Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องสั้น: คนเดิม (2/2)  

เสียงแว่วๆดังข้างหูฉัน เพลง เพลงใครมาเปิดตอนนี้เนี่ย ดังได้สักพักแล้วก็เงียบ หัดรู้จักเกรงใจชาวบ้านเขาบ้างก็ดี อีกสักพัก ฉันได้ยินเสียงติ๊ดดังอีกที เอ๊ะ ฉันเอะใจ เสียงเหมือนมือถือแฮะ แต่ไอ้อาการยังไม่ตื่นดี ก็ทำให้ฉันหลับไปแบบไม่คิดอะไร


เสียงเคาะประตูดัง ขณะที่ฉันกำลังจะเปิดตู้เย็น หาอะไรใส่ท้อง เดินไปเปิด เห็นหน้าน้องจูน เพื่อนร่วมชั้น ยิ้มกริ่มอยู่หน้าห้อง ยังไม่ทันเอ่ยปาก ตาก็เหลือบไปเห็นคนยืนอยู่ด้านหลัง ตกใจแทบช๊อค หรือจะช๊อคไปแล้วก็ไม่รู้ เพราะฉันหาปากตัวเองไม่เจอ จนน้องจูนคงทนไม่ไหวพูดขึ้น


“เพื่อนพี่หรือปล่าวค่ะ เค้ามาถามหาพี่ เห็นยืนๆอยู่หน้าหอ จูนก็เลยพาเค้าเข้ามา”


“เออ เออ มาได้ไงเนี่ย” ให้ตายสิ ฉันถามอะไรไปเนี่ย จูนทำหน้างงๆ ฉันเลยรู้สึกตัว


“อืมๆ เพื่อนพี่เอง ขอบใจนะจูน” ฉันตอบจูนไป ก่อนจูนจะขอลาตรงนั้น เพราะเห็นหมดหน้าที่แล้ว


ฉันยังยืนงงๆอยู่หน่อย กระพริบตาอยู่หลายที จนเค้าทนไม่ได้เอ่ยปากถาม


“แปลกใจ ตกใจ เสียใจ หรือดีใจ แต่ขอเราเข้าไปก่อนได้ป่ะ” โห ตัวจริงๆเลยเนี่ย ฉันเปิดประตูกว้างขึ้น ให้เค้าก้าวเข้ามาในห้อง


เพิ่งสังเกตุเค้ามีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลากเข้ามาด้วย


“มาได้ไงเนี่ย” ฉันเอ่ยถามอีกที


“นั่งเครื่องมา เดินมาคงไม่ไหว” เค้าตอบ ดูดิ มันน่าฟาดสักทีไหม นึกว่าแค่คิด แต่มือฉันก็ฟาดลงไปที่หัวไหล่เค้าแล้ว


“โอ๊ย มือหนักไม่เปลี่ยนเลยนะ มือไวใจเร็ว ด่วนได้จริงๆ” ดูปากเค้าสิ ปากอย่างงี้ก็ไม่เปลี่ยนเหมือนกันแหละ ฉันแอบคิด แต่ปากก็อดยิ้มไม่ได้


“ถามแต่ละคำ มันน่าน้อยใจจริงๆ ไอ้เราก็รีบเคลียร์งาน ลางาน วีซ่าได้ก็ซื้อตั๋วมาเลยเนี่ย” เค้าพูดลอยๆ


ฉันได้แต่ทำหน้าแปลกใจ ก่อนตอบเค้าไป


“ก็ตอนแรกนึกว่าจะไม่มาแล้ว” พูดไปแล้วก็แอบใส่น้ำเสียงงอนๆลงไป


“อยากแน่ใจว่ามาได้จริงๆ ไม่อยากพูดแล้วเดี๋ยวมาไม่ได้” เออนะ ฉันน่าจะรู้นิสัยเค้า รายนี้ ชอบทำก่อนพูด ทำอะไรไปแล้วถึงมาบอก บางครั้งก็เลยรู้สึกเค้าไม่ใส่ใจ แต่ก็รู้เพราะเค้าไม่อยากให้เราคาดหวัง แล้วต้องมานั่งผิดหวัง


