Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เสิร์ฟด่วน ป่วนรัก (ตอนที่ 8-9)  

ตอนที่ 8


“ฮัลโหล...” ชายหนุ่มผิวขาวเนียนที่ถูกปลุกจากห้วงการหลับใหล โงหัวขึ้นอย่างสะลึมสะลือ พลางกรอกเสียงแหบแห้งลงไปในเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยที่คว้าขึ้นมาถือจากหัวเตียง

“แอนดี้ อยู่ไหนแล้ววะ... ยังไม่ตื่นอีกเหรอ” เสียงร้อนรนจากปลายสายที่แว่วมากระทบใบหู เหมือนจะกระฉากชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงจากห้วงภวังค์ และทำให้เขาแทบกระโดดลุกขึ้นนั่งในทันที หันซ้าย หันขวา

ราวมองหานาฬิกา แต่เมื่อไม่เจอก็จำใจถามเพื่อนกลับไป

“นี่มันกี่โมงแล้ววะ กบ”

“ไอ้บ้าเอ้ย จะสิบโมงอยู่แล้ว...” เพื่อนรักต่อว่า “เข้างานกี่โมง สิบโมงครึ่งไม่ใช่เหรอ...”

“ใช่ ๆ” แอนดี้ รับคำ ในจังหวะเดียวกันกับที่กวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้อง ราวแสกนหาเสื้อผ้าที่จะต้องใช้ ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ตามมุมต่าง ๆ เพราะเมื่อคืนกลับมา ก็ตั้งใจจะนำเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าเดินทาง เพื่อจัดให้เรียบร้อย แต่ไม่ทันไรก็สลบไสลไปเสียก่อน

“เพื่อนเอ้ย... แค่วันแรก ก็ได้เรื่องแล้ว... รับรอง คุณครีม คงประทับใจนายตายแหละ” กบเอ่ยกลั้นหัวเราะ “แล้วจะไปทำงานทันมั้ยวะเนี่ยะ”

“ทัน ๆ” แอนดี้รับคำอย่างมั่นใจ พลางกระโดดลงมาจากเตียง และตรงไปคว้าผ้าเช็ดตัวที่วางพาดพนักเก้าอี้ไม้ขึ้นมาคล้องคอ “เฮ้ย เดี๋ยวเราอาบน้ำก่อนแล้ว กัน แล้วตอนเที่ยง ๆ จะโทรหานะ”

“ไม่ต้องหรอก...” หนุ่มบริษัทประกันบอกพร้อมอมยิ้ม “นายทำงานวันแรกทั้งที เราต้องขอไปเห็นกับตาตัวเองเสียหน่อย ไม่พลาดหรอก”

แอนดี้ ยิ้มเบา ๆ ส่ายหน้า และเอ่ยคำอำลากับเพื่อนสนิท ก่อนที่จะรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำแคบ ๆ ทันที

และใช้เวลาอย่างรวดเร็วในการอาบน้ำเย็นชำระร่างกาย

หลังจากที่อาบน้ำแล้ว เขาสวมผ้าเช็ดตัวรอบเอว เดินมาแปรงฟัน และเผลอใช้เวลาครู่หนึ่งหยุดมองเงาตัวเองที่สะท้อนอยู่บนกระจกเงาบานเล็กเหนืออ่างล้างหน้า ที่เผยให้เห็นใบหน้าที่มีความอ่อนล้าอยู่ในที

เขาเอนตัวลงไปบิดก๊อกน้ำ และนำมือไปรองกระแสน้ำเย็นขึ้นมาสาดใส่ใบหน้า รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาในทันที

แอนดี้ ยันตัวเองยืนตรง และมองไปในกระจกอีกครั้ง

ก่อนที่จะค่อย ๆ ฉีกยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก

“สวัสดีครับ คุณครีม...” เขาทดลองเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ก็ฟังดูจงใจเกินไป

เขาจึงลองยิ้มแบบใหม่ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงอีกแบบหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ถูกใจ และเสียเวลาอยู่พักใหญ่

