ความคิดเห็นที่ 1 |
และนี่เป็นเหตุผลที่ฉันมาอยู่ที่นี่...หน่วยแพทย์อาสาในพื้นที่ที่มีความรุนแรงจากสงคราม
บางครั้งมนุษย์ก็ต้องยัดเยียดตัวเองเข้าไปในสถานการณ์เสี่ยง ๆ บ้าง เผื่อจะเข้าใจคุณค่าของชีวิตได้มากขึ้น และได้เปิดใจทบทวน ตามหาความต้องการของตัวเองอย่างเต็มที่ ในวันที่เราไม่สามารถจะรู้ได้เลยว่าวินาทีสุดท้ายของชีวิตจะเดินเข้ามาเมื่อไร
ฉันกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ในมือคือเครื่องมือสำหรับคีบซึ่งกำลังดึงเอากระสุนนัดที่ 34 ออกจากท้องเธอ ผู้หญิงโชคร้ายที่บังเอิญเพิ่งถูกลูกซองส่องมาหมาด ๆ
หลายคนที่ยืนอยู่รอบตัวฉันคงเห็นสัจธรรมไม่ต่างกัน ชีวิตนี่ไม่เที่ยงจริง ๆ เราต่างทราบประวัติตามที่เจ้าหน้าที่เล่าคร่าว ๆ ให้ฟัง เธอคนนี้เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่บังเอิญเดินตามหาลูกชายไปผิดที่ผิดทางเพียงไม่ถึงสิบก้าว แล้วลูกซองสวย ๆ ก็วิ่งเข้ามาในท้อง แตกกระจายออกเป็นกระสุนหลายนัดที่ฝังเข้ามาให้พวกเรายืนค้นหา
เสียงเครื่องวัดสัญญาณชีพในห้องผ่าตัดเฉพาะกิจยังดังเบา ๆ เป็นระยะ ดูจะเป็นอย่างเดียวที่บอกฉันว่าเธอคนนี้ยังมีชีวิต แม้จะเป็นชีวิตที่คล้ายจะแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่ก็เป็นชีวิตที่ฉันอยากจะยื้อเอาไว้ เพื่อชีวิตอื่น ๆ ที่อยู่เบื้องหลังเธอคนนี้
มารดา สามี และลูกชายที่น่าสงสาร พวกเขาเหล่านั้นยังรอคอยให้ผู้หญิงคนนี้เดินกลับไปที่บ้าน
และหมออย่างพวกเราก็มีหน้าที่ทำให้เธอคนนี้ได้เดินกลับไปที่บ้านอย่างปลอดภัย
เรายืนคีบกระสุนออกจากท้องคนไข้นานเกือบ 3 ชั่วโมง ศัลยแพทย์มือหนึ่งชาวอเมริกันจึงเงยหน้าขึ้นสบตากับฉันซึ่งเป็นศัลยแพทย์ผู้ช่วย แล้วเขาก็เอ่ยคำให้เริ่มการซ่อมแซมแก้ไขอวัยวะภายในที่ได้รับความเสียหาย มือใหญ่ภายใต้ถุงมือนั้นขยับไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ฉันช่วยจัดการบางส่วนให้งานสะดวกขึ้น ไม่ว่าเมื่อไรที่ร่วมงานกัน เขาก็ยังคงทำให้ฉันทึ่งได้ทุกครั้งที่ลงมีด หรือกระทั่งลงมือเย็บ ความสามารถของเขาราวกับพรสวรรค์ที่ทำลายกำแพงของข้อจำกัดต่าง ๆ ในพื้นที่สงครามแบบนี้ให้หมดสิ้นไป
ในที่สุด การผ่าตัดก็เสร็จสิ้นลงเมื่อศัลยแพทย์หนุ่มตรงหน้าฉันเย็บปิดหน้าท้องคนไข้แล้ววางเครื่องมือลงบนถาด
ฉันเดินไปดึงเสื้อคลุมผ่าตัดและถุงมือออก ก่อนจะออกจากห้องผ่าตัดมาพร้อมกับเขาที่ก้าวเร็ว ๆ มาเดินข้างฉัน
วันนี้ขอบคุณมากนะครับ เขาบอกเสียงนุ่ม สำเนียงแบบอเมริกันตอนใต้ฟังดูเพราะว่าปกติเมื่อออกมาจากปากผู้ชายคนนี้
เช่นกันค่ะ...ฝีมือคุณยอดเยี่ยมมาก ฉันเอ่ยอย่างชื่นชม
เขาหัวเราะ ขอบคุณครับ แล้วนี่...คุณจะกลับที่พักเลยหรือเปล่า
ว่าจะไปหาอะไรทานเสียหน่อยน่ะค่ะ พลังงานในวันนี้ของฉันกำลังจะหมดอยู่แล้ว
ดีเลย...ผมก็กำลังจะไปหาอะไรทานเหมือนกัน
