ความคิดเห็นที่ 1 ภาพถ่ายทางอากาศในปัจจุบัน จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 08:42:23

ความคิดเห็นที่ 2 โรงหนังอีกโรงที่เป็นตำนานของหาดใหญ่คือ โรงหนังแกรนด์ แต่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงหนังโอเดียน ทำให้ชื่อโอเดียนติดปากชาวบ้านมาก และโรงหนังแห่งนี้อยู่ในย่านกลางเมืองหาดใหญ่สมัยก่อน เป็นสิ่งบรรเทิงราคาย่อมเยาสำหรับชาวบ้าน หน้าโรงหนังสมัยก่อนจะมีร้านขายบะหมี่ลูกชิ้น ตอนนี้เจ้าของร้านย้ายไปเปิดร้านขายอาหารจีนแต้จิ๋ว ร้านเจ็งง้วน ที่หัวมุมสายหนึ่งหาดใหญ่  ปากทางเข้าอุโมงค์รถไฟหาดใหญ่ (ถนนลอดใต้สะพานที่ให้รถไฟวิ่งข้างบน) จำได้สมัยก่อนเป็นเนินดินลูกรัง ต้องมีการขุดดินออกแล้วสร้างเป็นทางรอด บางคนว่าเป็นบริเวณปลายโคกเสม็ดชุน ที่ตั้งชุมทางรถไฟหาดใหญ่ ถัดจากร้านขายบะหมี่  ก็จะเป็นร้านขายน้ำเต้าหู้ ลูกสาวร้านนี้จัดว่าเป็นสาวงดงาม บรรดาด้วงแมงและชีกอแมน จะชอบไปนั่งซื้อสินค้าและชื่นชมความงามและหยอกเย้าเธอเสมอ ถ้าจำไม่ผิดเธอแต่งงานไปกับรุ่นพี่แสงทองที่สงขลา รุ่นพี่คนนั้นเวลาเจอผมและพูดกับผม ช่วงยังเป็นข้าวใหม่ปลามัน จะมีลักษณะหน้าตากระหยิ่มยิ้มย่อง ทำนองว่าประสบความสำเร็จพอสมควรในการได้แต่งงานกับเธอ (ไม่เจอเพื่อนรุ่นพี่คนนี้และเธอหลายปีแล้ว) ตรงข้ามกับร้านบะหมีและร้านขายน้ำเต้าหู้ ก็มีคนขายผู้หญิงหน้าตางดงามพอ ๆ กัน ขายน้ำดื่มประเภทใบบัวบก ลอดช่อง น้ำหวานประเภทต่าง ๆ ร้านค้าคนงามสองร้านนี้ไม่ค่อยถูกกัน ห้ามยกแก้วน้ำที่ขายจากร้านหนึ่ง ข้ามโต๊ะไปนั่งกินร้านฝั่งตรงข้ามโดยเด็ดขาด ยกเว้นแต่ซื้อใส่ถุงพลาสติคไปนั่งกินได้ ที่มีปัญหามากที่สุดอีกร้านหนี่งในย่านโรงหนังโอเดียน ด้านข้างของร้านจะอยู่ติดกับร้านขายบะหมี่กับร้านขายน้ำเต้าหู้ คือ ร้านอาหารมุสลิมที่เจ้าของร้าน เป็นคนมุสลิมมาจากอินเดีย นามสกุล กาเดร์ เป็นร้านของพ่อเพื่อน (ซำซุดิง) ที่มีพี่น้องร่วมบิดามารดาคนเดียวกัน