การซ้อมยิ้มและทักทายของเขาถูกขัดจังหวะ เมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เขาจึงรีบวิ่งออกมาคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูด้วยความหงุดหงิด

แต่ความรู้สึกดังกล่าวก็แปรเปลี่ยนเป็นความประหม่า ตกใจในทันที เมื่อเห็นว่า ผู้ที่โทรมานั้น ไม่ใช่ใครอื่น แต่ว่าที่เจ้านายคนใหม่ของเขานั่นเอง

“โอ้ แม่เจ้า ทำไงดีวะ...” ชายหนุ่มอุทาน รู้สึกหัวใจเต้นแรง และแทบทำโทรศัพท์มือถือหลุดจากมือ ด้วยทั้งความลื่นจากมือที่ยังเปียกน้ำ และเพราะทั้งความตื่นตระหนก

เขารีบใช้มือทั้งสองข้าง ขว้าโทรศัพท์มือถือในที่สุด ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ และกรอกเสียงลงไปในเครื่องมือสื่อสารกระทัดรัดทันสมัย

“เอ่อ... สวัสดีครับ...”

แต่ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยอะไรต่อ เสียงจากปลายสายก็แทรกขึ้น

“ธันวา... นี่ฉันครีมนะ...”

แอนดี้เผลอพยักหน้ารับ และยิ้มหวานอย่างเคลิบเคลิ้ม เมื่อนึกถึงใบหน้าของผู้ที่อยู่ที่ปลายสายขึ้นมา

“ฉันแค่ต้องการจะโทรมายืนยันว่าเธอจะมาทำงานได้ในวันนี้...”

“มาครับ ๆ” แอนดี้เอ่ย แต่ก็ยังไม่สามารถหุบยิ้มได้ เขาอยากจะพูดอะไรต่าง ๆ กับเธออีกมากมาย แต่เหมือนระบบของเขามันไม่พร้อมจะทำงานเอาเสียเลย

“งั้นก็ดีแล้ว... แล้วตอนนี้เธออยู่ไหนแล้ว” ครีมถามตรงประเด็น

รอยยิ้มบนใบหน้าของชายหนุ่ม เหือดแห้งไปในทันที และใช้เวลาครู่หนึ่งในการตรึกตรองว่า หากเขาบอกความจริงไปว่าเขายังอยู่ในห้องพัก หญิงสาวอาจไม่ประทับใจหรือพอใจสักเท่าไหร่นัก แม้ว่าที่พักของเขาจะอยู่ใกล้กับมาบุญครอง เท่านี้ก็ตามที

“ใกล้ถึงแล้วครับ ไม่น่าจะเกินสิบห้านาทีครับ” ชายหนุ่มบอกอย่างหนักแน่นในที่สุด และคิดว่าการบิดเบือนความจริงเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออีกฝ่ายไม่มีทางรู้ความจริงได้เลย

“โอเค งั้นดีแล้ว... เดี๋ยวเจอกันแล้วกันนะ ทำงานวันแรก ฉันคงมีเรื่องต้องคุยกับเธอเยอะ...”

“ได้เลยครับ...” แอนดี้รับคำ แต่ไม่ได้เอ่ยสิ่งที่อยู่ในใจออกไป “คุยกับคุณครีม ยิ่งเยอะ ยิ่งดีครับ”





แอนดี้ ในชุดเสื้อโปโลสีส้มที่มีสัญลักษณ์ของร้าน “พิซซ่า ปาร์ตี้” ปักอยู่ที่อก เดินถือหมวกแก๊ปสีส้มในมือ และอดถามตัวเองว่าเขาต้องใส่หมวกนี้ทำงานจริง ๆ หรือ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาไม่ค่อยชอบสวมหมวกสักเท่าไหร่ เพราะมันทำให้ผมของเขาเสียทรง

แม้ว่าเขาจะอยู่ในชุดพนักงาน แต่กระนั้น เขาก็ยังโดดเด่นเพียงพอที่จะทำให้สายตาของผู้คนรอบข้างหันมามองทางเขาเป็นระยะ ๆ

