Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
รัก-ลวง-พราง (รีไรท์) : บทที่ 8  

บทที่ 1 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9449698/W9449698.html
บทที่ 2 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9476885/W9476885.html
บทที่ 3 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9501208/W9501208.html
บทที่ 4 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9527679/W9527679.html
บทที่ 5 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9546460/W9546460.html
บทที่ 6 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9574037/W9574037.html
บทที่ 7 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9625063/W9625063.html

-------------------------------------------------------------------------------------------


บทที่ 8

“สรุปแล้ว น้องน้ำค้างตายเพราะมีเศษอาหารเข้าไปอุดในหลอดลม” กฤษฎีกระซิบกับซอมพอเบา ๆ พอให้ได้ยินกันเพียงสองคนระหว่างนั่งลงบนเก้าอี้ติดหลังกลับจากเข้าไปทักทายทิวากรซึ่งเป็นเจ้าภาพงานศพแล้ว “ตอนนี้ งานพี่จบแล้ว ที่เหลือเป็นงานของณตที่จะสืบต่อว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”

แม้จะพูดว่างานในฐานะแพทย์นิติเวชของตนหมดลงเพียงเท่านี้ หากผู้ช่วยบรรณาธิการสาวก็ดูออกว่า เพื่อนรุ่นพี่ของญาติเธอยังติดใจกับเรื่องผลการชันสูตร

ถึงจะปากร้าย ใจร้อน และมีอารมณ์ขันที่ติดจะแผลง ๆ อยู่บ้าง หากในเวลาทำงานและทุกครั้งที่พูดถึงงาน ถ้อยคำ น้ำเสียง สายตาของเขาทำให้เธอรู้สึกถึงความเอาใจใส่และความสำนึกในวิชาชีพ ในฐานะหนึ่งในบรรดาแพทย์นิติเวชจำนวนเพียงร้อยคนเศษที่มีอยู่ทั้งประเทศได้ชัดเจน

แววตาหลังเลนส์กระจกที่มักจ้องมองคนที่ขัดขวางการทำงานของตนอย่างเอาเรื่อง ยามนี้กลับหม่นแสงลงเมื่อเหม่อมองยังรูปภาพของเด็กน้อยซึ่งตั้งอยู่หน้าศพ... เธอเดาจากสีหน้าที่ไม่เคยปิดบังความรู้สึกของตนเองของเขาได้ว่า ภาพที่อยู่ในความคิดของเขาตอนนี้ คือ ภาพขณะลงมือผ่าร่างเล็ก ๆ นั้นกับมือ และท่าทางอย่างนั้นของเขาก็ทำให้เธอเกือบเอามือไปวางบนเข่าของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เพื่อปลอบใจ หากชะงักมือไว้ทัน ก่อนหันไปรับน้ำดื่มที่ญาติของทิวากรนำมาบริการให้ พร้อมตอบขอบคุณ จากนั้นก็ยื่นแก้วน้ำส่งให้คนข้างตัวรับไปดื่ม  

เธอกวาดตามองบรรยากาศโดยรอบศาลาตั้งศพ ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ  แม้จะใกล้เวลาที่จะเริ่มพิธี หากประเมินด้วยสายตาแล้ว แขกที่มาร่วมงานไม่น่าจะเกินห้าสิบ โดยมากเป็นญาติข้างทิวากรซึ่งมีไม่มากนัก นอกนั้นก็เป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยของสองสามีภรรยา และไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่พบเห็นญาติข้างนารา เนื่องด้วยเธอดูแลตัวเองมาตั้งแต่อายุยังน้อย ปัจจุบัน ญาติส่วนใหญ่ก็อยู่ในต่างประเทศกลับมาไม่ทันงานศพที่เกิดขึ้นอย่างฉุกละหุกและมีกำหนดตั้งศพบำเพ็ญกุศลไม่นาน

ถึงจะยังยิ้มทักทายแขกเหรื่อที่มาร่วมงานและแสดงความเสียใจได้ หากแววตาไร้ชีวิตชีวา และท่าทางที่ปราศจากความกระฉับกระเฉงจนผิดไปจากกราฟิกดีไซเนอร์คนเดิมที่เธอเคยรู้จัก ทำให้เธอนึกเวทนาชะตารุ่นพี่ที่สนิททั้งสองจับใจ และเมื่อยิ่งนึกถึงสาเหตุหนึ่งที่ผลักดันทั้งสองให้มาอยู่ ณ จุดนี้อย่างปรเมศวร์ เธอก็ยิ่งขุ่นใจ

