Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ตำนานสงครามบัลลังก์เหนือ ๒ - บทที่ ๑๑ - สิ่งไม่คาดฝัน (ครึ่งหลัง)  

อ่านเนื้อหาภาค 1 ได้ที่นี่ครับ

http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=471973

เนื้อเรื่องต่อภาค 2

http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=623553

* * * * *

ขอบคุณคุณ Mnemosyne สำหรับกิฟท์นะครับ ^^

คุณ scottie - จากนี้จะลงลิงก์ตอนเก่าในพันทิพไว้ให้ตอนท้ายนะครับ

น้องแตม - แฮะๆ แบ่งครึ่งอาจจะช่วยให้ลงได้เร็วขึ้น แต่ตอนนี้พี่ก็รีไรท์เร็วขึ้นไม่ได้ เพราะมีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องทำด้วยน่ะครับ ^^a

เจ้าชายตายแบบไร้บท (แต่ที่จริงเก็บบทย้อนอดีตอื่นๆ เอาไว้นะ) ส่วนการปาดคอ ที่จริงตายเร็วแต่ไม่ทันทีทันใด ถ้าตัดถูกเส้นเลือดใหญ่ก็จะเสียเลือดจนตาย บางกรณีถ้าตัดถึงหลอดลม ก็อาจสำลักเลือดตาย ไม่ก็มีอากาศเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดครับ

ส่วนคนช่วยเนอร์กุย จะทราบในตอนนี้ละครับ

* * * * *

บทที่ ๑๑
สิ่งไม่คาดฝัน
(ครึ่งหลัง)


“พี่เอลม์...พี่เอลม์!”

จิตสำนึกของอาเมียร์ที่กลืนไปกับตัวตนของ ‘เนอร์กุย’ กลับคืนมาหลังเสียงเรียกนั้น

เด็กหนุ่มมองไปรอบๆ ...ทั้งๆ ที่สายตายังพร่ามัว เห็นใบหน้าที่ดูเหมือนจะเป็นของแอชชะโงกมองอยู่ข้างๆ เตียง แล้วก็มีใบหน้าที่ดูเหมือนจะเป็นของหมอซานาอยู่อีกข้าง สัมผัสของปลายนิ้วบนข้อมือบอกว่าเธอกำลังจับชีพจรเขา

เนอร์กุยที่เขาเห็นเป็นใคร...อาเมียร์ตั้งคำถาม แล้วก็ได้คำตอบทันทีเห็นอีกความทรงจำวาบขึ้น

.....

ไม่ใช่ความทรงจำของเนอร์กุย เพราะครั้งนี้เด็กหนุ่มเห็นชายที่มีแผลเหวอะหวะบนคอนอนนิ่งอยู่ตรงหน้าชัดเจน

ลมหายใจของร่างที่เปียกโชกเกยฝั่งลำธารนั้นแผ่วเบาเต็มที ทว่าเจ้าของความทรงจำซึ่งกำลังคลำหาชีพจรของร่างนั้นอยู่ ก็พร่ำภาวนาอย่างแรงกล้าว่าชายคนนี้จะรอดชีวิตมาได้

เพราะเขา...เป็นเหมือนกับข้า

เธอฉีกชายเสื้อคลุมของตน พันรอบแผลที่คอของเขาไว้ แล้วก็บีบมือเขาแน่นขึ้นครู่หนึ่ง

“ทำใจดีๆ เอาไว้นะ ข้าจะไปตามคนมาช่วย” เธอบอก แล้วก็วิ่งจากไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

.....

หมอฝึกหัดหญิงซานาตามโทมามาช่วยหามเนอร์กุยไปยังบ้านหลังเก่าของท่านตาท่านยาของเธอที่สิ้นไปแล้ว และรักษาพยาบาลเขาที่นั่น แทนที่ร้านหมอในหมู่บ้านซึ่งเป็นทั้งที่พักและที่ทำงานเต็มเวลา ในเมื่อมีชาวบ้านแวะเวียนมาหาเธอเพื่อขอยาหรือตรวจอาการเป็นประจำ

แม้เมื่อเวลาผ่านไปอีกวันหนึ่ง ชายหนุ่มจะทัดทาน

“คนเจ็บของเจ้าคนนั้นเป็นเผ่าอัสลาน! หนำซ้ำอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องลอบปลงพระชนม์ด้วย! ถ้าไม่รายงานเจ้าหน้าที่...เจ้าอาจถูกพวกเขาจับฐานให้ความช่วยเหลือคนร้ายก็ได้!”

“แต่ถ้ารายงานไป...ไม่ว่าเขาจะมีส่วนในเรื่องลอบปลงพระชนม์หรือไม่...พวกนั้นต้องฆ่าเขาแค่เพราะเป็นคนอัสลานแน่ๆ! ข้ามีหน้าที่รักษาชีวิตคน จะให้ส่งคนไปตายได้อย่างไร!”