“สวัสดีครับ...” เขาประกาศเบา ๆ หลังจากที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ครู่หนึ่ง เมื่อที่เดินมาถึงเคาน์เตอร์ร้านฟาสต์ฟู๊ดส์ในสวนอาหารของห้างสรรพสินค้าใหญ่กลางเมืองที่เป็นที่ทำงานใหม่ของเขา

สองสาว เจ้านาย และเพื่อนร่วมงาน ต่างหันมามองเขา และพยักหน้ารับพอเป็นพิธี

แอนดี้ต้องการที่จะเอ่ยอะไรกับผู้จัดการร้านสาวสวยมากกว่านั้น แต่ก็รู้สึกลิ้นพันกัน จนทำได้แค่เพียงยิ้มแหย ๆ

“มาถึงแล้ว ก็เข้ามาสิคะ... มีงานต้องทำกันอีกเยอะนะ” ครีมบอก เมื่อเห็นพนักงานคนใหม่ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่

“อ้อ ๆ ครับ ๆ” แอนดี้สะดุ้ง รับคำตะกุกตะกัก และเห็นเพื่อนร่วมงานสาว แอบส่ายหน้าด้วยความระอา

เขายืนเอียงคอมองหาทางเข้าไปด้านหลังเคาน์เตอร์อยู่ครู่หนึ่ง ก็ยังไม่เจอ แต่เพราะพยายามที่จะรักษาฟอร์ม จึงไม่คิดจะเอ่ยถาม

“นี่ค่ะ... ประตูทางเข้าอยู่ที่นี่” ครีมเอ่ยในที่สุด และเดินไปชี้ประตูบานเล็กที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์ เมื่อจับได้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่พนักงานคนใหม่ยังไม่ยอมเข้ามาด้านในเสียทีนั้น เป็นเพราะอะไร

แอนดี้ หัวเราะแห้ง ๆ แก้เขิน และผลักประตูบานเล็ก ลอดใต้เคาน์เตอร์เข้าไปยืนด้านใน ด้วยหัวใจที่เต้นระทึก เพราะตระหนักว่าทันทีที่ผ่านประตูบานนี้ไป เขาจะได้ใกล้ชิดกับสาวในฝันของเขาแล้ว

“ขอแนะนำอีกทีนะ ...” ครีมบอก “นี่คือ น้องพาย เธอทำงานอยู่กับร้านเรามาตั้งแต่เปิดร้านเมื่อสองเดือนก่อน ช่วงแรกนี้ ก็คงต้องให้แอนดี้เรียนรู้การทำงานต่าง ๆ จากพายไปก่อนก็แล้วกันนะ”

“ได้เลยครับ” แอนดี้รับคำอย่างกระตือรือร้น และหันไปทางเพื่อนร่วมงานสาวร่างเล็ก “ขอฝากตัวด้วยนะครับ”

พายเบ้หน้าใส่พนักงานคนใหม่อย่างไม่ยินดียินร้าย ก่อนที่จะย้ายไปทำงานที่ทำค้างไว้ต่อไป





ช่วงเช้าของการทำงานวันแรกในบทบาทพนักงานร้านฟาสต์ฟูดส์ของแอนดี้ ผ่านไปกับการเรียนรู้ระบบจัดการของร้านคร่าว ๆ อาทิ เมนูอาหาร การรับออร์เดอร์ลูกค้า และการใช้เครื่องแคชเชียร์ ส่วนรายละเอียดการเตรียมอาหารนั้น  คุณครีม ผู้จัดการสาวพิจารณาแล้ว เห็นว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ จึงมอบหมายให้พาย เป็นผู้ประกอบอาหาร โดยให้แอนดี้คอยศึกษางานอย่างใกล้ชิด