มีพี่น้องทั้งชายและหญิงรวมกันสิบสี่คน (ถ้าจำไม่ผิด) จำได้ว่าน้องชายของเพื่อนชื่อ มุสตาฟา ตอนเช้ายังนั่งเล่นกันอยู่กับน้องชายแกอีกคนชื่อ เบเลเฮ็ม ตอนที่ยังเป็นเพื่อนบ้านกันบ้านอยู่แถวบ้านพักย่านรถไฟ วันมะรืนก็ทราบว่า มุสตาฟา เสียชีวิตแล้วเพราะท้องร่วงอย่างแรง และนำศพไปฝังที่กูโบร์เรียบร้อยแล้ว ทำเอาตกใจและหวาดกลัวไปหลายวันหลายคืน ร้านอาหารมุสลิมนี้ต่อมาได้ขายไปหลายทอด หลังจากที่พ่อเพื่อนเสียชีวิตลงไปไม่นานนัก เพราะแม่เพื่อนและพี่น้องบริหารไม่ไหว ร้านนี้ห้ามยกเครื่องดื่มและอาหาร จากร้านละแวกนี้เข้าร้านแกโดยเด็ดขาด เพราะผิดต่อศาสนบัญญัติของร้านแก เรียกว่าจะกินอาหารและเครื่องดื่มได้ ก็เฉพาะที่สั่งจากภายในร้านของแกเท่านั้น ถ้าจะกินของอย่างอื่นก็ให้ไปกินข้างนอกร้านของแก ส่วนปากทางเข้าจะมีร้านหนังสือ แพร่พิทยา สมัยนั้นจัดว่าเป็นร้านหนังสือรายใหญ่ของหาดใหญ่ ก่อนที่จะมีแบรนด์จากกรุงเทพฯ ซีเอ็ด นายอินทร์ B2S มาเปิดแข่งขัน ตอนนี้ย้ายไปเปิดเป็นร้านสองคูหาอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานอนาถาหาดใหญ่ ละแวกนี้เดิมมีโรงหนังอีกสองแห่งคือ โรงหนังโคลีเซียม  เดิมจะมีอาคารพาณิชย์สองฝั่งล้อมโรงหนัง ตอนนี้รื้อทิ้งหมดแล้วควบรวมเป็นอาคารโรงแรมลีการ์เดนส์ และส่วนหนึ่งของโรงแรมก็ขอเช่าพื้นที่จากสมาคมจีนฮกเกี้ยน เป็นสัญญาระยะยาวมีผลประโยชน์ตอบแทนและ Options พิเศษ มิฉะนั้นโรงแรมก็จะมีพื้นที่ floor area ratio น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือต้องถอยร่นมากกว่าสภาพปัจจุบัน ส่วนอีกโรงหนังคือ โรงหนังอินทรา มีการเปิดกิจการไม่นานนัก ก็เลิกกิจการไป ตอนนี้เปลี่ยนกิจการเป็นสถานบันเทิงยามราตรี แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 14:59:54 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 12:07:48 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 09:10:43

