ความคิดเห็นที่ 1 ... ห้วงดาริกา... ผุดผ่องงามตา...........นภาเสกสรรค์ ครั้นลองเพ่งพิศ.........ลิขิตอัศจรรย์ ปรากฎภาพฝัน...........ที่พลันเหมือนจริง แท้คือดวงใจ... เจิดจ้าภายใน............อาบไออุ่นผิง ประสาทสัมผัส...........เร่งรัดแอบอิง แสงดาวพราวพริ้ง........รักยิ่งพริ้มพราย สวัสดีค่ะพี่สุ ... แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 53 16:31:13 แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 53 16:29:27 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 16:29:04

ความคิดเห็นที่ 2 เหงาจริงค่ะพี่สุ  แต่นานก็สุดได้ค่ะ อิอิ เหงาจนหูแว่ว.. เสียงเพรียกแผ่วแผ่ว............ไร้ร่างไร้เงา สัมผัสเหว่ว้า........................ประสาจับเจ่า คืนค่ำซ่อนเศร้า....................อยู่เงียบข้างขม รู้ว่าเดียวดาย... หาใช่คิดตาย.........................หากคล้ายไข้ถม มองฟ้าฟังว้าง........................จินต์ร้างครางตรม อยู่เปลี่ยวจวนจม....................กับปร่าวังเวง เหงาถึงวิญญาณ... อับเฉาเผาผลาญ......................ลมครวญข่มเหง โดยด่าวโบยบิน........................สุดสิ้นครื้นเครง โหยมาครวญเพลง....................แกล้งได้ทุกวัน เหงาถึงปลายทาง.. ชินชาอ้างว้าง.............................ทุกอย่างแค่ฝัน ใจเริ่มนอนหลับ..........................ข้างสดับเสกสรรค์ ขีดเขียนหมื่นพัน..........................สู่โลกกลอนกานท์ จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 17:56:14

ความคิดเห็นที่ 3 ยามเย็นย่ำสนธยา                 ลอยเรือมาเมื่อคราคลื่นแรง มองดูขอบฟ้าแดง                 เหมือนแต้มแต่งด้วยศิลปิน ลมเอยพัดเรือไป                  พัดให้ไกลจากแผ่นดิน ความหวังหมดแล้วทั้งสิ้น        จำจากถิ่นรอนแรมนาวา ค่ำลงคลื่นซัดเกลียว              ต้องโดดเดี่ยวเปล่าเปลี่ยวเอกา ก่อนนี้มีเจ้ามา                      วันนี้หนามาขาดนาง จิตใจข้าหมองเศร้า                "ดั่งแสงดาวริบหรี่รางๆ" "อยู่ไกลสุดขอบฟ้ากว้าง"       "ดาวเอ๋ยช่างดั่งใจชาย" . ดาวอยู่สุดขอบฟ้า กระพริบให้มองเห็น  บางครั้งเมฆบัง ต้องรอจนกว่ากระพริบอีกครั้งหนึ่ง เหมือนใจจะขาด จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 21:05:34

ความคิดเห็นที่ 4 โศกเอ๋ยเคยเศร้า... โศกทำไมเล่า                สลัดตัดทิ้ง จะสุขปนโศก                โลกแห่งความจริง ละเลยเฉยนิ่ง                ตั้งดิ่งตามใจ อย่าตรมความเศร้า... ดูดีงี่เง่า                       จะเศร้าไปไย คิดแต่เรื่องสุข               เรื่องทุกข์เชิญไกล โศกเศร้าทำไม              ถามใจก่อนลา. จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 22:25:29

ความคิดเห็นที่ 5 เธอเหงาเช่นนี้ จำเป็นต้องมี...........................คนดีอยู่ใกล้ เป็นองครักษ์..........................พิทักษ์รับใช้ เอาอกเอาใจ..........................ใช่ไหม?ท่านลม เป็นเพื่อนคลายเหงา ให้เธอหายเศร้า.......................เฉลาภิรมย์ ประคองชี้นำ...........................ช่วยค้ำนิยม ประคบประหงม.......................สะสมคะแนน เมื่อดวงดาวพราวพราย แจ่มประกายประดับฟ้า มองดวงดาวทุกครา สุนันยาเธอเหมือนดาว ถามดวงดาวใยเย้ย เยาะเช่นเคยยิ้มกลางหาว แสงกระพริบจากดาว คงส่งข่าวใกล้ลับดวง สวัสครับท่านนายหัวลม หัวอกคนมากอายุเนาะ ก็ต้องทักทายตามประสาแค่ก่น นะจ๊ะ จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 22:36:02

