ฉันฝันใฝ่ในความฝัน ( I Dream a Dream)
|
|
ผมลืมตาขึ้นมาในที่ไหนซักแห่งบนโลกใบนี้ พร้อมกับภาพเพื่อนฝูงที่คุ้นเคยในวัยเยาว์ ด้วยความรู้สึกที่ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือความรู้สึกคุ้นเคย และอีกอย่างคือความรู้สึกเหมือนได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
ทีแรกผมก็รู้สึกเอะใจอยู่ไม่น้อย แต่ในวินาทีต่อมาที่เห็นเธอ ผมก็ลบทุกๆอย่างที่ควรคำนึงออกไป
เธอในความรู้สึกของผมในสมัยเรียนมัธยมปีที่สองคือนางฟ้าผู้สูงศักดิ์ ต่างจากผมที่เห็นตัวเองเป็นเด็กผู้ชายธรรมดาๆที่จับพลัดจับผลูได้เข้ามาเรียนในห้องคิง (ห้องของนักเรียนที่เรียนดีที่สุดของชั้นเรียน)ห้องเดียวกับเธอ และทั้งๆที่เราอยู่ห้องเดียวกัน เป็นเพื่อนกลุ่มใหญ่กลุ่มเดียวกัน แต่ผมก็ไม่กล้าแม้เพียงจะสบตากับเธอตรงๆซักครั้ง
เชื่อรึเปล่าว่า แม้เธอจะเข้ามาคุยด้วย แบ่งการบ้านมาให้ลอก ทำงานกลุ่มด้วยกัน หรือแม้กระทั่งผมโทรไปหาเพียงเพื่อจะถามการบ้าน แต่เราก็ไม่เคยคุยกันนานเกินหนึ่งนาทีเลย เพียงเพราะสิ่งที่เด็กขี้อายอย่างผมจะทำได้ดีที่สุดในการสนทนากับคนที่ตัวเองแอบชอบในสมัยนั้นคือการแสร้งไม่สนใจและตัดบทสนทนานั้นออกไปให้เร็วที่สุด
จนในที่สุดเมื่อมัธยมปีที่สี่มาถึง ผมในแบบเดิมที่เคยเป็นมาก็ยังเป็นเพียงเด็กขี้อายคนเดิม ส่วนเธอก็ได้ไปคบกับเพื่อนคนหนึ่งของผม และย้ายโรงเรียนออกไปเมื่อจบปีการศึกษานั้น
หลายปีต่อมาเมื่อผมจบการศึกษา ได้มีโอกาสกลับไปโรงเรียนเก่าเพื่อแนะแนวทางการศึกษาต่อให้แก่รุ่นน้องและบังเอิญไปพบสมุดเล่มหนึ่งในห้องแนะแนว ในนั้นปรากฏชื่อผมกับเธอ และข้อความบางอย่างที่แสดงออกมาว่าเธอรู้สึกกับผมเช่นไร แรกทีเดียวมันทำให้ผมรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อลองนึกย้อนกลับไปดู ลองบวกในทุกการกระทำ ทุกคำพูดของเพื่อนสนิทรอบข้างของเธอ ทุกแววตาและความรู้สึกที่พยายามสื่อออกมาแต่กลับไม่สามารถไปถึงเด็กชายตัวน้อยที่เขินอายคนนั้นได้ ทำให้ทุกอย่างที่รู้สึกหลังจากนั้นคือความรู้สึกร้อนผ่าวที่ปรากฏมาจนถึงในวันนี้ …
“ราดหน้า เป็นไงมั่ง” (ฉายาของผมในสมัยนั้น ที่ได้มาเพราะแอบกินราดหน้าถุงในห้องเรียนตอนคุณครูสอนหนังสือ) ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆกำลังคุยกัน เธอก็หันมายิ้ม สบตาและทักทายด้วยแววตาเดิมเหมือนที่ผมเคยรู้สึกเมื่อนานมาแล้ว “สบายดี แล้วศิรินนาล่ะ” ผมทักทายกลับด้วยท่าทางสบายๆเหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่ในใจกลับเต้นรัวดังเช่นที่เคยเป็นมาเมื่อหลายปีก่อน …
ณ.ที่ไหนซักแห่งบนโลกใบนี้ ผมในขณะนี้ไม่ได้สนใจใครๆรอบข้างเลย เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กลับเธอคนเดิมที่อยู่ในใจของผมตลอดมา พวกเรากลุ่มใหญ่ที่ไม่รู้ว่ามีใครบ้าง เดินไปมาและทำอะไรอยู่ซักอย่าง ผมในตอนนี้รู้อยู่อย่างเดียวว่ามีเธอปรากฏอยู่ตรงหน้าและการสนทนาของเรากำลังดำเนินไปเรื่อยๆ
แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 53 08:34:55
แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 53 08:29:32
จากคุณ |
:
คิมบ๊อก
|
เขียนเมื่อ |
:
30 ก.ค. 53 08:28:50
|
|
|
|