ความคิดเห็นที่ 3 สภาพภาพถ่ายทางอากาศในปัจจุบัน จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 09:11:20

ความคิดเห็นที่ 4 โรงหนังอีกแห่งที่เป็นตำนานคือ โรงหนังชีกิมหยง ด้านหน้าโรงหนังเดิมมี ศาลท้าวมหาพรหม ต่อมาก็มีการพาหมอผีจากแถวอิสาณ เป็นพวกกลุ่มวัยรุ่น ทำพิธีทุบทิ้งแล้วเอาน้ำปัสสาวะราดรด แล้วนำไปโยนทิ้งคลองเตยหาดใหญ่ นัยว่ามีท้าวมหาพรหมที่ไหน  ที่นั่นจะไม่เจริญ เพราะท่านเอาแต่นั่งเฉยนิ่งไม่ช่วยกันทำมาหากินแต่อย่างใด แล้วนำเอาพระสังขจายมาตั้งแทนอยู่สักพักใหญ่ ๆ ก่อนจะรื้อทิ้งอัญเชิญไปไว้ที่อื่นอีก ที่จำได้ดีเพราะตอนนั้นยังเป็นหนุ่มโสด ชอบไปนั่งที่ร้านรสอิสาณ ตอนนี้หยุดกิจการและกำลังบอกขายอยู่ ชอบนั่งจิบเบียร์เย็น ๆ พร้อมแกล้มอาหารอิสาณ แล้วนั่งอ่านหนังสือกำลังภายในไปพลาง เห็นเหตุการณ์ตอนที่หมอผีกับวัยรุ่นมาทำพิธีกรรม เลยเดินไปสอบถามสาเหตุการรื้อศาลพระพรหม พวกแกไม่ยอมบอกว่าใครจ้างมาทำพิธีกรรม บอกคลุมเครือแต่ว่า เป็นพวกศรัทธาในพระสังข์กระจาย มาทำพิธีกรรมให้แบบฟรี ๆ เพราะไม่ชอบท้าวมหาพรหมอะไรทำนองนั้น ต่อมาไม่นานนักหลังจากมีการอัญเชิญพระสังข์กระจายไปไว้ที่อื่นแล้ว ก็หวนกลับมาตั้ง ศาลท้าวมหาพรหม ใหม่อีกครั้ง ก่อนจะมีการรื้อทิ้งศาลท้าวมหาพรหมไปอีกรอบหนึ่ง ตอนนี้เป็นที่ว่างแปลงใหญ่  มีปล่องบ่อล้อมรอบบริเวณไว้ เพราะหลังจากได้รื้อศาลท้าวมหาพรหมทิ้งไปอีกรอบสอง นัยว่าเจ้าของที่ดินแปลงนี้จะขอคืนพื้นที่ เอากลับมาสร้างอาคารพาณิชย์ขายได้อีกหลายคูหา แต่เจ้าของที่ดินข้างเคียงและชาวบ้านไม่ยินยอม เพราะเดิมเป็นทางถนนคอนกรีตเข้าออก เรื่องเลยคาราคาซังกันอยู่จนทุกวันนี้ โรงหนังชีกิมหยงแห่งนี้ ต่อมาเปลี่ยนเป็นสนามมวยหาดใหญ่ มีกีฬาคนชกคนอยู่สักพักใหญ่ แล้วเปลี่ยนเป็นศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้าชีกิมหยง   แต่กิจการก็ไม่รุ่งเรืองแต่อย่างใด สุดท้ายก็ทุบโรงหนังทิ้งทั้งหมด แล้วทำอาคารพาณิชย์ขายเป็นคูหา ๆ ตามสภาพปัจจุบัน แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 14:36:17 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 12:15:28 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 09:17:24

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพถ่ายทางอากาศในสภาพปัจจุบัน จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 09:17:58

