โอกาส
|
|
โอกาส
โลหะสี่ล้อสีดำเงาค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากโชว์รูมอย่างเก้ๆ กังๆ โดยมีผมเป็นผู้ขับเคลื่อน ที่เบาะนั่งด้านซ้ายมีเพื่อนสนิทซึ่งคบกันมานานนั่งอยู่ พ่อของผมและพี่ที่ทำงานอีกคนหนึ่งนั่งอยู่เบาะหลัง
ค่อยๆ ไป ใจเย็นๆ เสียงพี่ที่ทำงานปลอบคลายใจลง
ระวังรถทางขวานะ ค่อยๆ ออก เสียงพ่อเตือน
ปั๊มน้ำมันอยู่ตรงหน้า เปิดไฟเลี้ยวด้วย เสียงเพื่อน
ทั้งหมดต่างช่วยระแวดระวังรอบด้านไปตลอดทาง ไม่ต่างอะไรกับผมที่ประสบการณ์การหัดขับรถเก้าชั่วโมงก่อนทำใบขับขี่และก่อนตัดสินใจซื้อรถไม่อาจทำให้ผมใจเย็นลงได้อย่างที่หวัง
เดี๋ยวจะเก็บเงินซื้อรถ แล้วจะพาไปเที่ยวนะ เสียงผมดังข้ามกาลเวลามาจากที่ไกลแสนไกล นั่นเป็นคำสัญญาที่ผมเคยให้ไว้กับหญิงที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต
เออ ดีๆ เสียงท่านตอบกลับ พร้อมรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า
ภาพของท่านผุดขึ้นมาในห้วงความคิด หญิงชราเชื้อสายจีนผู้มีใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความอารี ผมสีดอกเลาบ่งบอกอายุของท่านได้เป็นอย่างดี
พี่ พี่ไม่ซื้อรถซักคันเหรอ ใครๆ เค้าก็มีกันหมดแล้ว
ทำไมไม่ซื้อรถซักคันล่ะ สะดวกดีนะ
เสียงจากหลายๆ คนที่เคยพูดกับผมก่อนหน้านั้นเมื่อนานมากแล้ว
ไม่เอา ไม่ชอบรถ ไม่ชอบความเร็ว รถน่ะ จะเป็นอย่างสุดท้ายที่จะซื้อ
ผมตอบกลับไปอย่างที่ใจคิด
หลังจากปรับตัวอยู่พักหนึ่งทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่ ผมและผู้โดยสารมาถึงวัดๆ หนึ่ง เพื่อให้หลวงพ่อเจิมรถให้เพื่อเป็นสิริมงคลและเพื่อขวัญกำลังใจ
เฮ้ย เดี๋ยวพาพ่อเอ็งไปไหนดีกว่า ไปหาอะไรกินกันด้วย มันเป็นเรื่องของความประทับใจนะเว้ย เพื่อผมเสนอความคิด
ไว้ซื้อรถเมื่อไหร่แล้วพาอาอี้ไปเที่ยวบ้านเอ็งหน่อยนะ อี้อยากไปหาแม่เอ็ง
เสียงบรรดาญาติๆ ดังขึ้นในห้วงความคิด ก่อนที่ผมจะตัดสินใจ
ไปแม่กลองละกัน พาป๊าไปหาพี่สาวเค้า
ด้วยเส้นทางส่วนใหญ่เป็นเส้นตรง บวกกับถนนที่ค่อนข้างจะกว้างมากทำให้ผมพาเจ้าสีล้อไปได้ง่ายกว่าที่คิด เพียงไม่นานเราก็ถึงจุดหมาย
นี่ นี่เค้าจะถอยรถแล้วนะ เสียงพี่ที่ทำงาน
เออ ดีแล้ว เราโตขึ้นเราก็ต้องทำอะไรให้มันดีขึ้น เสียงพี่อีกคน
อ้าว ไหนว่าจะยังไงก็จะไม่ซื้อไง เสียงน้องอีกคนพูด
พี่ก็ยังคิดเหมือนเดิมนั่นล่ะว่าไม่ชอบความเร็ว แต่ตอนนี้ถ้าซื้อได้พี่ก็จะซื้อ ผมตอบน้องคนนั้น
จริงอยู่ที่เรานั่งรถเมล์ทุกวันได้ จริงอยู่ที่ถ้ารอให้พร้อมกว่านี้เราก็จะซื้อได้สบายขึ้น แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าวันนั้นเราซื้อรถมาได้แต่คนที่เรารักไปไหนกับเราไม่ได้แล้ว และตอนนี้พี่ก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ไม่ได้แล้ว
พี่อยากพาพ่อไปเที่ยว เราเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วที่จะดูแลเค้า สิ่งที่เราทำได้เราก็ต้องทำ ความรู้สึกอันบอกไม่ถูกนั้นหลั่งล้นออกมา
ในเมื่อตอนนี้เรามีโอกาสที่พอจะทำได้แล้วเราก็ต้องทำ ถึงลำบากขึ้นก็ต้องทำ ถ้าวันนี้เรามีโอกาสที่พอจะทำได้แล้วเราไม่ได้ทำก็อย่าพูดเลยว่าถ้ารู้อย่างนี้จะทำตั้งแต่วันนั้น
สายน้ำไม่เคยไหลกลับ เวลาไม่เคยเดินถอยหลัง สิ่งที่เสียไปแล้วก็ไม่อาจหวนกลับคืนได้เช่นกัน ผมเคยได้ลิ้มรสความปวดร้าวของคำกล่าวนี้มาแล้ว
ถึงแม้จะไม่ได้มีเวลามากมายอะไร แต่เสียงพูดคุยกันไม่กี่ประโยคของพ่อกับญาติพี่น้องนั้นแสดงออกได้เป็นอย่างดีถึงความดีใจ
ว่างๆ ก็ขับรถพาพ่อเอ็งมาเที่ยวอีกนะ เสียงญาติๆ กล่าวส่งท้าย
เราแวะซื้อของฝากกันที่ตลาดน้ำอัมพวา สถานที่ที่พ่อเคยวิ่งเล่นเที่ยวเล่นตั้งแต่เมื่อครั้งที่ท่านยังเยาว์วัย ตั้งแต่ที่นี่ยังไม่ใช่ตลาดน้ำอัมพวาอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ท่านแวะดูแวะซื้อของและพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าตลอดทางด้วยรอยยิ้ม
ถึงแม้จะไม่ได้พูดแม้แต่คำเดียว แต่ผมรู้ดีกว่าพ่อเองก็ดีใจและภูมิใจผมอยู่ไม่น้อย พ่อที่เมื่อก่อนเป็นผู้ขับรถพาผมไปยังที่ต่างๆ แต่ตอนนี้จะเป็นคราวของผมบ้างที่จะได้ทำหน้าที่นั้น
มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ว่าเงินมากขนาดไหนก็ชื้อไม่ได้ และไม่ว่าอะไรก็ทดแทนไม่ได้
ถึงแม้วันนี้จะเป็นเพียงการเดินทางสั้นๆ แต่ยาวไกลและแสนจะเหนื่อยสำหรับมือใหม่อย่างผม แต่ผมก็รู้สึกว่านี่ล่ะคือสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว
จากคุณ |
:
KTHc
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ส.ค. 53 22:10:33
|
|
|
|