ความคิดเห็นที่ 1 |
"กินเลือดข้าเถอะ" ชายหนุ่มบอก ยื่นมือไปใกล้ปากโคเวนอีกครั้ง "เลือดข้าไม่มีพิษหรอก"
เมื่อชาวชามูลืมตาขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ นัคทาก็ฝืนยิ้มจาง ๆ
"ส่วนหนึ่งก็เพราะข้าเป็นหัวหน้าน่ะนะ ถ้าหากใครสักคนต้องยอมตัวเป็นคนให้อาหารพวกชามู แต่ขณะเดียวกันก็สามารถควบคุมปริมาณเลือดที่จะให้และปกป้องตัวเองได้ คนนั้นก็ควรเป็นหัวหน้าไม่ใช่หรือไง อย่างน้อยก็จนกว่าจะวางระบบให้ดีกว่านี้" เขาเบือนหน้าไปอีกทางหนึ่ง "อีกส่วนก็มี...ข้าชอบฝันร้าย ข้าฝันว่าให้เลือดเจ้า แล้วเจ้าก็อาเจียนออกมา ข้าตกใจแต่รักษาเจ้าไม่ได้ ไม่มีเลือดดี ๆ จะให้ เจ้าอาเจียนจนตาย"
...ตายแล้วอย่างไร เจ้าก็พยายามจะฆ่าข้ามาหลายครั้งแล้ว...โคเวนนึกในใจ แต่ไม่รู้ทำไม เขากลับรู้สึกได้ว่านัคทาพูดจริง
"ข้า...ยังไม่ได้คิดจะฆ่าเจ้าด้วยเลือดพิษ อาจจะเป็นแผนของคนอื่นที่รับผิดชอบ อาจจะเป็นความบังเอิญ ข้าไม่รู้ด้วยว่าเจ้ามีลูกสาว ข้าก็มีลูกสาวเหมือนกัน"
เขายื่นมือ พยายามจะให้โคเวนกินเลือด
"กินเถอะ กินให้มีกำลังสักหน่อย ข้าจะขุดเจ้าออกมาเอง เรายังไม่ต้องฆ่ากันหรอก เราจะออกไปได้ ออกไปได้แล้วค่อยฆ่ากัน ออกไปได้แล้วค่อยนึกถึงความจริง"
ชาวชามูนิ่งเงียบพักใหญ่ แต่สุดท้ายเขาก็กลืนเลือดนัคทาไปหลายคำ
...
นัคทายังคงพยายามขุดอยู่ เขาแข่งกับเวลาโดยแท้ เลือดของโคเวนไม่หยุดไหล ไม่ว่าให้กินเลือดเพิ่มเติมเท่าไรก็แทบเหมือนเทน้ำลงในภาชนะรั่ว ในที่สุดโคเวนเองยังบอกว่าเจ้าให้เลือดข้าตลอดเวลาฝ่ายเดียวไม่ได้ ให้ข้าให้พลังเจ้า ให้พลังแล้วเจ้าจะทำอะไรก็ทำ จะได้มีกำลัง นัคทาได้ยินอย่างนั้นจึงค่อยยอมแตะตัวเขา สุดท้ายถ่ายเทพลังและให้เลือดกันไปมาเช่นนี้ นัคทาจึงสามารถเคลื่อนย้ายของที่ตกลงมาทับออกได้พอสมควร เขาดึงเหล็กเส้นสามเส้นออกจากร่างกายของโคเวนหลังจากนั้นประมาณเกือบชั่วโมง ชาวชามูเจ็บปวดแทบสิ้นสติ แต่ก็ยืนยันว่าเป็นวิธีที่ถูกแล้ว เมื่อนัคทาให้เลือดอีกแผลของเขาจึงสมาน แต่ดูเหมือนร่างกายก็ยังต้องใช้เวลาฟื้นตัว
"ข้าต้องพักแล้ว ไม่มีแรงเหลือสักนิดเดียว" นัคทาบอก ทรุดนั่งลงข้าง ๆ มองไปยังโคเวนที่ยังถูกทับตรงส่วนขา "เจ้ายังไหวใช่ไหม"
"อืม" อีกฝ่ายรับในคอ "ต้องการพลังไหม"
"ไม่...เจ้าเล่า ต้องการเลือดไหม" ชาวอิยาถามกลับ
"ไม่เป็นไร" โคเวนบอก "แต่ขาข้าอาจจะหักแล้ว..."
