช่นคนทั่วไป การได้บวช ได้เป็นพระสงฆ์ แท้จริงแล้วยังไม่ขาดจากความเป็นปุถุชน..หรือเพราะเพิ่งเข้ามา กลิ่นธูปควันเทียนยังไม่ซึมซับข้างใน

“เป็นพระร้องไห้คิดถึงบ้านได้ไง..” หลวงพี่อาจเดินเข้ามาเมื่อไหร่ไม่รู้ “นั่งด้วยคนสิ”

“เชิญครับ..” ผมรีบปาดน้ำตา ขยับที่ให้..ความจริงศาลานี้เป็นเพียงแผ่นกระดานยาวยึดติดกับเสาสองต้นที่ค้ำหลังคาจั่วเล็กๆ คล้ายที่นั่งพักชั่วคราวหลบแดดหลบฝน “ไม่หักนะ!” ว่าจะไม่พูดเล่นแล้วเชียว

“เมื่อบวชใหม่ๆ ผมก็เป็นเหมือนกัน ตอนนั้นหลวงปู่ยังแข็งแรงและขยันมาก วันๆ ไม่เคยอยู่นิ่ง พวกผมจึงต้องปฏิบัติตามท่าน..เดี๋ยวนี้อะไรๆ หย่อนคลายลงไปมากแล้ว..เฮ้อ!”

“ทำไมต้อง เฮ้อ ด้วยครับ..มีอะไรหนักใจหรือ” ผมเริ่มยุ่งกับเรื่องผู้อื่น ลืมความทุกข์ ลืมคิดถึงบ้าน

“เด็ก..เอ๊ย!..พระเด็กๆ จะไปรู้เรื่องอะไร..หึ..หึ..” หลวงพี่หันมายิ้มฟันขาว..เพิ่งเห็นว่าดูดีเหมือนกันหลวงพี่เรา

“เด็กๆ อยู่ในสนามโน่นครับ..” ยื่นหน้าไปด้านโรงเรียน “อ้าว!..กลับกันหมดแล้ว”

“ขืนไม่กลับ ตอนเณรตีระฆังมีหวังถูกพระบุญไล่เปิดเปิง..” มองผมอีกครั้งเมื่อไม่ได้ยินคำถามต่อ “มีกฎของโรงเรียน ของวัด ห้ามนักเรียนอยู่จนถึงพระตีระฆังไม่งั้นจะถูกพระบุญตีบนหอระฆัง”

“อือ..ครับ..”

เราต่างนั่งเงียบ..บรรยากาศใกล้ค่ำไม่วายให้ใจลอยไปไหนๆ ผมคิดถึงครอบครัวเพื่อนฝูงและชีวิตประจำวันที่จากมา หลวงพี่อาจก็คงคิดเหมือนกัน...จนเณรขึ้นไปตีระฆังแล้วก็ยังนั่งกันอยู่..ความมืดเริ่มปกคลุม เงาขาวโพลนเคียงอยู่ข้างเงามืด

“ปุ!..ปุ!..”

ผมและหลวงพี่อาจสะดุ้งเกือบพร้อมกัน..กรวดก้อนเล็กถูกปาจากไหนสักแห่งมาที่เรา

“เฮ้ย!..” หลวงพี่ลุกขึ้นมองไปทิศที่ก้อนกรวดพุ่งมา “เล่นอะไรวะ!”

“อะไรครับ?” ผมไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่เจ็บ

“ลืมไปเลย..” เหมือนนึกอะไรได้ หลวงพี่อาจเลิกสนใจก้อนกรวดลึกลับหันกลับมา “ว่าจะมาชวน..” ไม่ทันพูดต่อ มีเสียงแว่วมา

“พระมืด..พระโอโม่..”



