8 : 53 เวลาของผู้กล้า
|
|
8:49
ผมเดินอย่างไร้จุดหมายอยู่บนฟุตบาทย่านธุรกิจกลางกรุง ที่จริงในสภาพการณ์ ณ เวลานี้ของผม ถ้าเรียกเตร็ดเตร่อาจจะไม่ค่อยตรงเท่าไร น่าจะเรียกว่าเตะฝุ่น มากกว่าด้วยซ้ำ
ใช่แล้ว ผมกำลังตกงาน
ที่ทำงานบริษัทเก่าของผมเป็นบริษัทเล็ก ๆ ทำเกี่ยวกับเอเจนซี่โฆษณา มีออฟฟิศ รูหนูอยู่กลางกรุง ที่จริงตอนก่อนหน้านี้บริษัทของผมก็พออยู่ได้ มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ แต่พอกีฬาสีเปิดฉาก ก็เจอพิษกีฬาสีเข้าอย่างจัง งานหดหายไปในพริบตา แล้วยิ่ง ตอนเขาเล่นรอบกองไฟ ก็จบข่าว พี่เจ้าของบริษัทแจ้งมาทางโทรศัพท์ว่า ไม่ต้องมา ทำงานแล้วนะเพราะพี่เจ๊งเรียบร้อยเเล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พี่เขาก็ยังอุตส่าห์ เฉือนเนื้อจ่ายค่าชดเชยให้ครึ่งเดือน ถึงมันจะน้อย แต่ผมก็ยังซึ้งน้ำใจแกจริง ๆ
แต่ชีวิตของผมมันดันยาวนานกว่าครึ่งเดือน
ผมก็เลยต้องหางานทำ งานก็หายากเสียเหลือเกิน ไปที่ไหน ๆ ก็เจอคนสมัครงาน แข่งขันกันมากมาย งานน้อยแต่คนตกงานมาก สัมภาษณ์มาหลายที่ก็ไม่โดนเรียก ซะที เงินที่มีก็ร่อยหรอไปทุกที
เฮ้อ ชีวิต จะมีกินไหมเนี่ย พรุ่งนี้
ฟันไปมองทางขวามือ ผมก็สะดุดสายตากับเด็กน้อยกลุ่มหนึ่ง ดูท่ากำลังวิ่งเล่นไล่ จับกันอย่างสนุกสนาน ไม่ไปโรงเรียนกันรึไงฟ่ะ ถึงได้มาวิ่งเล่นกัน แต่พอฉุกคิด เออ ใช่ วันนี้วันหยุดนี่หว่า พวกมันเลยไม่ต้องเรียนกัน อิจฉาโว้ย ! ไม่ทุกข์ไม่ร้อน เลยนะพวกเอ็ง
8:50
" เพ่ย เพ่ย ออกมาทำข้อนี้ซิ " หลังจากที่ฉันเรียกชื่อ เด็กนักเรียนหญิงที่ตัดผมม้าสั้นเต่อ หุ่นปุ๊กลุก แก้มเเดงเเฉ่ง แลดูน่ารักน่าชัง ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมกับเดินมาที่กระดานดำ เธอหยุดมามอง หน้าฉัน ดวงตาที่ดูงุนงงดูใสแป๋วเสียเหลือเกิน
" ลองทำดูก่อน ผิดถูกครูไม่ว่าอะไรหรอก " พอได้ฟัง เพ่ย เพ่ย ก็หันหน้าไปที่กระดานดำ หยิบชอล์กขึ้นมา จ้องมองมันด้วย เเววตาที่ยังคงงุนงงอยู่ แต่แล้วเธอก็เริ่มขีดเขียนคำตอบ
โรงเรียนที่ฉันสอนอยู่นี้เป็นโรงเรียนประถมศึกษาเล็ก ๆ ในเมืองตูเจียงหยาง จำนวน นักเรียนไม่มากมาย ก็เพราะเป็นโรงเรียนที่ไม่ได้โด่งดังอะไรผู้ปกครองเลยไม่ค่อย นิยมส่งลูกมาเรียนเท่าไรนัก ในชั้นเรียนของฉันก็เลยมีแต่เด็กที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ใน ละแวกนี้กันทั้งนั้น หวังเสี่ยวหู่ เฉินเป่า ต้าหลี่ และเด็กคนอื่น ๆ ในชั้นเรียนของฉัน ก็ล้วนแต่พักอาศัยไม่ห่างไกลจากโรงเรียนเท่าไรนัก นัยว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียน ที่ผู้ปกครองส่งลูกหลานมาเรียนเพราะอยู่ใกล้บ้าน
ฉันละสายตาจากพวกเด็ก ๆ หันกลับมาที่กระดานดำ เพ่ยเพ่ย เขียนคำตอบทั้งหมด ใส่กระดานดำแล้ว เธอเลยหันหน้ามามองฉันด้วยสายตาที่แป๋วแหว๋วของเธอ พอเห็น สายตาแบบนั้น ฉันต้องอมยิ้มทุกที เอาล่ะได้เวลาตรวจคำตอบแล้ว
8:51
ผมมองเจ้าเด็กพวกนั้นครู่หนึ่งด้วยความรู้สึกอิจฉา แต่พอหมดความสนใจ ผมก็หัน หน้ากลับมามองทางเดินที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง เฮ้อ ตูจะหางานทำได้เร็ว ๆ ไหมเนี่ย
แต่จู่ ๆ ลูกบอลพลาสติกก็กลิ้งผ่านหน้าผมไป มันกลิ้งลงไปบนถนน แล้วเด็กคน หนึ่งก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มเด็กที่ผมเคยมอง เขาวิ่งลงไปที่กลางถนนพร้อมกับก้ม ลงเก็บลูกบอล
แปร๊นนนนนนน !