ความคิดเห็นที่ 6 โรงภาพยนต์เฉลิมไทย เดิมเป็นโรงภาพยนต์แห่งแรกของจังหวัดสงขลา บางคนบอกว่าเป็นแห่งแรกของภาคใต้ ที่ติดเครื่องปรับอากาศแบบ Chiller ทำให้มีอากาศเย็นฉ่ำมากภายในโรงหนัง ตัวโรงหนังมีที่นั่งจุได้ไม่น้อยกว่าแปดร้อยที่นั่ง บางคนบอกว่าไม่น้อยกว่าหนึ่งพันที่นั่ง ข้อมูลแท้จริงคงต้องสอบถามจาก สรรพสามิต ถ้ามีผู้ใดทราบก็โปรดแจ้งให้ทราบด้วย จักขอบคุณยิ่ง สมัยนั้นคนในหาดใหญ่เวลาไปดูหนังที่โรงหนังเฉลิมไทย ต้องใส่เสื้อกันหนาวหรือเสื้อผ้าหนากว่าเดิมมาก เพราะอากาศข้างในเย็นกว่าข้างนอกมาก หาดใหญ่ในยุคนั้นเครื่องปรับอากาศเป็นอะไรที่แพงมากและหายาก มีอาคารเพียงไม่กี่หลังในหาดใหญ่ที่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ทำให้เป็นจุดขายอย่างหนึ่งของโรงหนังแห่งนี้ ตอนนี้ตัวโรงหนังชั้นบนได้แปลงสภาพ เป็นตลาดหรือแบ่งเป็นลอค ๆ ขายสินค้าชายแดน ส่วนด้านล่างยังสภาพเดิมคือเป็น ตลาดสดชีกิมหยง เป็นตลาดค้าขายสินค้าให้กับกลุ่มชนชั้นกลางขึ้นไป สินค้าจะมีคุณภาพและราคาแพงกว่าตลาดสด ตลาดโก้งโค้ง มีสินค้าชายแดนขายมากทั้งด้านล่างและด้านบน เรียกว่า ของสด ของคาว ของแห้ง ขายปะปนกันในตลาดแห่งนี้ และพื้นที่รอบข้างถนนสายสามและด้านหลังตลาดแห่งนี้ ในละแวกนี้ยังมีโรงหนังสยา (สยาเธียร์เตอร์) เจ้าของโรงหนังเดิมขายไม้สยา บางคนบอกว่าเป็นที่ตั้งโรงหนังเป็นโรงไม้/ร้านค้าไม้เดิม ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงหนังสยาม กิจการฉายหนังบางรอบก็มีคนงานมากกว่าคนดู เลยต้องเลิกกิจการไปในที่สุด ตอนนี้ทุบทิ้งเป็นที่จอดรถยนต์ของโรงแรมวีแอล ถัดจากโรงหนังเป็นอาคารไม้สองชั้นสีฟ้าหม่นหมอง ตอนนี้เป็นที่พักราคาถูกของคนในหาดใหญ่ เป็นที่ดินของทายาทเจ้าคุณอรรถกระวีสุนทร หัวมุมเดิมเป็นร้านของ มหารุ่ง (หาดใหญ่บรรณาคาร) เป็นร้านหนังสือที่ขายหนังสือธรรมมะมากที่สุดในหาดใหญ่สมัยนั้น รองลงมาก็เป็นหนังสือทั่วไป และแบบเรียนของเด็กนักเรียน ตอนนี้ย้ายร้านค้าไปเปิดชือเดิมคือ หาดใหญ่บรรณาคาร บนถนนสายเดิมคือ ถนนรัถการ เปิดอยู่ใกล้ ๆ กัน ด้านหลังโรงหนังสยา ก็จะมีโรงหนังคิงส์ เป็นโรงหนังร้อน คือ ใช้พัดลมขนาดใหญ่เป่าลมให้อากาศเย็น ต่อมาถูกไฟไหม้จนหมดสภาพความเป็นโรงหนังไป ทางเข้าโรงหนังคิงส์ตอนนี้เป็นตรอกเล็ก ๆ เปิดบ้างปิดบ้าง อยู่ด้านข้างบริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด (ที่ขายมอเตอร์ไซด์) หรือเข้าอีกด้านก็ได้ทางด้านหลังถนนรัถการ บางส่วนของโรงหนังตอนนี้ก็เป็นอาคารพาณิชย์ และเป็นที่ให้เช่าจอดรถยนต์บางส่วนไปแล้ว ถ้าจำไม่ผิดโรงหนังนี้เดิมเป็นของทายาทชีกิมหยง แต่ได้บอกขายต่อ ๆ กันไปหลายทอดแล้ว แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 14:44:32 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 12:21:54 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 09:30:29

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพถ่ายทางอากาศในปัจจุบัน จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 09:31:32

ความคิดเห็นที่ 8 โรงหนังอีกแห่งที่เป็นตำนานเช่นกันคือ โรงหนังจุติ มีการฉายอยู่ไม่นานนัก ก็รื้อทิ้งขายเป็นอาคารพาณิชย์ในปัจจุบัน สภาพตอนนี้เป็นแหล่งชุมชนโรงเรียนกวดวิชา ทั้งแบรนด์พื้นเมืองและแบรนด์จากกรุงเทพฯ ที่สอนผ่านระบบออนไลน์ ออฟไลน์ เปิดแผ่น VCD เช่น เคมีอุ๊ ครูลินลี เป็นต้น จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 09:34:00

ความคิดเห็นที่ 9 สภาพภาพถ่ายทางอากาศในปัจจุบัน จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 09:34:42

ความคิดเห็นที่ 10 โรงหนังอีกสองแห่งคือ โรงหนังหาดใหญ่พลาซา แล้วเปลี่ยนเป็นร้านค้าขายเสื้อผ้า รองเท้า ก่อนมีการ Renovate ใหม่เป็นหอประชุมเทศบาลนครหาดใหญ่ ด้านล่างเป็นตลาดสดเทศบาลนครหาดใหญ่ ฝั่งตรงข้ามเดิมมีโรงหนังหาดใหญ่รามา อยู่ตรงข้ามกับชุมสายโทรศัพท์หาดใหญ่ แต่ตอนนี้โรงหนังได้รื้อทิ้งหมดแล้ว กลายเป็นที่จอดรถยนต์และอาคารของร้านขาย/ติดตั้งจานดาวเทียม แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 10:30:45 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 09:37:40

