เพิ่งรู้ว่าเรามีความสุขน้อยกว่า
หมาหน้านิคมฯ
|
|
เมื่อวานราวๆ ชั่วโมงหนึ่งก่อนเลิกงานตั้ง To do list ในโทรศัพท์ให้มันขึ้นเตือนว่าอิฉันต้องไปกดเอทีเอ็ม ไปซื้อของตามรายการ ที่นั่นที่นี่ เพียงเพราะเราไม่สามารถบันทึกเรื่องพวกนี้เอาไว้ในหัวสมองของเราได้ ว่านี่นะ ในชีวิตเอ็ง เอ็งต้องอาบน้ำ (ไปซื้อครีมอาบน้ำ มันหมด) เอ็งต้องไปซื้อยาสีฟัน (มันหมดอีก) เอ็งต้องไปซื้อผ้าอนามัย มันหมด ไม่งั้นพอพี่แดงแกมา จะหาไส้กรองมารองไม่ทันนะเว้ย
ล่าสุดเพิ่งลางานครึ่งวันเอารถไปซ่อมบำรุงมาหลังจากผ่านไปหมื่นสามพันกิโลแล้วยังไม่ได้ทำแม้แต่จะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ปกติต้องทำทุก 5000 กิโลเมตร
มาจากความที่การจัดระเบียบหัวสมองมันยุ่งเหยิงเกินกว่าจะจำเรื่องทั้งหมดได้ บางครั้งก็ลืมกินยาแก้แพ้อากาศที่ปกติต้องกินวันละเม็ดก่อนนอน มันก็จะฟ้องในเย็นวันถัดมาว่าแกลืมกินโดยการมีผื่นขึ้นคับยุ่บยั่บตามผิวหนัง ตาแห้ง หน้าแดง นั่นแหละ อาการของการลืมกินยา
สรุปคือจะเล่าว่าชีวิตมันช่างรันทด จากที่เคยใช้เวลาวันอาทิตย์ หรือเสาร์สักสองสามชั่วโมง จนถึงทั้งวัน (เฮือก!!!) ในการไปเดินเล่น ซื้อของใช้สอยประจำวันในห้าง เดินดูของลดราคา หาหนังดูเล่น ซื้อหนังสือมาอ่านเล่น โน่น นี่ นั่น กลายเป็นไม่มีวันหยุด ต้องซื้อของในร้านสะดวกซื้อใช้ไปวันๆ ลืมจ่ายค่าโทรศัพท์ รอให้เขาโทรมาบอกว่า เฮ้ย... จะตัดแล้วนะ ไปจ่ายพรุ่งนี้ ล่าสุดลืมจ่ายค่าบัตรเครดิตที่อุตส่าห์ย้ายค่าใช้จ่ายรายเดือนหลายสิ่งหลายอย่างมายัดไว้ในการตัดบัตรทีเดียว สาธุ ต้องให้เขาโทรมาเตือนอีก
พอถึงตอนเย็นวาน โทรศัพท์ร้องหงุงหงิงเตือนให้ดูโน้ตที่ตั้งไว้ ก็รู้ตัวว่า เออ... ตู้เอทีเอ็มหน้านิคม และร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงที่อยู่ตรงพื้นที่เดียวกัน ได้ปะกันแน่
หลังจากกดสตางค์ ซื้อของร้านสะดวกซื้อเสร็จ ฉันก็เดินเอ๋อมาไขรถเปิดเข้าไปนั่งปิดประตูปึง สตาร์ทรถ แล้วฉันก็ยิ้มออกมาเมื่อสายตาปะไปเจอสิ่งมีชีวิตสี่ขาตัวหนึ่งเข้า
มันเป็นหมาสี่ขาหน้าดำตัวแดง เขาเรียกกันว่าหมาแดงใช่ไหม หมาไทยขนเกรียนสีประมาณส้มๆ ท่าทางเหมือนหมาคึก แววตาดู Alert มาก (ถึงขั้นสังเกตแววตาหมาแล้วกรู) ซึ่งฉันจำหน้าหมาตัวนี้ได้ เราเคยเจอกันมาแล้วประมาณครั้งหรือสองครั้ง ตรงนี้แหละ ตรงพลาซ่าหน้านิคม (พลาซ่าที่มีแต่ที่จอดรถ ร้านเจ็ดสิบเอ็ด และตู้เอทีเอ็ม) ถึงแม้เราจะไม่เคยทักทายหยอกล้อ จับมือ ตั้งวงกินเหล้า หรือพูดคุยกัน แต่ฉันก็จำมันได้
ฉันรู้เลยในตอนที่สตาร์ทรถดังชึ่งว่ามันจะทำอะไร...
