พลร่มปาดังเบซาร์
|
|
ขอเขียนจากความทรงจำ ผมมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนทุ่งลุงวิทยาโดยอาศัยกับพี่สาวและพี่เขยซึ่งเปิดร้านขายของชำในตลาดทุ่งลุง พอโรงเรียนเลิกทุกวันรถไฟเที่ยวสุดท้ายหาดใหญ่-ปาดัง ผมแบกข้าวสาร 25 โล ตามกำลังของเด็ก ม.ศ.1 ที่จะแบกไปได้ ไปขายที่ตลาดแขกมาเลเซีย ได้กำไรวันละ 25 บาท ค่าใช้จ่ายไม่มีเพราะค่ารถไฟฟรี วิ่งบนหลังคา การ์ดมา (คนคีบตั๋ว) ขึ้นหลังคาครับ สะพานเหล็กที่ไหนจำได้หมดเพราะนั่งบนหลังคาเมื่อถึงสะพานก็นอนราบ
สะพานกับจมูกห่างกันไม่เกินคืบ
บางครั้งโดนตำรวจหรือด่าน(ศุลกากร)จับที่คลองแงะถ้าโดนจับวันนั้นก็จบกำไรและทุนก็ไม่เหลือต้องทำอีกสองสามวันไปหักค่าข้าวสารบ้านพี่สาว
เรื่องพลร่มกับกองทัพมดมีเรื่องเล่ามากมาย ผมเป็นเด็กแต่จำเรื่องของผู้ใหญ่ตอนนั้นได้ การกระโดดรถไฟ การทำให้รถไฟหยุด การตัดทิ้งตู้ ฯลฯ
ขณะนั้นน้ำมันก๊าดแพง ผมเป็นเด็กแบกน้ำมันก๊าด 1 ปี๊บ ขึ้นรถไฟจากปาดังไปทุ่งลุง แต่ด่านจับที่สถานีสองเมื่อออกจากปาดังผมแบกน้ำมันกระโดดลงจากรถไฟและขึ้นรถไฟไม่ทันรถไฟขบวนนั้นเป็นขบวนสุดท้ายผมแบกน้ำมันก๊าดเดินมาตามทางรถไฟมาหมดแรงที่หน้าวัด(สำนักสงฆ์)บ้านท่าข่อยก่อนถึงสถานีท่าข่อย คืนนั้นได้นอนคนพิการที่อยู่ในวัดหุงข้าวให้กิน กินเสร็จแกนำเราซึ่งแกเห็นเป็นเด็กสวดมนต์ด้วยเราก็สวด รุ่งเช้าเกือบเที่ยงรถ ปาดัง-หาดใหญ่มาจอดสถานีท่าข่อยได้ขึ้นรถ วันนั้นขาดโรงเรียน 1 วัน
ยังจำชื่อ จ่าเหวก ตำรวจผู้พิชิตพลร่มโหด เหี้ยม พลร่มกลัวกันทุกคน
เขียนจากความทรงจำวัยเด็กที่เลิกเรียนถอดเสื้อใส่กางเกงนักเรียนแบกข้าวสารขึ้นรถไฟและชีวิตผมโดนลิขิตด้วยเสี้ยววินาทีของเวลาวิ่งของรถไฟ ถ้าสนใจผมจะเล่าต่อไป ขอบคุณครับ
จากคุณ |
:
ลมหัวด้วน
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ส.ค. 53 00:50:56
|
|
|
|