ความคิดเห็นที่ 1 |
องครักษ์หนุ่มซักซ้อมขั้นตอนที่จำเป็นกับเพื่อนร่วมงานอื่นๆ จนเรียบร้อยในเวลาไม่นาน กระนั้น ก็ไม่อาจไล่ความคิดที่รบกวนจิตใจตลอดการทำงานออกไปได้
ดูลัสจำได้ดี เด็กหนุ่มผมแดงที่ไม่ได้สวมเครื่องแบบทหารในโรงอาหารคนนั้นคือลูกชายคนรองของเจ้ามณฑลยาร์ลาธ ไม่ผิดแน่
เด็กหนุ่มมาอยู่ที่ด่านแห่งนี้ ไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญ เขาเป็นคนสุดท้ายที่อาเมียร์พูดด้วยก่อนถูกจับกุม มิหนำซ้ำ ถ้อยคำที่เจรจากันยังเป็นคำกระซิบซึ่งไม่มีใครรู้ความหมาย หากชายคนทรายนั้นวางแผนการหนีไว้ จะมีคนร่วมมือนัดแนะสถานที่ก็ไม่แปลก
และชายหนุ่มก็เชื่อว่าจุดประสงค์ของเด็กหนุ่มผมแดงต้องเป็นการช่วยอาเมียร์ แทนที่จะเป็นการจ้องล้างแค้นหรือจับกุม หากอีกฝ่ายเห็นเขาเช่นกันและจำได้ ก็อาจเข้าขัดขวาง หรือแทรกแซงการปฏิบัติงานของพวกเขา เพื่ออำนวยประโยชน์ต่อคนทรายก็เป็นได้
เมื่อครู่ ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะเพิ่งทำเช่นนั้นไปหมาดๆ ด้วยการยกมีดสั้นขึ้นส่องแสงแดด ทำเป็นสัญญาณบางอย่าง โดยไม่รู้ว่าชายหนุ่มจับตามองอยู่เงียบๆ
ถึงจะไม่ค่อยอยากเผชิญหน้ากันถ้าหลีกเลี่ยงได้ แต่ดูลัสคงต้องเตือนเรื่องการกระทำที่เห็นคาตากันอย่างนี้สักหน่อย
แต่หลังจากที่เขาบอกราชองครักษ์ในคราบทหารคนอื่นๆ ให้เข้าประจำที่ และเริ่มก้าวไปทางหอสังเกตการณ์เพียงคนเดียว นายด่านที่มองอยู่ก็ขัดขึ้นทันที
“เดี๋ยว เจ้าคนนั้นจะไปไหน”
“บนหอสังเกตการณ์มีคนอยู่ขอรับ” ชายหนุ่มรายงาน “ข้าคิดว่าเขาไม่ใช่ทหาร จึงไม่ควรขึ้นไปอยู่ที่นั่น”
“ช่างเถอะ อย่าไปรบกวนท่าน” ทหารผู้มากวัยและมากยศกว่าสถานะปลอมของเขาโบกมือ “นั่นลูกชายท่านเจ้ามณฑลยาร์ลาธเอง ท่านอยากพักผ่อนเงียบๆ บนนั้นสักครู่”
องครักษ์หนุ่มในคราบทหารขมวดคิ้ว
“แต่ตามกฎ บุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกองทัพ ไม่ควรอยู่ในพื้นที่การทหารขอรับ”
นายด่านขมวดคิ้วมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“ข้าบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไร ไปทำงานของเจ้าเสีย ด่านของเรามีวิธีของเรา”
ดูลัสกลับยืนนิ่งอยู่กับที่ พร้อมกับจ้องมองชายตรงหน้าอย่างแข็งกร้าว อยากพูดนักว่าด่านผ่านแดนของยาร์ลาธช่างหละหลวมและไม่เคร่งครัดต่อกฎเกณฑ์จนน่าหัวร่อ หากเป็นด่านของอุลทูร์ ต่อให้ลูกเจ้ามณฑลอย่างเขาขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์โดยพลการและไม่มีเหตุผลสมควร ท่านพ่อย่อมสั่งลงโทษตามกฎโดยไม่มีผ่อนผันแท้ๆ
กระนั้น ชายหนุ่มยังตัดสินใจแย้ง...เท่าที่ขอบเขตสถานะปลอมของตนจะอำนวย
“ข้าทราบแล้วขอรับ” เขาพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ออกมาทางน้ำเสียงอย่างเต็มความสามารถ “แต่หากนั่นเป็นลูกชายท่านเจ้ามณฑล ก็ยิ่งไม่ควรให้เขาอยู่เพียงลำพังบนนั้นขอรับ พี่ชายของเขาเพิ่งถูกลอบสังหารไปแท้ๆ เขาอยู่ตัวคนเดียวอย่างนี้ ยิ่งเสี่ยงต่อการถูกปองร้ายขอรับ”
“...เรื่องนั้นข้ารู้ แต่ท่านห้ามไม่ให้เราขึ้นไปรบกวนบนหอสังเกตการณ์ เราก็คุ้มกันบริเวณข้างล่างให้แน่นหนาแทนแล้วกัน”
“แค่นั้นไม่เพียงพอแน่ขอรับ” ดูลัสหมายจะให้อีกฝ่ายยอมจำนนด้วยเหตุผลให้ได้ “หากฆาตกรที่ฆ่าท่านเฟลิมมีเวทมนตร์จริงๆ ...จะฆ่าใครอีกสักคนจากระยะไกล ย่อมทำได้ง่ายๆ อยู่แล้ว หรือต่อให้ไม่ใช่ฆาตกรที่มีเวทมนตร์ พลหน้าไม้ที่ซุ่มอยู่ในระยะไกลก็ทำได้ หากเกิดเหตุร้ายใดๆ ก็ตามกับลูกชายอีกคนของท่านเจ้ามณฑล ขณะที่เขาอยู่บนหอสังเกตการณ์...ทั้งๆ ที่ไม่ควรไปอยู่บนนั้นแต่แรก เรื่องนี้อาจถูกมองว่าเป็นความหละหลวมของพวกเราที่ด่าน โดยเฉพาะท่านซึ่งเป็นหัวหน้าขอรับ”
เขาจงใจใช้คำว่า ‘พวกเรา’ แทน ‘ท่าน’ ในทีแรก เพื่อให้ฟังว่าไม่ใช่เพียงนายด่านที่ถูกกล่าวโทษ แต่เป็นทหารทุกๆ คนที่นี่
สีหน้าของนายด่านค่อยๆ เจื่อนลงเหมือนเพิ่งตระหนักได้ ทว่าเขายังคงแย้ง
“แต่ท่านรูอาร์ค...ห้ามไม่ให้ใครรบกวนเด็ดขาด”
“หากท่านลำบากใจ ข้าจะไปพูดเองขอรับ” องครักษ์หนุ่มตัดสินใจอาสา “ข้าเองเพิ่งมาใหม่ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น ท่านก็ทำเป็นว่าไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับข้าก็แล้วกัน”
“อ...อือม์” ชายผู้มากวัยกว่ารับอ้อมแอ้ม “ฝากด้วยนะ”
ดูลัสทำเป็นค้อมคำนับ ทั้งๆ ที่เหยียดหยามอีกฝ่ายอยู่ในใจลึกๆ ก่อนจะเดินหลบตามชายคาอาคารไปยังบันไดลิงขึ้นหอสังเกตการณ์ แล้วไต่ขึ้นไปอย่างเงียบกริบที่สุด
* * * * *
จากคุณ |
:
Anithin
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ก.ค. 53 22:05:32
|
|
|
|