ความคิดเห็นที่ 6 ท่านลุงชิกง... อย่าลืมอย่าหลง                อย่างงอย่างวย อย่าเป็นคนแก่                  เรี่ยมแร้ร่ำรวย บ้างมีตัวช่วย                    เห็นด้วยช่วยดัน อย่าพูดเรื่องแก่... เรื่องนี้ไม่แน่                    ใครแก่ก่อนกัน บ้างก็ยังเยาว์                    นกเขาไม่ขัน เชิญมาพนัน                    ใครทันโชคดี. จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 22:59:13

ความคิดเห็นที่ 7 แวะมาอ่านกาบเอ้ยกาพย์ยามดึกๆ ยิ่งดึกยิ่งเหงา คืนนี้ไร้เเม้ดาวจะอยู่เป็นเพื่อน มีเพียงเดือนสีหม่นๆที่ดูหมองๆ คิดถึงใครบางคน..ที่ห่างเราไป ว่าไหมค่ะ 5 5 5 5 เหงาจริงนะเออ. เเต่เรามีเราเนอะพี่สุเนอะ. จากคุณ : อาลีอา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 04:09:23

ความคิดเห็นที่ 8 หวัดดีจ้ะ น้องพลอย ขอบคุณ มากค่ะ ที่แวะมาทักทาย .. ห้วงรัตติกาล กว่าจะพ้นผ่าน.......................ช่างนานเหลือหลาย ยามเศร้าโศกศัลย์..................จาบัลย์เดียวดาย เวลาคลับคลาย......................เหมือนไม่ปราณี เห็นแสงดารา ประกายเยี่ยมฟ้า.....................ดั่งพารักหลี ให้ไกลออกไป .......................ดังสายนที คงจะไม่มี...............................รักนี้ดังเดิม... ... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 07:37:42

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อคราวไกลห่าง เดียวดายอ้างว้าง......................หมองหมางสุดทน เหมือนสิ้นความหมาย...............ไร้ซึ่งเหตุผล จิตกังวน...................................ทุรนทุราย คิดไปต่างต่าง ลืมสิ้นปล่อยวาง.....................เมื่อครั้งเดียวดาย ไม่มีเหตุผล.............................ใจดลมุ่งหมาย เรื่องราวขยาย.........................เพราะใจบอบบาง ทุกอย่างที่เป็น ใช่เช่นที่เห็น..........................พอเน้นรู้บ้าง แต่ว่าบางคราว......................เหมือนแสงเงาจาง เข้ามาบดบัง..........................จนลืมช่างใจ ความเหงานี้หนา ถ้าหากเข้ามา........................ค้างคาฤทัย กลายเผลอตัวตน ..................เป็นคนอ่อนไหว เหมือนโดนเผาใจ...................ด้วยไฟระทม... หวัดดีจ้ะน้องมี่   ความเหงา นี่ มันไม่ปราณีใคร จริงๆเน๊าะ ยิ่งอยู่ ต่างถิ่น แบบไร้ญาติ ขาดมิตร จะรู้สึกได้มากๆเลย พี่เข้าใจดี สุดแหละเรื่องนี้ ..และมันจะมี บางช่วง ที่เหงามาก เวลาเราคิดถึง คน ที่อยู่ไกลกันนี่แหละ..55 วิธีคลายเหงา ของ พี่กับมี่ คงเหมือนกันแหละนะ ..มีแค่บทกวี นี่เอง..อิอิ ... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 08:02:35

ความคิดเห็นที่ 10 เช้านี้เเวะมาอ่านกาบมะพร้าว..เจ้ย!!กาพสุรางคนางค์ 28 เเต่คนขี้สงสัยเเบบเลิฟ ก็ให้เกิดอาการตะหงิดๆ สงสัยว่า.. ตกลง คุณตาลมกับคุณลุงชิกง มาจีบพี่สุหรือมาจีบกันเองค่ะ 5 5 5 ............... ปูลู ฝากถึงบางคนที่จากเราไปหน่อยนะคะพี่สุ ฝากบอกเขาว่า เราได้ตัดหางท่านปล่อยวัดแล้ว แค่ชายห่วยๆคนเดียวเราไม่สนใจหรอก ปูลูสอง คนที่เพิ่งกลับจากเชียงใหม่น่ะ รับรู้ไว้ด้วย จากคุณ : อาลีอา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 09:34:03

