Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คนงานรังวัด  

คนงานรังวัด....

ราส์ส กิโลหก.

คนที่ทำงานเป็นช่างรังวัด ต้องมีคนงานรังวัดเป็นลูกน้องซึ่งต้องออกไปทำงานร่วมกัน ลำพังช่างรังวัดต่อให้เก่งแค่ไหนก็ทำงานคนเดียวไม่ได้ ต้องพึ่งพาพวกคนงานเหล่านี้  ใครที่ได้ลูกน้องดีขยันขันแข็ง ก็สบายตัวไปไม่ต้องปากเปียกปากแฉะ เหนื่อยกายแล้วยังต้องเมื่อยปากอีก   หากต้องเจอคนงานโง่ๆเซ่อๆต้องตะโกนกันลั่นทุ่งเพื่อให้ทำงานให้ถูกต้อง

การเป็นคนงานรังวัดไม่ใช่เป็นกันได้ง่ายๆ ต้องมีความสามารถพิเศษในการอ่านระยะจากสายวัดระยะ แต่ศัพท์ทางช่างกรมที่ดินเรียกว่า โซ่  ถ้าเรียกชื่อเต็มๆเรียกว่าโซ่ลาน ความยาวทั้งเส้น 40 เมตร ลักษณะเป็นเหล็กแบนๆกว้างเท่าเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก เล็กกว่าเส้นหมี่โคราชเล็กน้อย บนเส้นโซ่จะมีตุ่มทองเหลืองเล็กๆเพื่อแสดงตำแหน่งระยะ ความยาวของตุ่มเหล่านี้ยาว ช่วงละ 40 เซนติเมตร ทั้งเส้นจะมีอยู่ 100 ตุ่มถ้ารวมกันจะยาวทั้งสิ้น 4000 เซนติเมตร ก็คือ 40 เมตรนั่นเอง

ถ้านับจากปลายโซ่ด้านหนึ่ง เมื่อครบ 10 ตุ่ม ตุ่มที่ 10 จะไม่เป็นตุ่มคือจะเป็นแผ่นทองเหลืองลักษณะแบนๆ มีตัวเลข 1 กำกับไว้ให้รู้ว่าตรงนี้คือ 10 ตุ่มถ้านับต่อเนื่องมาอีก 20 คุ่ม ก็ทำนองเดียวกันจะมีตัวเลข 2 กำกับไว้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แต่ที่แปลกคือมันจะไปสุดแค่เลข 4  เพราะตรงตุ่มทองเหลืองที่ 50 จะไม่เขียนว่าเลข 5 แต่มีเครื่องหมายแบ่งครึ่งคือมีขีดอยู่ที่กลางแผ่นทองเหลือง  และถ้านับต่อไปจากจุดนี้ไปตุ่มที่ 60 จะไม่มีเลข 6 แต่กลายเป็นเลข 4 หมายความว่า การอ่านระยะของโซ่เส้นนี้จะอ่านจากทางด้านต้นก็ได้ หรือทางด้านปลายก็ได้..

นั่นคือ ถ้าอ่านจากด้านหนึ่ง นับไปจนถึง เลข 4 ถัดไปถึงกึ่งกลางก็คือหมายถึงตุ่ม 50 นั่นเอง ถ้านับเลยไปอีกจะพบเลข 4 อีกนั่นหมายความว่า มันคือ 60 ตุ่ม ถัดไปอีก เมื่อพบเลข 3 มันคือ 70 ตุ่ม ..ถึงบอกว่าคนที่ไม่มีความชำนาญจะอ่านระยะจากโซ่เหล่านี้ไม่ได้เลย....ที่สำคัญในระหว่างตุ่มต่างๆที่ยาว 40 เซนติเมตร ต้องใช้ความเม่นยำในการกะระยะ...คือ 10 ช่วงๆละ 4 เซนติเมตร  เช่นในการขานระยะ...คนงานรังวัดจะอ่านว่า..