“...ข้าเข้าใจว่าเจ้าอยากเป็นหมอที่ดีเหมือนท่านยายของเจ้า แต่คนทำความผิดก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมายอยู่ดี”

“กฎหมายเหรอ กฎหมู่ละไม่ว่า คนอัสลานอยู่ดีๆ ก็ยังไปใส่ร้ายเขา ฆ่าล้างเผ่าเขา เจ้าก็เห็น ผู้ชายคนนี้บาดเจ็บหนักเพราะเขี้ยวสัตว์ชัดๆ เขาอาจแค่ออกไปล่าสัตว์ แล้วก็เจอหมาป่าหรือแมวป่าเข้าก็ได้”

“งั้นแผลจากดาบพวกนั้นล่ะ” นักรบรับจ้างแย้ง “ข้าทำอาชีพทางนี้ ทำไมจะดูไม่ออก เจ้าเองก็ดูออก แต่ไม่อยากยอมรับแค่นั้นเอง!”

“อยากตามทหารมานักก็เชิญแล้วกัน! พวกนั้นจะได้จับข้าไปด้วย...เพราะยังไงข้าก็มีความผิดอยู่แล้วนี่!” ซานากลับหันขวับมาบอกเขาเสียงแข็ง “ผิดที่ข้ามีชีวิตอยู่ตรงนี้!”

โทมากลับมีสีหน้าตะลึงงันทันควัน เหมือนเพิ่งตระหนักถึงเรื่องที่สำคัญกว่านั้น

“ข้า...ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ข้า...ข้าขอโทษ”

“ข้าไม่ได้บอกเจ้าเพื่อให้ลืมไปเฉยๆ นะ!” เด็กสาวพยายามซ่อนน้ำตาเอาไว้

เรื่องที่เธอเคยบอกเขาเป็นความลับสูงสุดในชีวิตของเธอ ความลับที่เธอได้รู้เพียงไม่นาน ...ก่อนหน้าสิ้นท่านยายผู้เลี้ยงดูตนมาแต่เล็ก

“ซานา หลานเป็นคนเผ่าอัสลาน...ตอนเกิดเหตุกวาดล้างเผ่า ท่านตาพบหลานตั้งแต่ยังเป็นทารก และนำตัวหลานกลับมาที่นี่”

ชายหนุ่มเป็นคนเดียวที่เธอยินยอมบอกความลับนี้อีกต่อหนึ่ง ทั้งๆ ที่ชาวบ้านคนอื่นๆ ต่างก็รักและเอ็นดูเธอในฐานะหลานของครูสอนหนังสือและหมอประจำหมู่บ้านคนเดียวแท้ๆ

และโทมาก็ไม่ทำให้เธอผิดหวัง เขายินยอมปิดปากเงียบเรื่องชายเผ่าอัสลานคนนั้น ซ้ำยังช่วยนำเสบียงหรือสิ่งใดก็ตามที่ขาดเหลือมาให้ที่บ้านของท่านตาท่านยายอย่างเงียบๆ จนกระทั่งเธอสามารถพยาบาลชายคนนั้นให้หายดี แม้ไม่อาจช่วยให้เขาพูดได้อีกครั้งก็ตาม

ชายอัสลานรับการรักษาอย่างเงียบๆ จนสุดท้ายก็ย้ายไปปลูกกระท่อมเล็กๆ อยู่ตรงชายป่า โทมากับซานาตั้งชื่อใหม่ให้เขาว่า ‘เกล’ เมื่อได้เห็นความรวดเร็วราวลมพัดในยามที่เขาวิ่ง เกลยอมรับชื่อนั้นแต่โดยดีเช่นกัน และใช้ชีวิตอย่างนายพราน รับลูกผสมสุนัขป่าที่ไม่มีใครต้องการอย่างควินมาเลี้ยงเป็นเพื่อน ออกล่าสัตว์หาเลี้ยงตนเองและแบ่งปันมาถึงซานา คอยปกป้องเธออยู่ห่างๆ ในเวลาที่โทมาออกจากหมู่บ้านไปทำงานของนักรบรับจ้าง

เมื่อเด็กสาวออกมาทำธุระนอกหมู่บ้านครั้งใด เกลก็พาควินตามติดไปด้วยราวกับองครักษ์ส่วนตัว ถึงแม้ว่าสายตาที่ทอดไปไกลอย่างเงียบงันของเขาจะบอกถึงบางสิ่งที่ชายอัสลานครุ่นคิด ต้องการ หรือตามหามาตลอด แต่ไม่อาจสื่อให้ใครๆ รับรู้ก็ตาม

.....