ใครเลยจะคิดว่าผู้ชายร่างใหญ่ที่เป็นคู่รักแสนอบอุ่น และใจดีของหญิงสาวตัวเล็กแบบบางและอ่อนหวานอย่างนารา ซึ่งใครต่อใครต่างออกปากว่าทั้งคู่เหมาะสมกันราวกับถอดแบบออกมาจากนิยายพาฝันจะกลายเป็นตัวร้ายในชีวิตจริงได้

จะว่าไป สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการะเกดกับโตมรก็เกือบจะเรียกได้ว่าซ้ำรอยกับพวกเขาเช่นกัน… การะเกดไม่ใช่คนที่สวยสะดุดตา หากมีอะไรบางอย่างที่เมื่อพิศให้นานจึงจะรู้สึกว่า มีบางอย่างที่ชวนให้ต้องมองเธออยู่เรื่อยไป ในขณะที่โตมรเป็นชายหนุ่มหน้าตาคมคาย มีเสน่ห์เสียจนทำให้ใครหลายคนนึกอิจฉาหญิงสาวแสนธรรมดาและไม่สมบูรณ์พร้อมผู้ครองใจเขาได้ว่า เป็นคนโชคดียิ่งกว่าใคร

แต่ใครจะคิดบ้างว่า ผู้ชายที่ยอมรับความบกพร่องของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งทำให้หลายคนไม่คิดเลือกได้ เหมือนเจ้าชายที่มองข้ามฐานะของหญิงสาวที่เอาแต่ทำงานบ้านและจมอยู่ก้นครัวมานานปี แต่ท้ายที่สุด เจ้าชายก็ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ หวงแหนเธอเสียจนหลงลืมไปว่ากว่าเจ้าหญิงที่เขาหลงรักแต่แรกเห็นจะมาอยู่ในงานเต้นรำได้มีใครอีกคนที่ช่วยชักนำเธอออกมาสู่โลกภายนอกจนเขาได้พบในวันนั้น

หากซินเดอเรลล่ามีนางฟ้าประจำตัวแสนดีที่ช่วยเสกรถฟักทองและสารถีให้เธอได้เดินทางออกไปยังโลกภายนอก ซอมพอก็อยากเรียกพี่ชายของเธอว่า ‘พ่อมด’ มากกว่า เพราะเขาทั้งดุ ทั้งขัดใจเพื่อนรักของตนเองเป็นส่วนใหญ่มากกว่าจะคอยตามใจทุกอย่างด้วยความสงสาร  

แม้ลูกพี่ลูกน้องของเธอชี้จุดพลาดของการะเกดทุกจุดอย่างไม่เกรงใจ แต่เธอกลับรู้สึกได้ถึงความใส่ใจที่ปรากฏอยู่ในข้อความของเขาอย่างชัดเจน การบอกให้เพื่อนปรับและเทียบเสียงสำเนียงพูดของตนตามบันไดเสียงของดนตรีซึ่งเธอเคยเรียนมากับเขาดูใจร้ายที่บังคับให้อีกฝ่ายต้องทบทวนถึงความสามารถในการได้ยินที่สูญเสียไป กลับกลายเป็นการดึงคนที่พยายามหนีจากสิ่งที่ทำให้ตนเองต้องเจ็บปวดหันกลับมาเผชิญหน้ากับปัญหา และทำให้สิ่งที่เคยคิดว่าสูญเสียไปคืนกลับมาในอีกรูปแบบหนึ่ง

ในขณะที่ช่างภาพสาวเอ่ยถึงเพื่อนรักด้วยความซาบซึ้งในน้ำใจเสมอมา ลูกพี่ลูกน้องของเธอกลับพูดถึงเรื่องดังกล่าวยามเธอหยิบยกมาถามราวกับสิ่งที่ตัวทำไม่ได้สลักสำคัญอะไร

เขาเอ่ยแต่เพียงว่า คนที่เรียนมาด้านการขับร้องสากลอย่างการะเกดความจำดี แม่นโน้ต ทั้งยังจับการเคลื่อนไหวของปากและการจัดรูปปากในการออกเสียงแต่ละคำให้ถูกต้องได้เก่งอยู่แล้ว หากจะอ่านปากและออกเสียงได้ดีเกือบเท่าคนปกติได้เร็วย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนเขาเป็นแค่คนคอยฟัง คอยบอกว่าเธอออกเสียงถูกไหม ดังไปหรือเบาไปไหมก็เท่านั้น  

