๐๐ ... กมโลภิกขุ..ชายหนุ่มผู้บวชเป็นพระ ... ๐๐ (บทที่ 5){แตกประเด็นจาก W9480349}
|
|
.
บทที่ 5
ผมตกใจตื่นเพราะเสียงโซ่ดังกรุ๊กกริ๊กมาจากท่าท้ายศาลา..รีบลุกขึ้นเก็บเครื่องนอนออกไปล้างหน้าแปรงฟัน..สังหรณ์ใจชอบกล
หลวงตาผมขาวทีเห็นในวงฉันอาหารกำลังขยับโซ่เรือที่ใช้บิณฑบาต ท่านขยับไปขยับมาจะลงเรือก็ไม่ใช่จะขึ้นบกก็ไม่เชิง..ผมเองรู้สึกตัวว่าจะสายจึงไม่สนใจอะไรท่านนัก รีบจัดการเรื่องของตัวเองให้เสร็จไวๆ
เขาไปกันหมดแล้ว เสียงมาจากหลวงตา
พูดกับผมหรือครับ? ยาสีฟันเต็มปาก ไม่เรียบร้อย
ใช่..สายเธอออกไปแล้ว
ตายละ! ที่สังหรณ์ใจนั้นเป็นจริง..วักน้ำลูบหน้าหนึ่งครั้ง วิ่งตึงๆ ไปครองผ้า..ตัวอย่างน่าอายมีให้เห็นเมื่อวาน ผมจะเป็นอย่างนั้นไม่ได้
กึ่งเดินกึ่งวิ่งถึงกุฏิหลวงปู่นึกขึ้นได้ว่าลืมบาตรจึงวกกลับไป...หลวงตาผมขาวกำลังเดินถือพายเข้าห้องยิ้มเจื่อนๆ ให้ผม
ออกมาถึงหน้าวัดวิตกว่าจะจำทางได้หรือเปล่า ต้องนึกให้เร็วพอๆ กับย่างเท้าเดิน ถ้าไม่ทันหรือไปไม่ถูกอย่างไรก็ถือว่าได้พยายามแล้ว..ที่กรุงเทพฯ สว่างแจ้งพระยังเดินอยู่ตามถนน..นี้ยังมืดอยู่เลย
ผมจำทางไม่ได้จริงๆ เดินสะเปะสะปะเข้าทางแยกนั้นออกทางนี้วกวน ขามาไม่เท่าไหร่ ถ้ากลับวัดไม่ถูกละเป็นเรื่องแน่นายนิด
ฟ้ายังไม่มีทีท่าจะสว่าง หรือว่ายังมืดอยู่ไม่ใช่เวลาออกบิณฑบาต ความที่กลัวจะไม่ทันผมจึงตื่นก่อน..แล้วที่หลวงตาผมขาวบอกผมล่ะ
มิน่า..ทำไมถึงไม่มีใครปลุกผม น่าจะเฉลียวใจ..ทำอย่างไรดี?
ผมทำใจดีสู้เสือเดินไปเรื่อยๆ ยังไงก็ต้องสว่างจนได้ ออกปากถามทางชาวบ้านคงกลับวัดได้ เรื่องอาหาร ให้รู้ไปว่าจะไม่มีจิตโมทนาแผ่มาบ้างเลย
คล้ายจะเป็นบ้านหลังแรกของเมื่อวาน ผมหยุดยืนหน้ารั้วอย่างลังเล..ใช่แล้ว!..โยมผู้เฒ่าไต่บันไดลงมา ขันข้าวใหญ่กว่าเดิม ควันกรุ่น ถ้าจะร้อนมากกว่าด้วย
ยายเหลียวมองรอบๆ คล้ายสงสัยว่าทำไมมีพระรูปเดียว แต่ไม่ได้ปริปากถามอะไรใส่ข้าวและอาหารคาวหวานที่เมื่อวานผมนึกว่าจะได้แต่ข้าวเปล่าๆ...เหมือนประชด..ยายตักข้าวทั้งขันใส่บาตร อาหารทั้งหมดยายก็ทยอยใส่ลงไป..ตั้งเยอะนะนั่น ยายใส่เข้าไปได้อย่างไรไม่รู้ ผมรู้สึกทั้งหนักทั้งร้อน
วันนี้ยายให้หมดเลย ไม่ต้องกลัวอดเหมือนเมื่อวาน ยิ้มเย็นๆ นั่งลงพนมมือไหว้..ผมยังว่าคำแผ่เมตตาไม่คล่องจึงภาวนาในใจ
สาธุ ยายพึมพำเมื่อผมจบบทแผ่เมตตา..รู้ได้ไง
เพราะร้อน เพราะหนัก เพราะอยากรู้ว่าอาหารมากมายเข้าไปอยู่ในบาตรได้อย่างไรผมเผยอฝาบาตรดู..โอ๊ะ!..ไม่มีอะไรสักอย่างอยู่ในบาตร มองกลับไปที่ยาย..ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น ผมแทบจะออกวิ่งทันที แต่บาตรหนักเกินกว่าจะทำอย่างนั้นได้..นี้มันอะไรกัน!