ความคิดเห็นที่ 11 ใครเล่าอยากโศก ให้ใจวิโยค..................................เหมือนโลกสลาย ก็ใคร่สลัด...................................ตัดให้พ้นกาย คลายความหมองหมาย...............เพื่อใจสราญ วันวานผ่านลับ คงไม่หวนกลับ............................รอรับถ้อยขาน หากแม้ลืมได้...............................ใจคงเบิกบาน ยิ้มได้ฉ่ำหวาน.............................เหมือนกาลก่อนมี คงเป็นบางคราว ที่ใจปวดร้าว.............................ซึมเศร้าแบบนี้ รอกาลเวลา..............................พาใจสุขศรี กลับชื่นอีกที..............................ไม่มีน้ำตา เพราะใจลืมยาก คิดถึงคนพราก.........................ไกลจากพารา แรมรอนหนไหน........................ไยไม่ห่วงหา หรือมีใครมา.............................อาสาดูแล... ข่าวคราวเงียบหาย ทิ้งเราเดียวดาย........................ไม่หมายคอยแล แปรเปลี่ยนผันไป......................ฤทัยไม่แน่ คนใจอ่อนแอ............................พ่ายแพ้ตรอมตรม... สวัสดีค่ะ คุณลม สวัสดี ทั้ง3กรอบเลยนะคะ ขอบคุณมากๆนะคะ ที่แวะมา ... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 10:06:12

ความคิดเห็นที่ 12   แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 53 08:06:49 จากคุณ : มังกรสมุทร เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 13:32:40

ความคิดเห็นที่ 13 เหงาเปลี่ยวเดียวดาย ดาวเปล่งประกาย........................มิคลายหมองเศร้า หัวใจพังภินท์.............................แดดิ้นนานเนา ทุกข์ไม่บรรเทา..........................ความเหงาเท่าเดิม นภาหมองหม่น คว้างเคว้งสับสน........................ไร้คนต่อเสริม พลังแรงใจ...............................ไม่มีเพิ่มเติม ความสุขมิเพิ่ม...........................ฉันควรทำไง จันทร์เสี้ยวยังแหว่ง ราวใครสาปแช่ง......................จินต์แกว่งเยียบไย ยะเยือกยาวเยื้อ......................กรีดเนื้อประไพ ระทมหมองไหม้......................ร่ำไห้โรยแรง (เพิ่งแต่งแบบนี้เป็นครั้งแรก ออกจะงงๆ นิดหน่อย แต่พอได้อ่านๆ ดูก็เริ่มเข้าใจอะไรขึ้นบ้าง) แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 53 14:41:07 จากคุณ : comicclubs เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 14:30:31

ความคิดเห็นที่ 14 คุณลุงชิกงคะ บางครั้ง เพื่อนมีมากมาย ก็ใช่ว่า จะไม่เหงานะคะ ความเหงาบางครั้ง มันมาจากส่วนลึกของใจค่ะ ... ขอบคุณน้ำใจ ที่มีมอบให้.........................ฝากไว้คำคม เหงานี้ยากคลาย................กลับกลายภิรมย์ เพราะความขื่นขม.............สะสมนานปี เรื่ององครักษ์ ให้มาพิทักษ์......................ยากนักสุขศรี ร่วมร้อยสายใย..................คงสายเต็มที กลัวถูกย่ำยี .......................ให้มีแผลใจ ดวงดาวพราวไสว ส่องแสงใส ปลายนภา งามนัก นับคณา สุนันยา ค่าห่างไกล เป็นได้เพียงธุลี หาได้มี ความสดใส เศษดิน จากถิ่นไพร อย่ามองให้ คล้ายดวงดาว ขอบคุณ ที่มาร่วมแจมค่ะ แต่เอ...ไหงทักแต่คุณลมล่ะ..? .. จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 15:45:00

ความคิดเห็นที่ 15 หวัดดีจ้ะน้องเลิฟ(ทั้ง2กบอบเลยนะจ๊ะ) ใช่เลย เหงาจริงๆ หวังว่า คงจะทำใจได้ไม่นานนี้ นะ ไหนๆก็ตัดหางปล่อยวัดแล้ว หวังว่า คนนั้น คงจะเข้ามาอ่านแหระ ไปเชียงใหม่ สั่งซื้อแคบหมู มาให้ก็ไม่ยอมซื้อ ช่างเหอะเน๊า  ยังไง เราก็ยังมีเราอยู่ .. ส่วน คำถามอีกข้อ พี่ต้องให้ คุณลุง กับคุณตา  มาตอบเองแล้วแหละ ไม่กล้า คิดแทนอ่ะ...555 .. จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 15:50:45