เอี๊ยดดดดดดดดด !
เด็กคนนั้นเงยหน้า หันมองไปตามเสียง รถยนต์คันหนึ่งแล่นด้วยความเร็วสูงคัน หนึ่งกำลังบีบแตรพร้อมกับเหยียบเบรคจนตัวโก่งแต่ก็ไม่ได้มีความเร็วช้าลงสัก นิดกำลังพุ่งเข้าใส่
รถยนต์คันนั้นกับเด็กห่างกันไม่ถึง 2 เมตร
มันไม่ใช่ความคิดที่ผ่านการกลั่นกรองแน่ ๆ ผมสาบานได้ ผมต้องทำไปด้วยความ ไร้สติสัมปะชัญญะแน่ ให้ตายสิ มันไม่มีทางเลยที่ผมจะทำแบบนั้น ถ้าผมมีเวลามา นั่งคิดแค่เพียงสักนิด
ผมลงไปที่ถนนพร้อมกับผลักเด็กคนนั้นไปที่ฟุตบาท
โครมมมมม !!!
เวลาเชื่องช้าลง ร่างผมเบาโหวง ลอยละล่องอยู่กลางอากาศ มองเห็นรถยนต์ที่ เพิ่งชนผมหมุนคว้าง ทิ้งรอยยางสีดำไว้เบื้องหลัง รถยนต์ห่างไปเรื่อย ๆ ร่างผม ค่อย ๆ บินโฉบต่ำลงทุกที ๆ สุดท้ายปีกที่มองไม่เห็นของผมก็ไม่สามารถกระพือ ยกตัวผมให้ต้านทางโน้มถ่วงได้ไหวอีก
ผมจึงตกกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
8 : 52
ฉันลุกจากเก้าอี้ เดินไปที่กระดานดำ แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกไม่มั่นคง ตัวโยกโงนเงน สั่นไหวไปมา จนรู้สึกว่าตัวเองจะยืนไม่อยู่
ครึ่ก ! ครึ่ก ! ตึง ! โครม ! ตึง ! ครึ่ก โคร่ม !
จู่ ๆ ก็เสียงเกิดเสียงดังสนั่น ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายสั่นสะเทือนไปหมด ของที่ วางอยู่บนที่สูงตกลงมาบนพื้นแตกกระจัดกระจาย ตู้เก็บของที่อยู่หลังห้องล้ม ดังโครมใหญ่ รางหลอดไฟร่วงลงมาฟาดเข้ากับเด็กนักเรียนที่นั่งอยู่ข้างใต้ เสียงหวีดร้องตกใจระงมดังไปหมด
" ทุกคนมุดใต้โต๊ะ เร็วเข้า ! " พริบตาต่อมาหลังจากที่ฉันทำความเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันก็ตะโกน บอกให้นักเรียนทุกคนหลบอยู่ใต้โต๊ะของตัวเองแข่งกับกับเสียงโครมคราม ที่ดังเพิ่มขึ้นมากทุกที ฝ้าเพดานเร่วงหล่นมากระแทกพื้นก็จะแตกเป็นเสี่ยง กระเบื้องหลังคาเริ่มร่วงลงแล้ว ฉันมองเห็นนักเรียนมุดเข้าใต้โต๊ะของ ตัวเองกันบ้างแล้ว
" กรี๊ด !! "
กร๊อบ !
ฉันหันขวับไปตามเสียงกรี๊ด เพ่ยเพ่ย ยังอยู่ที่กระดานดำ เธอฟุบตัวเอง ขด เป็นก้อนกลมด้วยความกลัว ฉันรีบปราดเข้าไปหาเธอ ตัดสินใจว่า จะลากเธอมาหลบใต้โต๊ะอาจารย์ แต่พอไปถึงตัวเธอ ก็ได้ยินเสียงกร๊อบ ดังลั่น ขื่อที่อยู่เหนือหัวของเราทั้งสองคนทนแรงสั่นสะเทือนไม่ไหวตึง ได้หักและก็ตกลงมาใส่เราทั้งสอง
ฉันจึงตัดสินใจเอาตัวคร่อมเพ่ยเพ่ยไว้แทน
8 : 53
คนทั้งปวงก็พากันหัวเราะเยาะพระองค์ เพราะรู้ว่าเด็กนั้นตายแล้ว
ลูกา
จากคุณ |
:
garnet19th
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ส.ค. 53 21:13:12
|
|
|
|