๐๐ ... กมโลภิกขุ..ชายหนุ่มผู้บวชเป็นพระ ... ๐๐ (บทที่ 10){แตกประเด็นจาก W9538960}
|
|
.
บทที่ 10
วันรุ่งขึ้นผมไม่ได้ออกบิณฑบาตตามมติเอกฉันท์ของหลวงตาใบ หลวงพี่อาจ หลวงพี่เขียดและนายดำ
ความจริงหลวงพี่อาจฉันรวมกับพระอีกสายหนึ่ง แต่เนื่องจากมาอยู่เป็นเพื่อนพระตาขาวจึงย้ายมาฉันที่ศาลายาวแต่ยังออกบิณฑบาตสายเดิม..สับสนดีแท้เพราะผม
มีนึงมาอยู่ด้วย ประกอบกับเริ่มชินเรื่องผี เรื่องเหลวไหลที่คิดไปเอง ผมออกปากให้หลวงพี่อาจกลับไปจำวัดที่โบสถ์เก่าอย่างเคยจะได้ไม่วุ่นวาย แต่หลวงพี่ไม่ไปด้วยเหตุผลที่จะคอยช่วยดูแลนึงซึ่งก็สมควร ผมเพียงลำพังคงทำได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง
พระผัวเมีย.. เสียงอุบอิบเบาๆ ดังมาจากพระนัทที่หย่อนกายลงนั่งร่วมวงฉันเช้า
แรกเมื่อได้ยินผมไม่ทันคิดอะไร มัวพะวงกับนึงที่หลับอยู่ในห้อง แต่เมื่อหันกลับเข้าวง ได้เห็นทั้งพระนัทและหลวงพี่อาจมองมาจึงฉุกคิด จะสะดุ้งในใจก็สายเกินไปแล้ว
มีลูกอีกต่างหาก หลวงพี่อาจยิ้มเครียดๆ ชอบกล จ้องกลับพระรูปหล่อที่หลบตาก้มหน้ากับวงอาหาร
เขาพูดไม่ดี ไม่มีใครเป็นอย่างนั้นสักหน่อย หลวงพี่โต้ตอบไปทำไม ผมเอ่ยขึ้นหลังจากฉันเช้าเสร็จ..เรานั่งอยู่บนแท่นยาวหน้าห้อง
ก็เพราะอย่างนั้นผมจึงเสริมเรื่องลูก เขาจะได้ไม่มีหัวข้อต่อความ มองผ่านประตูที่เปิดกว้างเห็นนึงนอนอยู่ชัดเจน
พรุ่งนี้ผมจะออกบิณฑบาตตามปกติ ผมตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
ได้ไง? ไม่นึกว่าหลวงพี่จะห่วงนึงมากเหมือนผม..คิ้วขมวดชนกัน
เช้านี้สังเกตดูพอกินนมเสร็จนึงก็หลับยาว.. ผมถ่างหัวคิ้วตัวเองออก..มันไม่ใด้ติดกันสักหน่อย
เออ!.. ยิ้มได้
จะได้หายหงุดหงิดที่ผมเอาเปรียบไม่ออกบิณฯ แต่ร่วมวงฉันอาหาร.. ผมตัดสินใจพูดอีกครั้ง ส่วนหลวงพี่..
ผมจะฉันเช้ากับสายของผม ทำวัตรเช้าเสร็จจึงมาช่วยดูเด็กนึง..แต่.. กำมือเหลือแค่นิ้วชี้กำชับตรงหน้า ยังจำวัดอยู่ที่ห้องพระมหาชัยจนกว่าหลวงตาจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
เอ่อ..
ไม่ต้องพูดอีกเลย! เสียงจริงจังเหมือนรู้ว่าผมจะบอกให้กลับไปจำวัดที่โบสถ์อย่างเดิม
ผมว่าเรื่องไม่จบง่ายๆ.. จะพูดขึ้นดีไหม?
พระนัทน่ะหรือ ไม่เท่าไหร่ร๊อก..ทำหล่อไปอย่างนั้นเอง ผมขึงขังหน่อยก็หงอแล้ว
ผมว่าท่านแปลกๆ นะ ตั้งแต่วันแรกที่ผมอาบน้ำ.. ไม่เอา ไม่พูดดีกว่า
ก็แค่นั้น พระนัทไม่เคยรุ่มร่ามอะไรเกินกว่าที่เห็น
ลืมไปว่านึงไม่ใช่พระ ต้องกินอาหารครบสามมื้อ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำเพราะเป็นเด็ก และไม่ใช่แค่นม ข้าวและอาหารอ่อนเขาก็กินได้แล้ว และสมควรได้รับ
อาหารที่บิณฑบาตได้ส่วนมากเป็นอาหารของผู้ใหญ่ ที่นึงพอจะกินได้คือข้าว แกงจืด ไข่เจียว ไข่ต้ม ซึ่งทั้งสามอย่างนี้เห็นไม่บ่อยนัก จึงตกเป็นหน้าทีของผมและเด็กดำ..ความจริงแค่นี้ผมทำคนเดียวได้ แต่คงไม่เหมาะที่พระจะหุงหาอาหารเป็นเรื่องเป็นราว
จะตุนอาหารไว้ในห้องก็อย่างไรอยู่..ทั้งข้าว นม ไข่ และบางทีแกงจืดที่เหลือจากฉันเพล ผมจึงรวมทุกอย่างใส่ตะกร้าใหญ่วางไว้บนแท่นหน้าห้องข้างๆ ประตู..เขียนใส่แผ่นกระดาษว่า ของเด็กนึง วางบนตะกร้า
เช่นเดียวกับเมื่อวาน..ผมยังรู้สึกถึงสายตาและกระแสจิตที่ส่งมารบกวน...อาจเป็นกระแสจิตของตัวเองก็ได้ที่ร้อนตัวแสดงออกมา..ช่างเถอะ!..ไหนๆ ก็ตัดสินใจให้เกิดขึ้นแล้วจะกังวลทำไม เดินหน้าให้สำเร็จลุล่วงไป
นึงเป็นเด็กเลี้ยงง่ายมากเหมือนตุ๊กตาตัวโต จับไว้ตรงไหนจะทำอะไรให้ก็ร่วมมืออย่างดี ไม่ร้องโยเย..หรือเขาจะปัญญาอ่อนอย่างที่ใครๆ คิด แต่จากสายตาที่มองผม..มีความหมายส่งออกมาแม้จะไม่ชัดเจนนักก็ตาม อีกอย่าง หน้าตาเขาไม่มีพิมพ์ปัญญาอ่อนอยู่เลย
ตกกลางคืน มีเสียงกุกกักหน้าห้อง ผมไม่คิดอะไรแล้วเรื่องผีสาง แต่หลายกุกกักเข้าก็เขวเหมือนกัน..อาจเป็นหนูมารื้อค้นหาอาหาร แต่บนศาลามีแมวเดินยามอยู่หลายตัว..ผี..ไม่ใช่ผี..อะไรล่ะถ้าไม่ใช่ผี..กุมารทองไง!
