ความคิดเห็นที่ 1 |
ลับด่านผ่านแดนมาได้ระยะหนึ่ง คนขับรถม้าจึงถูกนายของตนสั่งให้หยุดข้างทาง เด็กรับใช้ถูกสั่งให้รีบเข้ามา...พร้อมกับค้อนเล็กๆ ที่เขาซ่อนไว้กับตัว
สาวใช้ลุกยืน และยกเบาะที่นั่งของตนขึ้น เด็กรับใช้รี่เข้ามาหาพื้นไม้ใต้เบาะ แล้วงัดตะปูออกโดยเร็วทีละตัว จนกระทั่งยกไม้กระดานแผ่นนั้นขึ้นมาได้
เมื่อนั้นเอง ศีรษะที่ปกคลุมด้วยผมแดงยุ่งเหยิงจึงโผล่พรวดขึ้นหายใจเฮือก ใบหน้าแดงก่ำและชุ่มเหงื่อ จนคุณหญิงแมฟส่งผ้าเช็ดหน้าให้กับมือของตน
"เป็นอะไรหรือเปล่า รูอาร์ค" สาวใหญ่ถามอย่างห่วงใย
รูอาร์ครับผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อ
"ข้าว่าข้าเข้าใจความรู้สึกของคนโดนฝังทั้งเป็นแล้วล่ะ ดีที่ยังไม่ลงดิน...ตะกายฝาโลงจนกว่าจะตายคงทรมานพิลึก"
"ยังจะพูดเล่นอีก!" หญิงสาวเอ็ด "ก็รู้อยู่หรอกว่าอยากรีบไป แต่ถ้ารู้ว่ามันอันตรายถึงชีวิต...ก็อย่าเล่นอะไรแผลงๆ แบบนี้สิ!"
"ข้าไม่ได้เล่นนา พี่แมฟ เพราะต้องรีบต่างหาก ถึงได้ยอมเสี่ยง ขืนไม่ทันเจอคนที่ข้านัดไว้ โลกถล่มดินทลายแน่ๆ"
"งั้น ‘นาง’ คงเป็นคนที่สำคัญมากเลยสินะ" คุณหญิงแมฟเปรย "ถึงขั้นขอร้องให้ข้าช่วยให้ได้นี่ น่าอิจฉาจัง"
เด็กหนุ่มผมแดงเพียงส่งผ้าเช็ดหน้าคืนให้โดยไม่ตอบ ก่อนจะลุกจากช่องว่างใต้ที่วางเบาะออกมายืดเส้นสาย สาวใหญ่เจ้าของรถม้ารีบโบกมือสั่งเด็กรับใช้ชายให้ออกไปข้างนอกเพื่อเพิ่มที่ว่างทันควัน
หลังจากนั่งลงบนเบาะข้างเจ้าของรถม้า ตรงข้ามกับสาวใช้ที่ก้มหน้าเงียบเฉยเหมือนไร้ตัวตน รูอาร์คก็ปิดปากเงียบต่อไป ส่วนสาวใหญ่เคาะทำสัญญาณให้คนขับออกรถอีกครั้ง
เด็กหนุ่มคิดว่าควรปล่อยให้คุณหญิงลือชื่อผู้ยอมช่วยเขาด้วยความสิเนหาเชื่อไปก่อน ว่าคนที่เขาต้องรีบไปพบคือผู้หญิงอีกคน อย่างน้อยมันก็ดีกว่าบอกไปโต้งๆ ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ต้องสงสัยในฐานะฆาตกรฆ่าพี่ชายเขาเมื่อไม่กี่สิบวันที่ผ่านมา
"นี่...จริงจังกับนางมากหรือ" สาวใหญ่ตั้งคำถาม
เด็กหนุ่มไม่ยอมตอบด้วยคำพูด แต่สีหน้าเคร่งขรึมของเขาคงฟ้อง
"ต้องใช่สินะ ไม่อย่างนั้นจะยอมเสี่ยงตายไปทำไม แต่ข้าว่ารูอาร์คทำตัวลอยชายไปวันๆ ยังน่ารักน่าเอ็นดูกว่านี้แท้ๆ ถึงข้าจะอยากให้ใครสักคนยอมเสี่ยงตายปีนกำแพงมาหาข้า แบบในบทละครที่เจ้าชอบพูดถึงบ้างก็เถอะ”
“โธ่ พี่แมฟก็มีคนรักคอยทุ่มทุนเลี้ยงไม่อั้นอยู่แล้วนี่”
นัยน์ตาของอีกฝ่ายกลับฉายแววน้อยใจแวบหนึ่ง
“เขาทำแค่เพราะต้องการบางอย่างตอบแทนเท่านั้นล่ะ พอข้าหมดความสาวความสวย กลายเป็นผู้หญิงแก่ๆ หน้าเหี่ยว ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีใครมาใส่ใจอีกไหม ต่อให้ข้าไปนั่งขายดอกไม้อยู่ข้างถนน ก็คงจำกันไม่ได้แล้วกระมัง”
“พี่แมฟมีอะไรโดนใจคนอื่นมากกว่าความสาวความสวยอยู่แล้ว” รูอาร์คแย้ง “ข้าพูดจริงนะ”
“แต่ไม่โดนใจเจ้าน่ะสิ รูอาร์ค” สาวใหญ่เหลือบมองเขาอย่างมีเลศนัย “ถ้าไม่มีเรื่องสาวในดวงใจของเจ้าคนนี้ละก็ เจ้าคงไม่ยอมแม้แต่จะยืนหน้าประตูบ้านข้าด้วยซ้ำ”