"ข้าจะดูว่าในฐานมีอะไรใช้ทำรถเข็นได้ไหม หากไม่มีข้าจะแบกเจ้าไปเอง" นัคทาชันเข่าขึ้นกอดไว้ "อย่าห่วงไป ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการแบกชาวบ้านเดินในอุโมงค์หรอก...แบกพ่อหนีชามูอยู่หลายปี"
นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาพูดกึ่งเล่นกึ่งจริงในรอบหลายเดือนนี้ ไม่สิ อาจจะหลายปีก็ได้ ยามเป็นท่านนัคทาแห่งอิยาจะแสดงตัวไม่จริงจังได้อย่างไร ชายหนุ่มเหลือบมองโคเวนหน่อยหนึ่ง ในแสงสลัวเขาเห็นชาวชามูหลับตา เมื่อครู่ตอนที่โคเวนบอกว่าจะให้เขากิน นัคทาเพิ่งทราบว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรกันแน่ น่าแปลก เขาคิดมาตลอดว่าโคเวนตั้งใจให้อิยากลับเป็นทาสอีกครั้ง ที่จริงโคเวนก็อาจจะคิดอย่างนั้นจริง ๆ ก็ได้ แต่นัคทาไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะยังคำนึงถึงความเมตตากรุณา เขาคิดว่าตนก่อความแค้นไว้มากเกินกว่าจะเป็นเช่นนั้นได้แล้ว
โคเวนยังเป็นโคเวน
"เจ้าทำอะไรกับเลือดหรือเปล่า นัคทา" ชาวชามูถามในความมืด
"เปล่านี่" อีกฝ่ายแปลกใจที่จู่ ๆ ถูกถามเช่นนั้น "ทำไมหรือ"
"แปลก..." โคเวนพึมพำ "ข้ารู้สึกเหมือนร่างกายจะรับเลือดเจ้าได้ง่ายกว่าทุกอย่างที่กินมาตลอดเวลานี้"
"มันแปลว่าอะไร"
"แปลว่าเลือดของเจ้าแปลงเป็นพลังได้ไวและง่าย แต่ก็นั่นละ หลายปีนี้ข้ากินมากเกินไป อาจจะมีพลังส่วนเกินมากจนระบบทำงานไม่ค่อยสมบูรณ์"
นัคทายักไหล่
"พลังของเจ้าก็แปลกดีเหมือนกัน" เขาว่า "ข้าไม่เคยเจออะไรอย่างนี้มาก่อน แค่ได้พลังก็ไม่ต้องกินข้าวกินน้ำ แทบไม่ต้องนอน ไม่ต้องสัมผัสพื้นดินไม่ต้องมีแสงอาทิตย์หรือต้นไม้ ที่จริง..." เขาชะงัก เงียบเสียง ได้แต่พูดในใจ...ที่จริงหากอิยาสามารถได้พลังจากชามูมากพอก็อาจแทบกลายเป็นอมตะไม่รู้จักตาย เป็นเทพเจ้าเช่นกัน
"ไม่ใช่ไม่เคยเจอ เจ้าเคยได้รับพลังของข้าแล้ว แต่ตอนนั้นสิ้นสติไป" โคเวนพูด "เมื่อตอนเจ้ากลายร่างเป็นหมาป่า ข้าเห็นเจ้าเป็นอย่างนั้นก็ตกใจ ข้าไม่รู้จักยาของอิยาสักอย่างจึงพยายามรักษาอย่างชามู ตอนนั้นข้าเพิ่งกินเลือดเต็มอิ่มในรอบหลายปี ก็มีพลังให้เจ้าพอสมควร"
