Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เสิร์ฟด่วน ป่วนรัก (ตอนที่ 48 - 49)  

ตอนที่ 48

โกเมษลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความยากลำบาก รู้สึกเหมือนศีรษะของเขาหนักอึ้งราวเป็นก้อนหิน และคอแห้ง ปวดร้าวไปทั้งตัว

เขากวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้อง และตระหนักว่าไม่ได้อยู่ในห้องนอนของตัวเอง แต่บรรยากาศก็คุ้นเคยจนทำให้ความวิตกของเขาผ่อนคลายลงไป

ชายหนุ่มกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อเรียกสติ และพยายามทบทวนความทรงจำ หวนนึกย้อนไปถึงเรื่องราวเมื่อคืนนี้ แต่เขาก็จำได้เพียงแต่ว่า เขาไปทานข้าวกับเฟย์

แต่เขานึกไม่ออกจริง ๆ ว่า เขาออกมาจากร้านอาหารอย่างไร และกลับมานอนอยู่ในห้องนี้ได้อย่างไร เพราะภาพที่เห็นก็เบลอเหมือนภาพสีน้ำที่ถูกน้ำสาดใส่จนเลอะเลือน

นักธุรกิจหนุ่มยกมือขึ้นลูบและบีบหน้าผากแรง ๆ เมื่อเริ่มจำได้ราง ๆ เหมือนว่าเขารู้สึกเหมือนเห็นภาพตัวเองถูกพายและแอนดี้หิ้วปีกออกมา ก่อนเห็นตัวเองนั่งอยู่ในเบาะข้างคนขับ โดยมีแอนดี้ทำหน้าที่คนขับ

แม้ว่าโกเมษอยากที่จะยันตัวเองลุกขึ้นยืน และไปตามหาพาย เพื่อที่จะได้ซักไซ้ไต่ถามให้แน่ใจว่าเรื่องราวต่าง ๆ มันเป็นอย่างไรกันแน่ แต่เขาก็ปวดศีรษะอย่างรุนแรง และรู้สึกอ่อนล้า จนทำได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ และหลับตาลงอีกครั้ง คิดว่าเมื่อเขาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว ค่อยสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ จากพายก็ได้



พายกึ่งเดินกึ่งย่องลงบันใดมาจากห้องนอนบนชั้นสองในบ้านหลังเล็กของเธอกับมารดา ในเช้าวันใหม่ ก่อนที่จะหยุดยืนที่บันใดขั้นสุดท้าย และสอดส่องสายตาเข้าไปภายในห้องรับแขกขนาดกระทัดรัด ที่มีร่างสูงของแอนดี้ นอนขดอยู่บนโซฟา โดยมีผ้าห่มผืนบางปกคลุมอยู่

เธออมยิ้มเล็กน้อย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ และความกะล่อนของแอนดี้ที่ถูกนำมาใช้แก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที และแทบไม่อยากจะนึกเลยว่า หากเธอตามไปคนเดียว หรือหากพวกเธอไม่สามารถเข้าไปช่วยพี่โกเมษได้ทัน เรื่องราวจะพลิกผันและเลวร้ายขนาดไหน

หญิงสาวย่องมาแอบยืนมองดูชายหนุ่มหน้าใสนอนหลับ และรู้สึกอุ่นใจและสบายใจขึ้นมา

เธอนึกถึงท่าทีเกรงใจของแอนดี้ที่ยืนยันจะขอตัวกลับบ้านให้ได้ จนกระทั่งมารดาของเธอที่เรียกสติจากความแตกตื่นที่เห็นเธอและแอนดี้หิ้วปีกพี่โกเมษเข้ามาในบ้าน เป็นฝ่ายเสนอให้แอนดี้นอนพักในห้องรับแขก ทั้งด้วยความซาบซึ้งใจที่แอนดี้ได้ให้ความช่วยเหลือโกเมษ และทั้งเพราะเป็นห่วงเรื่องการเดินทางของเขา

พายเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้โซฟา ก่อนที่จะทรุดตัวนั่งยอง ๆ และมองดูเขาใบหน้าที่นิ่งสงบของแอนดี้อีกครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบชายผ้าห่มและดึงมันขึ้นมาปกคลุมให้ถึงใหล่ของเขา

และแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชายหนุ่มที่นอนอยู่เบื้องหน้าเธอนั้น คือคนเดียวกันกับที่เดินมาสั่งเครื่องดื่ม และสมัครเข้าทำงานที่ร้านพิซซ่า ปาร์ตี้

