Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มะขามเทศ  

ผมตัดสินใจว่าต่อไปนี้ ผมจะทำกับข้าวกินเอง

เรื่องของเรื่อง มันเริ่มมาจากจู่ ๆ วันหนึ่ง ร้านกับข้าวถุงเจ้าประจำที่ผมไปซื้ออยู่
เรื่อย ๆ ทุกเย็นก็พูดกับผมว่า ขอขึ้นราคาหน่อยนะ เพราะเดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็แพง
ขึ้นไปหมด เลยต้องขึ้นราคา จากกับข้าวที่เคยขายถุงละสิบห้า ขยับขึ้นไปเป็น
ถุงละยี่สิบบาทโดยที่ปริมาณและรสชาดยังคงเดิม

พอเห็นราคากับข้าวถุงที่แพงขึ้น ผมก็เลยเริ่มคิด ทำไมของถึงได้แพงอุบาทว์
อุบายนักฟะ น้ำมันแพงเรอะ มันก็ใช่อยู่ที่น้ำมันแพง แต่ไอ้การที่ขึ้นราคาของ
โดยที่ปริมาณคงเดิมนี่มันก็ทำใจรับไม่ค่อยไหว เกิดความรู้สึกต่อต้าน พาลให้
ไม่อยากจะซื้ออีก พอยิ่งคิด สมองก็หลงทางไปสู่การคำนวณทางเศรษฐศาสตร์
ประเมินความคุ้มค่า ประเมินทางเลือก เข้าป่าเข้าดงไปเรื่อยเปื่อย จนในที่สุด
ความคิดก็ตกผลึก

ทำกินเองดีกว่า

พอกันทีกับการซื้อกับข้าวกิน ทำกินเองดีกว่า ว่าแล้วผมก็เลิกซื้อกับข้าวถุง มุ่ง
หน้าไปตลาดไปหาซื้อผักสด เนื้อ เครื่องเทศ เครื่องปรุงรสต่าง ๆ มาปรุงอาหาร
กินเอง ทำ ๆ ไปมั่ว ๆ ตามประสาลูกผู้ชาย แต่ถึงจะทำมั่ว ๆ รสชาดก็ไม่ได้ต่าง
จากซื้อเขากินเท่าไร เนี่ยถ้าผมพัฒนาฝีมือไปเรื่อย ๆ เผลอ ๆ อร่อยกว่าอีก

แต่ถึงจะเลิกซื้อเขากิน หันมาจะทำกินเอง ก็ยังคงมีเรื่องให้ขัดใจอยู่ ก็เพราะพอ
ไปซื้อของ พวกผักต่าง ๆ ก็ขายแพงเหมือนกัน อย่างหอมกำเล็ก ๆ ก็ตกกำละ
ห้าบาท ผักกาดถุงละสิบ โดยเฉพาะตำลึง มัดเล็ก ๆ แต่ก็ขายห้าบาท ต้องซื้อมา
อย่างน้อยสองมัดถึงจะพอผัดกิน

เห็นราคาของอย่างนั้น ก็รู้สึกไม่พอใจนิด ๆ

จำได้ชัดว่าในสมัยเด็ก ผมเคยไปเก็บตำลึงที่ขึ้นพันต้นฝรั่งที่บ้าน มีให้เก็บมาก
มายไม่หวาดไม่ไหว เมนูอาหารที่บ้านผมจึงมักจะประกอบด้วยตำลึงอยู่เสมอ ๆ
นอกจากตำลึงแล้ว บ้านผมก็ยังปลูกพวกฟอม กระเทียม กระเพรา กินเอง ข่า
ตะไคร้ ก็ไปขุดไปตัดเอามากิน

ไม่เคยซื้อกินสักครั้ง

เฮ้อ ถอนเห็นใจเล็กน้อย ที่ต้องมาซื้อเขากิน แต่ก็พอเข้าใจอยู่ว่า เวลาผ่านไป
อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไป สังคมกว้างใหญ่ขึ้น การแตกแขนงอาชีพก็มากขึ้น คนเรา
เลยสามารถเลือกไปประกอบอาชีพอื่น ๆ ได้มากมาย ไม่จำเป็นต้องมาทำนา
ปลูกผักขายอย่างเดียว และพอไม่ได้ปลูกผักเอง ก็ซื้อเขากินเอา

เรื่องธรรมดา ๆ

และวันนี้ก็เหมือนทุกวัน ผมออกมาซื้อกับข้าวที่ตลาด พอซื้อเสร็จ ก็หิ้วสาระพัน
เครื่องกินที่ซื้อมากลับหอ แต่ก่อนจะเดินพ้นตลาด ผมก็เห็นยายคนหนึ่งนั่งขาย
ของอยู่ ผมเลยหยุดมองแผงของแก ดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

แผงของยายมีแต่พวกผัก ผลไม้ ที่พื้นเมืองมาก ๆ ผักอะไรซักอย่างจำชื่อไม่
ได้แต่ก็เคยกินตอนเด็ก ถูกมัดเป็นกำด้วยยางรัด ย่านางเถาใหญ่ เถาหมาน้อย
ที่จำได้เลยว่า ต้อองขยำ ๆ ๆ อยู่นานกว่ามันจะเป็นวุ้นเจลาตินสีเขียวให้และอืน ๆ
อีกมากมาย ผมมองอย่างสนใจแต่ก็แค่สนใจเพราะไม่คิดจะซื้ออะไรอีก แต่พอ
จะหันหน้าหนีจากแผง ผมก็เจอสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจเข้า