นอกเหนือจากนั้น หนุ่มภูเก็ตก็ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการสนับสนุนการทำงานของเพื่อนร่วมงานสาว ด้วยการกดเครื่องดื่มใส่แก้วกระดาษให้ลูกค้า หยิบทิชชู ช้อน ส้อมพลาสติก แล้วนำมาใส่ถาดเตรียมไว้ให้ รวมถึงการใช้ผ้าเปียกหมาด ๆ คอยเช็ดตามเคาน์เตอร์ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่ผู้จัดการสาวสอน หรือสั่งการอย่างขมักเขม้น

“สวัสดีครับ พิซซ่า ปาร์ตี้ ยินดีให้บริการด้วยรอยยิ้มครับ” แอนดี้เอ่ยคำทักทายประจำร้านอย่างกระตือรือร้น ด้วยหวังจะสามารถบริการลูกค้าคนแรกของตัวเองได้เสียที เมื่อมีชายวัยกลางคนเดินมาด้อม ๆ มอง ๆ ดูเมนูหน้าร้าน จนเพื่อนร่วมงานสาวร่างเล็กเบ้หน้าด้วยความหมั่นไส้ในที  

แม้ว่าจะรู้สึกว่าคำทักทายนั้นเชยแสนเชย จนแอนดี้อดเขินอายไม่ได้ แต่เพื่อทำคะแนนในการเอาชนะใจของครีมแล้ว ไม่ว่าจะต้องเอ่ยคำพูดที่เชยกว่านี้อีกกี่เท่า เขาก็พร้อมและยินดี

ลูกค้าผู้นั้น เดินจากไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยท่าทางออกจะตกใจในทีกับอาการกระตือรือร้นเกินเหตุของพนักงานหนุ่ม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้แอนดี้ย่อท้อแต่อย่างใด

“ไม่ต้องยิ้มกว้างขนาดนั้นก็ได้ย่ะ เดี๋ยวลูกค้าได้คิดว่านายจะกินพวกเขาเอาพอดี” พายกระแนะกระแหน

“ก็คุณครีม... เอ่อ ผู้จัดการบอกเราต้องยิ้มด้วย เวลาทักทายลูกค้าไม่ใช่เหรอ...” แอนดี้หันไปเถียง รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับสาวร่างเล็กเท่าไหร่นัก เพราะเหมือนกำลังแก่งแย่งช่วงชิงความรักความสนใจจากผู้จัดการสาวอย่างไรอย่างนั้น

พายชักสีหน้า และบ่ายหน้าหนีด้วยอาการเซ็ง

“จะว่าไป เรายังไม่เคยเห็นเธอยิ้มเลยนะ ตลอดทั้งเช้าวันนี้...” แอนดี้เอ่ยอย่างนึกขึ้นได้ ราวตั้งใจจะหาเรื่องแกล้งเพื่อนร่วมงานเล่น ๆ เพราะเริ่มเบื่อกับการต้องยืนเงียบ ๆ ซึ่งออกจะขัดกับบุคลคิดของเขาเหลือเกิน

“มันเรื่องของฉัน” พายตอบโต้อย่างหัวเสีย

“ยิ้มหน่อยสิ... ยิ้มหน่อยเร็ว” ชายหนุ่มยั่วอย่างนึกสนุก

หญิงสาวส่ายหน้าอย่างเอือมระอา และทำท่าจะเดินไปทำอย่างอื่น แต่ท้ายที่สุดก็ทนการยั่วยุของเพื่อนร่วมงานคนใหม่ไม่ไหว เธอจึงหันกลับไปแยกเขี้ยวใส่เขา

ซึ่งทำให้แอนดี้สังเกตเห็นชัด ๆ เป็นครั้งแรกว่า พาย ดัดฟันทั้งปาก และพอจะเข้าใจได้ว่า นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เธอไม่ค่อยชอบยิ้มก็เป็นได้

ชายหนุ่มอมยิ้มกับท่าทีของเพื่อนร่วมงาน และก่อนที่จะเอ่ยแซวอะไรต่อไป ก็สังเกตเห็นสายตาของผู้จัดการสาวที่หันมาจับจ้องทางพวกเขา ราวสอดส่องว่าพนักงานของเธอกำลังอู้งานกันอยู่หรือไม่ ทำให้วงแตกในทันที และแอนดี้กับพาย ต่างแยกย้ายกันไปหาอะไรทำต่อไป





