ความคิดเห็นที่ 1 |
ในขณะที่ผมตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ พลันเอกก็หยุดเล่าเอาเสียดื้อๆ อ้าวจบแล้วเหรอ ปัดโธ่กำลังถึงตอนสนุกเชียว หึ...เอกแค่นหัวเราะหันมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยพูดกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก อยากรู้มากนักเหรอ แต่หลังจากนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องสนุกแล้วนะ........ ต่อมาภายหลัง พ่อแม่ฝ่ายชายสืบรู้ว่าทั้งสองได้หนีมากบดานกันที่เกาะนี้ จึงได้ส่งคนมารับลูกชายกลับบ้าน ฝ่ายชายถึงได้รู้ว่า หลังจากที่ตนได้หนีมานั้นยังผลให้คุณแม่เครียดและล้มป่วย เพราะจิตใจเฝ้าแต่พะว้าพะวงคิดถึงลูกชายและนึกโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลาที่เป็นต้นเหตุ
ด้วยเหตุนี้ฝ่ายชายจึงตัดสินใจยอมกลับบ้าน ทิ้งเพียงคำมั่นสัญญากับฝ่ายหญิงว่าจะขอกลับไปบ้านพักนึง เมื่อเรื่องต่างๆคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว ตนจะกลับมาหาและรับหล่อนไปอยู่ด้วย
แต่นั้นเป็นวันสุดท้ายที่หล่อนได้เห็นหน้าคนรัก คนที่หล่อนหลงเชื่อคำสัญญาเพียงลมปากของเขา หล่อนไม่มีโอกาสแม้แต่จะบอกให้เขาได้รับรู้ว่า ในท้องของหล่อนกำลังจะมีพยานรักของเขาและเธอถือกำเนิดมา....
โห เอกนายนี่เล่าซะละเอียดยิบเลยว่ะ อย่างกับแกอยู่ในเหตุการณ์จริงอย่างงั้นแหละ ผมหันมองเอกหลังจากพูดติดตลกออกไป แต่ทว่าสีหน้าของเอกเปลี่ยนเป็น ใบหน้าเคร่งเครียด ดูเหมือนเป็นคนละคน อย่างกับว่าผมเผลอพูดอะไรไม่เข้าหูให้แล้ว ฉันน่ะ ถึงไม่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ก็รับรู้เรื่องราวความทุกข์ยากลำบากของหญิงสาวคนนั้นมาโดยตลอดสิบแปดปี แกหมายความว่าไงวะ เอก ลูกในท้องของเธอ ก็คือฉันนี่แหละ ส่วนชายชั่วที่ทิ้งเธอให้เผชิญต่อความทุกข์ยาก จนกระทั่งตายไปก็คือพ่อของแกไงล่ะ ไอ้กันต์ เอกพูดพลางเดินเขยิบเข้ามาใกล้ผมทุกขณะ ส่วนผมเหมือนรู้ว่าจะมีภัยถึงตัวก็พยายามรักษาระยะห่างเอาไว้ ไอ้ที่แกเห็นอยู่ใต้ต้นไม้เมื่อกี้ คือหลุมฝังศพแม่ฉันเอง!!
จากคุณ |
:
มาช้ายังดีกว่าไม่มา
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ส.ค. 53 16:17:33
|
|
|
|