“ลูกพี่ ครับ ระยะวัดได้  1 เส้น 25 ข้อ 3 ปอย 6”    

ชาวบ้านหรือคนทั่วไปไม่รู้หรอกว่ามันเป็นระยะเท่าใด  จะอธิบายให้ฟัง..

ระยะที่วัดนี้ถ้าคำนวณเป็นเมตรก็คือ  
                  1 เส้น     คือ  40 เมตร
               25 ข้อคือ 25 ตุ่มทองเหลืองความยาวตุ่มละ 40 เซนติเมตรคือ  25X0. 40 =   10 เมตร
               3 ปอยคือ 3 ส่วนใน 10 ส่วนของ 40 เซนติเมตร                คือ   3X0.04    =   0.12  เมตร
คำสุดท้ายอ่าน 6 หมายความว่า 6 ส่วน ใน 10 ส่วนของ 4 เซนติเมตร ซึ่งแยกย่อยลงไปอีก คือ  0.024 เมตร
สรุประยะนี้คือ        40+10+ 0.12+0.024     =      50.144    เมตร..
                                                                 
คิดดูแล้วกันว่าถ้าคนทั่วไปหรือคนงานทั่วไปจะไม่สามารถทำงานเป็นคนงานรังวัดได้  ยังๆ ยังไม่หมด คนงานรังวัดต้องล่อห่วงคะแนนเป็น(ห่วงคะแนนคือเหล็กกลมยาวประมาณ  1 เมตรด้านหนึ่งแหลมส่วนอีกด้านทำเป็นห่วงเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ  5 เซนติเมตรสำหรับจับ)  วิธีการคือ....  

ในการวัดระยะต้องใช้คนงาน 2 คน (ถ้าใช้คนเดียวคงต้องนับก้าวเอา)..คนหนึ่งอยู่ที่ปลายโซ่ด้านหน้า  เรียกว่าโซ่หน้า คนนี้ต้องถือห่วงคะแนนไว้ด้วยอย่างน้อยต้อง 5 อันเป็นมาตรฐาน  เอามือจับที่หัวโซ่แล้วเดินไปยังตำแหน่งที่ต้องการวัดระยะ ส่วนคนที่ 2 เรียกว่าโซ่หลัง จะมีหน้าที่ปล่อยโซ่ออกจากจานโซ่ (จานโซ่เป็นเหล็กลักษณะกลมสองแผ่นประกบกันโดยมีแกนเหล็กยึดไว้ให้สองแผ่นติดกัน เพื่อให้มีช่องว่างของจาน ข้างๆจานโซ่จะมีเดือยยื่นออกมาพอสมควรเพื่อใช้ในการหมุน อีกด้านของจานจะมีสายรัดเป็นหนังเพื่อเอามือสอดเข้าไป เส้นโซ่จะม้วนตัวอยู่ในแกนของจานโซ่ เหมือนเชือกว่าว ที่ม้วนอยู่ที่กระป๋องนม  เพียงแต่จานโซ่จะดีกว่าเพราะมีแกนหมุนให้เส้นโซ่เข้าหรือออกได้สะดวกกว่า)