ความคิดเห็นที่ 11 ภาพถ่ายทางอากาศในปัจจุบัน ปัจจุบันโรงหนังเหล่านี้เป็นอดีตกาลไปทั้งหมดแล้ว เป็นการยืนยันหลักธรรมของพุทธศาสนา เรื่อง อนิจจัง วัฏฏะ สังขารา   เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ ก่อนที่จะเลือนหายไปเหมือนฟิล์มหนังที่เก่าแก่ จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 09:39:58

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพถ่ายทางอากาศ  (ขอโทษลืมแนบไปด้วยครับ) จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 09:40:59

ความคิดเห็นที่ 13 ภาพถ่ายโรงหนังโอเดียนจาก www.gimyong.com จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 10:02:58

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีค่ะ มาอ่านเรื่องเล่าอันทรงคุณค่าค่ะ ... ขออนุญาต ฝากรูปที่ถ่ายเองนะคะ “เสาชิงช้า” ค่ะ พร้อมบทกลอนสั้น  ๆ ประกอบไว้ด้วย ... ภาพแสงเงา "เสาชิงช้า" เพ-ลาใหม่ เฉกศูนย์รวม ร่วมสมัย ให้กล่าวขาน พระอารามหลวง .. "วัดสุทัศน์" .. ชัชวาล จารีต-วาร ยัง-พิธี “ตรียัมปวาย” ... ... เปี่ยมมนต์ขลัง ศักดิ์สิทธิ์ ถึงจิต-เนตร เลื่อง - เทเวศร์ เขตขัณฑ์  อันเฉิดฉาย ผ่านเรื่องราว เรื่องเล่า เก่า-ใหม่-กลาย- เปี่ยมความหมาย ควรค่า คู่ธานี ... ... ตั้งตระหง่าน ปานชี้ชัด ประวัติศาสตร์ แลองอาจ พิลาสนัก เป็นศักดิ์ศรี มรดก ตกสู่รุ่น – โลกเสรี ร่วมวิถี .. จรรโลง-รัฐ .. วัฒนธรรม  ... . . . แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 53 11:03:05 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 10:46:01

ความคิดเห็นที่ 15 อดคิดไม่ได้ว่าสยามก็เป็นตำนานไปแล้วเหมือนกัน เศร้า จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 21:21:32

ความคิดเห็นที่ 16 ยังขาดอีกโรงไหมครับ  แถวหาดใหญ่ใน  ผมเคยได้ยินแต่จำชื่อไม่ได้ จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 22:44:50

ความคิดเห็นที่ 17 อะไรๆ ก็แปรเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยค่ะ จากคุณ : กาปอมซ่า เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 53 22:46:48

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีค่ะ แวะเข้ามาตามเก็บเรื่องราวความทรงจำ จำคุ้นๆ คือ บรรยากาศโรงหนังเฉลิมไทย กับแอร์ฉ่ำเย็น ราวอยู่ขั้วโลกได้เลยค่ะ จำได้ว่า สมัยก่อน แอร์โรงหนังเย็นมากทุกที่เลย ต้องเตรียมเสื้อหนาวติดตัวไปทุกครั้ง.. อ่านค้างไว้ก่อนนะคะ เด่วพรุ่งนี้แวะมาต่อค่ะ ขอบคุณที่ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ ให้ได้เก็บไว้ในความทรงจำด้วยค่ะ :) จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 16:03:09

ความคิดเห็นที่ 19 ขอมอบเพลงอำลาอาลัยให้กับโรงหนังหาดใหญ่ในอดีต จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 22:24:27

