ความคิดเห็นที่ 1 อันนี้ก็ต่อจากที่ขับรถออกจาก Grand Teton นะคะ ขับไปไม่นานมากก็มาถึงจุดแวะถ่ายรูปจุดแรกนั่นก็คือ West Thumb Geyser Basin ซึ่งก็อย่างที่เห็นตามแผนผัง แวะจุดเดียวมีหลายบ่อมากๆ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:09:05

ความคิดเห็นที่ 2 ทางเดินอันตราย เค้าให้เดินเฉพาะบนทางปูไม้ที่ทำไว้ ทะเลสาบที่เห็นด้านหลังนั่นคือ Yellowstone Lake ซึ่งเป็นทะเลสาบที่อยู่สูงที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ (The largest lake at high elevation in North America) ทะเลสาบนี้ถือว่าเป็นหัวใจของ Yellowstone เลยก็ว่าได้ ด้วยผืนน้ำนี้เองที่เป็นแหล่งน้ำสำคัญของสัตว์ป่าน้อยใหญ่และพฤกษานานาพันธุ์ในแถบนี้ หงส์และกวางมูสอาศัยกินพืชน้ำตื้นเป็นอาหาร ปลาเทราท์ก็อยู่ได้ด้วยแพลงตอนสัตว์ที่มีมากในผืนน้ำนี้ และปลาเหล่านี้เองที่ค้ำจุนชีวิตของเหล่านกเพลิแกน นาก เหยี่ยว หรือแม้แต่เจ้าหมีกริซลี่ จนเป็นห่วงโซ่อาหารที่เกื้อกูลกัน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:09:49

ความคิดเห็นที่ 3 เดินผ่านบ่อน้ำพุร้อนนี่ควันร้อนฉ่าๆปะทะผิวหน้า น้ำในบ่อน้ำพุร้อนนั้นใสแจ๋ว บางบ่อมองลงไปได้ลึกมากๆ แค่ควันยังร้อนจัดจนไม่อยากจะคิดว่าถ้าตกลงไปจะสุกอย่างรวดเร็วแค่ไหน ที่น่าแปลกคือ ถึงน้ำจากบ่อพุน้ำร้อนเหล่านี้จะไหลลงสู่ทะเลสาบเป็นปริมาณมากทุกวัน แต่อุณหภูมิของทะเลสาบเองนั้นกลับเย็นเฉลี่ยแค่ 7 C เท่านั้นเอง ถึงว่าสัตว์น้ำอยู่กันได้ไม่ถูกต้มสุกไปซะก่อน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:10:13

ความคิดเห็นที่ 4 บริเวณ West Thumb นี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 174,000 ปีก่อน อันส่งผลให้พื้นดินยุบตัวเกิดเป็น West Thumb caldera ขึ้น การเกิดของภูมิประเทศในบริเวณนี้เหมือนๆกับที่มาของพื้นที่ส่วนใหญ่ของ Yellowstone ที่เรียกว่า Yellowstone caldera ซึ่งเกิดจาก การระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 640,000 ปีก่อน ก่อนที่ลาวาและเถ้าถ่านจะไหลมาทับถมรวมกันสรรสร้างภูมิประเทศแปลกตาที่เห็นได้ในเขต  Yellowstone ในปัจจุบัน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:10:52

ความคิดเห็นที่ 5 บ่อน้ำพุแต่ละบ่อนั้นสีสันสวยงามแปลกตาต่างๆกันไป สีนั้นมาจากจุลชีพในน้ำ จุลชีพพวกนี้สามารถทนความร้อนได้สูงมาก จึงอาศัยอยู่ในน้ำพุร้อนได้ สีต่างๆนั้น บอกอุณหภูมิได้ด้วย กล่าวคือสีเขียวหรือน้ำตาลบ่งบอกถึงจุลชีพที่ทนความร้อนได้ไม่สูงมากนัก ส่วนสีเหลืองและส้มบ่งบอกถึงชนิดที่ทนร้อนได้มากกว่าพวกแรก ส่วนที่เห็นเป็นสีฟ้าใสแจ๋วนั่นแปลว่าน้ำร้อนจนเกือบเดือด จุลชีพเอาชีวิตไม่รอดกัน น้ำเลยเป็นสีฟ้าเฉยๆ ซึ่งถ้าจะเนีร์ดอีกหน่อยก็พูดได้ว่าน้ำนั้นดูดกลืนแสงที่มีความยาวคลื่นต่างๆกันได้ทุกสียกเว้นสีฟ้า ทำให้บ่อนั้นสะท้อนสีฟ้าให้เราเห็นนั่นเอง เพื่อเสริมสร้างความเนิร์ด: จุลชีพที่ว่านี้ มีทั้ง Bacteria ทั้ง Archaea และ Eukarya อย่างเช่นพวกสาหร่าย แม้แต่ ไวรัสก็ยังมี แต่เป็นไวรัสชนิดพิเศษ พวกทนความร้อนสูงค่ะ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:16:02