เธอยังจดจำท่าทีก้างก้าง เกะกะ และทำอะไรไม่เป็นไม่ถูก เหมือนคนที่ไม่เคยทำงานมาก่อนเลย
จนกระทั่งมาถึงช่วงที่เขาเริ่มหว่านเสน่ห์เรียกลูกค้าสาว ๆ เข้าร้าน และดึงดูดลูกค้าคนอื่น ๆ ด้วยการแสดงต่าง ๆ ของเขา

หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอก็กลายเป็นคนหนึ่งที่หลงเสน่ห์หนุ่มหน้าใส จอมกวนคนนี้เช่นกัน

พายถอนหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะยิ้มบาง ๆ กับตัวเองอีกครั้งหนึ่ง และตัดใจยันตัวเองลุกขึ้นยืน เดินออกไปจากห้องรับแขกอย่างเงียบ ๆ  



“ตื่นแต่เช้าเลยนะ...” เสียงที่อ่อนโยนดังขึ้นจากทางประตูห้องครัว ทำให้หญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยืนทำอะไรอยู่ตรงบริเวณที่ว่างข้างซิงค์น้ำอย่างเหม่อลอย สะดุ้งเล็กน้อย

“แม่” พายหันไปยิ้มหวานให้กับมารดา ที่เดินเข้ามาในห้องครัว

“ยังหลับอยู่ทั้งสองคนเลยเหรอ” แม่ถามต่อ และชะเง้อคอมองดูว่าลูกสาวกำลังทำอะไรอยู่

“ฮะ แม่” หญิงสาวผู้ดัดฟันตอบ

“แล้ว นั้น ทำอะไรอยู่น่ะ”

หญิงสาวหันมายิ้มแหย ๆ

“แซนด์วิชฮะ แม่ เผื่อเดี๋ยวพายต้องออกไปทำงานแล้ว พี่โกเมษกับแอนดี้จะได้มีอะไรทานฮะ ตอนตื่นขึ้นมาฮะ” พายกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะพยายามซ่อนเร้นความรู้สึกบางอย่างอยู่

“แอนดี้ ดูเป็นคนดีนะ” ผู้อาวุโสกว่าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงใจดี ราวต้องการจะทดสอบอะไรบางอย่าง

“ฮะ... ก็ดีฮะ” ลูกสาวรับไม่เต็มเสียง และก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มเขิน ๆ

แม่เดินเข้ามาใกล้ และเอียงคอสังเกตปฏิกิริยาของบุตรสาว และอมยิ้มเล็กน้อย

“แม่ยิ้มอะไรอ่ะฮะ” พายถามเมื่อรู้สึกถึงรอยยิ้มของมารดา และสายตาของแม่บนใบหน้าของเธอ

“เปล่า” แม่ปฏิเสธทีเล่นที่จริง ทำให้พายหันกลับไปให้ความสนใจกับกองขนมปังที่อยู่เบื้องหน้าต่อไป

“ว่าแต่ ชอบแอนดี้เขามานานหรือยังนะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยแซวเมื่อได้จังหวะ ส่งผลให้พายรีบหันขวับไปทางมารดา และวางอุปกรณ์ในมืออย่างกระทันหัน

“แม่ก็” หญิงสาวตัดพ้อ พลางชะเง้อคอออกไปมองดูทางประตูห้องครัว ราวกลัวว่าจะมีใครมาได้ยินเข้า

“อะไร” ผู้อาวุโสกว่าหัวเราะร่วน และถามด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมอารมณ์ขัน “แม่ก็แค่ถามเฉย ๆ นี่”

พายส่ายหน้าพยายามที่จะไม่ยอมรับ และไม่ตอบคำถามของแม่ แต่มันก็คงเหมือนยิ่งเธอพยายามซ่อนเร้นเท่าไหร่ มันกลับยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น

“พาย... ยังไม่แน่ใจฮะ” เธอปด ก่อนที่จะพยายามนึกหาข้ออ้างมาเสริมน้ำหนักให้กับคำตอบของเธอ “แอนดี้ออกจะ... เจ้าชูฮะ”

ผู้เป็นมารดาพยักหน้ารับ และก้าวเดินเข้าไปโอบกอดลูกสาวอย่างเอ็นดู

“เรื่องของหัวใจ มันเร่งรัดและบังคับกันไม่ได้” แม่บอกพลางยกมือขึ้นลูบเส้นผมของพายอย่างรักใคร่ ทะนุถนอม “และหลาย ๆ ครั้ง มันอาจไม่มีเหตุผลหรือหลักการณ์อะไรที่จะอธิบายได้ว่าทำไมเราถึงรู้สึกรักใครสักคน...” น้ำเสียงของแม่สั่นเครือ ราวกำลังปวดร้าวกับการพูดถึงเรื่องราวที่ทิ่มแทงจิตใจอยู่จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่ามันจะผ่านมาเนิ่นนานแล้วก็ตามที