เด็กหนุ่มยิ้มแห้งๆ
“ข้าก็บอกแล้ว ว่าไม่ให้พี่แมฟช่วยเปล่าๆ หรอก แต่จะตอบแทนให้ ท่านอยากไปเที่ยวที่ไหน หรือดูละครเรื่องอะไรล่ะ เดี๋ยวเราไปด้วยกัน ขอแค่ข้าเสร็จเรื่องคนที่นัดไว้ก่อน แล้วจะติดต่อไปอีกที”
ผู้ฟังโบกพัดขนนกอย่างกรีดกราย
“ข้าไม่ชอบไปไหนไกล รูอาร์คมาให้ข้าเลี้ยงอาหารค่ำที่บ้านสักมื้อก็พอแล้วล่ะ” เจ้าหล่อนว่าพลางค่อยๆ คลี่ยิ้มที่ทำให้เด็กหนุ่มสะกิดใจ “แต่ต้องค้างนะ”
รูอาร์คเม้มปาก แม้พอเดาไว้บ้างว่าคุณหญิงแมฟอาจเอ่ยปากเช่นนั้น
“ห้ามเปลี่ยน เพราะรูอาร์คเป็นคนบอกข้าเอง ว่าจะยอมทำทุกอย่างถ้าข้าช่วย เรื่องมาค้างสักคืนนี่ถือว่าเล็กน้อยมากไม่ใช่หรือ ยิ่งข้าได้ยินว่า...ปกติเจ้าก็ไม่อยู่ติดบ้านอยู่แล้วด้วย”
“ได้” เด็กหนุ่มยักไหล่ “สัญญาต้องเป็นสัญญา ไว้ข้าเสร็จเรื่องที่นี่ แล้วค่อยนัดวันกัน”
“ห้ามบิดพลิ้วนะจ๊ะ” คุณหญิงแมฟยิ้มอย่างอ่อนหวานอีกครั้ง (แต่คู่สัญญาคงอยากเรียกมันว่า ‘ยิ้มกินคน’ มากกว่า) “ข้าเชื่อว่ารูอาร์คจะไม่โกงข้านะ”
“แน่นอน” เด็กหนุ่มเอนพิงเบาะ หงายศีรษะขึ้นมองเพดานรถม้า “แต่ข้าขอนอนเอาแรงก่อนละ ถึงเมืองที่ใกล้ที่สุดแล้วปลุกด้วยนะ ถ้าไม่ได้ซื้อม้าในเมืองนั้นควบห้อไปหาคนที่นัดไว้พรุ่งนี้ ข้าอาจไม่มีชีวิตรอดไปนัดกับพี่แมฟอีกแล้ว ข้าพูดจริงๆ นะ”
“โถ...ถ้าผู้หญิงเขาน่ากลัวอย่างนั้น รูอาร์คก็ถอนตัวออกมาก่อนเถอะ อย่าเอาตัวเข้าถ้ำแม่มดไปให้นางฆ่าเลย เกิดอะไรขึ้นมา รูอาร์คจะพาใครอีกคนที่รักเจ้าสุดใจไปด้วยนะ”
รูอาร์คหัวเราะหึๆ ในคอกับคำออดอ้อน
“วางใจเถอะพี่แมฟ คนคนนั้นเขาไม่ใจร้ายเป็นแม่มดถึงขนาดฆ่าข้าหรอก ข้าสิจะฆ่าตัวตายเอง นี่อุตส่าห์ซื้อยาพิษจากนักปรุงยาเตรียมไว้ก่อนมาหาพี่แมฟอีกนะ เป็นยาพิษที่ ‘จักกระจายในสายโลหิตทั้งมวลโดยเร็ว จนผู้ดื่มยาอันหน่ายแล้วซึ่งชีวิตอาจล้มลงวางวาย สิ้นลมหายใจครัน ดุจดินปืนที่ถูกยิงให้พวยพุ่งจากปากกระบอกปืนใหญ่เทียว’”
“แล้วให้ข้ามาตัดพ้อว่า ‘โธ่เอ๋ย ท่านดื่มยาพิษเสียสิ้น ไม่เหลือทิ้งไว้ให้ข้าแม้เพียงหยด’ ให้ข้าจุมพิตเจ้าด้วยหวังว่าจะยังเหลือยาพิษค้างบนริมฝีปากให้ข้าตามไปได้บ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องใช้อกตัวเองเป็นฝักดาบแทนน่ะหรือ”
“พี่แมฟ ข้าว่าบทนั้นไม่เหมาะกับท่านหรอกนะ”
“แล้วบทไหนล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน บทนางกำนัลในตำนานแห่งเหมันต์กระมัง ข้าว่าท่านเหมาะกับบทผู้หญิงปากกล้าไม่ยอมใครแบบนั้นมากกว่า”
“อะไร้! ให้ข้าเป็นม่ายสามีถูกหมีกิน แล้วก็นั่งดูหนุ่มๆ สาวๆ เขาแต่งงานกันให้เจ็บใจนี่นะ”
“ตอนจบเรื่อง ท่านก็ได้สามีใหม่นี่นา เป็นคนดีที่ดูท่าจะหงอเมียเหมือนกันเสียด้วย” เด็กหนุ่มแกล้งหาวหวอด “ที่จริงก็อยากถกเรื่องบทละครต่อนะ แต่มันง่วงจริงๆ ขอนอนเอาแรงก่อนละ ราตรีสวัสดิ์”
ว่าแล้ว รูอาร์คก็แสร้งทำเป็นหลับตา และกรนคร่อกๆ คารถม้าในไม่ช้า
* * * * *
จากคุณ |
:
Anithin
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ส.ค. 53 09:35:35
|
|
|
|