ความคิดเห็นที่ 6 บ่อนี้ร้อนจริง เหอๆๆ บ่อ Seismograph pool นี้ ก่อนเคยชื่อ Blue pool เฉยๆ แต่หลังจากแผ่นดินไหวในปี 1959 ซึ่งวัดความรุนแรงได้ถึง 7.5 Richter ก็เลยได้สมญานามใหม่ ไฉไลกว่าเดิม จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:16:23

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนบ่อสีเขียวมรกตนี้ชื่อ Abyss pool แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าลึกขนาดไหน นอกจากจะลึกถึงสิบหกเมตรซึ่งทำให้เป็นหนึ่งใรบ่อน้ำพุร้อนที่ลึกมากที่สุดในย่านนี้ เจ้า Abyss pool ยังมีวีรกรรม กล่าวคือมีการปะทุขึ้นในปี 1987 หนึ่งครั้ง และเงียบไปจนถึงปี 1991 ซึ่งได้ระเบิดน้ำพวยพุ่งราว 30m หลายๆครั้งต่อวันติดกันยาวนานราวหกเดือน จนกระทั่งหมดแรงไปและกลับเป็นบ่อใสๆ เงียบสงบตั้งแต่นั้นมา จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:16:56

ความคิดเห็นที่ 8 ถัดจาก West Thumb เราก็ขับรถต่อไปยังจุดหมายหลักซึ่งก็คือ Old faithful Old faithful นั้นได้ชื่อว่าเป็น Geyser ที่โด่งดังมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว การที่น้ำพุที่ Old faithful ปะทุทุกๆ 40-126 นาทีของทุกๆวันไม่เคยขาดก็เป็นหนึ่งในเหตุผลของชื่อเสียงเลื่องลือของ Old faithful และแน่นอนว่าเป็นที่มาของชื่อนี้นั่นเอง ทุกๆวัน นักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วทุกมุมโลกต่างพากันมาเฝ้ารอชมประกฎการณ์อันมหัศจรรย์นี้ และพวกเขาก็ไม่เคยต้องผิดหวัง พวกเราก็โชคดีเหมือนกัน เมื่อไปถึงและแวะไปดูเวลาที่เค้าคำนวนประมาณการปะทุของ Old faithful ของวันนี้ไว้ก็พบว่าต้องรออีกเพียงไม่นาน ระหว่างรอก็มีคุณลุงเจ้าหน้าที่มาเล่าที่มาของน้ำพุร้อนให้ฟัง จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:17:20

ความคิดเห็นที่ 9 คุณลุงเล่าว่าในโลกเรานี้มี Geyser อยู่เป็นพันที่ และครึ่งหนึ่งของ Geyser ในโลกนี้ก็กระจุกตัวกันอยู่แถว Yellowstone นี่แหละค่ะ เรียกว่า ถ้าอยากมาดู Geyser เราก็มากันถูกที่แล้วล่ะ อีกหลายๆที่ที่โด่งดังก็มี ญี่ปุ่น ไอซ์แลนด์ นิวซีแลนด์ เป็นต้น ลุงบอกว่าการจะเกิด Geyser ได้นั้นต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งความร้อนจากแมกมาที่อยู่ค่อนไปทางใกล้เปลีอกโลกอย่างพวกบริเวณใกล้ภูเขาไฟ ทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูง น้ำต้องอยู่ลึกใต้ดิน และมีความดันสูง อีกทั้งต้องมีสภาพทางออกของน้ำ (plumbing) ที่เหมาะสม อย่างที่ Old faithful นี้ มีจุดหนึ่งที่แคบมาก คือประมาณสี่นิ้วเท่านั้น ที่น้ำเดือดปริมาณจะพุ่งผ่าน ทำให้ความดันสูงจนน้ำพุพุ่งสูงลิบอย่างที่เห็น จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:18:02