“เรามาถึงก็โทรหา ใจแป๋วเลย โทรมาก็ไม่รับ ส่งข้อความก็ไม่ตอบ เลยนั่งรถไฟมาหาดู” เค้าเล่าต่อ


เอ๊ะ หรือว่า รีบวิ่งไปที่ห้อง หยิบมือถือที่โต๊ะหัวเตียงขึ้นมาดู เห็นข้อความกระพริบอยู่ แฮะๆ


“ไม่ต้องเปิดแล้วมั้ง ข้อความมาช้ากว่าเจ้าตัวอีก” เค้ามายืนหยุดตรงหน้าห้อง มีล้อด้วย เฮอะๆ


“แล้วนี่มาอยู่กี่วัน” ฉันเปลี่ยนเรื่องทันที เค้าก็ไม่ว่าไร ตอบฉันแบบกวนๆ


“อยากให้มาอยู่กี่วันหละ”


“ไม่รู้ มาแบบนี้จะจองอะไรทัน รถก็ยังไม่ได้จอง โรงแรมก็ยังไม่ได้จอง” ฉันพูดขึ้น เปลี่ยนเรื่องอีกแล้วฉัน


“เฮ้อ นี่คิดว่าที่มาเนี่ย จะมาเที่ยวจริงๆเหรอ” เค้าถามเดินเข้ามา จับมือฉันแล้วลากออกไปนั่งห้องนั่งเล่น


“อ้าวก็เห็นบอกจะมาเที่ยว” ฉันถามอย่างงงๆ


“ถ้าเที่ยวคงไม่ถ่อมาถึงที่นี่หรอก เที่ยวแถวบ้านก็ได้” เค้าพูดขึ้น มีนั่งหันมามองหน้าด้วย


“ต้องให้พูดให้หมดเลยหรือเนี่ย เรียนจนจะได้ด๊อกอยู่แล้ว” เค้าส่ายหน้าไปมา แบบให้รู้ว่าแสร้งทำ ด๊อกเตอร์ย่ะเรียกสั้นไปหรือเปล่า ฉันค้อน


“เราไม่เจอกันกี่ปีแล้ว” เค้าถาม คิดในใจ สองปี กับอีก 234 วัน


“กลับเมืองไทยก็ไม่บอก จะอยู่รอเจอกันหน่อยก็ไม่ได้” เอ๊ะๆ เสียงปนน้อยใจ ฉันได้แต่ทำหน้ามึน มือฉันไปอยู่ในมือเค้าตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย


“อยู่เจอเหรอ เห็นงานยุ่งตลอด พอกลับก็เห็นไม่อยู่ บินไปไหนก็ไม่รู้ ….ไม่เคยบอก” คำหลังฉันแอบคิดในใจ


“แล้วนี่ช่วงนี้เรียนหนักหรือเปล่า” มีแอบเปลี่ยนเรื่องเลยนะย่ะ พอเริ่มเข้าตัว แต่ก็นะ นานๆเจอที จะหยวนให้


“ไม่เท่าไรหรอก อยากไปไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า” ฉันถามกลับ


“ไม่หรอก” เค้าตอบทันควัน


“อยากมาเจอ… มาหา” อึ้งไปเลยฉัน ไอ้อารมณ์น้อยใจที่ผ่านเข้ามาในช่วงนี้ ละลายหายไปหมด แค่คำพูดสั้นๆของเค้านี่แหละ


“ใกล้จบหรือยัง” เค้าถามต่อ ถามเยอะแฮะมาคราวนี้ แต่คำถามนี้ฉันได้ฟังบ่อยๆในระยะหลัง


“ก็ใกล้แล้วละ ถ้าส่งโปรเจ๊ทนี้ผ่านอ่ะนะ” ฉันตอบ


“งั้นก็รีบๆทำเข้าสิ ยังคิดไปเที่ยวอีกหรือไง” ไรกันเนี่ย ใครกันอยากเที่ยว ฉันเลยสวนไปทันที อดใจไม่อยู่แล้ว


“ใครกันย่ะ อยากเที่ยว”