ผมกำลังถูกสั่งสอน..ที่คิดว่าวัดนี้ไม่มีครูบาอาจารย์คอยอบรมผมคิดผิด..นี้ไง..สอนไม่ให้โลภ ไม่ให้นึกอยากได้อยากเป็นกว่าทีมีอยู่กว่าที่ได้รับ
บาตรหนักขึ้นทุกที ความร้อนก็ไม่คลายลง...หนามยอกก็ต้องเอาหนามบ่ง ผมหยุดใต้ไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ทำจิตสำรวมเท่าที่จะทำได้นึกถึงยายผู้เฒ่า
ผมจะไม่โลภมากอีกแล้วครับ..บุญใดกุศลใดที่ยายสมควรได้รับขอจงบังเกิดแก่ยายเถิด..ขอแบ่งปันอาหารในบาตรนี้ให้แก่สัมภเวสีและดวงวิญญาณเร่ร่อนทั้งหลายด้วยเทอญ ผมเปิดฝาบาตรหยิบอาหารที่สมติว่ามีออกมา..ไม่น่าเชื่อ..ทันทีที่มือพ้นปากบาตรมีห่อใบตองติดมาด้วยทุกครั้ง..ผมวางลงที่โคนไม้ ภาวนาไปหยิบอาหารออกมาจนได้กองใหญ่..เอียงบาตรเขย่าเบาๆ ข้าวร้อนๆ หล่นลงบนห่อใบตองที่คลี่ออกรองอย่างเหลือเชื่อ..อย่านึกว่าไม่กลัว..ขนลุกตั้งชันทั้งตัว
เหลือข้าวติดก้นบาตรอยู่พอฉัน ผมหลับตาน้อมจิตถึงยายเฒ่า ลืมตาขึ้นอีกทีทุกอย่างหายไป ต้นไม้ใหญ่ กองอาหาร และความมืดมิด
ฟ้าสางแล้ว..ผมยืนอยู่ที่สวนละเมาะหน้าเรือนไทยของแม่พิมพิลาไล ยังไม่มีใครมาถึงนอกจากผม...ชายหนุ่มคนหนึ่งเสียงคุ้นๆ สนทนากึ่งโต้เถียงกับหญิงมีอายุคนหนึ่ง..แว่วชื่อวัด หลวงตาใบ และชื่อเขียด ผมเอะใจผิดวินัยเขม้นดู..ชายหนุ่มคนนั้นคืออดีตหลวงพี่เขียดจริงๆ เมื่อวานยังครองผ้าเหลืองอยู่เลย สึกมาเมื่อไหร่และทำไม..มิน่าโยมแม่ถึงไม่พอใจต่อว่าโต้เถียงกันอย่างที่ได้ยิน
นิมนต์ค่ะ เสียงหวานใสที่ผมจำได้..เธอมายืนตรงหน้าผมเมื่อไหร่!
อ้อ!..พระนิด.. ทิดเขียดเข้ามายืนข้างๆ แอบมาลำพังรูปเดียวหรือท่าน?
เอาละซี..ผมพอจับสำเนียงความหมายได้ ความจริงผมไม่ได้คิดเลยเถิดอะไรอย่างที่ทิดกำลังเข้าใจ
นิมนต์ค่ะหลวงพี่นิด วาจาหญิงสาวยิ่งทำให้ทิดเข้าใจผิด
ผมได้แต่ยืนก้มหน้านิ่ง..นี้เพียงเพราะคิดลำพองเล่นประสายังไม่ลืมวัยหนุ่มที่เพิ่งจากมา..ผมจะได้รับบทเรียนอะไรอีก
ทิดเขียดกลับเข้าบ้านและออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมไม้ท่อนหนึ่ง
มารูปเดียวหรือคะท่าน? พิมพิลาไลยื่นทัพพีข้าวมาที่บาตร วันนี้เธอลงจากรองเท้าเข้ามาใกล้ ผมยิ่งก้มหน้า เปิดฝาบาตรออก...สองภาพต่อเนื่องกันทำให้ตกใจแทบจะทรุด..ไม่ใช่เพียงเธอลงจากรองเท้าเข้ามาหา แต่ที่ผมมองอยู่..เธอไม่มีเท้า...ด้านหลัง..ทิดเขียดกำลังเงื้อไม้ขึ้นเล็งที่สาวคนรัก และฟาดลง
เพล้ง..เพล้ง..ปึก..
