* รั ก นี้ ( ไ ม่ ) มี เ ว ท ย์ ม น ต์ : บ ท ที่ 5 *
|
|
วันที่สามของการอยู่บ้านเป็นวันที่ปันนารู้เลยว่าอารมณ์อยากชักดิ้นชักงอเป็นอย่างไร ความรู้สึกนึกคิดหล่อนตอนนี้มันกระจายไปทั่ว ทั้งอยากกลับ เพราะคิดถึงร่างสูงๆ เจ้าของดวงตาพราว คนที่มักจะอมยิ้มมองเห็นไรหนวดเขียวๆ ที่ทำให้หัวใจสั่นไหว ชวนให้สงสัยว่าทำไมหนุ่มหน้าขาวใสอย่างเขาไปเอาหนวดเครามาจากไหนมากมายให้ขึ้นเขียวครึ้มแบบนั้น... ทั้งไม่อยากกลับเพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
งานเอาท์ติ้งของออฟฟิศหล่อนจะจัดขึ้นหลังวันหยุดยาวนี้เพียงไม่กี่วัน... และปันนารู้มาว่านิศมาจะ ให้เกียรติ กับแอฟพอสต้าด้วยการร่วมเดินทางไปกับชาวคณะ
อีกสิ่งที่รบกวนจิตใจปันนามาตลอดวันหยุดที่ผ่านมาคือ คาถาพันใจ แม้จะตัดใจแล้วว่าหล่อนคงไม่มีวาสนาได้ตรัยมาครอบครอง.. หากคาถาพันใจ ก็ดูเป็นสิ่งที่วนเวียนในความคิดไม่รู้จบ ก่อให้เกิดคลื่นความรู้สึกต่างๆ วุ่นวายภายใน.. อยากได้... ไม่กล้าได้... อยากเสี่ยง.. ไม่กล้าเสี่ยง... เป็นคำถามที่ปันนาหาทางออกไม่ได้ จึงได้แต่แอบดีใจปนเศร้าใจที่วันหยุดครั้งนี้กำลังจะจบไปเสียที
ป้าน้อยมาแน่ะปัน
ทันทีที่สิ้นเสียงบอก ปันนาที่นอนทอดอาลัยอยู่บนโซฟาก็กระโดดเด้งดึ๋งขึ้นมา... ป้าน้อยเป็นพี่สาวคนเล็กของแม่ และการที่ป้าน้อยมาในวันนี้ เหมือนมาโปรดหลานที่กำลังจะตายเลยทีเดียว.. เพราะพลังพิเศษของป้าน้อยคือญาณการมองเห็นอดีตอนาคต... ยิ่งหากเป็นคนในครอบครัวที่ได้รับการถ่ายทอดพรสวรรค์มาด้วยแล้ว ก็สามารถเรียกป้าน้อยว่า หมอดูตาทิพย์ ตามฉายาได้อย่างเต็มปากเลยทีเดียว
ว่าไงยัยปัน ร่างบางวิ่งไปกอดร่างอ้วนกลมของป้าเอาไว้แน่นๆ
คิดถึงป้าน้อยจังเลยค่ะ
หมอดูตาทิพย์กอดร่างเล็กๆ ที่หล่อนติเสมอว่าผอมไปก่อนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี มีเรื่องกวนใจ อยากให้ป้าช่วยล่ะสิ
ปันนาหัวเราะแหะแหะ คร้านที่จะตอบว่าไม่ เพราะรู้ดีว่านั่งอยู่ต่อหน้าใคร
มีเคราะห์เรื่องความรักนะเรา วิบากกรรมตามมา คราวนี้หนักหนาเหมือนกัน ตั้งสติเอาไว้ให้ดี ประโยคแรกปันนาก็เหมือนโดนหมัดเด็ด
ระวังของที่อยากได้เอาไว้นะ... ถ้าอยากได้ของที่ไม่ใช่ของๆ เรา ได้มาแล้วจะต้องเดือดเนื้อร้อนใจ ได้มาแล้วก็จะเสียบางอย่างไป