“ท่านหมอ พี่เอลม์เป็นอะไรมากไหมขอรับ” เสียงของแอชเรียกอาเมียร์ออกมาอีกครั้ง

“หมอฝึกหัดค่ะ” ซานาไม่วายติง ก่อนจะปล่อยมือจากข้อมือเด็กหนุ่ม “ยกขาเขาขึ้นหน่อยซิ เอาหมอนรองไว้ ให้ขาอยู่สูงกว่าหัวไว้ก่อน”

ใครบางคนทำรีบตามคำพูดนั้น เขารู้สึกได้ว่ารองเท้าของตนถูกถอดออก จากนั้นขาจึงถูกยกขึ้น และรองไว้ด้วยของบางอย่าง

“แล้วเขาเป็นอะไรหรือขอรับ” แอชถามซ้ำ

“แค่เป็นลมเท่านั้นเองค่ะ เดี๋ยวถอยออกมาห่างๆ เปิดหน้าต่างหน่อย จะได้มีลมถ่ายเทสะดวก ใครลงไปขอน้ำเย็นกับผ้ามาเช็ดเหงื่อให้เขาหน่อย เอาน้ำเย็นหรือน้ำผลไม้ขึ้นด้วยก็ดี จากนั้นให้นอนพักไปก่อน”

“ข้าไปเอง” เสียงพูดของแอช ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าถี่ๆ และเสียงเปิดปิดประตู บ่งบอกว่าเจ้าตัวลงไปตามคำบอกเรียบร้อยแล้ว

เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนสมองของตนยังทำงานไม่เต็มที่ แต่ก็รู้ว่าการ ‘นอนพักไปก่อน’ หมายความว่ากำหนดเดินทางต้องถูกเลื่อนออกไปอีก

“...ข้าไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องวุ่นวายกันหรอก” อาเมียร์พูดพลางพยายามลุกขึ้นนั่ง แต่กลับหน้ามืดจนต้องทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง

“พักไปก่อนเถอะ เจ้าคงนอนไม่พอจริงๆ ยิ่งฝืนเดี๋ยวจะยิ่งแย่กว่าเดิม” ซานาค้าน “ไม่เห็นจะต้องรีบร้อนอะไรขนาดนั้นเลยนี่นา”

“พวกเราก็ไม่รีบเหมือนกัน พักไปก่อนเถอะ มีหมออยู่ด้วยจะได้อุ่นใจกว่า” โทมาเสริม และไม่วายได้รับคำแย้งอ่อยๆ มาจากคนที่ยังไม่ยอมรับว่าตนเองมีฐานะนั้นในสายตาคนอื่นๆ โดยทั่วกันแล้ว

“หมอฝึกหัด”

อาเมียร์นึกอยากหัวเราะออกมาเบาๆ ...กับความคิดว่าโชคชะตาเล่นตลกหรืออย่างไร ที่พวกเขาได้มาพบกับโทมา ซานา และเกลในครั้งนี้ ในเมื่อคณะเดินทางซึ่งมารวมตัวกันอย่างไม่คาดฝันอย่างเขา แอช กับชาลัวห์ดูเหมือนจะต้องการหมอเป็นพิเศษจริงๆ เสียด้วย ทั้งเรื่องมือที่เป็นแผล อาการท้องเสีย กับการถูกซ้อมจนสะบักสะบอมของชาลัวห์ กับอาการหน้ามืดเป็นลมที่น่าจะเกิดจาก ‘การนอนไม่พอ’ ของเขาเสียอีก

แต่ที่จริง อาเมียร์รู้ว่าเหตุที่เขาล้มวูบไปหาใช่เพราะนอนไปพอ ทว่าเป็นภาพที่ตนได้เห็นต่างหาก อดีตของเนอร์กุยหรือเกลเต็มไปด้วยภาพไม่ชวนมองทั้งสิ้น ทั้งซากศพ และการฆ่าฟันที่ไม่ถูกโรคกับอาการกลัวเลือดของเขาเลย

กระนั้น ภาพที่เห็นก็ยังนำพาความจริง ซึ่งเด็กหนุ่มไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เห็นภาพเหตุการณ์ยืนยันต่อหน้าต่อตาเช่นนี้มาให้

การลอบปลงพระชนม์โดยชาวเผ่าอัสลานมีขุนนางธีร์ดีเรอยู่เบื้องหลัง แรงจูงใจนั้นอาเมียร์เดาได้อย่างง่ายดาย

...เพื่อให้เกิดพิธีสยุมพรของเจ้าหญิงแอชลีนน์ ให้พรรคพวกของตนได้ขึ้นเป็นราชาและกุมอำนาจสูงสุดในธีร์ดีเร...

และคนที่ทำเช่นนั้นคือแฟคท์นา เจ้ามณฑลอุลทูร์ บิดาของดูลัส

...ดูลัสรู้เรื่องนี้ หรือแม้แต่ร่วมมือด้วยแต่แรกหรือเปล่า...

เขาอยากรู้มากกว่านี้ อยากคิดหาวิธีเปิดเผยความจริงต่อชาวธีร์ดีเร และลงโทษคนผิดให้ได้เสียตอนนี้ แต่อาการปวดตุบๆ ที่ศีรษะก็พลันทวีขึ้นโดยไม่คาดฝัน

สุดท้าย อาเมียร์จึงได้แต่ยอมแพ้ต่ออาการนั้น และปล่อยให้นิทราค่อยๆ เข้าครอบงำเขาในไม่ช้า

* * * * *

จากคุณ : Anithin
เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 53 18:18:52




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com