เมื่อเดินจนหมดเส้นโซ่ คือระยะที่ต้องการวัดยาวกว่าเส้นโซ่ คนที่อยู่โซ่หน้าจะควักเอาห่วงคะแนนออกมา เอานิ้วคีบที่ปลายห่วง เพื่อให้น้ำหนักของเหล็กได้แนวดิ่งกับพื้นดิน  คนที่อยู่โซ่หลังจะใช้สัญญาณมือ เพื่อบอกว่าให้ไปทางซ้ายหรือขวา จนกว่า จุดด้านหลัง  จุดด้านหน้า  และห่วงคะแนน จะอยู่ในแนวเดียวกัน คนที่อยู่โซ่หลังจะตวัดมือลงพื้นดิน หมายความว่าให้คนล่อห่วงคะแนนปล่อยเหล็กให้ปักลงดิน เมื่อเหล็กลงดินแล้ว คนโซ่หลังจะใช้สายตา( เซอร์เวย์ ) เล็งอีกครั้งว่า ทั้งสามจุดได้แนวเดียวหรือไม่   ถ้าได้แนวก็จะพยักหน้าตกลงเป็นอันใช้ได้ จัดการเอาตำแหน่งศูนย์บนโซ่ทาบลงในตำแหน่งจุดแรกบนพื้นดิน ส่วนคนที่อยู่โซ่หน้าก็เอาศูนย์ทาบลงดินโดยให้โซ่แนบกับห่วงคะแนนมากที่สุด หากไม่แนบอาจทำให้แนวที่เล็งไว้คลาดเคลื่อนได้  ดึงโซ่ให้ตึงแล้วเลื่อนห่วงคะแนนมาตามแนวเส้นโซ่ให้ตรงกับตำแหน่งศูนย์ของโซ่   เป็นอันว่าเราได้ระยะแรกแล้ว 40 เมตรเต็ม  ที่เตือนกันบ่อยๆคือคนที่อยู่โซ่หลังต้องถอนห่วงคะแนนออกทุกครั้งที่วัดเสร็จ..เพราะ 1 ห่วงคือ 1 เส้นเป็นเหมือนนับไม้ติ้ว

พวกเขาจะทำอย่างนี้ไปจนกว่าจะถึงจุดหมายที่ต้องการ   คนที่ขานอ่านระยะคือโซ่หลัง..เช่น

“ลูกพี่ครับ  ระยะนี้   3 เส้น  30ข้อ 5 ปอย 6”  คือจากระยะนี้ไม่ถึง 4 เส้น  (หมายถึงห่วงอยู่ในมือของเขา 3 อัน เพราะเขาต้องถอนเหล็กออกทุกครั้งที่การวัดระยะผ่านไป)  ไม่ต้องล่อห่วงอันที่ 4  นั่นคือระยะนี้ 3 เส้นกว่าๆ

พูดถึงจานโซ่  คนงานที่ชำนาญเขาจะม้วนเส้นโซ่เข้าจานได้อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่นาน เส้นโซ่ ยาว 40 เมตรจะหายวับเข้าไปในจานโซ่ เหมือนเล่นกล..คุณสมบัติของโซ่ลานนั้นเป็นเหล็กผสม มีความเหนียวและทนทาน  แต่เปราะ  คือถ้าโซ่บางส่วนม้วนเป็นคอไก่ถ้าไม่รีบคลายให้ตรง  ยังดึงต่อไปมันจะหัก เปาะทันที ต้องไปให้ร้านที่บัดกรีสังกระสี จัดการเชื่อมต่อให้ใหม่  แต่ถ้าดึงกันตรงๆพวกคนเก่าๆเล่าว่าให้ช้างมาดึงโซ่ก็ไม่ขาด ไม่รู้จริงหรือเท็จไม่เคยลองซักที  

ขอพูดถึงห่วงคะแนนบ้าง  นอกจากจะใช้วัดระยะแล้วยังเป็นเครื่องมือใช้ทิ่มแทงลงไปในที่ดินเพื่อค้นหาหลักเขตเก่าอีกด้วย

ครั้งหนึ่งไปทำการรังวัดที่ดินแปลงของลุงน้อย...ตำบลหัวปลวก

“อ้ายเบี้ยว เอ็งไปแทงหาหลักเก่า ตรงโคกหัวนาข้างหน้า เจ้าของที่ดินบอกว่า มีหลักเก่าอยู่”

ตอนนั้นเป็นหน้าหนาว ลมหนาวพัดตึงๆท้องนาแห้งมีแต่กอซังข้าว  อ้ายเป๋ กับอ้ายง่อย ที่ยืนอยู่ข้างๆนึกสนุก พวกมันถือห่วงคะแนนคนละอัน วิ่งตามอ้ายเบี้ยวไปด้วย... ด้วยความคะนองร้อง เย้ๆๆกันสนุกปาก วิ่งไปได้ประมาณ 2 เส้น  ได้เรื่องครับได้เรื่อง..