นั่นไง... ตรงที่กังวลเป๊ะเลย... ปันนาเคยอยากเลือกมีพลังดูดวงแบบนี้ อย่างน้อยก็น่าจะได้ใช้ประโยชน์มากกว่าที่จะเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือเรียกลมฝนอย่างที่เป็น... ลมฝน สมัยนี้แล้วใครจะไปอยากได้ ส่วนไอ้เรื่องเคลื่อนย้ายของ ใครๆ ก็ทำกัน มันเป็นเวทย์มนต์แบบพื้นฐานสุดๆ... แต่นั่นแหละ อย่างกับหล่อนเลือกได้ กว่าจะได้เท่านี้ แม่ก็เคี่ยวเข็ญเสียจนหล่อนปวดหัวจะตีกันตายตั้งหลายร้อยรอบ
แล้วพ่อแม่ละคะ ถึงจะเป็นป้าแท้ๆ แต่คำถามที่ไว้ถามหมอดูก็เหมือนจะเป็นมาตรฐานสากล
โอ๊ย.. ไม่ต้องห่วงเค้าสองคนสบายจะตาย ตั้งแต่อายุเลยสี่สิบเป็นต้นไปก็ดวงดี อยู่กันสบายๆ ไร้กังวลไปจนตายแหละ ป้าน้อยหัวเราะร่วน
ประโยคดังกล่าวทำให้แววตาปันนาสว่างไสวขึ้นไปอีก กับคนอื่นป้าน้อยเป็นหมอดูตาทิพย์ได้เพราะทายอนาคตได้กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้ากับปรางทิพย์ที่เป็นน้องแท้ๆ สิ่งป้าน้อยทายนั้นไม่เคยผิดเลย ดังนั้นปันนาจึงหมดกังวลได้ว่าผลกระทบจากการกระทำของหล่อนจะไปตกลงที่พ่อกับแม่
สีหน้าหลานสาวทำให้ป้าน้อยหน้าเคร่งขึ้น มีแต่เรานี่แหละที่ต้องระวังจะทำตัวเองเดือดร้อน พ่อแม่เขาไม่เดือดร้อนตัว แต่จะเดือดร้อนกลุ้มใจก็เพราะเรานี่แหละ
หญิงสาวยิ้มกว้างรับคำเตือนนั้น หากในใจคิดแล้วว่าหล่อนจะทำอย่างไรต่อไป
ป้าน้อยว่าปันน่าจะฝึกเวทย์มนต์อะไรเพิ่มอีกหน่อไหมคะ? ปันนาทำเสียงประจบ ไม่กล้าถามตรงๆ เรื่องคาถาพันใจ... ใครๆ ก็รู้ คาถาแบบนี้ไม่สมควรใช้ ต่อให้เป็นแม่มดเก่งๆ ยังพลาดได้ แล้วแม่มดไก่กา ชนิดว่าคาถาลิงเป็นหมาแบบหล่อน มีหวังแม่กับป้าอกแตกตายแน่
มีเงามืดคลุมแบบนี้ป้าว่าอย่าเพิ่งดีกว่า เดี๋ยวเกิดพลาดขึ้นมาไม่คุ้มนะเรา ว่าแล้วป้าน้อยก็ถอนใจ ช่วงไหนว่างๆ ไปเข้าวัดวิปัสสนากับหลวงปู่บ้างก็ดีนะ อย่ามัวแต่ไปหลงโลก จมอยู่กับกิเลส จะเอาตัวไม่รอดเอา ปันกำลังจะเจอเวลากรรมตามจริงๆ
ป้าน้อยทำท่าเหมือนพยายามเพ่งดูอะไรบางอย่าง เพียงชั่วครู่ก็ส่ายหัวอย่างจนใจ ป้าก็อยากช่วย แต่อะไรๆ มันก็บังตาไปหมด... ลองแบบนี้เรื่องใหญ่นะลูก... ปันต้องตั้งสติให้ดีนะ จำไว้ อย่าทำอะไรตามใจกิเลส หนูจะผ่านไปได้
ปันนายิ้มแหย คำพูดนั้นคล้ายกับสะกิดเข้ากับความกังวลพอดี หากหญิงสาวพยายามผลักดันความคิดนั้นออกไปจากหัว แล้วปลุกปลอบใจตนเอง ...หล่อนแค่ เตรียมการ เผื่อไว้เฉยๆ... ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะทำแน่ๆ เสียหน่อยนี่นา...
(มีต่อค่ะ)
| จากคุณ |
:
P_JUNG_PIGLET
|
| เขียนเมื่อ |
:
4 ก.ย. 53 09:47:06
|
|
|
|