ผมกลับศาลายาวเพื่อบอกข่าวกับพระมหาชัย..หลวงพี่อาจขวนไปเที่ยวงานเผาศพที่วัดหนึ่ง ความจริงศพนี้ตั้งอยู่ที่วัดแต่เพราะเหตุไรไม่ทราบจึงไปเผาอีกวัด ในงานมีมโหรสพหลายชนิด ที่สำคัญมีจุดตะไลดอกไม้ไฟซึ่งหลวงพี่รูปหนึ่งที่นี่เป็นผู้เชียวชาญจัดทำขึ้น

พระมหาชัยไม่ไปด้วย กำลังติดพันส่องพระเครื่องที่เช่ามาเมื่อเย็น ผมค้นหาผ้าผืนน้อยที่หลวงพี่สั่งให้นำติดตัวไปด้วยแต่ไม่พบ คณะกำลังรออยู่ผมจึงเลิกหา รีบไปที่ท่าน้ำใหญ่

เรือสองลำจอดอยู่ข้างโป๊ะ ลำใหญ่กว่าที่ใช้บิณฑบาต ผมอดเสียวไม่ได้เพราะไม่เคยนั่ง ลำแรกมีพระสามรูปและอุปกรณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องดอกไม้ไฟ ส่วนใหญ่จัดตั้งเรียบร้อยแล้วแต่บ่าย หลวงพี่อาจนั่งท้ายเรือลำที่สอง ผมนั่งกลาง อีกรูปอยู่หัวเรือช่วยกันพาย

พายตามน้ำไม่นานก็ถึงวัดที่จัดงาน หลวงพี่อาจพาไปปีนอยู่บนเจดีย์ที่มีพระหลายรูปยืนคอยดูหนังกลางแปลงที่กำลังจะเริ่มฉาย ชาวบ้านหอบเสื่อปูจองที่นั่งดู ด้านโรงลิเกก็กำลังโหมโรงตุ้มๆๆ หลวงพี่อาจเองหายไปกับพระอีกสี่รูปเพื่อจัดการเกี่ยวกับดอกไม้ไฟ

หนังฉายก่อนลิเกเล่น เป็นหนังไทยนักเลงยิงกันบู้ล้างผลาญ คนพากย์ทำให้หนังบู้กลายเป็นหนังตลกไปได้ง่ายๆ ผมยังพลอยหัวเราะขำกับเขาด้วย..พอลิเกเล่นคนดูส่วนหนึ่งย้ายไปหน้าโรงลิเก ไม่มีพระตามไปเพราะคงไม่เหมาะ อีกอย่างหนังก็กำลังติดพันสนุกเข้มข้น

“ไง!..สนุกไหม?..” หลวงพี่อาจปีนเจดีย์ขึ้นมา “น้ำปานะ..” ยื่นแก้วน้ำอัดลมให้ “อย่าเผลอกัดก้อนน้ำแข็งเข้าล่ะ”

“ถ้ากลืนเข้าไปเฉยๆ..” ผมกลืนน้ำแข็งก้อนเล็กเข้าไปพร้อมน้ำหวานซ่านั้น..จะแยกออกจากกันได้อย่างไร “ล่ะครับ?”

“สนุกนะ..” หลวงพีทำไม่รู้ไม่ชี้ “เล่าตอนต้นๆ ให้ฟังหน่อย มัวแต่ทำงานไม่ได้ดู”

“ซื้อมาหรือครับ” ผมเปลี่ยนเป็นใช้หลอดดูดอย่างหลวงพี่

“เปล่า..ของในงานน่ะ..” หลวงพี่ขยับเข้าชิด “เล่ามา”

พูดค่อยๆ ก็ไม่ได้ยินเพราะต้องแข่งกับเสียงหนังและเสียงเชียร์ของคนดู ตะโกนเล่าก็จะเป็นที่รำคาญของพระและชาวบ้านที่ปีนขึ้นมาดูเหมือนกัน วิธีดีที่สุดคือเล่าข้างๆ หู..มือหนึ่งถือถ้วยน้ำ มือหนึ่งเกาะองค์เจดีย์ ตาเหลือบดูจอหนัง ปากเล่าเรื่อง..สักเดี๋ยวคงตกจากเจดีย์จนได้นายนิด ถ้าตก ผมต้องคาบหูหลวงพี่อาจติดลงไปด้วยแน่ๆ

หนึ่งชั่วโมงต่อมาหนังบู้เรื่องนั้นจบลงโดยที่ผมไม่ตกจากเจดีย์

“เรื่องนี้เคยดูหลายหนแล้ว” หลวงพี่อาจบอกหน้าตาเฉย

“ห๊า!..” ร้องเสียงหลง “แล้วให้ผมเล่าให้ฟังจนเกือบตกเจดีย์นี่นะ!”