“แต่หากเรามั่นใจว่าความรักที่รู้สึกและสัมผัสได้ในใจนั้น เป็นความรักที่แน่แท้และบริสุทธิ์ เราก็มั่นใจได้เลยว่า เราจะไม่เสียใจเลยที่ฟังและทำตามเสียงเรียกของหัวใจ” มารดากล่าวต่อ

“ถึงแม้ว่า...” พายตั้งท่าจะตั้งคำถามที่ค้างคาใจเธอมาตั้งแต่วันแรกที่ได้รับรู้ความจริงว่ามารดาของเธอเป็นภรรยาน้อยของคนอื่น แต่ก็นิ่งเงียบไปราวเกรงว่าคำถามของเธอจะทำให้แม่ปวดร้าวจนเกินไป

ผู้เป็นแม่ยิ้มบาง ๆ อย่างเข้าใจว่าลูกสาวกำลังนึกและสงสัยอะไรอยู่

“หากเลือกได้ แม่ก็ไม่อยากเป็นเมียน้อยของใครหรอก” ผู้อาสุโสกว่ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและปราศจากความขื่นขมหรือชอกช้ำ “แต่แม่เลือกไม่ได้ เพราะแม่ไปหลงรักพ่อของลูกก่อน แล้วถึงค่อยรู้ว่าพ่อของลูกแต่งงานแล้ว และแม่กลายเป็นเมียน้อยไปแล้ว...”

พายโอบกอดผู้เป็นแม่แน่นขึ้น ราวพยายามปลอบใจ

“แม่ผิดหวังกับการเป็นเมียน้อย... แต่แม่ก็ไม่เคยเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงแรกที่พ่อปฏิเสธที่จะรับรู้ถึงสถานะของพวกเรา หรือในตอนนี้ ที่พวกเรามาอยู่ในรั้วของบ้านหลังนี้” แม่เอ่ยต่อไป

“แม่ไม่เคยเสียใจ” ผู้อาสุโสย้ำ และก้มหน้าลงจุมพิตหน้าผากของลูกสาว “เพราะพ่อของลูกได้ให้ของขวัญที่วิเศษที่สุดกับแม่แล้ว ก็คือพายนั่นเอง”

พายเคลื่อนหน้าเข้าซุกอกของแม่แน่นขึ้น ด้วยความซาบซึ้ง พอ ๆ กับความรู้สึกสงสารมารดาอย่างจับใจ

“แม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับแม่ทำให้พายกลัวจะเจอเรื่องราวเหล่านั้นกับตัวเอง เลยปิดกั้นตัวเองจากความรัก” ผู้อาวุโสกว่ายื่นมือไปชันคางบุตรสาวขึ้นมาสบตา “แต่เคยมีคนบอกแม่ว่า การมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัว ก็เหมือนการมีชีวิตอยู่แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ”

ผู้เป็นบุตรสาวนิ่งไปครู่หนึ่งราวพิจารณาถ้อยคำของมารดา

“แม่ไม่รู้ว่า พายคิดอย่างไรกับแอนดี้... หรือหนุ่ม ๆ คนอื่นในชีวิตของพาย เพราะพายจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุด” ผู้สูงอายุกล่าวต่อไป “แม่เพียงแต่รู้ว่า การฟังเสียงของหัวใจไม่ใช่สิ่งที่ผิด เลวร้าย หรือน่ากลัวเสมอไป”

“ค่ะแม่” พายบอกพลางกัดริมฝีปากแน่นอย่างครุ่นคิด



โกเมษสะดุ้งตื่นเล็กน้อย เมื่อรู้สึกถึงน้ำหนักของใครบางคนที่นั่งลงบริเวณขอบเตียง และรีบลืมตาขึ้นด้วยความตื่นตระหนก ก่อนที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อสายตาของเขามองเห็นผู้มาเยือนชัดเจนขึ้น

“คุณน้า...”