“งั้นช่วงเราอยู่ก็ไม่ต้องไปไหนหรอก รีบๆทำๆจะได้จบซักที รอนานแล้ว” เค้าพูดขึ้น


“รออะไร” ฉันงงแฮะ ก็รู้อยู่เค้านะพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่รู้สึกจะอาการหนักกว่าเก่าอีก


“แล้วคิดว่าเรารออะไรละ ไม่คิดจริงๆว่าเรียนด๊อกจะนานขนาดนี้ กว่าจะได้แต่ง จะมีลูกทันคนอื่นเค้าไหมเนี่ย” เค้าพูดขึ้นหน้าตาเฉย เฉยมาก ฉันทำหน้ายังไงไม่รู้ รู้แต่ว่าต้องลุกจากตรงนี้แล้ว แต่พอลุกก็ติดตรงที่มือฉันยังอยู่ในมือเค้าเนี่ยแหละ ดึงยังไงก็ไม่หลุด


“ปล่อยสิ” ฉันพูดเสียงสูง


“ไม่ปล่อย ยังคุยไม่จบ” เค้าดึงมือฉันกลับ แล้วดันฉันให้นั่งลงอีก ฉันหันหลังให้ ไม่รู้ไม่อยากพูดต่อแล้ว บ้า


“อ้าว หันมาสิ หันหลังคุย ไม่สุภาพรู้ไหม” เค้าพูดขึ้นอย่างล้อๆ มีแอบขำแน่ๆ ได้ยินเสียงขลุกขลักในลำคอ


“รอมาห้าปีแล้ว จริงๆจะรอต่ออีกสักหน่อยก็โอเคแหละ แต่ก็คิดว่าถ้าจะแต่งมันต้องเตรียมอะไรอีกเยอะ ก็คิดว่าคุยกันก่อน พอจบปุ๊ปจะได้แต่งได้เลย” เค้าพูดไปเรื่อยๆ ฉันเริ่มนั่งอยู่ไม่สุขอีกแล้ว


“ชอบแบบในละครหรือเปล่า จัดที่ทะเลอะไรอย่างเงี้ย” ดูๆยังจำได้อีก เคยส่งคลิปละครตอนงานแต่งงานพระเอก นางเอกให้เค้าดู สีขาวตัดสีท้องฟ้า และน้ำทะล สวยมากๆ เฮ้ย นี่ฉันคิดอะไรเนี่ย


“ถ้าจะเอาแบบนั้น ก็ต้องเตรียมแต่เนิ่นๆ จะได้เชิญแขกไว้ล่วงหน้า เพราะเดี๋ยวแขกไม่สะดวกมา” พูดคนเดียวก็ได้ นี่ฉันรักคนแบบนี้ได้ยังไง


เพราะมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยๆ เค้ามานั่งอยู่ข้างหน้าฉันตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้


“ว่าไงจ๊ะ คุณด๊อก เอางานแบบไหน เดี๋ยวเราเลือกแล้วไม่ถูกใจมาต่อว่ากันไม่ได้นะ เพราะถามแล้ว” เค้าถาม ใบหน้าเปื้อนยิ้ม


“ใครจะแต่งด้วย พูดอยู่คนเดียว” ฉันเถียงเสียงสั่น เแอบเขิน


“แต่งงานกันนะ” เค้าพูดขึ้น ว้าวพูดกันง่ายๆอย่างนี้เนี่ยนะ แต่จริงๆจะว่าโรแมนติกก็นิดหนึ่ง เพราะเค้าคุกเข่าอยู่ตรงหน้า แต่ฉันนี่สิ น้ำก็ยังไม่ได้อาบ อยากจะบ้าตาย


เค้ายื่นสร้อยข้อมือออกมาตรงหน้า ใส่ให้ที่ข้อมือซ้ายฉันช้าๆ เป็นสร้อยทองคำขาว มีจี้เล็กๆ รูปดาวห้อยอยู่


“เราให้สร้อยข้อมือเพราะรู้ว่า ไม่ชอบใส่แหวน แต่พองานแต่งคงเลี่ยงไม่ได้แล้วนะ” เค้าบอก มีแอบหยอดตอนท้าย