เด็กวัดเล่าว่าหลวงพี่เรย์แบรนด์ห้องริมสุดเลี้ยงกุมารทองไว้หลายตัว ท่านไม่สุงสิงกับใครไม่เคยเห็นออกบิณฑบาต นานๆ จะเดินผ่านพร้อมแว่นเรย์แบรนด์คู่ใจ วันๆ ไม่รู้ไปไหนกลับห้องดึกๆ ดื่นๆ ...ครั้งหนึ่งผมได้กลิ่นบางอย่างลอยออกมาจากประตูที่แง้มไว้ มันไม่ใช่กลิ่นบุหรี่หรือยาเส้นแต่น่าจะเป็นประเภทเดียวกัน..ไม่ใช่แค่กลิ่น..ภาพแวบๆ ของท่านเรย์แบรนด์ลอดออกมาฟ้องสายตา
จะเป็นหนู..ผี..หรือกุมารทองก็ตาม ในที่สุดเพราะเมื่อยล้ากับการเลี้ยงนึงวันแรกผมก็หลับไป
ก๊อก..ก๊อก.. ผมสะดุ้งตกใจตื่น มองไปที่ประตู เหลียวกลับมามองพรายน้ำบนหน้าปัดนาฬิกา
พระนิด..พระนิด..นิด.. หลวงพี่อาจเรียกเบาๆ
ครับ..ทราบแล้ว.. ผมงัวเงีย..เพิ่งตีสี่เอง
เปิดประตูหน่อยพระนิด.. มีความรู้สึกบางอย่างอยู่ในน้ำเสียง พระนิด
อะไรหรือครับ.. ถ้าพระนัทมาเรียกผมเวลานี้ น้ำเสียงอย่างนี้ผมไม่เปิดแน่แม้หลวงตาทินกำลังลอยเข้าหน้าต่างมาก็ตาม ยังมืดอยู่เลย
นี่ไง! หลวงพี่กำลังก้มมองตะกร้าของนึง
อะไรกัน!.. ผมก้าวออกจากห้องทั้งที่เปิดประตูได้บานเดียว มาจากไหนนี่ ในตะกร้า บนตะกร้าและพื้นข้างๆ เต็มไปด้วยนมกล่อง เสื้อผ้าเด็ก ของเล่น และเงินจำนวนหนึ่ง
ใครเอามาให้ หลวงพี่พึมพำ
มิน่า..
ใครหรือมิน่า
เมื่อคืนผมได้ยินเสียงกุกกัก ที่แท้เทวดานี่เอง
แหมๆ ถึงเทวดา ก็แค่ใครเขาเมตตานึงเท่านั้น..เป็นตุเป็นตะเชียว ทำหน้าตำหนิเหมือนตอนผมพูดเรื่องผี
อ้าว!..ก็คนดีมีเมตตาอย่างนี้จะไม่ให้เรียกว่าเทวดาได้ไง..เทวดา นางฟ้า ผีเปรต นรกสวรรค์มีอยู่รอบๆ ตัวเรานี่ละครับ..ผมว่านะ เอ๊ย!..อยู่วัดเจ็ดวันคิดได้เป็นเรื่องเป็นราว
เป็นเรื่องเป็นราว มองตาคว่ำ ไม่รู้บ่นหรือชม แต่ที่รู้ๆ ก๊อปความในใจผมมาทั้งประโยค
คงคือใครสักคนหรือหลายคนที่มีจิตเมตตาเช่นเดียวกับผม หลวงตาใบ หลวงพี่อาจ แอบนำสิ่งเหล่านี้มาให้..ความดี บางที บางคนก็อาย ไม่อยากให้ใครรู้เห็นเมื่อกระทำ ในขณะที่บางคนโอ้อวดป่าวประกาศการทำความดีจนเกินจริง..เทวดาเมื่อคืนอาจคือเจ้าของสายตาที่แอบมองอยู่ก็ได้
ผมปลุกนึงขึ้นมาฉี่ ป้อนนม และนอนเป็นเพื่อนจนหลับจึงล้างหน้าแปรงฟันครองผ้า..ทันเวลาออกบิณฑบาตพอดี
.
จากคุณ |
:
ดาเรน
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ส.ค. 53 12:37:03
|
|
|
|