“ฮะ..ฮะ..ฮา..” หัวเราะ “ตะครุบทันอยู่แล้ว..ฮา..ฮา..”

“ปัง!”

หลวงพี่หยุดหัวเราะ ผมสะดุ้งสุดตัว กำลังมองไปที่เมรุตั้งศพพอดี นึกว่าเสียงโลงแตก

“ปัง!..ปัง!..” เสียงประทัดดอกต่อๆ มา

“กำลังจะเผาจริง..” วางถ้วยน้ำบนพื้นเจดีย์ “ได้ผ้าผืนน้อยมาหรือเปล่า?”

“เปล่าครับ..ทำไมหรือ” ผมวางถ้วยเช่นกัน ลูกพี่ทำอะไรลูกน้องทำตาม

“หวี๊ด..ปุง!”

“จุดพลุแล้ว” หลวงพี่กระตุกแขนผมให้แหงนหน้าดู

“หวี๊ด..ปุง!...หวี๊ด..ปุง!”

“สวยครับ..” ผมอุทานอยู่ใต้แสงวูบวาบหลากสี..พลุอยู่ใกล้กว่าที่เคยเห็น เหมือนอยู่เหนือวัดไม่เท่าไหร่

“ฟู่ๆๆๆ...ฟู่ๆๆๆ..” ตุ่มดอกไม้ไฟขนาดใหญ่หลายใบถูกจุดขึ้นพร้อมกัน สะเก็ดไฟสีทองพุ่งพวยเป็นพุ่มขึ้นสู่ฟ้า

“นึกแล้วว่าไม่มีผ้ามา..” หลวงพี่ล้วงผ้าผืนน้อยออกจากกระเป๋าอังสะ..คือผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองผืนโตขมวดปมทั้งสี่มุมเหลือเป็นกระพุ้งตรงกลาง “หมวกจำเป็น” คลุมลงบนหัวเหม่งของผม อีกชิ้นหนึ่งลงบนหัวตัวเอง

“ทำไม?” ผมพึมพำ หลวงพี่จะเล่นตลกอะไรอีก

“เดี๋ยวรู้..” จับหัวผมกดลงข้างหน้า “อย่าเงยหน้า”

สักพักรู้สึกแสบๆ คันๆ แถวหัวไหล่และต้นแขน ไม่ได้มากอะไรแค่ยิบๆ

“ทีนี้รู้แล้วใช่ไหม..ละอองดินประสิวที่ดับแล้วร่วงลงมา มันยังร้อนอยู่ถ้าโดนหนังหัวจะแสบและคันมาก บางทีอาจกลายเป็นแผล คนทั่วไปมีผมรองรับอยู่ถึงไม่รู้สึกอะไร”

“อ๋อ...” ผมถึงบางอ้อ..เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัดจริงๆ



เวลาไปเหมือนไก่จะบิน เวลามาเหมือนห่าจะกิน...คล้ายอย่างนั้นแน่แท้..กว่าจะขนของลงเรือ กว่าจะตามสมาชิกครบหกรูปล่วงไปสองยาม มีพระสองรูปแถมกลับด้วย มิหนำซ้ำพายเรือทวนน้ำอีก

“จะทันออกบิณฑบาตไหมนี่” พูดเบาๆ พอให้ลอยไปได้ยินถึงคนข้างหลัง

“นี่แน่ะ!..” ด้ามพายกระทุ้งหลังผม “นั่งเฉยๆ แล้วยังทำบ่น”


ทำเล่นไป..กว่าจะคลานเข้าห้องได้ไอ้โต้งใต้ถุนศาลาร้องโอกๆ...สงสัยเช้านี้ระเบิดลงหน้าห้องผมแน่ๆ

.

 
 

จากคุณ : ดาเรน
เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 12:03:29




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com