“และรู้ใช่ไหม ดวงดาวมีความหมายเรามากแค่ไหน ทุกครั้งที่เราคิดถึง เราจะเงยหน้ามองดาว ดาวที่เราเคยนั่งมองด้วยกัน” ฉันแอบน้ำตาซึม ไม่คิดว่าเค้าจะจำได้ ไม่คิดว่าเค้าจะใส่ใจในรายละเอียด กับทุกเหตุการณ์ที่เคยมีร่วมกัน


“เราไม่ได้เร่ง แต่คิดว่าควรจะทำอะไรให้ชัดเจน เพราะเรารู้สึกว่าคนแถวๆนี้ชอบแอบไปคิดอะไรคนเดียวเรื่อยเลย” กรี๊ดๆ ดูพูดเข้า แต่ก็มีแอบคิดแหละ เลยปฏิเสธไม่เต็มปาก


“ป่ะ ยังไม่อาบน้ำใช่ไหมเนี่ย ไปอาบน้ำแล้วกินข้าวกัน กินเสร็จจะได้มาแก้โปรเจ๊ทต่อ เห็นว่าแก้มาสามครั้งแล้วนี่” เค้าลุกขึ้น ดึงตัวฉันขึ้นแล้วดันเข้าไปในห้อง


อะไรกันเนี่ย โรแมนติกแค่นี้เองเหรอ เฮ้อ ถอนหายใจ แต่ไม่รู้ยังไง  มันหุบยิ้มไม่ลงจริงๆ

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

แถมท้าย


“นี่ถามจริงๆ ไม่ได้เปิดเพลงฟังเลยเหรอ” เค้าถามฉันตอนเปิดหน้าเวบเพจของเค้าขึ้นมา ฉันส่ายหน้า


“เครื่องเก่าจนไม่มีลำโพงหรือยังไง” แหนะมีกระแนะกระแหนกันด้วย เค้าเปิดลำโพงของคอมพิวเตอร์ฉันขึ้นมา ก็ส่วนใหญ่ฉันปิดเสียงไว้ตลอด จนแทบลืมว่ามันเปิดเสียงได้


พอเข้ากดปุ่มเปิดหน้าเวบเค้าขึ้นมาอีกครั้ง มีเพลงขึ้น เออ อึ้งแอบหันไปมองหน้าเค้า เห็นเป็นรอยเปื้อนแดงๆ แอบเขินหรือเนี่ย แต่ฉันก็แปลกใจ และตามมาด้วยความรู้สึกลอยๆ ฉันไม่คิดว่าเค้าจะทำอะไรแบบนี้ได้ อาจดูน้อยสำหรับคนอื่น แต่สำหรับฉัน มันมากมายซะเหลือเกิน ฉันเอนตัวลง เอาหัวไปซบลงที่หัวไหล่เค้า