ความคิดเห็นที่ 10 นอกจากนั้น ส่วนประกอบสำคัญก็ยังมีลักษณะของหินในบริเวณนั้น อย่างหิน Geyserite ซึ่งมีองค์ประกอบส่วนใหญ่คือ ซิลิคอนไดออกไซด์ ทำให้ Geyser เป็น Geyser อยู่ได้เพราะ Geyserite มีความแข็งทนทาน ไม่แตกหักเมื่อถูกความดันสูงหรือแรกกระแทกจากน้ำพุอย่างหินทั่วไป ทำให้ตัวท่อส่งน้ำรักษาความดันสูงไว้ได้ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:18:27

ความคิดเห็นที่ 11 และแล้วเราก็ได้ชมการปะทุอันน่าทึ่ง น้ำพุร้อนพุ่งขึ้นสูง ต่างจากเวลาที่คำนวนไว้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง Old faithful นั้นพ่นน้ำทีละราวๆ 14–32,000 ลิตร  สูงราว 30–56 เมตร เป็นเวลายาวประมาณ 1.5 - 5 นาทีเลยเชียว จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:19:16

ความคิดเห็นที่ 12 ดูน้ำพุปะทุแล้ว เราก็ออกเดินเล่นบริเวณรอบๆ Upper Geyser Basin ชม Geyser ต่างๆ อย่างอันนี้คือ Castle Geyser เค้าว่าได้ชื่อมาเพราะเหมือนปราสาทสมัยโบราณที่มีหอคอยและป้อมปราการล้อมรอบ ต้องลองดูแล้วจินตนาการตามกัน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:19:39

ความคิดเห็นที่ 13 ระหว่างทางก็ได้เห็น Geyser อันเล็กอันน้อยผลัดกันปะทุ อย่าง Pump Geyser อันนี้ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 53 09:20:53 จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:20:18

ความคิดเห็นที่ 14 และ Spasmodic Geyser ที่ทำตัวสมชื่อ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:40:31

ความคิดเห็นที่ 15 และนี่อีก ดูกันเพลินเลยทีเดียว จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:40:54

ความคิดเห็นที่ 16 แน่นอนว่าเราไม่พลาดแวะชม Grand Geyser ที่โด่งดัง Grand Geyser นั้น เป็น Geyser ที่คำนวนเวลาได้ที่สูงที่สุดในโลก สามารถสูงได้ถึงหกสิบเมตรเลยทีเดียว เวลาปะทุที่จะนานราว 9-12 นาที และ มาติดๆกันราวสามสี่ชุด รอบการปะทุห่างกันราว 7-15 ชม และถึงจะคำนวนเวลาพอได้ แต่ก็ไม่แม่นยำเท่าของ Old Faithful ที่บอกได้คลาดเคลื่อนไม่เกินราวๆสิบนาที เสียได้ที่ตอนเราไป มันไม่ได้ปะทุอยู่ แค่พ่นน้ำออกมานิดๆหน่อยๆ เล่นบอกช่วงความเป็นไปได้กว้างทีละสามสี่ชมนี่ รอดูไม่ไหวจริงๆ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:41:31

ความคิดเห็นที่ 17 Grand Geyser แตกต่างจากหลายๆ Geyser ที่เราเพิ่งเห็นมาก่อนหน้า กล่าวคือ เป็น Fountain Geyser ไม่ใช่ Cone Geyser อย่าง Old Faithful หรือ Castle Geyser Fountain Geyser ต่างจาก Cone เพียงแค่พื้นที่ผิวบ่อด้านบนที่มีมากกว่า อย่างที่เห็นในรูป จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:41:52

ความคิดเห็นที่ 18 นอกจากความเท่ห์ของน้ำพุร้อน เราก็ยังได้พบกับความบ้องแบ๊วของวิธีตั้งชื่อน้ำพุร้อนในแถบนี้ ส่วนใหญ่ก็ตั้งตามรูปร่างของบ่อน้ำพุ อย่างอันนี้ชื่อ Ear Geyser ก็เหมือนอยู่เนอะ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:42:50