"...อย่างนั้นหรือ" นัคทารับหลังจากเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะนึกได้ "เพราะอย่างนั้นหรือเปล่า ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของข้าจึงสั้นกว่าคนอื่นมาก" ครั้นโคเวนทำเสียงไม่เข้าใจ ชายหนุ่มก็อธิบายต่อไป "ข้าเป็นหมาป่าสมบูรณ์ในเวลาไม่ถึงวัน แต่คนอื่นทุกคนล้วนนานกว่าข้า บางคนก็หลายวัน ทรมานกว่าหลายเท่า ที่จริง...พลังของข้าก็มากและหลากหลายกว่าคนพวกนั้นด้วย"
"อย่างนั้นหรือ"
พวกเขายังคงพูดอะไรกันอีกหลายอย่าง บทสนทนาแลกเปลี่ยนเข้าแทนที่ความเงียบซึ่งเคยคงอยู่นานแสนนาน หัวข้อสนทนายังอ้อมค้อม เลี่ยงเรื่องบางเรื่องไปราวกับมีข้อตกลงโดยปราศจากคำพูด ทั้งคู่ต่างเหนื่อยจนสิ้นความปรารถนาจะเสียดสีโทษว่า ทวงถามความเป็นธรรม หรือพูดถึงความแค้นอีกแล้ว
"โคเวน"
"หือ"
"เมื่อออกไปได้เราจะรบกันเหมือนเดิม แต่ข้าจะให้เลือดลูกสาวเจ้า เธอจะไม่ตาย เรื่องนี้ข้าสัญญาได้ และจะไม่ทวนคำ" นัคทาเอนร่างลงนอน "ราตรีสวัสดิ์นะโคเวน"
"ขอบคุณ ราตรีสวัสดิ์นัคทา"
นั่นเป็นการพักนอนครั้งแรกที่เขาไม่ได้ผูกมือเข้าด้วยกัน
เมื่อตื่นอีกครั้งนัคทาก็รื้อซากสิ่งของที่ทับขาโคเวนอยู่ เขาดึงร่างชาวชามูออกมาจนได้ แต่เพราะกระดูกขาหักเป็นท่อน ๆ และไม่มีอุปกรณ์พอจะดัดแปลงเป็นรถเข็น นัคทาจึงตัดสินใจแบกไป "เจ้าก็คงไม่ได้หนักกว่าพ่อข้าเท่าไรนักหรอก" ชายหนุ่มบอก ยักไหล่ "อย่าคิดมากอะไรเลย ข้าก็ยังต้องการพลังของเจ้าอยู่ ข้ายังไม่อยากตาย"
"หากต้องการพลังก็บอกข้า" โคเวนตอบ
"หากต้องการเลือดก็บอกข้า" นัคทาแกล้งย้อนคำกึ่งเล่นกึ่งจริง "เออ...เข้าทีดีไม่ใช่หรือ ประกอบร่างกันเป็นเครื่องจักรสมบูรณ์ในตัวพอดี ให้พลังงานกันเองได้ แทบไม่มีอะไรเป็นของเสียเหลือทิ้งเลย"
ชายหนุ่มชะงักกับถ้อยคำดังกล่าวนิดหนึ่ง ราวนึกอะไรขึ้นได้ แต่ชั่ววินาทีเขาก็รู้สึกว่าไม่มีเวลาจะมามัวครุ่นคิดอ้อยอิ่งอีกต่อไป ดังนั้นจึงแบกร่างโคเวนขึ้น...โคเวนหนักกว่าพ่อของเขาไม่มากจริง ๆ น่าขอบคุณที่ชามูเป็นเผ่าร่างเล็กกระดูกเล็กเช่นนี้เอง
"เอ้า ออกเดินทาง"
เมื่อข้ามไปอีกฝั่งของฐานใต้ดินก็พบอุโมงค์มืดมิดทอดยาวออกไป มีร่องรอยเสียหายมากกว่าช่วงแรกที่ผ่านมามาก คล้ายกับมีใครพยายามทำลายจนผนังเป็นรอยสึกกร่อนและไฟเทียมแตกทุกดวง แต่น่าเสียดายที่ท่อโลหะไม่ได้ปริจนรากไม้หรือดินสามารถตกทะลุลงมา นัคทาจึงยังคงขาดพลังที่เขาควรได้จากธรรมชาติต่อไป
"ดูเหมือนไม่ใช่แรงระเบิดเคมี" โคเวนพึมพำเมื่อพิจารณาร่องรอยเหล่านั้นใกล้ ๆ "ดูเหมือนคลื่นความร้อนหรือคลื่นพลังอย่างอื่น หากไม่ใช่อาวุธแบบที่กระจายพลังแบบนี้ ก็อาจเป็นพลังของอิยาหรือชามู"
