ความคิดเห็นที่ 1 ให้ดูข้างบนตึกจะเห็นเป็นแท่งสามเหลี่ยม มีลักษณะคล้ายลูกศรเล็งตรงลงมาฝั่งตรงข้าม จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 12:11:19

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพจากด้านข้างที่มองเห็น จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 12:12:03

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าสังเกตตรงป้ายสี่เหลี่ยมสี่ขาวด้านบน จะเห็นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีการตอกตะปูและสายสินจน์ เป็นนัยทางพิธีกรรมอย่างหนึ่ง ตามความเชื่อของหมอดูฮวงจุ๊ย จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 12:12:38

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนที่ตึกดังกล่าวต้องพบเจอก็คือ เทวรูปบูชาสองพระองค์ และอยู่ตรงข้ามกับร้านพอดี ร้านดังกล่าวก็มีธุรกิจดี และการค้าขายก็อยู่ในเกณฑ์ดีเช่นกัน เรื่องเหล่านี้เป็นนัยทางพิธีกรรมหรือความเชื่อ ของแต่ละบุคคลและการแก้ไขทิศทาง ที่เป็นนามธรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจ ในการประกอบกิจการของแต่ละปัจเจกบุคคล ภาพดังกล่าวเพื่อการศึกษาเท่านั้น และขอขอบคุณเจ้าของสถานที่ที่ได้ไปแอบถ่ายมา เพื่อประโยชน์ในการเรียนรู้และศึกษาของคนทั่วไป มิได้มีวัตถุประสงค์อื่นใดแต่ประการใด แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 53 12:15:06 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 12:13:44

ความคิดเห็นที่ 5 ผมไปนั่งที่ขอบรั้วศาลพระพรหมประจำแต่ไม่ได้สังเกตอะไร  ถึงเห็นก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันคืออะไร หรือคุณ ravio  เป็นเจ้าของบ้าน ร้านนี้ขายของพิธีกรรมของชาวจีนใช่ไหมครับ จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 13:22:18

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ใช่เจ้าของร้านครับ ร้านนี้ขายปัจจัยสี่ประเภทหนึ่ง ตามหลักศาสนาพุทธครับ ต้องขอออกตัวก่อนว่าไม่รู้และเข้าใจเรื่องฮวงจุ๊ย แต่ชอบสังเกต สอนถาม อ่านหนังสือ ไปตามเรื่องตามราว ประสาคนชอบไปทุกเรื่องแต่ทำอะไรไม่ค่อยได้เรื่อง จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 17:40:37

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ  ravio  ผมคิดมาตั้งนานแล้วว่า  เมืองหาดใหญ่เป็นเมืองท่องเที่ยว  แต่ไม่มีจุดขาย ที่เป็นเอกลักษณ์  ไม่เหมือน วิ่งควาย  ผีตาโขน   บ้องไฟฯลฯ  เราหากินอยู่กับอบายมุข สิ่งผิดกฎหมาย  เราน่าจะมีเทศกาลที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเลยเพื่อขายนักท่องเที่ยว ลอยกระทง  สงกรานต์นั้นไม่ใช่  แต่เราก็ได้ประโยชน์จากเทศกาลนี้มหาศาล ผมคิดว่าเมืองหาดใหญ่เติบโตวางฐานมาจากขุนนิพัทธิ์ฯซึ่งเป็นวิศวกรรถไฟ  น่าจะ มีเทศกาลที่เกี่ยวข้อง หรือมีกิจกรรมเกี่ยวกับรถไฟ เพื่อระลึกถึงคุณูปการของท่าน ผมเสนอนะครับ จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 23:27:16

ความคิดเห็นที่ 8 น่าสนใจนะคะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 10:28:12

ความคิดเห็นที่ 9 ภาพถ่ายแผนที่จาก google.com จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 21:37:44

ความคิดเห็นที่ 10 อีกภาพเป็นภาพถ่ายทางดาวเทียม จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 21:38:19

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีค่ะ แวะมาสังเกตด้วยคนค่ะ คุณอา Ravio ช่างสังเกตมากเลยค่ะ นับถือจริงๆ ค่ะ เคยผ่านแถวนั้นบ่อยๆ แต่ไม่เคยสังเกตเลยค่ะ (หัวมุมเซี่ยงตึ๊งใช่ไหมคะ ดูจากรูปแล้ว) เห็นแล้วคิดถึง บัวลอยงาดำ เจ้าอร่อยเลยค่ะ คุณอาคะ พอจะทราบความหมายไหมคะ ทำไมต้องมีแท่งสามเหลี่ยม เล็งมาที่ศาลพระภูมิด้วย แล้วทำไมต้องมีป้ายสีขาวผืนผ้าตอกตะปู ผูกสายสิญจน์ หนูเข้าใจว่า ป้ายสีขาว น่าจะหมายถึงแสดงความเคารพต่อพระภูมิ แต่แท่งสามเหลี่ยมนี่ ไม่เข้าใจ หาความน่าจะเป็นไม่เจอเลย ถ้าคุณอาพอทราบ รบกวนช่วยแถลงไขให้ฟังด้วยนะคะ ผิดถูกประการใด คุณอาช่วยแนะด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ :) ถูกใจประโยคนี้จังค่ะ "ประสาคนชอบไปทุกเรื่องแต่ทำอะไรไม่ค่อยได้เรื่อง" โดนเต็มๆ เลยค่ะ หนูเป็นแบบนี้เลย +55 คุณ ลมหัวด้วนคะ หนูว่า เทศกาลด้านรถไฟ เพื่อแสดงความระลึกถึง บรรพบุรุษ ต้นตระกูลสร้างเมือง เป็นความคิดที่ดีและสร้างสรรค์ค่ะ ทว่า หนูว่า ทางด้านการตลาด น่าจะไม่คุ้มทุน จะเรียกนักท่องเที่ยวได้ไม่มาก เหมือนเทศกาลลอยกระทง สงกรานต์ เพราะงานความสนใจเฉพาะด้านเช่นนี้ ต้องเป็นคนที่คิดสนใจในด้านนั้น จึงจะเล็งเห็นความสำคัญ แต่เพราะหาดใหญ่ เป็นเมืองท่องเที่ยว ดังนั้น จึงต้องเล็งการตลาดในมุมกว้างไว้ก่อน คือ เด็กเที่ยวได้ ผู้ใหญ่เที่ยวดี ถ้าเป็นแง่คล้าย Exhibition or Art gallery ประมาณนั้น เป็นพิพิธภัณฑ์ไป รวบรวมสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับการก่อร่างสร้างเมือง ก็คงให้ความรุสึกอีกแนวหนึ่งค่ะ อันนี้ก็ความคิดหนูคิดเอาเองนะคะ :) จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 06:48:40