ฝาบาตรหล่นลงพื้น..ผมได้สติ ลืมตาขึ้นทันที
พระนิด! เสียงตำหนิ..จาก..พระมหาชัย..อะไรกัน!..อะไรกัน!
พระทั้งห้ารูปหันมามองผมเป็นตาเดียวรวมทั้งแม่พิมคนสวย..เธอยังคงยืนอยู่บนรองเท้า ผมเลื่อนเข้าไปใกล้ให้เธอตักข้าวใส่ ไม่อิดออดอะไร
ระวังหน่อย หลวงพี่นัทรูปหล่อหยิบฝาบาตรส่งให้
ที่แท้เมื่อคืนกลับจากงานเผาศพผมไม่ได้นอนเพราะกลัวจะไม่ตื่น ออกบิณฑบาตตามปกติด้วยความงัวเงีย บรรยากาศญาติโยมที่ใส่บาตรก็คือโยมเดิมๆ ตามปกติไม่มีอะไรประหลาดเกิดขึ้นรวมทั้งยายเฒ่าบ้านแรก..จนถึงบ้านแม่พิมพิลาไลผมเกิดง่วงสุดขีด ประกอบกับยืนรอเธอบรรจงใส่บาตรพระหัวแถวและถัดมาผมจึงโงกสัปหงก มือที่กุมฝาบาตรเตรียมเปิดตกลงพร้อมฝาบาตร
อนิจจา..แค่ไม่กี่วินาทีที่ได้ยินเสียงฝาบาตรหล่นกระทบพื้น ผมฝันเป็นตุเป็นตะตั้งแต่ตื่นขึ้นไม่เห็นใคร เดินเดี่ยวบิณฑบาต ได้รับบทเรียนจากจิตใต้สำนึก บทเรียนที่เกิดจากการกระทำไม่ดี รู้สึกไม่ดีของตัวเอง
ขณะเดินกลับวัดผมคิดไปไกลว่าที่พระบางรูปนั่งสมาธินานๆ จนเห็นนรกสวรรค์ภูตผีปีศาจ หรือแม้กระทั่งได้เห็นได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้านั้นอาจจะเพราะเผลอหลับแค่ไม่กี่วินาทีอย่างที่ผมเป็นก็ได้...นายนิดบังอาจอีกแล้ว!
กำลังรอคิวล้างเท้าต่อจากพระมหาชัยผมมองขึ้นไปบนศาลา..ผ้าเหลืองกองโตวางอยู่กลางศาลาหน้าห้องผมพอดี จะทำอะไรกันหรือ
วางบาตรเรียบร้อยเข้าไปดู เห็นกระถางธูปพร้อมธูปหนึ่งดอกจุดอยู่หน้ากองผ้าเหลือง..ไม่ใช่กองผ้าเหลืองเสียแล้ว คือร่างๆ หนึ่งที่ถูกคลุมด้วยผ้าเหลือง..ใคร..ทำไม
หลวงตาทินผมขาวน่ะ หลวงพี่เขียดซึ่งมาถึงก่อนผมเปลี่ยนผ้าครองออกมาจากห้อง
ก็เมื่อเช้าผมยังเห็นอยู่ พูดออกไปแล้วนึกขึ้นได้ว่าเห็นตอนสัปหงก
เมื่อเช้ามืดท่านเตรียมตัวออกบิณฑบาตทางน้ำตามปกติ แต่เกิดหน้ามืดเป็นลมหล่นจากท่า..กว่าจะช่วยขึ้นมาได้..
อ้อ..ครับ.. ผมพูดอะไรไม่ออกหน้ามืดเหมือนจะเป็นลม..เมื่อเช้านี้ในภวังค์หลวงตาผมขาวคงมาให้เห็น บอกเป็นนัยว่าไปบิณฑบาตไม่ได้ เอาพายมาเก็บ..ยังจำได้ถึงยิ้มลาเจื่อนๆ ของท่าน
คงจะตั้งสวดบนศาลานี้ละ.. เสียงหลวงพี่อาจเดินขึ้นมาบนศาลา ท่านเคยอยู่ของท่านนี่นะ
ตั้งสวดศพบนศาลานี้..หน้าห้องผม.. พึมพำเบาๆ .. อาจจะเพราะอดนอนเมื่อคืน..เพราะบทเรียนประหลาด และการอำลาของร่างที่นอนอยู่..ผมเข่าอ่อนทรุดลง
อ้าว!..ไปเสียแล้ว เสียงหลวงพี่อาจก้องในหัวพร้อมความรู้สึกของอ้อมแขนที่รับร่างผมไว้...
.
จากคุณ |
:
ดาเรน
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ก.ค. 53 09:21:53
|
|
|
|