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีค่ะ แวะเข้ามาเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อยค่ะ เพิ่งรุว่า ร้านอาหารเจ็งง้วน เคยเปิดอยู่โรงหนังโอเดียน รุแค่ว่า ร้านนี้เป็นโต๊ะจีนหรู แพงมาก จำได้ว่า ก่อนหน้า โรงหนังโอเดียน ดังจริงๆ (หนูเกิดไม่ทัน ตอนชื่อโรงหนังแกรนด์ล่ะค่ะ เพิ่งเคยได้ยินเลย) เรื่องห้ามยกของกินข้ามร้านนี่ จำได้สมัยก่อน เจอมานักต่อนัก ขัดทับ ขัดเคืองใจอะไรกันมั้งคะ เลยห้ามของร้านอื่นเข้าเขตแดนร้านตน ร้านมุสลิมนี่ ไม่คุ้นเลยค่ะ ส่วนใหญ่ ก็จะคุ้นแต่ไก่ทอดเดชา เท่านั้น ร้านแขกเจ้าอื่น แทบไม่เคยไปลองลิ้มชิมรสเลยค่ะ ร้านหนังสือ จำได้ว่า ร้านแพร่ มี 2 สาขา สาขาหน้าอนาถา เป็นร้านแพร่ 2 คนขาย (น่าจะรุ่นลูก) เป็นพี่น้องกัน หน้าคล้ายๆ กัน ออกหมวยๆ.. จำได้เพราะตอนเด็ก เรียน ECC แล้วพ่อจะไปรับนัดที่ร้านแพร่ 2 ประจำ   นึกถึงร้านหนังสือ มีหาดใหญ่บรรณาคาร อีกที่ ที่ก็เป็นร้านดัง ร้านทรัพย์ภัณฑ์ ก็ลูกสาวเจ้าของร้านเป็นเพื่อนรุ่นเดวกัน สมัยประถม แต่ร้านที่นึกถึงในความทรงจำ คงหนีไม่พ้น ร้านศูนย์หนังสือชุมชน ที่ตั้งอยู่ข้างร้านสินสมุทร หูฉลาม ปิดไปนานแล้ว เคยเปิดอยู่ตรงข้ามคลินิค หมอ อนันต์ - รัชนี สาย 2 (ถ้าจำไม่ผิด) ร้านหนังสือที่ดังถัดมาก็ ร้านดวงกมล แหล่งรวมหนังสือแทบทุกสาขา จำได้ว่า ร้านใหญ่มาก ตั้งอยู่แถว หาดใหญ่ซิตี้ (ตอนนี้เป็นโรบินสันแล้ว..น่าจะนะคะ) เด็กน้อยนร.ทั้งหลาย จะมาหาตำรับตำราอ่านเสริม ก็ต้องดวงกมล.. แต่ตำราหลัก คงหนีไม่พ้น ร้านลูกช้าง กับเพื่อนนักเรียน ขาดไม่ได้ อีกร้าน ก็คือ ร้านไพจิตพาณิชย์ ร้านรวมเครื่องเขียน ร้านใหญ่อีกเช่นกัน ตระกูลนี้ ก็ขยายกิจการใหญ่โต แว่วๆ มีพี่น้องเปิดสาขาอยู่บ้านพรุด้วย ร่ายยาวไป เกรงจะเปลี่ยนประเด็นเป็นร้านหนังสือแทนโรงหนังซะล่ะค่ะ ย่านอินทรา ไม่เคยโคจรผ่านเลยค่ะ จำได้แต่ว่า เป็นย่านบันเทิงราตรี ไม่คิดว่ามีโรงหนังกัน ก็เพิ่งทราบว่าเปิดเป็นโรงหนังนี่ล่ะค่ะ อ้อ จำได้อีกที่นึง โรงหนังหาดใหญ่รามา ที่คุณอาบอกไว้แน่ๆ เลย โห นานมากแล้วล่ะค่ะ คุ้นๆว่า ตำแหน่งอยู่ตรงข้ามหอนาฬิกาพลาซ่า เคยไปดูเมื่อ 20 ปีกว่าๆ ที่แล้วได้ แอร์เย็นมากเช่นกัน ตอนนั้นยังเล็กมาก จำไม่ค่อยได้ รุแค่แอร์เย็นมากเท่านั้นล่ะค่ะ หนูจำสลับที่กันแน่เลยค่ะ โรงหนังโคลีเซี่ยม กับ โรงหนังพลาซ่า ไม่ค่อยได้ไปดูที่โรงทั้งสองแห่งนี้ด้วย แล้วก็นานแล้วด้วย โห โรงหนังเก่าๆ ในหาดใหญ่ นานมากแล้วจริงๆ ที่ถูกรื้อทิ้ง ปรับปรุง renovate ไปดำเนินกิจการอย่างอื่น เปลี่ยนไปตามกาลสมัยจริงๆ ล่ะค่ะ แต่พอนึกๆ ไป ภาพการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ที่เราเห็นเป็นซากโครงโรงหนังเก่าๆ จนถึงขึ้นเป็นอาคาร กิจการใหม่ๆ ก็ย้อนขึ้นมา.. ชวนให้นึกถึงความทรงจำ ฝากไว้ในอดีตวันวานไปด้วยเลยค่ะ.. ... โรงหนังแถวหาดใหญ่ในที่คุณลมหัวด้วน พูดถึง ไม่เคยคุ้นเลยค่ะ ... ขอบคุณที่เปิดมุมมอง ให้ร่วมย้อนระลึกวันวานด้วยนะคะ _/|\_ จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 15:23:14