ความคิดเห็นที่ 12 ผมขอเสนอไอเดีย   การจัดเทศกาลอะไรต้องเกี่ยวข้องกับการแข่งขันด้วยนิสัยคนไทย ต้องมีการพนันหรือมีแพ้ชนะ  แต่ผมไม่สนับสนุนการพนัน  การจัดกิจกรรมเกี่ยวกับรถไฟ สามารถทำได้ทุนไม่มากคือใช้รถถ่อซ่อมรางสมัยก่อน   แข่งถ่อรถ ทำบรรยากาศ ให้เหมือนรางรถไฟจริงๆมีหินข้างราง  โดยเนรมิตรรางรถไฟรางคู่ จุดสตาร์ทอยู่ที่ ป้อมไฟแดงหัวสะพานลอย  เส้นชัยอยู่ที่วงเวียนน้ำพุปิดถนนสายนั้นไปเลย  ผมว่า สนุกกว่าแข่งเรือ  และไม่มีที่ใดในโลก  มีที่หาดใหญ่ไทยแลนด์ที่เดียว   เรื่องนี้ผมคิด มานานแล้วครับ  ผมว่าหาดใหญ่มีโอกาสดังไปทั่วโลก   ผมขอเสนอครับ   ถ้าเห็นด้วยยกมือขึ้น จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 22:31:58

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีค่ะ เข้ามาจินตนาการตามความคิดคุณลมหัวด้วนค่ะ หนูคิดตามแล้วสนุกไปด้วยเลย ทว่า คาดว่าคงต้องใช้งบประมาณและการก่อสร้างเยอะแน่ๆเลยค่ะ แต่ถ้าทำได้จริงๆ โหย คงสนุกจังค่ะ :) จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 18:30:45

ความคิดเห็นที่ 14 ขออนุญาตคุณ  ravio  ด้วยครับ ที่พาออกนอกเรื่อง  ที่ผมเสนอไอเดีย "แข่งรถถ่อ" เข้ามาแทรกขออนุญาตใช้พื้นที่ก็แล้วกันนะครับ เรื่องงบประมาณไม่เท่าไหร่ครับ  แค่สร้างรางรถไฟขึ้น 2 ราง ความยาว ไม่เกินสอง ร้อยเมตร  รวม 2 ราง  ไม่เกิน  400 เมตร  ไม้หมอน ก็เหมือนรางรถไฟทั่วไปนั่นแหละ ก้อนหินที่มาโรยก็คงไม่แพงมาก ที่สำคัญลงทุนครั้งเดียว ใช้ได้ตลอด  งบก่อสร้างครั้งแรกคงไม่เกิน  5 ล้านบาท ปีต่อไป  จ่ายแต่ค่าแรงก่อสร้างอย่างเดียว งบแค่นี้จิ๊บจ๊อยมากสำหรับเทศบาลนครหาดใหญ่  แต่ผลลัพย์ที่ได้มหาศาล (ผมคิดเข้าข้างตัวเองนะครับ) จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 19:23:37

ความคิดเห็นที่ 15 และขอแถมอีกอย่าง   หาดใหญ่เราสมัยก่อนมีสถานบันเทิงมากมาย   ที่จำได้ตอน เด็กๆ  มีคณะ "รำวง" หลายคณะ ที่จำได้ คณะ "หนูจ๋า" โด่งดังมากนางรำก็สวย และแถว  "วิกคิงส์"  มีโรงรำวงเล่นประจำ ผมเสนอในงาน  "แข่งรถถ่อ"  ควรจัดให้มีรำวงย้อนยุค  คณะรำวงก็ให้จัดตั้งขึ้นโดย ชุมชนต่างๆในเขตเทศบาล  ชุมชนละคณะมีการแข่งขันชิงรางวัล  คณะใดขายตั๋ว ได้มากมีคนรำมาก  ก็รับรางวัลไป  ผมว่าน่าจะสนุกดีนะ ขออธิบาย  สำหรับท่านที่เกิดไม่ทัน  "รำวง"   ให้ไปเปิดเพลง "สาวรำวง" ของวง กะท้อน  ดูมิวสิค นั่นแหละคือรำวงยุคนั้น  มีนักร้องๆเพลงสดๆ ดนตรีเล่นสดๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงลูกทุ่ง  จังหวะเพลงที่ร้อง  รำ  มีหลายจังหวะ เช่น  รำวง ชะ ชะ ช่า    ตะลุง    อ๊อปบิท  ฯลฯ แค่นี้ก่อนนะครับ จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 19:43:04

ความคิดเห็นที่ 16 น่าสนใจ ในข้อความของแต่ละท่าน จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 23:01:55