ความคิดเห็นที่ 16 .......  .น.ส.เลิฟเล่ห์   (แม่)มดเจ้าเสน่ห์..............ลังเลสงสัย          ลุงชินิยม.................คุณลมแง่ไหน          โปรดอย่าเอ็ดไป.......ลุงอายเป็นนา         คุณลมหัวด้วน         นายหัวหอมหวล...........ครวญปรารถนา         หัวใจบรรจุ..................คุณสุนันยา         เติมเต็มอุรา.................ใฝ่หานานนม         ลุงชิน้องใหม่         ยังไม่มั่นใจ..................รสสะนิยม         ต้องการคนช่วย.............อำนวยเหมาะสม         ฝึกฝนคารม..................ใช้ชมกีฬา         หวังเสกโลโซ         หมู่เฮาคนโก้..................โซโล่คาถา         ว่างช่วยอำรุง..................ถลุงสุรา          ตัวหนอนเรียกหา............ฟุบคาโต๊ะกัน....เหอ เหอ แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 53 16:15:57 จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 16:06:12

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีค่ะ คุณมังกรสมุทร ขอบคุณ มากค่ะ ที่แวะมา .................. ดวงดาวไสว .หรืออัฟโหลใจ.............สายใยสัมพันธ์ ดวงดาวไฉไล .ประกายเฉิดฉันท์ ควรคู่แสงจันทร์.............ทุกวันวับวาว จรัสเรียงราย ส่องแสงแพรวพราย........กระจายกลางหาว คงไม่เหว่ว้า-...................หรอกดาราพราว ทุกคืนคลอเคล้า..............หยอกเย้าดวงเดือน .... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 16:18:15

ความคิดเห็นที่ 18 แต่งอย่างไร ..... สไตล์ไหน ....... ก็เหงา  เศร้า แบบซึ้งๆทุกทีเลยนะคะ พี่สุนันยา .. ม่านฟ้ากระจ่าง แสงดาวพราวพร่าง....................เพริศพิศแพรวพราย จันทร์ร้างหลบลี้........................จรลีหนีหาย ปล่อยร้างดาวราย......................ลอยเกลื่อนละลาน ราตรีสีคราม สวยสดงดงาม...........................เช่นดั่งวันวาน เสมอต้นชนปลาย......................ฉาบฉายเสกสรรค์ คืนนี้รำพัน................................ส่องแสงรำพึง รัตติกาลเหงา เงียบขรึมซึมเซา........................หมองช้ำคำนึง เฝ้าชิดติดตาม...........................ฝากถามไปถึง จันทร์เจ้าใยจึง...........................ปล่อยปละละเลย ม่านฟ้าหม่นหมาง ลอยลิ่วเลือนลาง........................เฝ้าคอยเปิดเผย จงรักภักดี..................................เช่นนี้อย่างเคย แม้นเจ้าเฉยเมย..........................ยังรักปักตรึง................ ไม่รู้จันทร์เจ้าหายไปไหน ? .. ทานยาไปเมื่อตอนเที่ยงวันน่ะค่ะ   เลยเพิ่งตื่น .. แล้วก็มาที่กระทู้พี่สุก่อนก่อนใครเพื่อนเลยค่ะ .. แต่งได้แค่นี้   ไม่ว่ากันนะคะ ................ จากคุณ : เกสรผกา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 16:29:17

ความคิดเห็นที่ 19 อยากถามดวงดารา     ที่ปลายฟ้าอันห่างไกล เธอเคยเหงาบ้างไหม   มีวันใดใจสั่นคลอน อยู่กลางแกแล็กซี่    ดวงฤดีสุดทอดถอน ข่มตาคราจะนอน    เฝ้าอ้อนวอนต่อนภา ไร้แสงแห่งตัวเอง  ถูกข่มเหงดูไร้ค่า ไร้คนคอยพูดจา   ดวงดาราทำฉันใด เจ็บปวดใครจะรู้  ใครคงดูว่ายิ่งใหญ่ ใครเล่าจะเข้าใจ   จะมีใครร่วมแบ่งปัน หวังเธอคืนกลับมา      ฝันไว้ว่าคงสักวัน   แสงแรกแห่งตะวัน     อยู่คู่กัน....ตลอดไป ขอแต่งกาพย์ยานี ๑๑ ก่อนนะจ้ะ...แบบยากๆขอเวลาศึกษาก่อน ขอดาวมาอยู่เป็นเพื่อน..กลัวได้อุกาบาตแทนจังเลย....ฮ่าๆๆๆๆ จากคุณ : กาปอมซ่า เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 18:16:32