ความคิดเห็นที่ 21 ร้านหนังสือ ร้านแพร่ 2  หน้าอนาถา ย้ายไปเปิดรอไว้ก่อนช่วงจะถูกรื้อถอนตึกแถวเดิมเป็นศูนย์การค้า คนขายคือ พี่น้องย้ายมาจากร้านเดิมที่โอเดียน ร้านนี้รู้จักกับเจ้าของร้านและพี่น้องร้านนี้ดี หาดใหญ่บรรณาคาร ร้านทรัพย์ภัณฑ์ (ข้อมูลคงเดิม) ร้านศูนย์หนังสือชุมชน ที่ตั้งอยู่ข้างร้านสินสมุทร หูฉลาม เคยเปิดอยู่ตรงข้ามคลินิค หมอ อนันต์ - รัชนี สาย 2 มีเทปธรรมะให้ยืม ถ้าจ่ายช้าจะถูกปรับ ตอนน้ำท่วมหนักปี 2531 (ถ้าจำไม่ผิด) ก็เลยเลิกกิจการร้านหนังสือ ไปเปิดร้านอาหารที่่มี การรำไทย เพลงไทยเดิม ถนนธรรมนูญวิถึ จำชื่อร้านอาหารนี้ไม่ได้แล้ว  เพราะเลิกกิจการไปแล้วเช่นกัน ตอนนี้ไปเปิดเป็น Apartment ให้เช่าสำหรับกลุ่ม ลูกค้าระดับสูงที่ซอย 10 เพชรเกษม หาดใหญ่ ร้านดวงกมล แหล่งรวมหนังสือแทบทุกสาขา ตั้งอยู่แถว หาดใหญ่ซิตี้ ติดกับธนาคารอิสลาม เดิมมีสี่คูหาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เด็กน้อยนร.ทั้งหลาย จะมาหาตำรับตำราอ่านเสริม ตอนนี้เลิกกิจการแล้วให้ร้านนายอินทร์ เข้าใช้พื้นที่ด้านหลังแทน ช่วงก่อนเลิก หนังสือค่อนข้างเก่ามีจำนวนมาก และมีกลิ่นอับ ๆ ของหนังสือ ถ้าชอบหนังสือเก่าเก็บก็พอจะหาซื้อได้ มีการเปิดสอนกวดวิชา/tutor อยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็โรยราไป  เพราะคู่แข่งขันรายใหม่ ใหม่กว่า สดกว่า ดีกว่า หนังสือมากกว่า ส่วนลดและของขายมากมายกว่า เพิ่งเดินผ่านเห็นว่ากำลังปรับปรุงอยู่ ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนเป็นกิจการอะไร ร้านลูกช้าง, เพื่อนนักเรียน ร้านไพจิตพาณิชย์ ร้านรวมเครื่องเขียน ต้องไปใช้บริการบ่อย เพราะลูกบังคับให้ไปซื้อของใช้งานเรียน แต่ช่วงหลังไปใช้ที่ สยามนครินทร์ B2S มากขึ้น สยามนครินทร์  ก็กำลังสร้างอาคารหลังใหม่ ตรงด้านขวามือของธนาคารชาติ เมื่อหันหน้าเข้าไปตรงหน้าธนาคารชาติ หรือติดกับตึกอาคารการสื่อสารแห่งประเทศไทย อาคารนี้ซื้อมาจากกลุ่มอีซูซุหาดใหญ่ ได้กำไรค่าฐานรากที่หล่อทิ้งไว้ และบ่มคอนกรีตด้วยน้ำท่วมหลายปี ทำให้โครงสร้างค่อนข้างแข็งแรงดีมาก จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 12:51:42