ความคิดเห็นที่ 19 จากนั้นเราก็ขับรถออกไปชมบริเวณ Midway Geyser Basin แวะชม Excelsior Geyser Crater เป็นที่แรก บ่อนี้ใหญ่โต มองไปด้านหลังจะเห็นสะพานเล็กๆ ที่ให้คนเดินข้าม แบบว่าเทียบกับคน คนจะตัวนิดเดียว ช่วงก่อนปี 1890 Excelsior ยังปะทุได้สูง 91 เมตร เชียว แต่หลังจากนั้นกลับแผ่วลงเรื่อยๆ จนเป็นบ่อน้ำเดือดเฉยๆอย่างที่เห็นเป็นควันๆ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:43:26

ความคิดเห็นที่ 20 โชว์ความเดือดจะๆอีกหน ร้อนจริงๆค่า รับประกัน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:43:45

ความคิดเห็นที่ 21 Grand Prismatic Spring อันนี้สีเด็ดดวงมาก นอกจากจะมีสีเหลือบรุ้งสวยงามแล้ว ยังครองตำแหน่ง บ่อน้ำร้อนที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกและอันดับหนึ่งในสหรัฐพ่วงไปด้วยอีกต่างหากด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 90 เมตร สีสันสดใสนี้มาจากแบคทีเรียในน้ำที่มีแร่ธาตุสูงของบ่อน้ำร้อนแห่งนี้ ที่สีมีเฉดแต่งต่างตั้งแต่เขียวไปจนแดงก็เนื่องด้วยสัดส่วนของคลอโรฟิลด์และแคโรทีนอยด์ที่แตกต่างกันของแบคทีเรียต่างประเภทที่ชอบอยู่อาศัยในโซนความร้อนต่างๆในบ่อ อย่างที่เห็นสีเป็นแถบๆตามรอบวงของบ่อ ดังนั้นหน้าร้อนและหน้าหนาว สีของ Grand Prismatic Spring ก็ยังจะเปลี่ยนไปตามองค์ประกอบของแบคทีเรียที่เปลี่ยนตามอุณหภูมิน้ำอีกด้วย ส่วนตรงกลางนั้น น้ำทั้งลึกทั้งมีความบริสุทธิ์สูง ถึงสีฟ้าแจ๋วได้ขนาดนั้น ชอบสีของอันนี้มากเลยจริงๆ ได้รูปมาเยอะแยะมากมาย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:44:43

ความคิดเห็นที่ 22 นอกจากนั้นก็ยังมีบ่อเล็กๆ สีสวยๆอย่าง Opal pool และ Turquoise pool ด้วย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:45:41

ความคิดเห็นที่ 23 รูปของ Yellowstone เยอะมาก เลือกกันไม่หวัดไม่ไหว มาดูน้ำพุร้อน บ่อโคลน บ่อน้ำกรด สีแปลกๆ และ วิวแคนยอนสวยๆ ต่อกันในกระทู้หน้านะค้า จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 09:52:22

ความคิดเห็นที่ 24 อ้า ทิ้งลิงค์เอาไว้นะคะ จะได้ตามไปถูก อิๆ จากคุณ : Setakan เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 12:22:13

ความคิดเห็นที่ 25 คนที่นี่ขี้เกียจลงชื่อเป็นธรรมดาน่อ ดีนะคะได้รูปวันฟ้าใส ถ่ายรูปออกมาสวยมากกกกกกกกกก จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 21:32:07

ความคิดเห็นที่ 26 บ่อน้ำพุร้อนนี่น้ำสีสวยมากจริง ๆ อ่า ถ้าไม่ัเห็นว่ามีอะไรเดือดปุด ๆ แถมควันลอยโขมงนี่คงนึกอยากลงไปดำผุดดำว่าย อิอิ ป.ล. ติดตามอยู่เสมอนะคะ ชอบกระทู้นี้มากค่ะ :) จากคุณ : littlevalvie เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 23:06:03

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพสวยจังค่ะ เห็นแล้วนึกถึงสมัยไปเที่ยวกับเพื่อนๆ  แต่เหมือนแต่ละบ่อน้ำมันแห้งๆลงไปยังไงไม่รู้นะ จากคุณ : Pina Colada เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 01:16:14

ความคิดเห็นที่ 28 รูปชุดนี้สวยมากกกกกกกกกก >< เพิ่งผ่านช่วงมิดเทอมไปไม่เท่าไหร่ คนอาจจะยังน้อยอยู่ค่ะ :) ป.ล. งวดนี้มาแปลก ไม่ยักมีรูปของกินเนอะ จากคุณ : ปิยะรักษ์ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 11:32:45