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีจ้ะ น้องแตง เขียนได้ดีค่ะ นี่ขนาดเพิ่งเขียนนะ เก่งมากเลย... ยังคงไถ่ถาม ดวงดาวงดงาม.............................ที่วับวามแสง เคยเหงาบ้างไหม..........................มีใครเคลือบแคลง หรือมี ใครแกล้ง............................เสแสรงทำดี นภากว้างไกล มีดาวกระจาย.............................ตามไปทุกที่ คงไม่เคยเหงา ............................เปล่าเปลี่ยวฤดี เหมือนดั่งเรานี้............................ที่ต้องเดียวดาย ความเหงาซุกซ่อน พาใจโหยอ่อน............................มิผ่อนจางหาย เหนื่อยหน่ายเต็มทน....................ต้องทนมิวาย บวชชีหนีหาย.............................กันไหมน้องแตง...(ว่ามั๊ยน้องแตง..5 5) จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 23:22:43

ความคิดเห็นที่ 21 สวัสดีค่ะ คุณหนุ่ยขอบคุณมากค่ะ ทำไม ไม่พักผ่อน ให้หายดีก่อนคะ เดี๋ยวก็ได้หม่ำ น้ำเกลืออีกหรอก สงสารคนเฝ้าไข้น่ะ..อิอิ .. แสงจันทร์เลือนลา เป็นเพียงบางครา...........................ใช่วาลาหาย ราตรีมืดมน...................................ช่วงฝนประปราย ดาวเร้นแสงฉาย.............................อยู่ใต้เมฆา รอคอยฟ้าใส เพื่อทอประกาย.............................แสงใหม่เจิดจ้า ถักทอเป็นสาย...............................อยู่ปลายฟากฟ้า อร่ามงามตา..................................เมื่อครายินยล พริบพรายพราวพร่าง ไสวสว่าง......................................กระจ่างเวหน แสงดาวระดาษ............................สาดส่องระคน สดชื่นกมล...................................อยู่บนนภา ดาวเอ๋ยดาวน้อย ยางดาวล่องลอย.........................เหงาหงอยไหมหนา ดาวดั่งมณี.................................ที่มีราคา คงไม่เหว่ว้า...............................อุราตรอมตรม..... เขียนมาได้ ตั้งเยอะ จะว่า แค่นี้ได้ไงคะ ไม่มีใครว่าไรหรอกค่ะ มี แต่ จะขอบคุณและดีใจค่ะ .. จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 23:25:28

ความคิดเห็นที่ 22 เฝ้าถามดวงดารา จากปลายฟ้า ที่หางไกล ไม่เห็นได้อะไร เป็นคำตอบ มอบให้มา มีแต่แสงประกาย กรพริบพรายให้ปวดปร่า ความหม่นเหมือนหล่นพา ให้เหว่ว้า มาเพิ่มเติม ยิ่งเหงา เข้ามาสุม ดังเกาะกุม เร้ารุมเพิ่ม หลายหลากมากกว่าเดิม ขาดแรงเสริม เติมพลัง คงได้แต่มองดาว ทุกครั้งคราว ที่ผิดหวัง กลัวว่า จะภินท์พัง รอยความหลัง ที่ฝังใจ จึงวอน มาอ้อนดาว ช่วยคลายเศร้าคราวหมองไหม้ ปัดเป่าบรรเทาภัย ที่เหมือนไฟ ไกลตัวตน แสงดาว พราวไสว ช่วยดลใจคลายความหม่น ฝากฟ้า ที่เบื้องบน ช่วยสักหน ให้พ้นไป... ... หวัดดีจ้ะน้องปอม ขอบคุณ เป็นอย่างยี่งจ้ะ เท่านี้ก็ดีใจสุดๆแล้ล่ะ..อิอิ จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 23:27:40