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณอา ที่ช่วยเพิ่มเติมรายละเอียด สภาพปัจจุบันให้หนู โห เหมือนฉายหนังเลื่อนไปเป็นฉากๆ เลยค่ะ กาลเวลาผ่านไป.. ความเปลี่ยนแปลงเป็นของธรรมดาไปเลย หลายกิจการปรับเปลี่ยนไปเยอะเลยนะคะ ร้านศูนย์หนังสือชุมชนนี่ น่าเสียดายมากเลยค่ะ เป็นร้านหนังสือที่ทำให้นึกถึงบรรยากาศน่าอ่านหนังสือ อิฐสีส้มอ่อนๆ ประตูไม้ นึกแล้ววัยเด็กย้อนกลับมาเลยค่ะ ร้านแพร่นี่ จำได้ว่า คนพี่จะหน้าออกดุๆ หน่อย คนน้องจะใจดีๆ ป่านนี้คงอายุเยอะขึ้น เค้าหน้าคงเปลี่ยนไปบ้างพอควรนะคะ ร้านดวงกมล ตกลงเจ๊งไปแล้วหรอคะ รุ่นหนูเรียนม.ปลายจำได้ว่า ใหญ่มาก ตำราเพียบ ทันตอนเริ่มมีกวดวิชา ปิดฉากไปซะแล้ว.. ร้านลูกช้าง, เพื่อนนักเรียน, ไพจิตต์พาณิชย์ ก็ยังคงอยู่ เป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่นักเรียน อยู่หลายยุคหลายสมัยเลยนะคะเนี่ย สยามนครินทร์ เพิ่งรุว่า สร้างเพิ่ม ตรงหัวมุมสี่แยกไฟแดงแบงค์ชาติ เห็นที่นั้นทิ้งร้างมานานแล้ว แต่ก็ดีนะคะ ใกล้ ญ.ว.เลย ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยอัพเดทค่ะคุณอา _/|\_ จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 14:14:03

ความคิดเห็นที่ 23 โห..ย้อนยุคไปไกล หลายๆชื่อไม่คุ้น ที่คุ้นเคยและผ่านการใช้บริการมาแล้วอย่างเช่น โอเดียน..จำได้ว่าฉายแต่หนังจีนโดยเฉพาะชอว์บราเดอร์ เฉลิมไทย..อยู่ชั้นสองของตลาดกิมหยง แอร์เย็นที่นั่งสบาย ส่วนใหญ่ฉายหนังฝรั่ง พากย์โดยกรรณิการ์ อมรา สยาเธียร์เตอร์กับคิงส์อยู่ใกล้ๆกัน..ตอนนั้นยังเด็กมาก จำได้ลางๆ หาดใหญ่รามา โคลีเซี่ยม หาดหญ่พลาซ่า อินทรา ถือเป็นโรงหนังยุคหลังกว่า จำได้ว่า สมัยก่อน การดูหนังเป็นความบันเทิงอันดับแรกๆที่นิยมกัน ยิ่งช่วงเทศกาล ปีใหม่ ตรุษจีน ครึกครื้นมาก แต่ละโรงถึงกับมีการจัดรอบการฉายพิเศษหลายเรื่อง ตั้งแต่เช้ายันดึก มีการพิมพ์โปรแกรมหนังเฉพาะกิจ เข้าโรงนี้ ออกไปดูอีกโรง ดูกันจนตาแฉะไปข้างนึง จากคุณ : ฟ้าแดงเกรียงไกร เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:31:32