ความคิดเห็นที่ 1 ...............ถ้วยใบเก่าของแม่................ ครั้งหนึ่ง....มีบ้านหลังหนึ่งมีสามี ภรรยา ลูกชาย และอาม่าแก่ๆคนหนึ่ง อาม่าแก่มากและไม่แข็งแรง มีอาการมือสั่นตลอดเวลา ทำให้ถือของลำบาก โดยเฉพาะเวลาทานข้าวร่วมกับครอบครัว อาม่าจะถือชามข้าวได้ลำบากและทำข้าวหกลงบนโต๊ะตลอดเวลา ลูกสะใภ้อาม่าก็รู้สึกหงุดหงิดและรำรคาญกับเรื่องนี้มาก จึงปรึกษากับสามี นางทนไม่ได้ที่เห็นอาม่าทานข้าวหกเลอะเทอะเกลื่อนโต๊ะ มันทำให้นางกินข้าวไม่ลง สามีก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเขาไม่สามารถ หาวิธีให้มืออาม่าหายสั่นได้ จากนั้น ไม่กี่วันลูกสะใภ้ก็พูดกับสามีเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกว่า จะไม่แก้ไขอะไรเลยหรือ นางทนไม่ได้แล้ว หลังจากโต้เถียงกันไปสักพัก สามีก็ยอมแก้ไขตามคำแนะนำของภรรยาคือ เมื่อถึงเวลาทานข้าว เขาก็จัดโต๊ะให้แม่นั่งแยกต่างหาก ตามลำพังคนเดียว โดยใช้ถ้วยข้าวราคาถูกๆ บิ่นๆ เพราะอาม่าชอบทำถ้วยแตกบ่อยๆ เมื่อถึงเวลาทานข้าว อาม่าเศร้าใจมากเพราะอาม่าก็ไม่มีปัญญาจะแก้ไขอะไรได้  นางนึกถึงอดีตที่นางเคยเลี้ยงดูลูกชายด้วยความรักเสมอมา นางไม่เคยปริปากบ่น หรือย่อท้อต่อความเหนื่อยยาก เวลาลูกชายเจ็บไข้ นางก็ดูแลเขาเป็นอย่างดี เวลาที่เขามีปัญหา นางก็ช่วยแก้ไขทุกครั้งๆ สภาพร่างกายของนางที่ทรุดโทรมเป็นที่รำคาญของลูกสะใภ้ในวันนี้ ก็คือผลจากการอดทนตรากตรำทำงานหนักเป็นเวลายาวนานในวันก่อนๆ เพื่อให้ลูกชาย..หรือสามีของลูกสะใภ้ในวันนี้ได้เล่าเรียน..มีความรู้ มีอาชีพที่ทำให้ลูกเมียอยู่สุขสบาย แต่ตอนนี้อาม่าเสียใจมาก..รู้สึกว่า ตัวเองไร้ค่า..ถูกทอดทิ้ง หลายวันผ่านไป อาม่ายังคงเศร้าสร้อย รอยยิ้มเริ่มจางหายจากใบหน้า หลานชายตัวน้อยของอาม่าซึ่งเฝ้่าจับตาทุกอย่างมาโดยตลอด ก็เข้าไปปลอบใจและบอกคุณย่าว่า เขารู้ว่า..คุณย่าเสียใจมากแค่ไหนที่ถูกพ่อแม่ของเขาปฏิบัติต่อท่านเช่นนี้ และเขาก็บอกท่านว่าเขามีวิธีที่จะทำให้อาม่าได้กลับไปทานข้าวร่วมกับ ทุกคนได้เหมือนเดิม ความหวังเริ่มเบ่งบานขึ้นในหัวใจของหญิงชรา นางถามหลานชายว่าจะต้องทำอย่างไร เด็กน้อยได้แต่ตอบเพียงว่า เย็นนี้ขอให้คุณย่าแกล้งทำชามข้าว ของคุณย่า ให้มันตกแตก เหมือนกับไม่ได้ตั้งใจนะครับ ..อาม่าได้ฟังก็แสนจะแปลกใจ แต่หลานชาย ตัวน้อยก็ยังยืนกรานให้คุณย่าทำตามที่เขาบอก ที่เหลือเป็นหน้าที่เขาเอง และแล้ว..เมื่อได้เวลาอาหารเย็น หญิงชราก็ตัดสินใจลองทำตามที่หลานพูด เพื่อจะดูว่า หลานชายมีแผนการอะไร นางจึงยกถ้วยข้าวใบเก่าที่เต็มไปด้วยรอยบิ่นขึ้น แล้วแกล้งปล่อยลงพื้น เหมือนกับทำหลุดมือ ถ้วยข้าวเก่าใบนั้นหล่นแตกกระจายไม่มีชิ้นดี ลูกสะใภ้เห็นดังนั้น  ก็ลุกขึ้น เตรียมจะด่าว่าอาม่าทันที แต่แล้ว..ลูกชายตัวน้อยของเธอ กลับรีบชิงพูดขึ้นก่อนว่า  ว๊า..คุณย่า ทำไมทำชามแตกซะเละหมดละครับ นี่ผมอุตส่าห์ตั้งใจไว้ว่า..จะเก็บชาม ใบนี้ไว้ให้คุณแม่ผมใช้ต่อ แล้วนี่ผมจะเอาชามเก่าที่ไหนมาให้คุณแม่ผมใช้ ตอนแกแก่เท่าคุณย่าละครับ??? นางลูกสะใภ้ได้ยินลูกชายพูดเช่นนี้ถึงกับอึ้งงงงง..หน้าซีด ด่าไม่ออกอีกต่อไป นางรู้สึกได้ทันทีว่า...ทุกสิ่งที่นางทำลงไปในวันนี้ย่อมเป็นตัวอย่าง ให้ลูกชายของนางปฏิบัติต่อนางในวันหน้าเมื่อนางแก่ตัวลงเช่นกัน นางรู้สึกอับอายและสำนึกผิดต่อการกระทำของตัวเอง ตั้งแต่นั้นมาทุกคนในบ้านก็นั่งทานข้าวร่วมกันตลอดมา จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 09:41:24