ความคิดเห็นที่ 23 ~กาพย์ฉบัง๑๖~ ร้อยพจน์ฝากเธอหมายหวาน......เติมคะนึงตรึงกาล หวังอีกฝ่ายรัญจวนหวาม อนาถหนาวร้าวในถาม................วจีคล้ายกระโดดข้าม หยาดหวานแปรเปลี่ยนเป็นจาง คืนหม่นวนเวียนรอยระคาง............นั่งเศร้าอ้างว้าง โศกใจซ่อนใส่ในกลอน หอมเอยหอมดอกกลิ่นโศก..............มองฟ้าลาโลก ช่างเร่าโทมนัสคุมเคียง ในบ่อคิดถึงโบยเรียง.........................ละห้อยหวนสายเสียง ใครหนึ่งในอณูแดครอง มี่เอา "รสระกำ" มาฝากอีกค่ะพี่สุ แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 53 20:46:12 จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 53 19:33:20

ความคิดเห็นที่ 24 แสงดาวที่พร่างพราว สุกสกาวประดับฟ้า มองดาวลืมเวลา เฝ้าหวนหาถึงแต่เธอ โอ้ จันทร์ที่แจ่มฟ้า ปล่อย ดาราให้รอเก้อ ใจร้ายจริงนะเธอ เผลอใจไปยังไม่รู้ แสงดาวเปรียบเหมือนใจ แสงอ่อนใสใจหดหู่ ดาวไกลไร้จันทร์คู่ เหมือนพี่อยู่เพียงเอกา ... จากคุณ : สะเก็ดทรายในแสงดาว ... (Scientist) เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 53 19:54:15

ความคิดเห็นที่ 25 สิ้นค่าความหมายกลายหยาม.................................ไร้ซึ้งความงาม สุดรั้งเหนี่ยวไว้เคียงใจ ร่ำร้องเพราะความอ่อนไหว....................................น้ำตาตกใน สะทกสะท้านอารมณ์ เก็บกลืนกับความขื่นขม......................................ทนทุกข์ระทม โศกเศร้าเพราะหลงเชื่อคำ แปลกนักชายมักใจดำ.......................................ลวงหญิงชอกช้ำ เป็นรอยแผลลึกกินใจ รู้สึกสงสารบ้างไหม..........................................สิ่งที่ทำไป หญิงนี้ ที่ต้องรับกรรม.. ระกำนี่ มีรสเปรี้ยว ใช่มั๊ยน้องมี่ ก็ดีนะ ตา จะได้ สว่าง..จริงมะ.. ... แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 53 20:27:56 จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 53 20:04:33

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีค่ะ น้องทราย ดวงดาว สกาวฟ้า ทอแสงทา ทาบฟ้าใส จันทรา ใช่ลาไกล หลบเร้นในใต้เมฆา เพราะว่า เป็นเดือนแรม ขาดแสงแจ่ม แต้มเวหา อย่าเหงา เลยดารา ไม่นานหนา จะเคียงจันทร์ แสงฉาย ไร้มัวหม่น ไม่เหมือนคน ที่โศกศัลย์ เหงาหงอย คอยเพียงวัน ที่คู่ขวัญ นั้นหวนคืน... .... จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 53 16:10:38

ความคิดเห็นที่ 27   แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 53 08:06:22 จากคุณ : มังกรสมุทร เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 53 09:35:51

ความคิดเห็นที่ 28 ดวงดาวไสว.........................สาดส่องดวงใจ เหมือนแจ้งคำไข...................อ่อนไหวอ่อนล้า คนเหงาเดียวดาย..................ใต้แสงดารา นั่งซับน้ำตา...........................คราดาวประกาย เพียงอยากรู้ว่า......................ดวงดาวพราวฟ้า เหงาไหมบางครา..................อุราเดียวดาย ขาดคนห่วงหา .....................ดาราใจหาย โศกเศร้าวุ่นวาย.....................บ้างไหมดวงดาว ส่องแสงวับไหว......................ปลั่งเปล่งไฉไล มองเห็นแสนไกล....................ในเวหาหาว ห้วงฟ้าราตรี...........................มีแสงแวววาว เธอคงไม่เหงา.........................นะเจ้าดารา คงไม่เหมือนฉัน......................คงได้แต่ฝัน เพราะไม่มีวัน.........................เป็นจริงสักครา เศษดินถูกย่ำ.........................ทำให้ปวดปร่า โศกเศร้าโศกา........................จึงมาอ้อนดาว/... สวัสดีค่ะ คุณ มังกรสมุทร ขอบคุณ มากค่ะ ที่แวะ มาเยี่ยม สุ อีก . จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 53 11:16:34