มันเตรียมพร้อมออกวิ่งค่ะ ไอ้เจ้าหมาหน้าดำตัวนี้เนี่ย มันชอบวิ่งแข่งกับรถยนต์ที่กำลังจะสตาร์ทออกจากที่จอดรถตรงนี้ ออกไปตามถนนระยะไม่ไกลนัก ราวสามร้อยเมตรไปยังจุดกลับรถ เพื่อกลับรถมุ่งตรงออกไปยังถนนใหญ่ ยังจำได้ ครั้งก่อนมันก็มาวิ่งคึกไปมาแถวนี้ รอดูว่ารถคันไหนกำลังจะออกตัว แล้วมันก็จะวิ่งตีคู่ออกไปสุดตีนหมา ครั้งก่อน มันก็ได้วิ่งแข่งกับเสือดำที่ฉันควบคุมพวงมาลัยอยู่เหมือนกัน
พื้นที่บนผืนหญ้าสีเขียวของถนนที่ค่อนข้างกว้างทำให้เจ้าหมาแดงหน้าดำไม่ถูกกระทำอันตรายใดๆ โดยรถยนต์ที่ออกตัว มันจะรอจังหวะ เห็นรถคันไหนสตาร์ท มันจะซอยเท้ารอ (เอ่อ... หมาซอยเท้า หมายถึงหมาทำท่าเตรียมพร้อม) แล้ววิ่งไปบนพรมหญ้าสีเขียวขจีโดยหันมามองรถยนต์ที่มันวิ่งแข่งอยู่เป็นพักๆ สลับกับควบแข่งไปด้วย แล้วมันก็จะมาหยุดกึก... ตรงตำแหน่งที่รถกำลังจะกลับย้อนไปทางเดิมในเลนสวนกัน
เมื่อวานนี้ฉันรู้สึกอยากแข่งกับมันจริงๆ บ้าง แทนที่จะค่อยๆ ออกตัวไปเพิ่มความเร็วทีละน้อย กลายเป็นตั้งใจออกตัวแรงตั้งแต่เริ่มเหยียบคันเร่ง ลุ้นรอดูว่าเจ้าหมานี่จะทำยังไง
มันก็ควบสุดแรงของมันเหมือนกันแฮะ หน้าตั้งหูตูบเลยทีเดียว หันมาเหลือบมองรถฉันเป็นพักๆ ในจังหวะที่วิ่งสุดตีนหมา ประมาณว่ากำลังเทียบปลายจมูกของมันกับกระจังหน้ารถของฉันว่าใครนำอยู่
ฉันได้เอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปเจ้าหมาแดงหน้าดำตัวนี้เอาไว้ตอนที่รอกลับรถ มันกำลังหยุดยืนมองรถอยู่ห่างๆ ส่วนฉันหันไปมาสลับกันระหว่างด้านหน้าที่กำลังจะมุ่งออกไป กับหันไปมองมันว่ามันจะไปไหนต่อหรือเปล่า มันก็ยังไม่ไปไหน ยืนมองกันอยู่อย่างนั้น ส่วนฉัน ก็ยังไม่ยอมออกรถไปทั้งที่ช่วงว่างของสายรถที่วิ่งออกมาจากด้านในนิคมขาดช่วงไปบ้างแล้วก็ตามที จนเมื่อมีรถคันหนึ่งมาต่อแถวรอฉันเลี้ยวแล้วนั่นแหละ ฉันจึงต้องละสายตาจากเจ้าสี่ขามาเพื่อทำสิ่งที่มนุษย์ควรทำ
จากคุณ |
:
BestChild
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ส.ค. 53 20:12:24
|
|
|
|