เค้ายกแขนมาโอบหัวไหล่ฉันเบาๆ เสียงเพลงยังบรรเลงไปอย่างไม่รู้จบ


ฉันรู้ทุกครั้งในเวลาที่ห่าง

และรู้ทุกครั้งเมื่อตัวฉันต้องห่างเธอไป

เธอคงกังวลว่าบางครั้งที่ใจฉัน อาจคิดอะไรกับใคร

ถึงแม้ว่าฉันไม่ได้มองเห็นเธอ

ถึงแม้ว่าฟ้าจะยังขวางเราห่างกันไกล

ให้เสียงๆ นี้แทนข้อความจากใจฉัน

ให้เธอได้ฟังและมั่นใจ

เธออย่ากลัว อย่าหวั่นไหว ยังไงเธอมีฉัน ให้เธอแน่ใจ

เธออย่ากลัว และจะย้ำให้ฟัง ให้เธอจดจำเอาไว้


ไม่มีอะไรที่จะแยกเราจากกัน

ไม่มีอะไรทำให้ฉันจะเปลี่ยนไป

ยังเป็นคนเดิมคือคนนี้ที่ยังรักเธออยู่ ไม่คิดเปลี่ยนใจ


จะนานเพียงใดแต่ใจฉันไม่เปลี่ยนแปลง

จะมีเพียงเธอ เธอคนนี้ตลอดไป ให้วันเวลาพิสูจน์หัวใจ

ว่าใครรักเธอ ว่าใจฉันแน่นอนแค่ไหน

ให้รู้ว่าฉันยังมีเธอเหมือนเก่า ให้รู้ว่าฉันก็ไม่คิดจะห่างเธอไป

ในใจยังรอว่าเมื่อไรจะได้พบ เฝ้าคิดถึงเธอกว่าใคร


ถึงแม้ว่าฟ้าจะยังขวางเราห่างกันไกล

ให้เสียงๆ นี้แทนข้อความจากใจฉัน

ให้เธอได้ฟังและมั่นใจ

เธออย่ากลัว อย่าหวั่นไหว ยังไงเธอมีฉัน ให้เธอแน่ใจ

เธออย่ากลัว และจะย้ำให้ฟัง ให้เธอจดจำเอาไว้


ไม่มีอะไรที่จะแยกเราจากกัน

ไม่มีอะไรทำให้ฉันจะเปลี่ยนไป

ยังเป็นคนเดิมคือคนนี้ที่ยังรักเธออยู่ ไม่คิดเปลี่ยนใจ


จะนานเพียงใดแต่ใจฉันไม่เปลี่ยนแปลง

จะมีเพียงเธอ เธอคนนี้ตลอดไป ให้วันเวลาพิสูจน์หัวใจ

ว่าใครรักเธอ ว่าใจฉันแน่นอนแค่ไหน


ไม่มีอะไรที่จะแยกเราจากกัน

ไม่มีอะไรทำให้ฉันจะเปลี่ยนไป

ยังเป็นคนเดิมคือคนนี้ที่ยังรักเธออยู่ ไม่คิดเปลี่ยนใจ


จะนานเพียงใดแต่ใจฉันไม่เปลี่ยนแปลง

จะมีเพียงเธอ เธอคนนี้ตลอดไป ให้วันเวลาพิสูจน์หัวใจ

ว่าใครรักเธอ ว่าใจฉันแน่นอนแค่ไหน


ไม่มีอะไรที่จะแยกเราจากกัน

ไม่มีอะไรทำให้ฉันจะเปลี่ยนไป

ยังเป็นคนเดิมคือคนนี้ที่ยังรักเธออยู่ ไม่คิดเปลี่ยนใจ


จะนานเพียงใดแต่ใจฉันไม่เปลี่ยนแปลง

จะมีเพียงเธอ เธอคนนี้ตลอดไป ให้วันเวลาพิสูจน์หัวใจ

ว่าใครรักเธอ ว่าใจฉันแน่นอนแค่ไหน

และตัวฉันคือคนเดิม คนที่รักและมีเธอ ตลอดไป


เพลงคนเดิม – โรส ศิรินทิพย์

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx

คุยกันนิดหนึ่ง เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากเพลงคนเดิม
ของคุณโรส ศิรินทิพย์เต็มๆ (ขอบคุณมากๆ เราชอบเพลงและเสียงของคุณมากๆ)


อยู่ดีๆก็ได้ฟังเพลงนี้ และเลยโหลดมาเป็นริงโทนทันที
ฟังอยู่หนึ่งวัน ก่อนจะแต่งเรื่องนี้ขึ้น ใช้เวลาแต่งเกือบสองชั่วโมง จนมาได้เป็นเรื่องสั้นอย่างที่เห็น


เนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรมาก เรื่องราวพื้นๆของคนสองคน แต่เพราะเพลงคนเดิม ทำให้เรารู้สึกถึงบรรยากาศที่อบอุ่น อิ่มเอิบใจอย่างบอกไม่ถูก เลยอยากได้เรื่องราวที่ให้ความรู้สึกนี้ จะไปหาอ่านจากที่ไหนก็ไม่รู้จะหาอย่างไร เลยแต่งเองซะเลย อาจไม่ดี แต่ก็ถือว่าเก็บไว้อ่านเล่น เพลินๆเวลาฟังเพลง

จากคุณ : xyzjung
เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 53 10:03:13




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com