มะขามเทศสุก ๆ แดง ๆ เขียว ๆ ปะปนกันในถุงพลาสติกใบหนึ่ง

ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ผมก็ตัดสินใจซื้อมะขามเทศถุงนั้น ซึ่งยายบอกว่าเหลือเป็น
ถุงสุดท้ายแล้ว พรุ่งนี้ก็ไม่มีมาขายอีกเพราะหมดหน้ามันแล้ว ผมพยักหน้าหงึก
หงักรับฟังแก คุยกับแกอีกนิดหน่อยก่อนจะเดินจากแผงของยาย

จำได้ว่าตอนเด็ก บ้านที่ผมอยู่เรียกได้ว่าชนบทเต็มกำลัง ไฟฟ้าเพิ่งเข้าได้ไม่กี่ปี
ถนนเป็นลูกรัง แถมหน้าฝน น้ำยังซัดซะถนนขาดเป็นช่วง ๆ ต้องใช้ต้นไม้ใหญ่
ต้นมะพร้าวมาพาดทำเป็นสะพายชั่วคราวพอให้รถเล่นไปได้

กันดารสุด ๆ

ด้วยความกันดารของมัน วัยเด็กในตอนนั้น ผมจึงไม่ได้กินขนมเลย ไม่มีเลย
ำอ้ที่เรียกว่าขนม จะได้กินก็แค่ตอนเดินทางเข้าอำเภอ แล้วแม่พาไปนั่งกิน
ลอดช่อง ไม่ก็รวมมิตรที่ตลาดเท่านั้น ดังนั้นเมื่อไม่มีขนมให้ซื้อกิน วัยเด็กของ
ผมจึงหมดไปกับการหาของกิน ซึ่งของกินส่วนใหญ่ก็ไม่พ้น มะขามบ้าง หว้าบ้าง
ฝรั่งขี้นก ลูกตะขบ ดูดดอกไม้กินน้ำหวาน สาระพัดสาระเพแล้วแต่จะมีให้กิน

มะขามเทศก็เป็นหนึ่งในนั้น

แต่มะขามเทศนี่จะพิเศษหน่อย เพราะมีให้กินแค่ช่วงหน้าหนาว แถมต้นมันก็ปีน
ยากเพราะมันมีหนาม ต้องใช้ไม้สอย ไม่ก็ปาไม้ให้ร่วง ถูกบ้างผิดบ้าง แถมบางที
ไม้ที่ปาก็ค้างอยู่ตามต้น ซวยหน่อยก็ปาเลยไปตกหลังคาบ้านที่อยู่ใกล้ กว่าจะได้
กิน เล่นเอาเหงื่อตก แต่ตอนนี้กำเงินไปแค่สิบบาทก็ได้กินแล้ว

ผมเดินกลับหอพร้อมกับแกะมะขามเทศออกจากฝักแล้วก็โยนเข้าปาก กินไป
พลางเดินไปพลางแล้วก็คิดไปพลาง

รสชาดของมะขามเทศมันอย่างนี้เองเหรอ

หวาน ๆ ปน ฝาด รสชาดก็ไม่ได้อร่อยเลิศเลอเหมือนผลไม้พันธุ์ดีที่ขายในท้อง
ตลาด รสชาดมันพื้นบ้าน เรียกได้ว่าถ้าจะกินเอารสชาดก็ไม่น่าจะซื้อมะขามเทศ
มากินเล่น แต่ที่ผมซื้อมา ก็เพราะนึกบางอย่างไม่ออก

รสชาดมะขามเทศเป็นยังไง

ตั้งแต่เข้ามาในเมือง ผมก็ไม่ได้กินมะขามเทศอีกเลย ผ่านมาสิบกว่าปี ผมจำไม่
ได้แล้วว่ารสขาดของมันเป็นยังไง จำไม่ได้จริง ๆ พอดีเห็นยายเขาวางขายก็เลย
ซื้อมาลองกินดู เพื่อให้ระลึกถึงรสชาดของมันได้

ทั้ง ๆ ที่ตอนเด็กยังเคยกินอยู่เสมอ ๆ แต่ตอนนี้กลับลืมรสของมันไป

คงเพราะการเวลาหมุนผ่านไป อะไรหลายอย่างก็เปลี่ยนไป คนเปลี่ยน สถานที่
เปลี่ยน สังคมเปลี่ยน วิถีเลยเปลี่ยนตาม บางสิ่งที่เคยทำ บางสิ่งที่เคยกินในสมัย
ตอนเด็ก ๆ ก็ไม่ได้ทำ ไม่ได้กินอีก พอนานเข้า ผมก็หลงลืมหลายสิ่งหลายอย่าง
ไป จนถึงกับต้องมารื้อฟื้อความทรงจำ

และจากนี้ไป ผมก็อาจจะข้ามผ่านและหลงลืมและสุดท้ายก็ต้องกลับมารื้อฟื้น
ความทรงจำอีกเช่นเดียวกัน

 
 

จากคุณ : garnet19th
เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 17:43:24




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com