Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
๐๐ ... กมโลภิกขุ..ชายหนุ่มผู้บวชเป็นพระ ... ๐๐ (บทที่ 9){แตกประเด็นจาก W9523663}  

.


บทที่ 9




หลวงพี่อาจพาเด็กไปหาหมอที่โรงพยาบาลในเมือง..คุณหมอขอตัวไว้เพื่อให้น้ำเกลือ ผมตั้งใจมอบปัจจัยที่ได้รับในวันบวชเป็นค่ารักษาพยาบาล แต่หลวงพี่แย่งจะช่วยเหลือ..ตกลงช่วยกันทั้งสองคน


ปรึกษากันว่าจะให้เด็กน้อยชื่ออะไร..หลง บุญ วัด โชคดี พะ หรือสอง เพราะเขาได้รับการช่วยเหลือโดยผมและหลวงพี่อาจ...สุดท้ายใช้ชื่อ “นึง” ตามยายหรือย่าของเขา นึง มาจากคำนึง คะนึง ที่แปลว่าคิดทบทวน คิดตรอง คิดถึง เผื่อโตขึ้นเขาจะได้คิดทบทวนคิดตรองและคิดถึงสิ่งดีๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองในการดำเนินชีวิต...เขาแทบไม่มีใครนอกจากตัวเอง เวลานี้แน่นอนว่ามีผมและหลวงพี่อาจเป็นที่พึ่ง แต่ก็แค่คนอื่น จะเป็นได้อีกกี่มากน้อย..อัตตา หิ อัตตโน นาโถ..ตนเป็นที่พึงแห่งตนเสียแล้วนายนึง

ผมและหลวงพี่อาจไม่ได้ฉันเพล ไม่ใช่ว่าลืม แต่เพราะเหตุการณ์ต่อเนื่องจนไม่มีเวลา ดีที่ฉันเช้าไว้มากเพราะอาหารของญาติโยมทำมาเป็นพิเศษถวายหลวงตาใบ ผมเลยพลอยได้อานิสงส์..เห็นแก่รับประทานหรือเปล่าพระนิด!

ยังไม่ทันเย็น แค่บ่ายแก่ๆ ท้องก็ร้องจ๊อกๆ เสียแล้ว..หลวงพี่อาจจะเป็นอย่างไรบ้าง..ตัวใหญ่..กระเพาะใหญ่

“ชงโอวัลตินมาให้..” นึกถึงปุ๊บก็มา “คงหิวเหมือนกันซินะเรา”

“ขอบคุณครับ” รับถ้วยมาดื่มรวดเดียวหมด

“อีกไหม?” ยิ้มพอใจ

“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ” พูดเพราะก็เป็น..นายนิดเริ่มหายไป พระนิดมาแทน

“สบายใจแล้วใช่ไหมที่ไม่มีผี”

“ก็สบายใจไปเรื่องหนึ่งครับ..” ยกแก้วเปล่าขึ้นดื่ม ก้นถ้วยอีกสองสามหยด คล้ายเขิน คล้ายกำลังเรียบเรียงคำพูดต่อมา “เรื่องผี พอสว่างก็จบ..เรื่องคน เท่าไหร่ก็ไม่จบเสียที ยิ่งนับวันปัญหายิ่งมากตามเวลาอายุ”

“เรื่องเด็กนึงใช่ไหม?..” หลวงพี่คว้าแก้วไปจากมือผม “เดี่ยวมานะ”

ไม่ใช่แค่เรื่องเด็กนึง..ที่ผมพูดหมายถึงความจริงของคนทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้..แต่ขณะนี้ดูเหมือนจะโฟกัสที่ผมและครอบครัวเป็นพิเศษ..เรื่องเฉพาะหน้า..อีกสองวันพระมหาชัยจะสึก ซึ่งหมายถึงผมด้วย ทีแรกก็ไม่ได้กังวลอะไรมากแค่นึกเสียดายที่ได้อยู่วัดน้อยไป..ยังสนุกอยู่..แต่เดี๋ยวนี้ผมกลับไม่อยากสึก..แน่ละ!..ส่วนหนึ่งคือเด็กนึง..อีกอย่างคือ...

“แล้วก็บอกว่าพอ..” หลวงพี่อาจกลับมา..ยื่นแก้วให้ “พูดอะไรตรงกับใจดีที่สุด”

“บางเรื่องก็ไม่ได้ บางทีก็ไม่สมควร..ผมว่านะ” ดื่มอักๆ ทั้งร้อนๆ

“เรื่องอะไรว่ามา..เราซี้กันพอใช่ไหม?” นั่งลงข้างๆ..ท่าน้ำท้ายศาลา..ที่เดิม

“ผมกำลังมีความรัก”

“ฮ้า!..” หลวงพี่อ้าปากค้าง

“ฮะ..ฮะ..ฮะ..” ขำท่าทางหลวงพี่มาก..ไม่ใช่ๆ ..ขำท่าทางของหลวงพี่อาจมาก

“ได้อย่างไร..เราเป็นพระต้องละทางโลกให้สิ้น..รัก..โลภ..โกรธ..หลง..ไม่สมควรเกิดกับพระสงฆ์ทุกรูป” ไม่เคยเห็นสีหน้าจริงจังของหลวงพี่มาก่อน

“ผมรักนึง..รักวัด..รักชีวิตของพระ การดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย..อาบน้ำก็ไม่ต้องเช็ดผม ไม่ต้องซักกางเกงในอีกต่างหาก” อ้าว!..นึกว่ามีแต่พระนิด ที่แท้นายนิดก็ยังอยู่

“จริงหรือที่พูดออกมา..รักนึง อาจเพราะสงสาร..รักวัดรักชีวิตเรียบง่ายแบบพระ ไม่ใช่เพราะความขี้เกียจหรอกหรือ?”