เพราะคำนั้น เขาและฉันจึงเดินมาถึงกระโจมที่จัดไว้เป็นโรงครัว ด้วยความที่อยู่มานานกว่า เขาจึงค่อนข้างคุ้นเคยกับผู้คนที่นี่ และเป็นคนเอ่ยปากขอขนมปังก้อนใหญ่ออกมาถึง 2 ก้อน
เรานั่งคุยกันอยู่คนละฝั่งของโต๊ะตัวยาวที่ใช้นั่งรับประทานอาหาร เขาอ้าปากงับขนมปังก้อนใหญ่อย่างเอร็ดอร่อย ขณะที่ฉันนั่งบิเป็นชิ้นเล็ก ๆ ส่งเข้าปากอย่างเชื่องช้า
เห็นเขาว่าคุณกำลังจะแต่งงาน ฉันสะดุ้งมองอย่างประหลาดใจเล็กน้อย ไม่บ่อยหรอกที่คนไม่คุ้นเคยกันดีพอจะกล้าถามเรื่องส่วนตัวของคนอื่นได้หน้าตาเฉยอย่างนี้ แต่อาจต้องยกเว้นเขาไว้สักคน เมื่อฉันก็พอจะได้ยินมาเหมือนกันว่าเขาเป็นพวกอัจฉริยะที่มีขาอีกข้างเหยียบอยู่บนเขตแดนของคนบ้า และมีนิสัยที่หมิ่นเหม่จะก้าวล้ำไปในเขตแดนนั้นได้อย่างง่ายดาย
ค่ะ... เมื่อเขากล้าถาม ฉันก็กล้าตอบ
เห็นเขาว่าคุณมาที่นี่เพื่อหนีงานแต่งงาน
ฉันถอนใจเบา ๆ ถึงจะนับถือในความสามารถของเขามากแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่ชอบจริง ๆ ที่จะมีคนมายุ่มย่ามกับเรื่องส่วนตัวแบบนี้
การหนีไม่ใช่เรื่องที่ดี ตรงกันข้าม ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา คลี่ยิ้มให้อย่างเยือกเย็นที่สุด จงใจสร้างบรรยากาศของความไม่เป็นมิตรออกมาอย่างเต็มที่ แล้วยอมรับความจริงด้วยเสียงเรียบ ๆ ถ้าคุณได้ยินเขาว่ามาไม่ครบนะคะ...อีก 3 วันจะถึงวันแต่งงานของฉัน
เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ขอโทษที่ละลาบละล้วง...แต่ผมสงสัยว่าทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ในเวลาแบบนี้
ผู้ชายคนนี้ได้คืบแล้วยังจะเอาศอก
ขอโทษนะคะ แต่คุณอาจจะลืม...คุณเป็นศัลยแพทย์ ไม่ใช่จิตแพทย์ ฉันบอกเพียงเท่านั้นก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วโคลงศีรษะให้เขาเบา ๆ ตามมารยาท แล้วเดินออกมา
ดูเหมือนว่าฉันจะหนีเรื่องวุ่นวายไม่พ้นเสียที ยิ่งเขามีชื่อเสียงเท่าไร คนก็ยิ่งสนใจมากเท่านั้น ขณะที่ผู้หญิงธรรมดา ๆ อย่างฉันถูกลากเข้าไปเป็นเป้าความสนใจอยู่ข้าง ๆ เขา ยืนอยู่ท่ามกลางสายตาที่พุ่งมองมาโดยไม่ได้พยายามจะเข้าใจ แต่พยายามจะตัดสินจากภาพที่เห็นและความคิดของพวกเขา นั่นคือเรื่องน่ารำคาญอย่างหนึ่งสำหรับฉัน มันทำให้หาความสงบในชีวิตไม่ค่อยจะได้เสียที
แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ฉันมาอยู่ที่นี่ บางอย่างที่มากกว่าความวุ่นวายของคนอื่น ๆ คือความวุ่นวายในใจเราเอง
ฉันเม้มริมฝีปากแน่นกับความจริงที่ว่านี่เป็นวันที่ 8 ที่ฉันมาอยู่ที่นี่แล้ว และอย่างที่ฉันบอกกับศัลยแพทย์คนนั้น อีก 3 วันจะถึงวันแต่งงานของฉัน
ไม่มีเสียงโทรศัพท์ ไม่มีอีเมล์ ไม่มีการติดต่อใด ๆ ทั้งสิ้น ราวกับว่าเขาไม่ต้องการฉันแล้ว