“ขอโทษทีจ๊ะ น้าไม่ตั้งใจจะปลุก” สตรีผู้อาวุโสกว่าบอกด้วยน้ำเสียงเกรงใจในที “พอดี น้าแค่แวะมาดูว่าโกเมษเป็นอย่างไรบ้าง และก็เอาแซนด์วิชที่พายทำ ขึ้นมาวางไว้ให้น่ะจ๊ะ”

“ไม่เป็นไรครับ” นักธุรกิจหนุ่มบอก พลางใช้กำลังเท่าที่มีอยู่ในร่างกายยันตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง “ผมก็กำลังจะตื่นพอดีครับ”

ชายหนุ่มหันไปมองทางแก้วน้ำที่อยู่หัวโต๊ะ และยื่นมือไปหยิบมันขึ้นมาดื่มอย่างกระหาย ก่อนที่จะหันกลับมาทางมารดาของพาย

“คุณน้า พอทราบมั้ยครับว่ามันเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น”

“น้าก็ไม่รู้เรื่องอะไรเท่าไหร่หรอก เพียงแต่เมื่อคืนนี้ ตอนเกือบห้าทุ่ม ก็เห็นพายกับเด็กหนุ่มที่ชื่อแอนดี้ หิ้วปีกโกเมษเข้ามาในบ้าน บอกประมาณว่าโกเมษโดนวางยานอนหลับ...”

โกเมษยกมือขึ้นบีบท้ายทอย และบิดคอทางซ้ายที ขวาที

“แอนดี้ มาด้วยจริง ๆ หรือ... นึกว่าฝันไปเสียอีก” เขาพึมพำกับตัวเอง

“มาสิจ๊ะ นี่ยังนอนหลับอุตุอยู่ที่ห้องรับแขกอยู่เลย”

“แล้วพายล่ะครับ” โกเมษถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย

“ออกไปทำงานได้สักชั่วโมงกว่า ๆ แล้วจ๊ะ นี่เขาทำแซนด์วิชไว้เผื่อโกเมษกับแอนดี้ด้วยนะ น้าแบ่งมาให้แล้ว”

“ขอบคุณมากครับ” โกเมษกล่าว และรับขนมปังชิ้นหนึ่งขึ้นมากัดทานชิ้นเล็ก ๆ ทำให้เขาตระหนักในทันทีว่า เขาหิวขนาดไหน



“แอนดี้... แอนดี้” เสียงเรียกชื่อเขา ทำให้ชายหนุ่มที่นอนขดอยู่บนโซฟาพลิกไปมาอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังไม่ยอมตื่น

จนกระทั่งรู้สุกถึงฝ่ามือของใครบางคนมาเขย่าร่างกายของเขาแรง ๆ สอง สามที แอนดี้จึงยอมลืมตาขึ้นอย่างจำใจ

“อ้าว โกเมษ...” แอนดี้เอ่ย หลังลืมตาขึ้นมาข้างหนึ่ง มองดูผู้ที่ทำลายการหลับใหลของเขา “ขออีกห้านาทีนะ” ว่าแล้วก็เบือนหน้าหนี และทำท่าจะหลับต่อเอาดื้อ ๆ

“เฮ้ย แอนดี้ ไม่ได้แล้ว นี่มันก็จะเที่ยงแล้ว” นักธุรกิจหนุ่มยืนยัน พลางยื่นมือไปกระชากผ้าห่มผืนบางออกจากบนร่างของคู่สนทนาจอมเซา “ตื่นขึ้นมาคุยกันก่อน”

“มีอะไรก็คุยกับพายไปก่อนสิ” แอนดี้บอกด้วยน้ำเสียงงัวเงีย และยกเข่าทั้งสองข้างขึ้นมากอดอย่างดื้อดึง

“พายไปทำงานตั้งนานแล้ว เพราะฉะนั้น นายจึงต้องตื่นขึ้นมาคุยกับเรา” โกเมษยื่นคำขาด

แอนดี้นอนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะสะบัดแข้งสะบัดขาอย่างโดนขัดใจ และกระโดดขึ้นมานั่งหน้าบึ้งตึง

                                    “เอ้า มีอะไรว่ามา” แอนดี้บอก พลางยกมือขึ้นขยี้ตา

“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น” โกเมษถามอย่างไม่อ้อมค้อม

“ก็ไม่มีอะไร คุณโดนเฟย์วางยานอนหลับ พวกผมไปช่วยไม่ทัน ก็เลยได้แต่ลากคุณมาหลังจากที่โดนเฟย์กระทำชำเราไปแล้ว” แอนดี้บอก

“เฮ้ย...” โกเมษร้องเสียงหลง “นายหมายความว่า...”