“ทำไมว่าผม..หมายความว่าอย่างไร?”

“อะ..แอ้ม..” หลวงพี่อาจชักขาขึ้นนั่งขัดสมาธิ มือกุมอยู่บนตัก..บนพุง “เวลานี้ที่วัด พระสงฆ์ส่วนมากโดยเฉพาะพระนิดหละหลวมธรรมวินัยมาก..ผมก็พลอยเป็นไปด้วย..จึงทำให้เหมือนอยู่กันสบายๆ ไปวันๆ ไม่ต้องทำมาหากิน แค่เดินถือบาตรตอนเช้า กลับมาทำวัตรนิดหน่อย ยิ่งไม่อยู่ในพรรษาเช่นนี้ทำบ้างไม่ทำบ้าง..ฉันเช้า..จำวัด..ฉันเพล..จำวัด..เล่นกล้าม..อ่านหนังสือเริงรมย์..พี้ยา..รับจ๊อบทำพิธี ทำดอกไม้ไฟ..ให้เช่าแลกเปลี่ยนพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง..เฮ้อ..อื่นๆ อีก..”

“เอ่อ..” จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยดี

“คนที่เคยต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวหาเลี้ยงครอบครัว ต้องเจอ ต้องต่อสู้กับปัญหาของคนใกล้ชิดที่ไม่มีวันหมดสิ้นลงง่ายๆ ทั้งสามีภรรยา ลูก พี่น้อง พ่อแม่บุพการี หัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน...เมื่อมาอยู่วัด ปัญหาและคนเหล่านั้นไม่อาจตามมาด้วยเพราะได้ตัดเราตัดเขาเสียแล้ว..พ่อแม่ก็ไม่กล้ามาอ้อนเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย..ภรรยาก็ไม่มาขอค่าใช้จ่ายเลี้ยงดู ลูกๆ น้องๆ ก็ไม่มาให้ช่วยทำการบ้าน ไม่มีเจ้านายคอยจ้องจับผิด..ใจจึงโล่งเกิดความสุข”

“ถ้าผมรักชีวิตพระ ไม่สึกออกไปเจออะไรๆ อย่างที่หลวงพี่สาธยาย ผมก็สบาย มีความสุข..ผมมิใช่คนเห็นแก่ตัวหรอกหรือ?”

“ไม่รู้สิ..เผอิญแม่ผมมีลูกหลายคน ผมเป็นคนกลางไม่มีประโยชน์อะไรกับใครเท่าไหร่ ลูกเมียยังไม่มีจึงไม่ทันคิดในเรื่องนี้”

“ผมเป็นลูกคนโต มีน้องห้าคน พ่อเสียชีวิตตั้งแต่น้องคนเล็กอายุสี่เดือน..” หยุดคิด “คงรักชีวิตพระไม่ได้นาน..” มองหน้าหลวงพี่ “ขี้เกียจไม่ได้นาน!”

“ไม่เอาน่า..ผมไม่ได้สรุปอย่างนั้น แค่แสดงความคิด” สีหน้าหลวงพี่อาจห่วงความรู้สึกของผมจนเห็นได้ชัด

“ไปดูนายนึงกันนะครับ”

“ไป”



นึง ยังนอนไม่ได้สติ สีหน้ามีเลือดฝาดขึ้น กลิ่นคาวหายไปกลายเป็นกลิ่นแป้งเด็ก

“คงต้องฝากไว้ที่นี่สักคืน..” หลวงพี่อาจเปรยขึ้น “เป็นพระจะมานั่งเฝ้าไข้ไม่ได้หรอก แค่อุ้มขึ้นรถสองแถวมานี่ก็ดูไม่ค่อยดีแล้ว”

“ทำไงดี...” ความคิดชั่วร้ายแวบมา “ถอดจีวรออกก่อนก็ได้”

“พระนิด!..” หลวงพี่ตาถมืง “ถึงพูดเล่นก็ไม่สมควร..คิดจริงยิ่งไม่สมควรใหญ่..ถ้าทำอย่างพูดละก็สึกแน่”

“ขอโทษครับ..ผมคิดจริงนะ แต่คงไม่กล้าทำหรอก” รับสารภาพ

“น่าจะติดเด็กวัดมาด้วยสักคน..แต่ก็ละนะใครเขาจะทำให้”

การทำความดีไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ...เจ้าของไข้ต้องมีหลักฐานแสดงชัดเจน ยิ่งกรณีของนึงที่มาในสภาพน่าสงสัยถึงแม้จะมีคำบอกเล่ายื่นยันที่น่าเชื่อถือ

“ใบสุทธิของผมอยู่ไหนก็ไม่รู้..” หลวงพี่คงหมายถึงบัตรประจำตัวของพระสงฆ์ “ไม่นึกว่าจะต้องใช้งานเป็นเรื่องเป็นราวอย่างนี้”

“ของผมยังไม่ได้ทำ บัตรประชาชนก็ฝากโยมกลับกรุงเทพฯ ไปแล้ว”

เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลอาจเกรงใจผ้าเหลืองของเราทั้งสอง อีกทั้งบารมีชื่อวัดที่หลวงพี่อาจยกขึ้นอ้าง และคำมั่นสัญญาว่าจะนำพระผู้ใหญ่มาพร้อมหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร...หลวงตาใบจะเห็นตามด้วยหรือไม่!


.

 
 

จากคุณ : ดาเรน
เขียนเมื่อ : 3 ส.ค. 53 08:13:39




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com