ทั้งที่เราเคยคุยกันแล้วแท้ ๆ ว่าจะไม่ใช้อารมณ์ เราจะหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยกันด้วยเหตุผล และพูดความจริงต่อกันอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าความจริงนั้นจะทำร้ายกันหรือไม่ แต่เราเคยเชื่ออย่างคนงมงายในรักว่าความรักจะมีทางออกให้ทุกเรื่องเสมอ
นั่นก็แค่ตรรกะช่วงที่รักยังหวานอยู่เท่านั้น เมื่อถึงจุดหนึ่งของความสัมพันธ์ เราก็เริ่มลืมทุกอย่าง และมองเห็นแต่ความสับสนเกินกว่าจะพูดอะไรออกไปตามตรง
เฮ้...อย่าเดินไปทางนั้นดีกว่านะ เสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกนบอกมาจากด้านหลัง ฉันจึงหันไปมองและพบว่าเป็นหนุ่มอเมริกันที่ฉันเพิ่งเดินจากมา
เขาก้าวยาว ๆ เข้ามาหาฉันแล้วถาม ผู้หญิงไทยเดินเร็วอย่างคุณทุกคนหรือเปล่า
ฉันเลิกคิ้วมองอย่างอ่อนใจ เวลาอัจฉริยะจะงี่เง่าขึ้นมา ท่าทางดี ๆ ของเขาก็หายไปหมดอย่างน่าเสียดายจริง ๆ
คุณตามฉันมาทำไมคะ ฉันพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง แล้วถามอย่างสงบ
มันไม่ปลอดภัย ถึงที่นี่จะเป็นหน่วยแพทย์อาสาก็เถอะ แต่ในภาวะสงครามแบบนี้คุณก็ไม่ควรวางใจอะไรทั้งนั้น
รวมทั้งคุณด้วยหรือเปล่า
ใช่...รวมทั้งผมด้วย เขาตอบได้หน้าตาเฉย
ฉันขอถอนความคิดที่ว่าเขาเป็นผู้ชายงี่เง่า เพราะตอนนี้ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันดูเฉลียวฉลาดอย่างไม่น่าไว้ใจ การที่เขาเอ่ยยอมรับอย่างตรงไปตรงมาด้วยสายตาที่มองอย่างสงบแบบนี้ทำให้ฉันต้องระวังตัวมากขึ้น
เขาหัวเราะ ไม่เอาน่า...อย่ามองผมแบบนั้น บางทีคุณก็ต้องเสี่ยงดูบ้าง ถ้าไม่อยากพลาดโอกาสดี ๆ ในชีวิต
คุณมีอะไรที่ฉันควรเสี่ยงหรือคะ
คำขอร้องของคู่หมั้นคุณ...มากพอไหมครับ
คำตอบของเขาทำให้ฉันยืนนิ่งมองอย่างตกตะลึง เสียงระเบิดที่ไหนสักแห่งไม่ไกลจากที่ตั้งหน่วยแพทย์ดังขึ้น แล้วเวลาของความตกตะลึงก็จบลงเมื่อผู้ชายตรงหน้าถือวิสาสะคว้าข้อมือฉันให้วิ่งตามเขาไปอย่างรวดเร็ว วินาทีนั้นไม่มีคำว่าความเสี่ยงหรืออะไรทั้งสิ้น สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวคือหน้าที่เท่านั้น
...หน้าที่ของคนเป็นหมอ...
กระโจมใหญ่ด้านหน้าที่เปิดรับคนเจ็บซึ่งถูกนำมาส่งอย่างรวดเร็วนั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวาย แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่อาสาอื่น ๆ เดินไปมาดูเหมือนไร้ระบบ แต่คนที่คุ้นชินจะรู้ว่าพวกเขาทำตามข้อกำหนดหน้าที่ที่ถูกวางไว้แล้วสำหรับเหตุฉุกเฉิน ฉันตวัดสายตามองกลุ่มคนไข้ที่แปะข้อมือด้วยกระดาษสีต่าง ๆ บอกความต้องการการดูแลที่มีความเร่งด่วนแตกต่างกัน ก่อนจะหันมาสบตากับผู้ชายข้าง ๆ เพียงแว่บเดียว แล้วเราก็แยกย้ายกันไปทำงานอย่างรู้หน้าที่
จากคุณ |
:
Argent
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ค. 53 18:05:36
|
|
|
|