"บางทีระเบิดนั่นอาจวางดักไว้สำหรับใครก็ตามที่จะมาทำลายฐาน...แต่ก็ดีแล้ว แสดงว่ามีทางเข้าได้อีกทาง"
"ถ้าหากคนที่เข้ามาจากอีกทางพยายามทำลายฐานจริง แสดงว่าเขาไม่ต้องการให้ฐานคงอยู่ อีกทางนั้นอาจถูกปิดตาย"
"ไม่หรอก ในเมื่อยังมีอากาศอยู่ ไม่อับจากกลายสภาพเป็นพิษแสดงว่ามันต้องยังพอมีช่องถ่ายเทได้"
บทสนทนาดำเนินต่อไปราวกับความเงียบกลายเป็นของน่ากลัว แน่นอนว่าไม่อาจสนิทสนมดังหลายปีก่อนได้ นัคทาชั่งใจครั้งแล้วครั้งเล่า เขาควรจะกล่าวคำขอโทษดีไหมในระหว่างที่นัคทาแห่งอิยาไม่อยู่เช่นนี้ แต่ชายหนุ่มก็รู้ดีว่าคำขอโทษเป็นสิ่งกลวงเปล่าปราศจากความหมาย ทุกอย่างร้ายแรงเกินเพียงขอโทษแล้ว อีกอย่างเมื่อออกไปได้ เมื่อนัคทาแห่งอิยากลับมา สถานการณ์ย่อมกลายเป็นดังเดิมอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ โคเวนก็เห็นแล้วว่าเขาเป็นคนกลับกลอกอย่างไร จะให้เห็นมากกว่านี้ไปทำไม
"ข้าอยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในอุโมงนี้ ถ้าหากสามารถเข้าใจได้ด้วยเทคโนโลยีหรือวิธีการทางโบราณคดีใด อาจจะได้รู้ประวัติศาสตร์จริง ๆ" โคเวนเอ่ยขึ้นมา
"ถ้าหากมีประวัติศาสตร์จริง ๆ พวกชามูอื่น ๆ จะรับได้ไหม"
"ตอนแรกก็คงรับไม่ได้ แต่ที่จริงในใจของเราเต็มไปด้วยกำแพงมากมาย ทุกคนต่างคิดว่ากำแพงข้ามไม่ได้จนชิน ยามกำแพงทลายต่อหน้าย่อมตกใจ...อาจพาลโกรธแค้นคนที่ทำลายความมั่นคงนั้นด้วย แต่เมื่อเวลาผ่านไปคนที่กล้าหาญจะผ่านซากกำแพงไปได้ คนที่กล้าหาญจะมีชีวิตต่อไป อะไร ๆ ก็จะเปลี่ยนแปลง" โคเวนนิ่งไปพักหนึ่ง "เจ้าเองเที่ยวไปบอกอิยาอื่น ๆ ว่าชามูไม่ใช่เทพเจ้า หลายปีนี้ก็คงลำบากมากใช่ไหมเล่า"
...ยังเดาได้แม่นเหมือนเดิม...นัคทานึกในใจ
พวกเขาก็ยังคงแลกเปลี่ยนเลือดและพลังครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งจำไม่ได้และนึกไม่ออกว่าอะไรเคยเป็นอะไรกันแน่ ไก่เกิดก่อนไข่หรือไข่เกิดก่อนไก่ พลังของชามูกลายเป็นโลหิตของอิยา หรือว่าโลหิตของอิยากลายเป็นพลังของชามู เลือดเนื้อนั้นเกิดจากที่ไหนกัน บ่อยครั้งจนจำไม่ได้แล้วว่าให้กันและกันเพราะต้องการอยู่รอด หรือเพราะไม่ต้องการให้อีกฝ่ายตาย หรือเพราะทั้งสองอย่าง หรือเพียงเพราะชาจนแทบนึกอะไรไม่ออกอีกต่อไป
จากคุณ |
:
ลวิตร์
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ส.ค. 53 11:22:43
|
|
|
|