ตรงป่าละเมาะบนโคกใหญ่ที่พวกคนงานกำลังจะผ่านไป..มีเสียงคนร้องโวยวายด้วยความตกใจมาจากป่า สักพักเห็นมีหญิงแก่3 คน วิ่งเตลิดออกไปด้านหลังป่า ผ้าถุงแทบหลุดลุ่ย  แต่ละคนอุ้มไหคู่ชีพออกไปด้วย...แป๊บเดียวหายเงียบเข้าป่าใหญ่ไปเลย..

ลุงน้อยเจ้าของที่ดินบอกว่า   มันคงนึกว่าเจ้าหน้าที่สรรพสามิตมาแทงไหเหล้า  คนวิ่งนำหน้าคือ อีปริก อี่นี่ชอบหมักเหล้าขาย..

                        **********************

พวกคนงานรังวัดที่อายุงานมากๆพวกนี้เขี้ยวรอบตัวถ้ามีช่างย้ายมาใหม่ๆ มักโดนแหกตาอยู่บ่อยๆ...

“พี่ครับ”   เสียงนรชาติ  ช่างรุ่นน้องที่ย้ายมาใหม่จากกรุงเทพฯ พูดขึ้นที่หน้าโต๊ะ

“มีอะไร นรชาติ”

“โซ่ที่นี่เปราะจังเลยพี่ ผมไปรังวัดทีไรโซ่หักทุกครั้งเลย  นับได้สามครั้งแล้วพี่ เสียทั้งเวลาและเงินค่าจ้างคนงานเพราะต้องกลับไปทำงานซ้ำอีกรอบในวันหลัง ”  

“นายเอาใครไปเป็นคนงาน”

“เด็กบ้านเสือขบชื่อ แบะแล้วก็ ชื่อ แก่ ครับ”

ผมถอนใจ  “อ้ายสองตัวนี้มันมือหักโซ่”

“หมายความว่าไงครับพี่ ?”

“โซ่จะหักตอนใกล้เที่ยงใช่ไหม ?  แล้วเจ้าของที่ดินต้มไก่รอพร้อมเหล้า”  

“โอ้ ! โห้    พี่แสนรู้.....อุ๊ยๆๆขอโทษพี่”  เขายกมือไหว้

“อ้ายเวร”ผมนึกในใจ..

เขาเดินใกล้เข้ามา “ตรงเป๊ะ เลยพี่”

“พอโซ่ขาดก็เลิกงาน  กินเหล้าแกล้มต้มไก่”

“เป๊ะเลยพี่”

พวกมันรับน้องใหม่อย่างเอ็ง ไงล่ะ..

ผมชวนนรชาติไปกินเหล้าตอนเย็น  เดี๋ยวข้าจะฝึกวิชาปราบมารให้   อ้ายน้อง !

                                            **************************************

วันต่อมาผมนั่งทำงานที่สำนักงานถึงเย็นเพราะมีงานคั่งค้างอยู่  เกือบหกโมงเย็น นรชาติกลับมาจากท้องที่ หลังจากรังวัดที่ดินเสร็จ  ที่ตำบลดอนพุด  อ้ายแบะและอ้ายแก่เดินตามหลังมา ในมือถือเครื่องมือรังวัด..หน้าตามันทั้งคู่บอกบุญไม่รับ..

ตรงกันข้ามกับ นรชาติ หน้าตาบานเป็นกระด้ง..เขาเดินตรงมาที่ผมนั่งอยู่

“อยู่หมัดเลยพี่  ทำตามที่พี่บอก  พวกมันหงอยไปเลย”

ผมแนะนำนรชาติว่า  ถ้ามันแอบหักโซ่ ให้เอาโซ่หักๆนั่นแหละวัดต่อไป เหลือแค่ไหนเอาแค่นั้นวัด โซ่สั้นคนงานรังวัดก็จะลำบาก เพราะต้องขยับเส้นต่อเส้นมากขึ้น 100 เมตรแทนที่จะล่อห่วงแค่ 2 ครั้ง ถ้าโซ่สั้นต้องล่อห่วงมากครั้งขึ้นความลำบากของคนวัดก็เพิ่มมากขึ้น...นี่แหละวิชาหักเขี้ยว..สุนัข..