“ตอนบังคับให้เขาอ่านหนังสือให้พี่ฟังทุกเย็น พี่ทำเกดร้องไห้มาหลายหน ใจร้ายกับเขาออกขนาดนั้น เขาไม่เลิกคบก็บุญแล้ว” ยามนั้น เขาบอกเธอพร้อมหัวเราะระรื่น “ตอนดี ๆ น่ะ จะไปไหนก็ไปเถอะ ถ้ามีปัญหาแล้วไม่ยอมบอกหรือจะแต่งงานกับพี่โตแล้วไม่ยอมเชิญเนี่ย เห็นดีกันแน่ คอยดู ฝากบอกเกดด้วยล่ะ”

จากน้ำเสียงที่เธอรับฟังยามนั้น... ไม่ว่าใครที่ได้ยิน เธอเชื่อว่าทุกคนคงคิดไม่ต่างจากเธอว่า ‘พ่อมด’ คิดกับเพื่อนเหมือนครูที่ยินดีกับความก้าวหน้าของศิษย์โดยไม่คาดหวังคำขอบคุณ แต่ทำไม ‘เจ้าชาย’ ถึงได้นึกว่าตัวเองไปคนเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนรักให้ก้าวหน้าอยู่เพียงลำพังตัว...

เสียงของ ‘อาจารย์วัด’ ซึ่งทำหน้าที่คล้ายมัคนายกของภาคกลางที่ส่งผ่านเครื่องกระจายเสียงบอกให้ผู้มาร่วมงานพนมมือระหว่างประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระ และสัมผัสจากศอกของ นพ. กฤษฎีซึ่งสะกิดให้เธอรู้สึกตัวทำให้ซอมพอจำต้องหยุดความคิดชั่วครู่

อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนนึกเรื่องดังกล่าวแล้ว หญิงสาวก็ต้องแอบถอนใจด้วยอดคิดถึงความเป็นไปที่ไม่ปกตินักของประณตกับการะเกดที่เธอสังเกตเห็นเมื่อเย็นนี้ไม่ได้  

ตลอดสามวันที่ผ่านมา ความสนิทสนมเป็นกันเองของเพื่อนรักทั้งสองทำให้บรรยากาศเงียบงัน ราบเรียบของห้องชุดสองห้องนอนที่เธอพักอาศัยระหว่างมาทำงานดูสมเป็น ‘บ้าน’ มากกว่า ‘ที่ทำงนต่อและซุกหัวนอน’ ของเจ้าของห้องยิ่งกว่าเคย ทว่าเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ ทุกอย่างที่เคยเป็นกลับปลาสนาการไปจนสิ้น หลังการสนทนาของการะเกดกับโตมรสิ้นสุดลง

นายตำรวจหนุ่มลอบมองเพื่อนสนิทของตนเองพูดคุยกับอดีตคนรักผ่านโปรแกรมส่งข้อความออนไลน์ขณะอุ่นกับข้าวสำเร็จรูปที่ซื้อมาเป็นอาหารเย็นเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำอาหารอยู่เป็นระยะ ส่วนช่างภาพสาวเองก็ตกอยู่ในอาการครุ่นคิดและหนักใจหลังปิดคอมพิวเตอร์ สายตาที่ต่างฝ่ายต่างมองกันต่างเต็มไปด้วยคำถามและความในใจมากมายที่ต้องการบอกให้อีกฝ่ายรู้ หากไม่มีใครเลยสักคนที่จะเริ่มเอ่ยขึ้นก่อน

ตลอดอาหารเย็นมื้อดังกล่าว ไม่มีเสียงพูดคุย ไม่มีการถามไถ่ถึงสิ่งที่แต่ละฝ่ายได้พบจากการทำงานเช่นทุกที ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบเนิ่นนานจนกระทั่งการะเกดเงยหน้าขึ้บสบตากับเพื่อน...

“เรามีเรื่องอยากคุยกับณต... เรื่องพี่โต...”




(มีต่อนะคะ)

แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 53 22:31:34

จากคุณ : ปิยะรักษ์
เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 53 19:57:48




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com