“ล้อเล่นน่า” หนุ่มหน้าใสหัวเราะอย่างสะใจ ที่สามารถแก้แค้นคนที่มาขัดขวางการฝันหวานของเขาได้สำเร็จ “ร้องโวยวายไปได้ หากเกิดอะไรขึ้น เฟย์ต่างหากที่เป็นคนเสียหาย ไม่ใช่คุณเสียหน่อย”

“แล้วตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า” โกเมษถามด้วยสีหน้าขึงขังและน้ำเสียงจริงจัง

“ไม่เกิด ๆ” แอนดี้ย้ำ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นกัน “พายกับผมไปช่วยคุณไว้ได้ทัน”

โกเมษถอนหายใจเบา ๆ อย่างโล่งใจ ก่อนที่จะส่ายหน้าสอง สามที

“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเฟย์จะทำถึงขนาดนี้” นักธุรกิจหนุ่มพึมพำ

“เอาน่า ผ่านมาแล้วก็ถือว่าคุณโชคดีแล้ว และผมกับพายก็มีหลักฐานเพียงพอที่จะยืนยันได้ว่าเฟย์จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคุณอีกแน่นอน” แอนดี้บอก

“ขอบคุณนายมากจริง ๆ”

“และพายด้วย” แอนดี้เสริม “เพราะหากพายไม่ยืนยันที่จะตามไปสอดส่องดูแลคุณ ป่านนี้ ไม่รู้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปแล้ว”

โกเมษพยักหน้ารับอย่างเห็นพ้อง

“ใช่... ขอบคุณนายและพายจริง ๆ”

“ว่าแต่ คุณจะทำอย่างไรต่อไป” แอนดี้ถามต่อด้วยความสนใจ

“ก็นี่แหละ เราถึงมาปลุกนายอยู่นี่ไง...” สีหน้าโกเมษดูสดใสขึ้นในทันที “เรากำลังจะไปบอกความในใจกับครีม”

“ตอนนี้เนี่ยะนะ” แอนดี้ถามเสียงหลง

“ก็ใช่น่ะสิ” นักธุรกิจหนุ่มยืนยัน “ทำไมเหรอ”

“คุณไม่คิดจะวางผงวางแผนอะไรให้มันดี ๆ ก่อนเลยเหรอ” หนุ่มหน้าใสซักด้วยความแปลกใจ

“ไม่นะ เราก็กะว่าจะไปหาครีม แล้วก็บอกเธอไปตรง ๆ ว่าเรารู้สึกอย่างไรกับเธอ”

“โอเค” แอนดี้ยักใหล่ “ว่าแต่ขอผมไปล้างหน้าล้างตาแป๊บหนึ่งก่อนได้มั้ย”

“ได้สิ จะเอาเสื้อผ้าของเราไปใส่ก่อนมั้ย เดี๋ยวให้คนไปเอามาให้” นักธุรกิจหนุ่มอาสา

แอนดี้นิ่งไปครู่หนึ่ง ราวกำลังจินตนาการตนเองในชุดแสล็คที่ดูเป็นทางการของคู่สนทนา ก่อนที่จะส่ายหน้าปฏิเสธเบา ๆ เมื่อคิดว่ามันคงไม่เข้ากับเขาสักเท่าไหร่

“ไม่เป็นไรดีกว่าครับ ที่พักของผมอยู่ไม่ไกลจากร้านพิซซ่า ปาร์ตี้ เท่าไหร่ เดี๋ยวคุณแวะส่งผมแถวนั้น แล้วเราค่อยนัดเจอกันดีกว่าครับ”

“ได้ ๆ” โกเมษรับคำ

แอนดี้ยันตัวเองลุกขึ้นยืน บิดขี้เกียจเล็กน้อย แล้วเดินมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำ ก่อนที่จะหยุดชะงัก หลังจากที่ก้าวเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว และหันกลับไปมองทางนักธุรกิจหนุ่มที่ยังนั่งอยู่บนโซฟา

“คุณไม่คิดจะเอาอะไรไปฝากครีมบ้างเลยหรือครับ อาจจะดอกกุหลาบสักดอก หรือช๊อคโกแล็ตสักกล่อง” แอนดี้ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเชื้อเชิญ

โกเมษหันไปสบตาแอนดี้ ก่อนที่จะอมยิ้มบาง ๆ และพยักหน้ารับเบา ๆ

“อืม ความจริงดอกกุหลาบสักดอกก็คงไม่เลวเหมือนกันนะ”

จากคุณ : Charkrienorrathip
เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 53 15:30:46




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com