                                        ****************************************

ยังมีอีก  พวกที่เอาเปรียบคนงานด้วยกัน   ตอนเช้าๆตรงหน้าสำนักงาน พวกคนงานรังวัดจะมานั่งรอเพื่อไปทำงานกับลูกพี่  ส่วนมากจะนัดกันล่วงหน้าแล้ว    

“พี่ๆๆวันนี้ผมปวดท้อง พี่หาคนอื่นแทนแล้วกัน”    อ้ายแบะเอามือกุมท้องบอกกับช่างรังวัด

“เฮ้ย ! มาบอกอะไรตอนนี้  แล้วข้าจะหาใครแทนได้ล่ะนี่”  เล่นเอาลูกพี่หัวเสียเพราะต้องเสียเวลาไปหาคนงานคนอื่น

                                      ******************************************

แต่คนหัวดีแอบมาหาช่างอีกคน

“พี่เบิ้ม  วันนี้ผมขอออกด้วยนะพี่”  อ้ายแบะยิ้มร่า

“ได้เลยๆ ไปกับกู” น้าเบิ้มยิ้มที่มุมปาก

อ้ายแบะคงไม่ได้ดูดวงก่อนออกจากบ้าน จึงเป็นวันโลกาวินาศสำหรับมัน

น้าเบิ้มกลับจากทำงานเกือบมืด  สภาพอ้ายแบะ มอมแมมเหมือนไปฟัดกับน้องควายมา..

น้าเบิ้มหันมายักคิ้วกับผม..

กูรู้ว่าอ้ายนี่มันแสบ   แต่ขอโทษเหนืออ้ายแบะยังมีกู...เบิ้ม บางเบิดเว้ย !...

มันเป็นไง น้า ?

“มันจะมาตอนเช้าๆแล้วแอบไปเปิดดูเรื่องรังวัดของช่าง  เพื่อดูว่าช่างคนไหนรังวัดที่ไหนเนื้อที่มากหรือน้อย  ถ้าเจอคนไหนงานแปลงเล็กและวัดง่ายๆ  ก็เข้าประกบอ้อนขอไปด้วย..แต่ถ้าเห็นว่าใครมีงานแปลงใหญ่วัดยากและอยู่ไกลๆ    มันแทบไม่เฉียดเข้าไปใกล้ช่างคนนั้น  กลัวถูกชวนไปด้วย”..  

“แล้ววันนี้เป็นไง ? เมื่อเช้าเห็นมันมาอ้อนไปกับน้าไม่ใช่หรือ ?”

“ก็ไม่ไง     ตอนเช้าข้าเอาเรื่องรังวัดที่มีเนื้อที่ แค่ 50 ตารางวามาใส่แฟ้มเอาไว้  มันมาแอบดู แล้วคงนึกว่าวันนี้รังวัดแค่ 50 ตารางวา”

“แล้วจริงๆ เท่าไหร่”

“ไม่มากหรอก น้อง  แค่  99 ไร่ขาดร้อยแค่ 1 ไร่  ทั้งไกล  ทั้งรก   คลองชลประทานตัดกลางแปลงอีกต่างหาก กว่าจะได้กินข้าวกลางวันเกือบบ่ายสอง งานก็ยังไม่เสร็จกินข้าวแล้วต้องทำต่ออีก กว่าจะเสร็จเล่นเอามืด  สะใจจริงๆ อ้ายแบะถึงกับหน้ามืดลมจับ ขาสั่นดิกๆ  คงเข็ดไปนาน  สมน้ำหน้ามัน”....

แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 10:40:02

แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 10:36:37

แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 10:33:43

แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 10:31:35

แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 10:28:11

แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 09:48:20

แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 53 00:28:06

แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 53 00:25:05

แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 53 00:14:46

แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 53 00:09:56

จากคุณ : สวนดอก
เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 23:18:33




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com