ผมขอเขียนเรื่องยาว "ชีวิตชาวเกษตรโรงเรียนเกษตรกรรมนครราชสีมา"ซึ่งโหดยิ่งกว่าโหด
|
|
ตอนแรกผมขอนำบทกลอนซึ่งผมส่งถึงศิษย์เก่าตอนมาสังสรรค์ที่น้ำตกโตนงาช้าง
ปี 53 ผมในฐานะประธานจัดงานส่งไปยังศิษย์เก่าทั่วประเทศ เน้นเฉพาะภาคใต้ มา
กันเพียบ นี่แค่บทปฐมครับ "ชีวิตชาวเกษตร"
สองสามปีที่อยู่สู้ชีวิต สร้างความคิดสร้างจิตใจให้แข็งขัน หอชายล้วนฝึกทำนองต้องรู้ทัน หากเพื่อนมันกัดมาข้าขบไป
ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นเป็นที่นี่ ทั้งบุหรี่เหล้ากัญชาข้ารับได้ จุดหนึ่งมวนแปะต่อหลังกันเร็วไว คนสุดท้ายหัวแหลมจุ๊บผลุบลงคอ
หากคืนไหนมีงานอยู่ใกล้ๆ กางเกงใครถอดวางไว้รีบใส่ต่อ อันเจ้าของต้องอดไปได้แต่รอ ต้องเฝ้าหอด่าแม่ผีนี่เรื่องจริง
ถ้าในงานฉายหนังกำลังภายใน ความมันส์แล่นแน่นหัวใจเหมือนผีสิง พอหนังจบเที่ยวเดินหาพวกซ่าซิง แล้วรีบวิ่งเข้าสั่งสอนผ่อนความมันส์
ตอนปีหนึ่งเรารุ่นน้องยังไม่รู้ พวกรุ่นพี่เขาต่อสู้กับบ้านหัน ข่าวลือบุกเข้าเผาหอก็หนีกัน แล้วคืนนั้นนอนในป่าสบายใจ
ชาวเกษตรนี่หนาช่างอาภัพ นักเรียนหญิงติดอันดับนับหัวได้ สวยไม่สวยก็ไม่เหลือเผื่อให้ใคร หากปากไวและใจถึงจึงลงเอย
พวกที่เหลือในโรงเรียนจองหมดแล้ว ก็ต้องแกร่วหาชาวบ้านฉานไม่เฉย เก็บละหุ่งช่วยเกี่ยวข้าวเฝ้าคุ้นเคย ก็ลงเอยคนใต้นั้นมันร่ำรวย
อยู่หนองหอยสงขลานี้มีสวนยาง เท่าที่เห็นมีแต่ฟางกับป่ากล้วย ยางร้อยไร่แถมเหมืองแร่พ่อแม่รวย สาวเลยซวยเพราะซื่อตรงหลงคารม
อันชีวิตในช่วงนี้มีแต่สุข ทั้สนุกและโศกเศร้าเคล้าด้วยขม แต่หัวใจรักพวกพ้องต้องขอชม กอดคอกันท้าถล่มเคยทำมา
ชายใดไม่เป็นสังคังบ่แม่นชาย เราคงจำกันได้เป็นแน่นหนา ใครใส่เสื้อแขนยาวมิดใช่เท่นา รู้กันว่าเขาได้สิทธิ์เป็นหิดเอย.
วันนี้เป็นบทกลอนตอนที่1 หลังจากนี้จะบรรยาย ชีวิตอันเข้มข้นของชาวเกษตรสมัยนั้นโปรดติดตาม.
แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 53 23:48:29
จากคุณ |
:
ลมหัวด้วน
|
เขียนเมื่อ |
:
วันแม่แห่งชาติ 53 23:22:23
|
|
|
|