“เฮ้ย แอนดี้...” เสียงทักของเพื่อนรักที่ดังมาจากทางด้านหน้าร้าน ทำให้ชายหนุ่มรูปหล่อผิวขาวเนียนซึ่งกำลังยืนอ่านเมนูของร้านราวท่องจำ ละสายตาจากเอกสารที่กำลังดูอยู่และหันไปมองทางที่มาของเสียงอย่างรวดเร็ว

“กบ...” แอนดี้นิ่งไปครู่หนึ่ง ในขณะที่ดวงตาฉายแววอย่างมีเลศนัย “สวัสดีครับ พิซซ่า ปาร์ตี้ ยินดีให้บริการด้วยรอยยิ้มครับ”

หนุ่มภูเก็ตเอ่ยคำทักทายมาตรฐานของร้าน ในขณะที่เพื่อนรักคิ้วขมวดด้วยความงุนงง

“ไม่ทราบว่าคุณคฑาวุธ ทานอาหารเที่ยงมาแล้วหรือยังครับ” แอนดี้รีบเสริมด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ซึ่งเหมือนจะยิ่งทำให้คิ้วของเพื่อนรักขมวดเป็นปมมากขึ้นไปอีก

“นายเป็นอะไรของนายวะ เราแค่แวะมาทักทายและมาดูว่านายเป็นไงบ้างเท่านั้นเอง” กบถามด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าการกระซิบเพียงเล็กน้อย

“เออ ดีแล้ว...” แอนดี้กระซิบตอบ “นายต้องสั่งอาหารเยอะ ๆ เลยนะเว้ย จะได้ช่วยเราทำยอดขาย และสร้างความประทับใจให้คุณครีมไง” หนุ่มภูเก็ตหัวกลับไปมองทางผู้จัดการสาวที่กำลังคุยธุระทางโทรศัพท์อยู่

แล้วก็อดยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่กับตัวเองไม่ได้

“ไม่ดีมั้ง...” กบรีบตอบโดยไม่ลังเล “เราไม่ค่อยชอบพิซซ่าเท่าไหร่ นายก็รู้”

“ไม่ชอบก็เอากลับไปฝากลูกน้องที่ออฟฟิตสิ” ผู้สวมชุดยูนิฟอร์มสีส้มเสนอ

“เอาน่า นะ... ถือว่าช่วยเราหน่อย สั่งไปสักสอง สามชุดก็ยังดี” แอนดี้เอ่ยต่อ เมื่อเพื่อนรักรูปร่างสูงใหญ่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “นี่ไง เอาเมนูไปดูก่อนก็ได้...”

“โอเค ๆ” กบรับคำในที่สุด ก่อนที่จะรับเมนูมาถือไว้ในมืออย่างจำใจ และกวาดสายตาดูรายการอาหารที่ไม่ค่อยคุ้นเคยสักเท่าไหร่ “นายติดเราหนึ่งแล้วนะเว้ย...”

“ติดมากกว่าหนึ่งก็ได้ ไว้เดี๋ยววันหลังจะชดใช้ให้แน่นอน เพื่อนรัก” แอนดี้เอ่ยอย่างดีใจ เมื่อสามารถโน้มน้าวให้เพื่อนกลายเป็นลูกค้าคนแรกของเขาได้สำเร็จ

หนุ่มภูเก็ตยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างภาคภูมิใจกับความสำเร็จของตัวเอง และหันไปยักคิ้วให้กับเพื่อนร่วมงานสาวอย่างคึกคะนอง แต่พายก็ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายไปกับเขา และเพียงแต่ชักสีหน้า ส่งสายตาเขม่น และแลบลิ้นใส่เขาอย่างหมั่นไส้

จากคุณ : Charkrienorrathip
เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 16:00:41




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com