ความคิดเห็นที่ 2 ผมไม่ให้กิ๊ฟท่านครับ ลุงชิกง  แต่เรื่องของท่านซึ้งใจผมมาก  สุดยอดครับท่าน จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 22:27:30

ความคิดเห็นที่ 3 ยางแก่ตาฟาง  แม่กรีดยางรับจ้าง    แม่ทนทำ   มือซ้ายลอกหน้า   มือขวาคลำ แม่ทนทำส่งลูกเล่าเรียน ขอขยายความ แม่อายุมากตาก็มองไม่ค่อยเห็น  กรีดยางแก่  ยางแก่หมายถึงยางที่อายุหลายปีแล้ว คนที่กรีดอาชีพเขาจะไม่กรีดยางแก่เพราะเสียเวลาหน้ายางไม่เรียบ "จะงอย"มีดหัก ต้องหามีดกรีดเล่มใหม่  แม่กรีดยางรับจ้างคือสวนตัวเองไม่มีกรีดแบ่งกับเจ้าของสวน แบ่ง 50 /50 "มือซ้ายลอกหน้า"   หมายถึง  มือซ้ายลอกหน้ายางเอาขี้ยาง "มือขวาคลำ"   คลำเพื่อวางมีดกรีดยาง อธิบายให้ท่านที่ไม่เข้าใจเรื่องกรีดยางได้เข้าใจ  แต่ผมไม่มีสักต้นเลยครับ ผมไม่ชอบการทำสวนทำนา เพราะผมเหนื่อยกับเรื่องนี้มาแต่เล็ก ผมไม่เอา จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 22:42:09

ความคิดเห็นที่ 4 อธิบายความ "โหละยาง"   หมายถึง   การตื่นขึ้นกรีดยางตอนกลางคืน  ใช้ตะเกียงแก๊สผูกที่ศีรษะ  คำว่า"โหละ"หมายถึง การเอาไฟส่อง แต่แม่ผมไม่มีตะเกียงแก๊ส  แม่ใช้ "เกียงคางคก"   หมายถึง   ตะเกียงที่ทำมาจากกระป๋องนมข้นหวาน ราคาอันละ 5 บาท   ใช้ด้าย หรือผ้าขี้ริ้วเป็นไส้ตะเกียง ใช้น้ำมันก๊าด  ผมอ่านหนังสือทำการบ้านสมัยก่อนก็ใช้ตะเกียงนี้    พอทำการบ้านเสร็จแล้วแคะจมูก นิ้วที่แคะออกมาดูนิ้วเป็นสีดำ เกิดจากควันตะเกียงน้ำมันก๊าด เต็มสองรูจมูก ครับ จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 12:24:41